Mechanical God Emperor - ตอนที่ 244

244 – จอมเวทย์ผู้ทรงพลัง

ทหารทั้ง 5,000 นายของกองทัพที่ 2 จากเมืองแห่งปาฏิหาริย์ทั้งหมดเป็นทาส ทั้งหมดมีเวลาการฝึกเพียง 1 เดือนเท่านั้น ความสามารถในการรบของพวกเขาอ่อนด้อยกว่าทหารประจำเมืองเสียอีก อย่างไรก็ตาม พวกเขายังมีอาวุธและชุดเกราะที่ได้มาจากกองทัพนักล่า ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาก

ไคลฟ์พูดขึ้น ขณะเขาอยู่นอกเมือง เขาถือดาบสั่งการและชี้ไปที่กำแพง เขาตะโกนออกมา “ข้าคือไคลฟ์แห่งกองทัพที่ 2 ของเมืองแห่งปาฏิหาริย์! พวกเจ้าจงเปิดประตูและยอมแพ้ซ่ะ มิเช่นนั้น หลังจากที่ข้ายึดเมืองได้ ทุกคนต้องตกเป็นทาส!”

ทหารประจำเมืองตะโกนกลับมา “อย่าไปฟังมัน! โจรพวกนี้ แม้แต่อุปกรณ์ตีเมือง พวกมันยังไม่มีเลย พวกมันจะยึดเมืองโทเซ่ได้อย่างไร? ไคลฟ์มันเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่ปีศาจเอียนเสียหน่อย!! เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบุกยึดเมืองโทเซ่แห่งนี้ ตราบใดที่พวกเจ้าปกป้องเมืองนี้ไว้ได้ พวกเราก็จะมีเงินทองและร่ำรวยไปพร้อมกันในอนาคต! ทุกคนจะได้เป็นขุนนนาง!!”

ในตอนแรกหยางเฟยได้บดขยี้กองทัพนักล่าและทำลายกองทัพดาบสีเงิน เขาบุกปล้นอาณาจักรโมรินสัน กอบโกยสมบัติมากมายกลับไป ทุกคนในจักรวรรดิมอร์ริสต่างเรียกเขาว่าปีศาจเอียน

เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าทหารประจำเมือง เหล่าทหารเริ่มมีกำลังใจมากขึ้น เพราะว่ากองทัพที่ 2 ที่นำโดยไคลฟ์นั้นไม่มีอุปกรณ์ตีเมืองแม้แต่ชิ้นเดียว

“ท่านจอมเวทย์บากัส ท่านมีปัญหาแล้ว!”

ไคลฟ์หันหลังกลับไปยังกองทัพที่ 2 และขอร้องบากัสอย่างสุภาพ

ตำแหน่งของจอมเวทย์ในดินแดนเฟย์สือถือได้ว่าสูงมาก  แม้ว่าบากัสจะถูกบังคับให้เข้าร่วมกับหยางเฟย แต่ไคลฟ์ก็ยังเห็นบากัสเป็นจอมเวทย์

บากัสพยักหน้าช้าๆ เขาเดินออกมาพร้อมกับกลุ่มจอมเวทย์กว่า 100 คน

ทหาร 5,000 นายของกองทัพที่ 2 ถือโล่ออกมาคุ้มกันด้านหน้าเหล่าจอมเวทย์ ภารกิจของเขาคือปกป้องจอมเวทย์เท่าชีวิต

บากัสตั้งสมาธิ เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาและชี้ไปยังประตูเมือง เวทย์ระดับ 3 จรวดเพลิงถูกใช้ออกมา

เปลวเพลิงก่อตัวขึ้นกลายเป็นลูกธนู สีของเปลวเพลิงคล้ายกับอุกกาบาต พุ่งตรงไปยังประตู

ตูม!!

เสียงดังสนั่น ประตูเมืองถูกระเบิดทันที ปรากฎช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่ประตูเมือง

“จอมเวทย์ ปีศาจ!!”

ทหารประจำเมืองตะโกนขึ้นอย่างร้อนรน

“บอลไฟ!!”

“ลำแสงสีดำ!”

“ลำแสงกัดกร่อน!”

“…..”

เหล่าจอมเวทย์ปลดปล่อยเวทย์ไปยังกำแพง เวทมนตร์นับไม่ถ้วนพุ่งตรงเข้าไปหากำแพงราวกับห่าฝน

ไคลฟ์ชี้ไปยังเมืองโทเซ่และตะโกนออกมา “ตามข้ามา!”

กองทัพที่ 2 ทั้งหมดมุ่งหน้าตรงเข้าไปยังเมืองโทเซ่ แนวรับของเมืองโทเซ่แตกพ่ายอย่างรวดเร็ว ทั้งเมืองตกอยู่ในเงื้อมมือของหยางเฟย

เมื่อเมืองโทเซ่ตกอยู่ในมือของหยางเฟย ลีน่าได้จัดการรื่องการขนส่งทาส ราวกับมดงาน สมบัติทั้งหมดของเมืองโทเซ่ถูกปล้น สิ่งของมีค่าทั้งหมดถูกส่งกลับไปยังเมืองแห่งปาฏิหาริย์

จำนวนทาสที่หยางเฟยรวบรวมจากเมืองต่างๆมีจำนวนสูงถึงหนึ่งหมื่นคน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงคราม ทาสหนึ่งหมื่นคนจะถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วมกับกองทัพที่ 2 และ 3 นอกจากนี้ทาสเหล่านี้ยังถูกจัดให้ไปอยู่ในหน่วยขนส่งโดยลีน่าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการขนส่งเสบียง

ทั้งเมืองแห่งปาฏิหาริย์กำลังถูกระดมพล เมืองแห่งปาฏิหาริย์เปรียบเสมือนเครื่องจักรสงครามที่กำลังทำงานอย่างเต็มรูปแบบ ถ้าพวกเขาชนะ เครื่องจักรนี้จะยังสามารถใช้งานได้ต่อ แต่เมื่อพวกเขาแพ้ เครื่องจักรนี้จะถูกทำลายในทันที

หลังจากที่ยึดเมืองโทเซ่ กองทัพที่ 2 พักผ่อนเป็นเวลา 2-3 วัน จากนั้นเขาจะบุกโจมตีเมืองต่อไป เมืองไดอัส

อย่างไม่เร่งรีบ กองทัพจอมเวทย์ได้บุกทำลายแนวรับของเมืองไดอัส จากนั้นกองทัพที่ 2 บุกเข้ายึดเมือง

อีกด้านหนึ่ง หยางเฟยซึ่งพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว เขานำกองทัพทหารม้า 2,000 นายที่เป็นกองทัพที่ 1 บุกโจมตีต่อไปยังอาณาจักรโมรินสัน เมื่อกองทัพทหารม้าวิ่งไปที่ใด ไม่มีเมืองใดสามารถต้านทานการบุกโจมตีของเขาได้

จดหมายของผู้ครองอาณาจักรโมรินสันถูกส่งไปหาอาณาจักรข้างเคียง อาณาจักรซาเยโรเพื่อขอกำลังสนับสนุน  ผู้ครองอาณาจักรซาเยโรไม่ได้ส่งกองทัพสนับสนุนกลับไป แต่เขาเลือกที่จะรับสมัครทหารภายในอาณาจักร นำมาฝึกฝน เพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของกองทัพดาบสีเงิน

อาณาจักรมอร์ริสไม่คิดว่ากองทัพดาบสีเงินจะพ่ายแพ้ให้กับหยางเฟย ทางอาณาจักรจึงหันมาสนใจหยางเฟย กองทัพของจักรวรรดิมอร์ริสถูกส่งให้ไปช่วยเหลืออาณาจักรโมรินสัน

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง จักรวรรดิมอร์ริสไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะทำสงครามขนาดใหญ่ เป็นไปไม่ได้ที่จะเตรียมตัวได้ทัน

เดิมทีแผนของจักรวรรดิมอร์ริสคือการสงกองทัพนักล่าเข้าไปจัดการเมืองแห่งปาฏิหาริย์ และไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ การเก็บอาหารและเสบียงจึงไม่ได้มีการเตรียมการไว้

ตอนนี้หยางเฟยได้เอาชนะกองทัพนักล่าและกองทัพดาบสีเงิน สถานการณ์ของจักรวรรดิมอร์ริสถูกเปิดเผยออกมา จักรวรรดิขนาดใหญ่นี้มีเสบียงและทหารมากมาย แต่ยังไม่ถึงฤดูเก็บเกี่ยว

ความเร็วของกองทัพที่เคลื่อนตัวออกมาจากอาณาจักรอื่นๆเดินทางออกมาอย่างช้าๆ

10 วันต่อมา กองทัพที่ 1 และ 2 ของเมืองแห่งปาฏิหาริย์ไล่บุกยึดเมืองจนมาถึงเมืองบาโรแมน

หยางเฟยมองไปยังเมืองบาโรแมน ดวงตาของเขาเปล่งประกายมุ่งมั่น

กำแพงเมืองบาโรแมนสูง 20 เมตร มันสร้างขึ้นจากหินโลหะเวทย์ แม้แต่เวทย์ระดับตำนานได้ 1-2 บท มันยังสามารถต้านทานได้

ภายในเมืองบาโรแมน มีวิหารของเทพแห่งดวงอาทิตย์ ดราโก้

อาณาจักรโมรินสันเป็นหนึ่งในสถานที่หลักที่ใช้เผยแพร่ศรัทธาของเทพแห่งดวงอาทิตย์ ดราโก้

เทพแห่งดวงอาทิตย์ ดราโก้ เป็นเทพที่มีพลังรองจากเทพซาลีย่า เป็นลำดับที่ 2 ใน 9 เทพที่แข็งแกร่ง พลังอำนาจของเขาแข็งแกร่งอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นตัวตนเทพที่ไม่อ่อนด้อยไปกว่าเทพตนอื่น

ถ้าวิหารพระอาทิตย์ในเมืองบาโรแมนสนับสนุนเมืองบาโรแมนอย่างเต็มรูปแบบ ความสามารถของหยางเฟยในตอนนี้คงไม่สามารถโจมตีเมืองบาโรแมนได้

“เมืองใหญ่ขนาดนี้ ถ้าได้รับการสนับสนุนจากนักบวชจากวิหารพระอาทิตย์ ด้วยความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้ คงต้องใช้สัตว์อสูรจักรกลระดับตำนาน ไม่ใช่นั้น เป็นเรื่องยากที่จะยึดเมืองแห่งนี้ได้!”

หยางเฟยมองไปยังเมืองบาโรแมน ดวงตาของเขาเปล่งแสงแวววับ ในใจของเขาคิดถึงกลยุทธ์ต่างๆมากมาย แต่พวกมันขัดแย้งกันเอง ทั้งการใช้พิษหรือใช้สัตว์อสูรจักรกล เขาคิดวิธียึดเมืองบาโรแมนไม่ออก

มีเพียงอุปกรณ์ตีเมืองที่หยางเฟยคิดออก

กองทัพทั้ง 2 ภายใต้การควบคุมของหยางเฟยคือกองทัพทหารม้าและอีกหนึ่งกองทัพคือกองทัพทาส ทั้งสองกองทัพต่างไม่มีประสบการณ์การตีเมือง

หยางเฟยมองไปยังเมืองบาโรแมน เขามองอย่างมุ่งมั่น “มาลองดูกัน ถ้ามันยากเกินไป ถ้ามันยากเกินไป ก็ถอยทัพทันที!!”

กองทัพทหารม้าทั้ง 2,000 นายและนักรบทาส 5,000 นายเป็นรากฐานของหยางเฟย หากไม่มีกองทัพทั้งสอง พลังอำนาจของหยางเฟยจะลดงอย่างมาก

ถ้าเป็นในสนามรบนอกเมือง หยางเฟยมั่นใจว่าเขาสามารถเอาชนะกองทัพของอาณาจักรโมรินสันได้ แต่อย่างไรก็ตาม การทำสงครามในเมืองนั้นแตกต่างกันออกไป โอกาสมีแค่ครั้งเดียว มีทหาร 130,000 นายอยู่ภายในเมืองบาโรแมน มีนักรบมากมาย จำนวนเทียบกับ 10 ต่อ 1 นั่นเพียงพอที่จะให้กองทัพของหยางเฟยต้องถอยหนี

ทันใดนั้น ด้านหลังประตูเมืองบาโรแมน มีเสียงกรีดร้องวุ่นวายอยู่ทั่วทั้งเมือง ประตูเมืองที่มีน้ำหนักหลายแสนปอนด์ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ

เหนือกำแพงนั้น ธงสีขาวถูกชูขึ้นมา

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า หยางเฟยรวมถึงทหารทุกนายของเมืองแห่งปาฏิหาริย์ถึงกับมึนงงและไม่เชื่อสายตาตนเอง พวกเขาคิดว่าพวกเขากำลังตกหลุมพรางขนาดใหญ่

กองทัพขนากใหญ่ปรากฎตัวขึ้นภายในเมืองบาโรแมน กองทัพที่ยิ่งใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากวิหารแห่งเทพพระอาทิตย์ ดราโก้ หยางเฟยไม่กล้าเสี่ยงปล่อยแมลงวันจักรกลออกไป มิเช่นนั้น เขาอาจจะถูกไล่ล่าโดยเหล่าเทพที่รู้ตัว

ไคลฟ์ถือโอกาสนี้ตะโกนปลุกใจ “ดูสิ นี่ถือเป็นโอกาสทอง! ไม่ว่ามันจะเป็นกับดักหรือไม่ พวกเราจะส่งคนบุกเข้าไป!!”

หยางเฟยคิดคำนวณอย่างรวดเร็ว เขาสั่งการทันที “เอลีโอ เจ้านำทหาร 500 นายบุกเข้าไป! ถ้าไม่มีปัญหาใดๆ ให้ส่งสัญญาณกลับมา!”

“ขอรับ! นายท่าน!”

เอลีโอ เป็นอัศวินปฐพี เขาเป็นแม่ทัพของอาณาจักรอิแมนเร่งควบม้าและนำกองทัพทหารม้า 500 นายวิ่งเข้าหาเมืองบาโรแมน

หยางเฟยและทุกคนมองกองทัพทหารม้าทั้ง 500 นายอย่างเป็นกังวล

เมื่อเห็นทหารม้า 500 นายวิ่งเข้าไปในเมืองบาโรแมน ไม่มีสัญญาณไฟหรือพลุถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า กองทหารม้าวิ่งกลับมาและตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้น “เมืองแตกแล้ว!! นายท่าน เมืองแตกแล้ว!”

หยางเฟยสั่งการอย่างรวดเร็ว “เข้าเมือง!”

พูดจบ หยางเฟยนำกองทัพทหารม้า 1,500 นายมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองบาโรแมน

ทันทีที่เขาเข้าไปในเมืองบาโรแมน หยางเฟยมองเห็นความวุ่นวายจากทั่วทุกสารทิศ เสียงกรีดร้อง เสียงร้องไห้ เสียงตะโกน ผู้คนนับไม่ถ้วนวิ่งหนีออกจากเมืองไปทางประตูเมืองอีกด้านหนึ่ง