Mechanical God Emperor - ตอนที่ 281
281 – ท้าทายจอมเวทย์ระดับตำนาน
เมื่อจักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 ได้ยินคำพูดของเอเลน่า ใบหน้าของเขามืดมนลงทันที ตั้งแต่ที่เขาสืบทอดบังลังก์จากจักรพรรดิองค์ก่อน มีคนมากมายจ้องจะเล่นงานเขา แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าหักหน้าเขาแม้แต่น้อย ตอนนี้เอเลน่ากล้าหักหน้าเขา ทำให้จิตใจของเขาไม่มีความสุข ดวงตาของเขาฉายแววหม่นหมองออกมา
คาร์ริลยิ้มและมองไปที่เอเลน่า ก่อนจะเผยรอยยิ้มในใจ เขาพูดขึ้นมาอย่างคุกคาม “ฝ่าบาท ในจักรวรรดิมอร์ริส ทุกสิ่งทุกอย่างถือเป็นขององค์จักรพรรดิ สถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ก็ได้รับอนุญาตจากองค์จักรพรรดิเช่นกัน ภายใต้น้ำใจที่ยิ่งใหญ่ขององค์จักรพรรดิ สถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของท่านเอียน แต่นั่นก็ถือเป็นประสงค์ขององค์จักรพรรดิ เข้าใจหรือไม่?”
เอเลน่ามองไปยังรอยยิ้มของคาร์ริล ใบหน้าที่งดงามของเธอเริ่มหวาดกลัวและถอยหลังไป 2-3 ก้าว ก่อนจะเงียบลง
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 นั้นเจ้าชู้อย่างมาก นอกจากราชินีทั้ง 2 และขุนนางหญิงทั้ง 4 เขายังมีหญิงสาวมากมายที่เขาเรียกตัวมาปรนนิบัติเขา
เจ้าหญิงที่งดงามบางคนที่เป็นที่ชื่นชอบขององค์จักรพรรดิต่างหายตัวไปอย่างกะทันหัน แต่จักรพรรดิมอร์ริสไม่ได้ถามถึงเหตุผลที่เจ้าหญิงเหล่านั้นหายตัวไป เอเลน่าเริ่มสั่นกลัวขึ้นมา
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 จ้องมองหยางเฟยอย่างสนุกสนาน เขาพูดเยาะเย้ยขึ้นมา “เอียน เจ้าต้องการอะไร เจ้าต้องการจะต่อต้านข้าอย่างนั้นรึ??”
สายตามากมายมองมาที่ร่างของหยางเฟยด้วยแววตาสงสาร เยาะเย้ยและอยากรู้อยากเห็น
หยางเฟยยิ้มบางๆ “ฝ่าบาท ในโลกใบนี้ ไม่มีใครคิดล่วงเกินท่าน ข้าก็เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ตามกฎของโลกเวทมนตร์ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดสามารถเป็นผู้ควบคุมสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ได้ ฝ่าบาท ด้วยเคล็ดวิชาที่สูงส่งของฝ่าบาท ท่านจึงได้รับตำแหน่งคณบดีแห่งสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ สำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการก็เช่นกัน ท่านคาร์ริลสามารถเป็นรองคณบดีและผู้อำนวยการของสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ได้ ท่านต้องเอาชนะข้าให้ได้และต้องเปิดเผยต่อสาธาณชนเท่านั้น อนุญาตให้ข้าได้ต่อสู้กับท่านจอมเวทย์คาร์ริลเพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้อำนวยการของสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ด้วยเถิดขอรับ”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 ครุ่งคิดและมองไปที่คาร์ริลและพูดขึ้น “คาร์ริล เจ้าคิดว่ายังไง?”
คาร์ริลกวาดตาไปมองหยางเฟย ดวงตาของเขาเปล่งประกายดูถูกและพูดขึ้น “เนื่องจากท่านเอียนได้ท้าทายข้า ข้าไม่อาจละทิ้งการสั่งสอนจอมเวทย์เอียนถึงกฎเกณฑ์ของโลกเวทมนตร์ได้”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 ยิ้มและพูดขึ้น “ฮ่า ฮ่า ดี คาร์ริล เจ้าสั่งสอนเจ้าเอียน ให้เข้าใจถึงกฎเกณฑ์ของโลกเวทมนตร์ซะ”
หยางเฟยพูดขึ้นเบาๆ “ท่านคาร์ริล ในสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ มีการสร้างลานประลอง ได้โปรดตามข้ามา ”
คาร์ริลเดินไปด้านข้างหยางเฟยและร่ายเวทย์ส่งคำพูดออกไป “เอียน ท่านราชินีซูชา มีคำพูดฝากถึงเจ้า เจ้าใช้เงินในการสร้างสถาบันเวทมนตร์แห่งนี้ทั้งหมด 19,873,345 เหรียญทอง ถ้าเจ้ายังคงดื้อดึงเป็นคนโง่แบบนี้ต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเจ้า พวกเขาจะเอาไปทั้งหมด”
ดวงตาของหยางเฟยหรี่ลงเล็กน้อย และเผยรอยยิ้ม หัวใจของเขาตื่นตัวขึ้น
การต่อสู่ในราชวงศ์เป็นเรื่องที่รุนแรงและบ้าคลั่ง ตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงพูดของคาร์ริล เขาอาจจะไม่ใช่คนของราชินีก็ได้ อาจจะเป็นเจ้าชายองค์อื่นๆที่วางแผนจะยุยงให้หยางเฟยและเจ้าชายอังเดรแตกคอกัน
จักรวรรดิมอร์ริสเป็นหนึ่งในสองจักรวรรดิมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนเฟย์สือ ผู้เชี่ยวชาญในจักรวรรดินี้มีมากมายราวกับปุยเมฆ ขุมกำลังระดับตำนานทั้งหลายไม่ได้ถูกขับเคลื่อนได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจอมเวทย์ระดับตำนานจะมีสถานะสูงส่งมาก แม้ว่าจอมเวทย์ระดับตำนานจะมีสถานะสูงส่ง แต่พวกเขาจะเข้าร่วมกับฝั่งที่ได้รับชัยชนะ
โดยทั่วไป จอมเวทย์ระดับตำนนจะไม่เข้าร่วมสงครามที่โหดร้ายและบ้าคลั่งนี้ ตราบเท่าที่พวกเขาไม่เข้าร่วมกับสงครามนี้ ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับพวกเขาจนกระทั่ง เมื่อมีการครองบัลลังก์เกิดขึ้น แต่เมื่อใดก็ตามที่จอมเวทย์ระดับตำนานเข้ามามีส่วนร่วม จะก่อให้เกิดกระแสคลื่นพลิกผันอย่างรุนแรง
หยางเฟยรู้ดีว่าเจ้าชายอังเดรเอาชนะใจของจอมเวทย์ระดับตำนานได้ถึง 2 คน ถ้าเพิ่มคาร์ริลไปอีกคน อังเดรจะมีจอมเวทย์ระดับตำนานถึง 3 คน ซึ่งถือเป็นขุมกำลังที่น่าสะพรึงกลัวมาก
เหล่าชนชั้นสูงที่มาจากทั่วทั้งจักรวรรดิมอร์ริส พวกเขาตื่นเต้นมาก หาได้ยากมากที่พวกเขาจะได้เข้าชมการประลองเวทมนตร์ของจอมเวทย์ระดับตำนานและจอมเวทย์ชั้นสูง
รอบๆลานประลองที่สร้างขึ้นใหม่ ผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว
บนที่นั่งชั้นสูงในลานประลอง มีจักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 กำลังนั่งอยู่ ด้านข้างของเขาเป็นปรมาจารย์ดาบระดับตำนานถึง 4 คน อัศวินดวงดาว 20 คนและอัศวิน 100 คนคอยคุ้มกัน
การ์ซ่าและเจ้าชายคนอื่นๆไปนั่งบนที่นั่งพิเศษที่นั่งถัดจากที่นั่งสูงสุด
คาร์ริลยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับหยางเฟย และพูดอย่างชิงชัง “เจ้าเป็นเพียงจอมเวทย์ชั้นสูง กล้าท้าทายจอมเวทย์ระดับตำนาน ข้าชื่นชมความกล้าของเจ้า น่าเสียดาย ระดับตำนานเป็นเส้นแบ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถข้ามผ่านได้ จำประโยคนี้ไว้ เจ้าโง่”
หยางเฟยยืนเงียบๆ ม่านตาของเขาเต็มไปด้วยข้อมูลมากมายไหลผ่าน คำสั่งถูกส่งออกไปอย่างเงียบๆ ข้อมูลมากมายหลั่งไหลออกมาจากทะเลความรู้ของเขา
คำพูดของคาร์ริลถูกเมินเฉยโดยหยางเฟย
“พี่สาวเบ็คกี้ ทำไมอาจารย์ถึงต้องต่อสู้กับจอมเวทย์ระดับตำนานรึขอรับ? มันอันตรายไม่ใช่รึ?”
ที่มุมของลานประลอง อาเธอร์มองหยางเฟยอย่างกังวล หยางเฟยกำลังยืนอยู่กลางลานประลอง
หลังจากได้เรียนรู้ไปหลายวัน อาเธอร์ได้รู้ว่าจอมเวทย์ระดับตำนานทรงพลังมากแค่ไหน ในโลกของเวทมนตร์ จอมเวทย์ระดับตำนานได้ข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ไปอีกขั้น นั่นคือขอบเขตของเทพ
แววตาของเบ็คกี้เต็มไปด้วยความซับซ้อน เธอมองหยางเฟยที่อยู่บนลานประลองเวทมนตร์ จากนั้นเธอถอนหายใจ “อาจารย์ของเจ้ากำลังพยายามปกป้องบ้านของเราและสถาบันแห่งนี้ จึงต้องต่อสู้กับจอมเวทย์ระดับตำนาน คาร์ริล”
อาจารย์อย่างบารอสและจอมเวทย์คนอื่นๆต่างมองหยางเฟยอย่างกังวล
จอมเวทย์ชั้นสูงเอ่ยถามบารอสอย่างกังวล “บารอส ท่านอัยนมีโอกาสเอาชนะท่านคาร์ริลได้หรือไม่?”
แววตาของบารอสฉายแววกังวลและส่ายศีรษะ “ยาก! มันยากมาก! ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีเพียงสุดยอดอัจฉริยะที่ถือครองอาร์ติแฟกซ์ หรือไม่ก็อัจฉริยะที่ได้รับพรจากเหล่าเทพตั้งแต่เกิด ถึงจะมีโอกาสเอาชนะจอมเวทย์ระดับตำนานได้ แม้ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่การเผชิญหน้ากับจอมเวทย์ระดับตำนาน ยังคงมีช่องว่างมหาศาลอยู่ เมื่อใดที่จอมเวทย์ระดับตำนานร่ายเวทย์โจมตีระดับ 4 นายท่านจะพ่ายแพ้ในทันที”
จอมเวทย์ระดับตำนานสามารถร่ายเวทย์โจมตีระดับ 4 ได้ เวทย์โจมตีระดับ 4 นั้นมีพลังทำลายสูงมาก ถ้าเป็นเวทย์ระดับ 4 โจมตีเดี่ยว มันสามารถทำลายเวทย์ป้องกันระดับ 3 ได้ในทันที การโจมตีด้วยเวทย์ระดับ 3 หากต้องการทำลายเกราะเวทย์ระดับ 4 ได้นั้นเป็นไปได้ยากมาก อย่างน้อยต้องร่ายเวทย์ระดับ 3 หลายสิบบทถึงจะสามารถทำลายเกราะเวทย์ระดับ 4 ของจอมเวทย์ระดับตำนานได้
นอกจากนี้ ความเร็วในการร่ายเวทย์ของจอมเวทย์ระดับตำนาน ความเข้าใจในบทเวทย์ พลังเวทย์และอื่นๆอีกมากมาย ยังเหนือกว่าจอมเวทย์ชั้นสูงมากนัก
ผู้บัญชาการกองทัพเวทมนตร์ที่นำกองทัพจอมเวทย์มาด้วยอาจจะสามารถต่อสู้กับจอมเวทย์ระดับตำนานได้ อย่างไรก็ตาม ในการต่อสู้ตัวต่อตัวกับจอมเวทย์ระดับตำนาน มักจะจบที่ความพ่ายแพ้ไม่ก็ความตาย!
เว้นเสียแต่ว่าจอมเวทย์ระดับตำนานไม่เตรียมพร้อม หยางเฟยถึงมีโอกาสโจมตีศัตรูได้ คาร์ริลเป็นจอมเวทย์วังหลวง เขาได้ฝึกฝนเวทมนตร์และมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายไม่ด้อยไปกว่าจอมเวทย์ระดับตำนานคนอื่นๆ
คาร์ริลมองไปที่หยางเฟยที่เมินเฉยต่อเขา และเริ่มโกรธ
เขามองไปที่กรรมการอย่างไม่สนใจสิ่งใด
“ยังไม่เริ่มอีกรึ?”
กรรมการเหลือบมองคาร์ริลด้วยความหวาดกลัวและถอยหลัง
“เริ่มการประลองได้!”
สิ้นคำพูดของกรรมการ หยางเฟยซึ่งแต่เดิมก้มหน้าลงต่ำได้เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง พลังปราณระดับอัศวินดวงดาวไหลทะลักออกมา เขาเอื้อมมือออกไปกลางอากาศ สมบัติหายาก ดาบที่ถูกตีขึ้นด้วยเหล็กโลหิตเทพปรากฎขึ้นมาในพริบตาและฟันไปที่ร่างของคาร์ริลในทันที
ในระยะ 10 เมตร ขอบเขตของปรมาจารย์ดาบ แม้แต่จอมเวทย์ระดับตำนาน หากอยู่ในระยะ 10 เมตรของปรมาจารย์ดาบ ก็สามารถถูกสังหารได้ในทันทีโดยไม่ทันร่ายเวทย์ขัดขวางได้
ระยะห่างระหว่างหยางเฟยและคาร์ริลคือ 10 เมตรพอดี ดาบของเขาแฝงไปด้วยกลิ่นอายของปรมาจารย์ดาบ ราวกับสายฟ้าฟาด ไม่มีใครวสามารถหยุดเขาได้
ในขณะนั้น มีบางคนมองเห็นดาบของหยางเฟย ดวงตาของเขาเปล่งแสงสีม่วง
ปรมาจารย์ดาบสายฟ้า แคสเซียสตกตะลึงอย่างมาก หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น “สุดยอด ดาบของเขาทรงพลังมาก ตราบเท่าที่เขาฝึกอย่างหนัก เขาจะกลายเป็นปรมาจารย์ดาบในอนาคตอย่างแน่นอน!!”
แคสเซียสได้กลายเป็นปรมาจารย์ดาบ เขาผ่านประสบการณ์เช่นนี้มามากมายนับครั้งไม่ถ้วน ในขณะที่หยางเฟยฝึกฝนเวทมนตร์และฝึกฝนดาบไปด้วย เขายังสามารถบรรลุเคล็ดวิชาได้ เป็นธรรมดาที่ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก มีเพียงวีรบุรุษในตำนานเท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้
ใบหน้าของบารอสซีดขาวเล็กน้อย ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความกลัว “ดาบนั้นอันตรายมาก! ถ้าเขาหันดาบใส่ข้า ข้าคงตายไปแล้ว!”
คาร์ริลใช้ลัดมนตราอย่างไม่ต้องคิด สนามพลังป้องกันระดับ 3 ถูกกางออกมารอบตัวเขาในทันที