Mechanical God Emperor - ตอนที่ 243
243 – แผนลอบสังหารผิดพลาด
อัศวินทั้ง 3 ถูกผ่าเป็นสองท่อนในครั้งเดียว เลือดสาดกระจายไปทั่ว
จอมเวทย์ชั้นสูงทั้ง 2 คนที่อยู่ด้านหลังอัศวินร่ายเวทย์สำเร็จและชี้ไปทางหยางเฟย เวทย์ระดับ 1 บอลไฟพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
บอลไฟทั้ง 2 ลุกถูกยิงไปยังร่างของหยางเฟย เปลวเพลิงลุกโชนกลืนกินทั่วทั้งร่างของเขา
แม้ว่าชื่อบอลไฟอาจจะฟังดูอ่อนด้อย แต่มันเป็นหนึ่งในเวทย์ที่มีพลังทำลายเดี่ยวสูงที่สุด วอร์ล็อคระดับ 2 อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถูกสังหารได้ ถ้าพวกเขาไม่ใช่เวทย์ป้องกัน
ภายใต้เปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำ ปรากฎร่างหนึ่งทะลุเปลวเพลิงออกมาและพุ่งเข้าหาจอมเวทย์ทั้งสอง ดาบแสงตวัดไปมา หัวของจอมเวทย์ทั้งสองปลิวออกมา พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีใครต้านทานบอลไฟและกลับมาโจมตีพวกเขาได้
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า คิ้วของฟลาดิน่ายกขึ้นเล็กน้อย มือสีขาวนวลของเธอโบกสะบัด คริสตัลเวทย์รูปเพชรถูกสร่สงขึ้นรอบตัวเธอ ก่อตัวเป็นเกราะคริสตัลเวทมนตร์ขนาดยักษ์ ร่างของเธอลอยขึ้นและบินถอยหลังไปในอากาศ
พื้นดินเป็นสนามรบของนักรบ ท้องฟ้าเป็นสนามรบของจอมเวทย์ จอมเวทย์สามารถบินได้ พวกเขาจะได้เปรียบนักรบ สถานะของพวกเขาจึงต่างกันลิบลับ
“ท่านเอียน ข้ายังคงจับตาดูท่าน!” ไอดิสก้าวถอยหลังและขวางดาบไปยืนด้านหน้าฟลาดิน่า ประกายตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นคง
ภายใต้การรุมล้อมจากอัศวินดวงดาวและจอมเวทย์ชั้นสูง หยางเฟยสามารถสังหารอัศวิน 3 คนและจอมเวทย์ชั้นสูง 2 คน ความสามารถในการต่อสู้ของเขาสูงมาก
“เจ้ากล้ามาสังหารข้า! วันนี้ข้าจะฝังศพเจ้า!”
พลังวิญญาณไหลไปทั่วร่าง เกล็ดมังกรคลุมทั่วร่างของหยางเฟย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา จิตสังหารคละคลุ้งไปทั่ว
ไอดิสถือดาบเวทมนตร์ที่สร้างขึ้นจากเมืองแห่งปาฏิหาริย์ ชี้ไปที่หยางเฟย
“ไอดิส ใช้เคล็ดวิชาดาบแสงดาวที่เซนต์เบกสอนเจ้ามา” ฟลาดิน่าพูดขึ้น พลังเวทย์ไหลทะลักออกมาทั่วร่างของเขา ด้วยไม้กายสิทธิ์ในมือของเธอ เธอสามารถร่ายเวทย์ที่ระดับต่ำกว่า 2 ได้ในทันที
“ค่อยมาสู้กัน!”
หยางเฟยคำรามออกมา เขากระโดดออกจากกำแพงเมืองอันเจียและกำลังหลบหนีออกจากเมือง
ถ้าแค่หนึ่งคน หยางเฟยมั่นใจว่าสามารถเอาชนะไอดิสได้ แต่ถ้าไอดิสและฟลาดิน่า แม้แต่วอร์ล็อคระดับ 3 ยังไม่สามารถเอาชนะพวกเขาทั้งคู่ได้ หยางเฟยจึงไม่อาจเอาชนะพวกเธอทั้งสองได้
เมื่อมองเห็นหยางเฟยเลือกที่จะหลบหนี ทั้งไอดิสและฟลาดิน่าชะงักไปเล็กน้อย ทั้งสองไม่คิดว่าหยางเฟยที่เป็นวีรบุรุษจะเลือกที่จะหลบหนี
“น่าไม่อาย ข้าจะมอบความตายให้เจ้า!!”
ใบหน้าที่งดงามของฟลาดิน่าบิดเบี้ยว เธอกัดฟันและสะบัดมือ
เวทย์ธาตุระดับ 1 อย่างแท่งน้ำแข็ง บอลไฟ หนามหิน คมมีดสายลมและเวทย์อื่นๆอีกมากมายถูกร่ายใส่หยางเฟย
ภายการพลังทำลายของเวทมนตร์ที่ฟลาดิน่าร่าย หยางเฟยถูกบังคับให้ใช้สนามพลังป้องกัน และใช้ดาบทำลายเวทมนตร์บางส่วน เวทย์เหล่านั้นไม่สามารถผ่านการป้องกันของเกล็ดมังกรได้
พลังเวทย์ของฟลาดิน่าเหมือนไร้ที่สิ้นสุด เวทมนตร์ระดับ 1 ถูกยิงเข้าหาหยางเฟยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ร่างของหยางเฟยชุ่มไปด้วยเลือด เกล็ดมังกรเริ่มมีบางส่วนหลุดร่วง
นอกจากเวทมนตร์ธาตุเหล่านี้ เวทมนตร์ประเภทคำสาปทุกชนิดเช่น ปวดหัว อ่อนแรง ลดการรับรู้ และเวทมนตร์อื่นๆถูกนำมาร่ายใส่หยางเฟยเช่นกัน
แม้ว่าพลังวิญญาณระดับวอร์ล็อคระดับ 2 ของหยางเฟยจะต้านทานคำสาปได้บางส่วน เช่นเวทย์ปวดหัว แต่เวทย์คำสาปมากมายเหล่านี้ทำให้เขาสับสน ร่างกายของเขาอ่อนแรง เขาอยากจะล้มตัวลงนอน
เมื่อฟลาดิน่าโจมตีเข้ามา หยางเฟยไม่เลือกที่จะหลบหนี ในขณะเดียวกันเขาร่ายเวทย์ตั้งรับและเลือกที่จะไม่สวนกลับ
ไอดิสพุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด มุ่งหน้าเข้าหาหยางเฟย
หยางเฟยตะโกนออกมา “บากัส เจ้ายังไม่ใช้เวทย์อีกรึ? ถ้าข้าตาย เจ้าก็ต้องตายไปกันข้าด้วย!”
“แรงโน้มถ่วง!”
“ลำแสงสีดำ!”
“หวาดกลัว!”
“ควบคุมจิตใจ!”
“บอลไฟ!”
“ใยแมงมุม!”
“…..”
ในบ้านหลังหนึ่ง เวทมนตร์มากกว่า 100 บทถูกร่ายใส่ไอดิส
เวทย์มากกว่า 100 บทครอบคลุมไปทุกพื้นที่ และแม้แต่อัศวินดวงดาวเมื่อถูกโจมตี เขาอาจจะตายได้ในอึดใจเดียว แม้แต่วอร์ล็อคระดับ 3 ยังไม่กล้าต้านรับเวทย์มากมายขนาดนี้
“ไม่!!!!” ฟลาดิน่ากรีดร้องออกมา เธอทำได้เพียงมองดูเวทมนตร์มากมายกลืนกินร่างของไอดิส
ประกายแสงสีฟ้าสว่างเจิดจ้า ไอดิสถูกโจมตีอย่างบ้าคลั่งโดยเวทมนตร์มากกว่า 100 บท เขาปรากฎตัวขึ้นบนกำแพง เหงื่อเย็นเยือกชุ่มไปทั่วหลังของเขา ถ้าเขาไม่มีอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ใช้ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาคงถูกบดขยี้โดยเวทมนตร์มากมายหลายร้อยบท
ไอดิสมองไปทางจอมเวทย์มากกว่า 100 บทที่เดินออกมาช้าๆจากบ้านหลังหนึ่ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง “ท่านบากัส ทำไมท่านถึงทำอย่างนี้? ท่านร่วมมือกับมันได้อย่างไร?”
เสียงเย็นยะเยือกของหยางเฟยดังขึ้น “ฆ่าพวกเขา!”
“ขอรับ! นายท่าน!” บากัสยิ้มอย่างขมขื่น เขาถือไม้เท้าและร่ายเวทย์ระดับ 3 ใส่ร่างของไอดิส
จอมเวทย์ทั้ง 20 คนเริ่มตั้งสมาธิ พวกเขาเริ่มร่ายเวทย์ป้องกันคุ้มครองร่างของเจ้านายของพวกเขา
จอมเวทย์โจมตีรับผิดชอบในส่วนของการโจมตี จอมเวทย์ป้องกันรับผิดชอบในส่วนของการป้องกัน กลุ่มของจอมเวทย์โจมตีและป้องกันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของกองทัพมนุษย์
“ถอนตัว!”
ใบหน้าของไอดิสเปลี่ยนไป ร่างของเขาหันหลังกลับและหลบหนีกลับไปยังเมืองอันเจีย
ฟลาดิน่าซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ เธอใช้เวทย์เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นไอน้ำและลอยหายไปบนท้องฟ้าทิศทางเดียวกับไอดิส
จอมเวทย์และผู้เชี่ยวชาญระดับอัศวินดวงดาว หากต้องการสู้กับจอมเวทย์ชั้นสูงและจอมเวทย์คนอื่นๆอีกมากมาย แสดงว่าพวกเขากำลังมองหาความตาย
หยางเฟยมองไปยังหลังของไอดิสแลฟลาดิน่า คิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย “ยุ่งยากเสียจริง คนที่แข็งแกร่งในระดับนี้ เป็นเรื่องยากที่จะสังหารพวกเขา!”
ในป้ายมิติของหยางเฟย สัตว์อสูรจักรกลที่มีพลังเทียบเท่ากับสิ่งมีชีวิตระดับ 4 ถ้าเขาปล่อยพวกมันออกมา เขาอาจจะสามารถสังหารไอดิสและฟลาดิน่าได้ แต่ผลลัพธ์ต่อมา จักรวรรดิมอร์ริสอาจจะยกระดับภัยอันตรายของหยางเฟยขึ้นอีกครั้ง ครั้งต่อไปที่ส่งกองทัพมา หยางเฟยอาจจะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพระดับตำนานกลุ่มใหญ่
หยางเฟยพูดทันที “บากัส!”
บากัสตอบ “ขอรับ”
หยางเฟยพูดอย่างมีแบบแผน “เมื่อกลุ่มของเจ้ามาถึง ให้รวมกลุ่มกับกองทัพที่ 2 และบุกโจมตีเมืองโทเซ่!”
กองทัพที่ 1 คือกองทหารม้า 2,000 นายที่ไคลฟ์ฝึกฝน กองทัพแรกในที่นี้คือทหารที่รวบรวมกันในเมืองแห่งปาฏิหาริย์ในครั้งแรก
กองทัพที่ 2 คือกองทัพใหม่ที่รวมตัวกันจากทาส 5,000 นาย ความแข็งแกร่งของกองทัพที่ 2 นั้นอ่อนด้อยกว่ามาก แม้ว่าพวกเขาจะมีอาวุธครบมือและอุปกรณ์สวมใส่ที่ยึดได้จากกองทัพนักล่า ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขายังด้อยกว่าทหารประจำเมืองของจักรวรรดิมอร์ริส
ยังไม่เพียงพอสำหรับกองทัพที่ 2 ถึงแม้ว่าความสามารถในการรบจะอ่อนแอ แต่เมื่อผสานเข้ากับกลุ่มจอมเวทย์มนุษย์ ไม่มีกองทัพใดในอาณาจักรโมรินสันกล้าสู้หน้ากับเขา
จอมเวทย์ที่แท้จริงมากกว่า 100 คนถูกนำโดยจอมเวทย์ชั้นสูง สามารถสังหารได้แม้แต่จอมเวทย์ระดับตำนาน นี่เป็นความน่ากลัวของจอมเวทย์มนุษย์ แน่นอนว่าพวกเขามีระดับใกล้เคียงกับจอมเวทย์ระดับตำนาน พวกเขาสามารถสังหารกองทัพนักรบทั่วไปได้ภายในเวาไม่ถึงนาที
บากัสลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านเอียน ความแข็งแกร่งของอาณาจักรโมรินสันไม่ใช่สิ่งที่ท่านสามารถประเมินได้ พวกเขามีการคุ้มครองจากเทพอยู่เบื้องหลัง แม้ว่าท่านจะสามารถยึดครองบางส่วนของอาณาจักรโมรินสันได้”
จักรวรรดิมมอร์ริสเป็นหนึ่งในสี่จักรวรรดิที่ร่ำรวยที่สุดในดินแดนเฟย์สือ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากเทพธิดาซาลีย่า
ในประวัติศาสตร์ของดินแดนเฟย์สือ ไม่เคยมีอัจฉริยะคนใดสามารถยึดครองจักรวรรดิมอร์ริสได้หรือคุกคามจักรวรรดิมอร์ริสได้และยังมีผู้เชี่ยวชาญระดับกึ่งเทพปรากฎขึ้นในจักรวรรดิมอร์ริส ภายใต้คำแนะนำจากเหล่าเทพ พวกเขาจะทำลายอัจฉริยะและอาณาจักรที่อาจะเป็นภัยในอนาคต
ทั้งจักรวรรดิมอร์ริสและจักรวรรดิไททันเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกทำลาย บากัสอยากให้หยางเฟยตระหนักถึงความเป็นจริงข้อนี้
หยางเฟยแสยะยิ้มเบาๆ “ไม่สำคัญหรอก ข้าไม่ได้วางแผนจะยึดครองจักรวรรดิมอร์ริส ข้าเพียงแต่จะปล้นอาณาจักรโมรินสันและขายทุกสิ่งทุกอย่างให้กับจักรวรรดิไททัน เจ้าสามารถทำได้แน่นอน”
หัวใจของบากัสสั่นไหว เขาเข้าใจเหตุผลของหยางเฟย ทุกครั้งที่เขายึดเมืองได้ เขาจะกวาดต้อนทุกสิ่งทุกอย่างและส่งกลับไปยังเมืองแห่งปาฏิหาริย์
ถ้าอาณาจักรโมรินสันถูกหยางเฟยปล้น อาณาจักรนี้ต้องใช้เวลาฟื้นตัวอย่างน้อย 10 ปี จากนั้นเป็นเรื่องยากที่จักรวรรดิมอร์ริสจะบุกโจมตีหยางเฟย
บากัสลังเล เขากัดฟันพูด “นายท่าน ท่านไม่โหดร้ายเกินไปรึ?”
“โหดร้าย?” หยางเฟยเหลือบตามองและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “การต่อสู้ในดินแดนรกร้างเรดเคลย์ ถ้าข้าพ่ายแพ้! ผู้คนนับหมื่นในเมืองแห่งปาฏิหาริย์ล่ะ เจ้าเป็นถึงจอมเวทย์ชั้นสูง บากัส เจ้าไม่รู้หรอกรึ? ในตอนนั้น ทำไมเจ้าไม่คิดถึงเรื่องที่โหดร้ายที่จะเกิดขึ้นในตอนนั้นบ้าง?”
บากัสพูดไม่ออก
ถ้าเมืองแห่งปาฏิหารย์พ่ายแพ้ ทุกคนในเมืองจะถูกจับตัวไปโดยกองทัพนักล่าและกลายมาเป็นทาสและถูกขายต่อให้กับผู้อื่น ความร่ำรวยทั้งหมดในเมืองแห่งปาฏิหาริย์จะถูกเอาไปทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ บากัสไม่ได้ให้ความสนใจกับทาส รึแม้แต่นายท่านของเขา จอมเวทย์เอียนก็ไม่อยู่ในสายตาของเขา เมื่อเขาทำงานให้กับหยางเฟย เขาจึงต้องสลักคำพูดที่โหดร้ายเหล่านี้ไปในหัวใจของเขา
หยางเฟยพูดเบาๆ “โอเค บากัส! ตอนนี้เจ้าเป็นคนของเมืองแห่งปาฏิหาริย์ ชีวิตของเจ้า ความตายของเจ้า ชื่อเสียงของเจ้า ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเมืองแห่งปาฏิหาริย์ ถ้าเจ้าทำดีต่อไปในอนาคต ข้าจะบอกวิธีให้เจ้าฝึกฝนเลื่อนขึ้นไปเป็นจอมเวทย์ระดับตำนาน แล้วเจ้าจะกลายเป็นจอมเวทย์ระดับตำนาน!”
“จอมเวทย์ระดับตำนาน!!”
บากัสได้ยิน ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ภายในดวงตาปรากฎแสงแห่งความหวัง
ในดินแดนเฟย์สือ เป้าหมายสูงสุดของจอมเวทย์ทั้งหมดคือการเป็นจอมเวทย์ระดับตำนาน
เมื่อจอมเวทย์สามารถเลื่อนขึ้นไปเป็นจออมเวทย์ระดับตำนานได้ ช่วงชีวิตของจอมเวทย์จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 2,000 ปี นี่เป็นหนึ่งในจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของจอมเวทย์ในดินแดนเฟย์สือ
อย่างที่รู้กัน ในดินแดนคังฉี วอร์ล็อคระดับ 1 ทั่วไปมีช่วงชีวิตอยู่ที่ 200 ปี ถ้าวอร์ล็อคคนนั้นเก็บยายืดอายุไว้ ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะมีชีวิตอยู่ถึง 300 ปี ในดินแดนเฟย์สือ จอมเวทย์ทั่วไปมีช่วงชีวิตไม่แตกต่างไปจากคนทั่วไป
หยางเฟยหันหลังกลับ เขาโยนหนังสือเวทมนตร์ให้บากัส
บากัสรับหนังสือเวทมนตร์ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หนังสือเวทมนตร์ในมือของเขาบันทึกวิธีในการเลื่อนระดับขึ้นเป็นจอมเวทย์ระดับตำนาน
จอมเวทย์ที่ได้รับหนังสือเวทมนตร์ในการเลื่อนขึ้นไปเป็นจอมเวทย์ระดับตำนาน ส่วนใหญ่เป็นขุนนางระดับสูง เป็นเชื้อพระวงศ์และเป็นคนของวิหาร
จอมเวทย์ที่เป็นสามัญชนอย่างบากัส เพื่อที่จะให้ได้ความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์เขาต้องขายทั้งชีวิตของเขาให้กับตระกูลเชื้อพระวงศ์ นี่เป็นกลยุทธ์ที่ตระกูลราชวงศ์ใช้ในการควบคุมจอมเวทย์
บากัส เลื่อนขึ้นเป็นจอมเวทย์ เขาเป็นอัจฉริยะ เมื่อเขาแยกตัวออกมา เขาไม่เคยได้รับความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ในการเลื่อนระดับเป็นจอมเวทย์ระดับตำนานอีกเลย ตอนนี้หยางเฟยได้มอบหนังสือเวทมนตร์ในการเลื่อนระดับขึ้นไปเป็นจอมเวทย์ระดับตำนาน ในใจของเขาเต็มไปด้วยความปีติยินดี
บากัสโค้งคำนับให้กับหยางเฟย “ท่านเอียน ท่านสามารถมั่นใจได้เลยว่าข้าจะทำตามคำสั่งของท่านแน่นอน! ตามที่ท่านสั่ง ข้าจะยึดครองเมืองทั้งหมดของอาณาจักรโมรินสัน!!”
หยางเฟยพูด “ไป!”
สองวันต่อมา เมืองโทเซ่
ทั้งเมืองโทเซ่มีกองทหารประจำเมือง 2,000 นาย ในกองทหารทั้ง 2,000 นาย มีทหารชั้นยอดเพียง 100-300 คน
บนเมืองโทเซ่ เต็มไปด้วยทหารยามมากมายกำลังยืนมองกองทัพที่ 2 ที่มีทหาร 5,000 นายจากเมืองแห่งปาฏิหาริย์อยู่ด้านนอกเมืองด้วยความสยดสยอง