Mechanical God Emperor - ตอนที่ 260
260 – ตำหนักจอมเวทย์
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 พูดขึ้น “เอียน!”
หยางเฟยตอบรับด้วยความสุภาพและมีมารยาท “ขอรับ!”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “…เจ้าได้มอบโพชั่นมังกรให้กับข้า ข้าชอบมันมาก เจ้าเป็นจอมเวทย์ ถ้าอย่างนั้นข้ายินดีให้เจ้าเข้าร่วมตำหนักจอมเวทย์ระดับตำนาน”
หยางเฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขารีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ขอบพระคุณมากขอรับ ฝ่าบาท!”
สายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉามากมายจ้องมองมายังร่างของหยางเฟย
ในจักรวรรดิมอร์ริสมีจอมเวทย์ของวังหลวงมากมาย จอมเวทย์เหล่านั้นแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ตำหนักจอมเวทย์ ตำหนักจอมเวทย์ชั้นสูง ตำหนักจอมเวทย์ระดับตำนาน
มีเพียงจอมเวทย์ไม่กี่คนเท่านั้นในจักรวรรดิมอร์ริสที่ได้อยู่ในตำหนักจอมเวทย์ระดับ 3 ตำหนักจอมเวทย์นั้นเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างจอมเวทย์ระดับตำนาน
หยางเฟยซึ่งเป็นจอมเวทย์ชั้นสูง สามารถเข้าร่วมกับตำหนักจอมเวทย์ชั้นสูงได้ เขาจะมีอำนาจและชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมหาศาล
ตามธรรมเนียมของจักรวรรดิมอร์ริส มีจอมเวทย์ 1 คนที่อยู่ในตำหนักระดับ 3 และมีจอมเวทย์ 8 คนอยู่ในตำหนักระดับ 2 และจอมเวทย์ 50 คนอยู่ในตำหนักระดับ 1
ในอีกความหมายหนึ่งก็คือ หยางเฟยได้กลายเป็นจอมเวทย์วังหลวง เขามีจอมเวทย์ใต้ปกครองถึง 59 คน
แน่นอนว่า การจะได้รับการยอมรับจากจอมเวทย์ทั้ง 59 คน ต้องดูที่ความสามารถของหยางเฟยด้วย
ในเมืองโฮลี่ ด้วยพรของเหล่าเทพ หยางเฟยไม่สามารถใช้อิลิกเซอร์นาโนโรบอทในการควบคุมคนอื่นๆได้ มิเช่นนั้น ถ้าเขาถูกตรวจพบ รากฐานที่เขาสร้างมาทั้งหมดจะถูกทำลาย
หลังจากที่ได้รับการแต่งตั้ง หยางเฟยกำลังกลับไปยังทื่พักของเหล่าขุนนางที่อยู่ถัดจาบูโซ่ สำหรับตราสัญลักษณ์เอิร์ล เขาผ่านการตรวจสอบในการเป็นขุนนาง
ไม่นานหลังจากนั้น หลังจากที่แยกย้ายกันออกไป มีเสียงดังขึ้น
“ท่านเอิร์ลเอียน ได้โปรดเดินทางไปยังห้องค้นคว้าของพระราชวังด้วยขอรับ”
หยางเฟยที่กำลังเดินออกไป มีคนรับใช้เดินเข้ามาและพูดด้วยความสุภาพ
หยางเฟยตอบกลับ “ได้สิ!”
หยางเฟยเดินตามคนรับใช้ ผ่านทางเดินทอดยาวตรงไปยังห้องค้นคว้าของพระราชวัง
ภายในห้องค้นคว้า มีจักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 นั่งอยู่เพียงคนเดียว ซึ่งกำลังฟังเสียงดนตรีที่แผ่วเบา
หยางเฟยทำตามมารยาทของขุนนาง “ข้า เอียน ขอเข้าพบฝ่าบาทขอรับ!”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 หันมามองอย่างช้าๆ เขาเหลือบมองหยางเฟยเล็กน้อยและเผยรอยยิ้มออกมา “เอียน ข้าได้ยินมาว่าตอนที่เจ้าเข้ามาในเมืองโฮลี่ เจ้าถูกเชิญไปยังโรงแรมสาวรื่นรมโดยการ์ซ่าและผ่านค่ำคืนที่มีความสุขที่นั่น การ์ซ่าพูดอะไรกับเจ้า?”
หยางเฟยตกตะลึงอย่างมาก ความคิดของเขาปั่นป่วนอย่างรุนแรง เขามึนหัวและรีบกางสัมผัสของวอร์ล็อคระดับ 3 ออกมาทันที เขาสามารถรับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้องนี้ได้อย่างชัดเจน มีขุมกำลังระดับตำนานอย่างน้อย 6 จุดซ่อนตัวอยู่ ถ้าเขาแสดงท่าทีผิดปกติเพียงเล็กน้อย เขาจะตกเป็นเป้าหมายของขุมกำลังระดับตำนานเหล่านั้นทันที
หยางเฟยเหงื่อไหลชุ่มไปทั่วทั้งหลัง หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เขาตอบกลับอย่างซื่อตรง “เจ้าชายลำดับที่ 6 ได้เชิญข้าเข้าไปในโรงแรมสาวรื่นเริง เพื่อหวังให้ข้าเข้าร่วมกับพวกเขาขอรับ เพื่อเอาชนะเจ้าชายลำดับที่ 1 และช่วยเขาในการขึ้นครองบังลังก์ขอรับ”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 ถามขึ้นอย่างไม่แยแส “แล้วเจ้าได้สัญญากับเขาหรือไม่?”
หยางเฟยตอบกลับ “ด้วยคำแนะนำของเจ้าอาณาจักรบูโซ่ให้ข้าได้ยอมแพ้ต่อฝ่าบาท และเพื่อให้ได้รับตำแหน่งเอิร์ลแห่งดินแดนเรดเคลย์ ดังนั้นข้าจึงสัญญากับเจ้าอาณาจักรบูโซ่ว่าจะเข้าร่วมกับเขาจขอรับ”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 พูดขึ้นและยิ้มเล็กน้อย “คนที่แต่งตั้งให้เจ้าเป็นเอิร์ลแห่งดินแดนเรดเคลย์คือข้า ไม่ใช่การ์ซ่า คนที่เจ้าควรจงรักภักดีด้วยคือข้า ไม่ใช่เขา!”
หยางเฟยก้มศีรษะลงเล็กน้อยและพูดขึ้นเบาๆ “ขอรับ! ขอรับ! คนที่มอบตำแหน่งให้กับข้าคือฝ่าบาท ข้ายินดีตายเพื่อท่าน!”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 สามารถสังหารขุนนางได้ในพริบตา ตราบเท่าที่ไม่มีผลกับเขา หยางเฟยจะไม่ถูกเขาเพ่งเล็ง
หยางเฟยพูดขึ้นอย่างเด็ดขาด “ถ้าท่านต้องการให้ข้าแยกตัวออกมาจากเขา ข้ายินดีตัดการติดต่อสื่อสารกับเขาทุกชนิดในทันทีขอรับ”
เทียบกับชีวิตของเขาแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฟยกับเจ้าชายลำดับที่ 6 การ์ซ่า นั้นไม่มีค่าใดๆเลย
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 พยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดขึ้น “ไม่ เนื่องจากเจ้าสัญญากับการ์ซ่าไว้แล้ว เจ้าไปช่วยเขาเถอะ”
หยางเฟยถอนหายใจยาวและรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่เปียกชุ่มไปทั่วแผ่นหลัง เสื้อผ้าของเขาเปียกชุ่ม เขารีบตอบกลับด้วยความเคารพ “ขอรับ ฝ่าบาท!”
อำนาจในมือของเจ้าชายลำดับที่ 6 อาจจะดุร้ายราวกับพยัคฆ์ แต่ไม่อาจเทียบกับกับอำนาจในมือของจักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 เพียงคำพูดไม่กี่คำ อาจจะทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงได้
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 พูดขึ้นเบาๆ “ดีมาก ไม่มีอะไรแล้ว เจ้ากลับไปได้!”
หยางเฟยตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ขอรับ ฝ่าบาท!! ข้าต้องการเปิดสถาบันเวทมนตร์ในเมืองโฮลี่ เพื่อฝึกฝนผู้มีพรสวรรค์เวทมนตร์ในจักรวรรดิขอรับ ข้าอยากขอร้องให้ท่านเป็นผู้อำนวยการของสถาบันเวทมนตร์ขอรับ”
การฝึกฝนเวทมนตร์ในดินแดนเฟย์สือเป็นสิ่งที่เก่าแก่มาก นอกจากเหล่าวิหารต่างๆแล้ว มีกลุ่มจอมเวทย์มากมายที่ถูกฝึกฝนโดยจอมเวทย์เพียงคนเดียว
เหล่าจอมเวทย์ฝึกหัดนั้นจะถูกค้นพบ ในขณะที่เหล่าจอมเวทย์ออกเดินทาง หรือไม่ก็ พวกเขาได้รับการแนะนำจากคนรู้จักและรับสินบน หรือไม่ก็มาจากตระกูลจอมเวทย์ จอมเวทย์แต่ละคนโดยทั่วไปมีจอมเวทย์ฝึกหัดไม่เกิน 4 คน ดังนั้นหนทางในการที่จะได้รับการฝึกฝนเพื่อเป็นจอมเวทย์นั้นถือว่าหายากมาก
เคล็ดวิชาฝึกฝนเวทมนตร์ในดินแดนคังฉีมีมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนในสถาบันเวทมนตร์ได้มาแทนที่เคล็ดวิชาฝึกฝนโบราณและได้กลายมาเป็นกองกำลังหลักของดินแดนคังฉี
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 หลงระเริงและเผยรอยยิ้มขึ้นมาในทันที “สถาบันเวทมนตร์? ได้สิ แต่สถาบันเวทมนตร์ ข้าไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้นะ”
หยางเฟยเผยรอยยิ้มเล็กน้อย “ไม่มีปัญหา ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ข้ารับผิดชอบเองขอรับ”
จักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 พูดอย่างใจร้อน “เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว!”
หยางเฟยคำนับอย่างสุภาพ “ขอรับ ฝ่าบาท!”
จักรพรรดิมอร์ริสหยิบเอาโพชั่นมังกรออกมาและดื่มลงไปทันที ทันใดนั้น เขารู้สึกสดชื่น กระปรี่กระเปร่า มีเรี่ยวแรงราวกับเป็นคนหนุ่มอีกครั้ง
“เป็นยาที่ดีจริงๆ!!” จักรพรรดิมอร์ริสถอนหายใจยาวออกมาและเผยแววตาสนุกสนานและตรงไปยังกลุ่มหญิงสาว
เมื่อเขาก้าวเท้าออกจากประตูพระราชวัง หยางเฟยรู้สึกได้ถึงอิสรภาพ
ความรู้สึกที่ว่าชะตาชีวิตของตนเองแขวนอยู่กับคนอื่น เป็นเรื่องน่าอึกอัดใจสำหรับหยางเฟยเป็นอย่างมาก วอร์ล็อคเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการอิสรภาพ
ในพระราชวังแห่งชัยชนะ ต่อหน้าจักรพรรดิมอร์ริสที่ 2867 ยกเว้นวิหารของเหล่าเทพ ผู้ถูกเลือกโดยเหล่าเทพ วิหารยิบย่อยที่ซ่อนตัวอยู่ในจักรวรรดิมอร์ริส ทุกคนเปรียบเสมือนมด ด้วยคำสั่งของจักรพรรดิ เขาสามารถสั่งบี้มดให้กลายเป็นศพ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานก็ไม่มีข้อยกเว้น และไม่ใช่เพราะว่าจักรพรรดิมอร์ริสเป็นบุคคลที่แข็งแกร่ง แต่นี่เป็นเพราะพลังอำนาจในมือ
“เอียน ข้าขอสั่งให้เจ้าหยุด!!”
หยางเฟยเพียงเดินออกจากพระราชวัง นักรบหญิง สวมชุดสีฟ้า มัดผมสีฟ้าหางม้ายาว เหน็บดาบยาวไว้ที่เอว ร่างสูง รูปร่างงดงาม นักรบสาวยืนอยู่ต่อหน้าเขาและมองเขาด้วยสายตามืดมน
ด้านหลังเด็กสาวผมฟ้า ตามมาด้ววยนักดาบหนุ่ม 6 คน ชายหนุ่มทั้ง 6 คนเหลือบมองหยางเฟยด้วยความไม่พอใจ
หยางเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าเป็นใคร?”
เด็กสาวผมฟ้าตอบกลับด้วยความรังเกียจ “ชีลอน อยู่ในกองทัพของบิดาข้า เจ้าทำร้ายเขา เจ้าทำความผิด!”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง” หยางเฟยเผยรอยยิ้มอย่างน่ารังเกียจและเอ่ยขึ้นเบาๆ “ถ้าข้าผิดจริง เจ้าสามารถไปรายงานกับตำรวจวังหลวงได้ แต่ตอนนี้เจ้าขวางทางข้า เจ้าเป็นประชาชน กล้าขวางทางขุนนางชั้นสูง ตามกฎหมายของจักรวรรดิ เจ้าต้องถูกโบย 30 ที”
เมื่อพูดจบ ชายหนุ่มทั้ง 6 คนด้านหลังเด็กสาวผมฟ้าเริ่มมีสีหน้าเปลี่ยนสี เขานึกไว้แล้วคนๆนี้ต้องเป็นขุนนางของจักรวรรดิ
นี่คือกฎหมายของจักรวรรดิมอร์ริส ถ้าหากประชาชนกีดขวางการเดินทางของขุนนาง ถือเป็นความผิด พวกเขาต้องถูกปรับ 10 เหรียญทองและถูกโบย 30 ที
เป็นไปไม่ได้ที่ประชาชนของจักรวรรดิมอร์ริสจะต่อสู้กับขุนนางชั้นสูง นี่เป็นเหตุผลที่มีผู้คนนับไม่ถ้วนต้องการเป็นขุนนาง
ใบหน้าของชายหนุ่มบิดเบี้ยว และกระซิบขึ้น “เบ็คกี้ ไปกันเถอะ! เขาเป็นขุนนางชั้นสูง ถ้าเขาเอาเรื่อง มันจะมีปัญหาตามมานะ คนระดับล่างอย่างเราอย่าไปเสี่ยงเลย”
“ข้าไม่กลัวเขาหรอก! พ่อของข้าคือปรมาจารย์ดาบสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ เจ้ามันขี้ขลาด ข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้า!!”
เบ็คกี้หงุดหงิดอย่างมาก เธอกรีดร้องและจ้องมาที่เขา พลังระดับอัศวินไหลทะลักออกมา เธอพุ่งเข้าหาหยางเฟย เนื่องจากหยางเฟยเป็นขุนนางชั้นสูง เธออิจฉาอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ดึงดาบออกจากฝัก เธอต้องการมอบบทเรียนให้กับหยางเฟย
“น่าสนุกดีนี่!”
หยางเฟยยิ้มและตะโกนออกมาทันที “คนพวกนี้ต้องการลอบสังหารขุนนางชั้นสูง!! มาดูนี่! คนพวกนี้ต้องการสังหารขุนนางชั้นสูง!!”
“ใคร!! ใครกล้าลอบสังหารขุนนางชั้นสูง!!”
ตำรวจลาดตระเวน 4 คนที่อยู่ใกล้ๆรีบวิ่งเข้าไปหาทันที เสียงร้องของไซเรนดังไปทั่วทุกพื้นที่