Martial God Space - ตอนที่ 285

Martial god space ตอนที่  285   การตายอย่างสงบ

การสู้รบระหว่างอดีตผู้นำนิกาย และ ร่างเงาปีศาจ กำลังดุเดือดอยู่ในช่วงตัดสินแพ้ชนะ อดีตผู้นำนิกาย ใช้เคล็ดวิชาดาบที่ดูเรียบง่าย แต่แผงไปด้วยพลังมหาศาล การโจมตีด้วยปราณดาบแต่ละครั้ง ทำให้เกิดเป็นรอยแยกของพื้นที่มิติ

ร่างเงาปีศาจ คำรามเสียงดัง จากนั้นมังกรดำปีศาจก็พุ่งออกมาจากหอกปีศาจของมัน พลังโจมตีของทั้งสองพยายามหักล้างซึ่งกันและกัน การต่อสู้ระหว่างสองผู้เชี่ยวชาญลมปราณระดับนักปราชญ์มีความรุนแรงมากจนทุกคนเกรงว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาลกับนิกาย  อีกทั้งสายตาของอดีตผู้นำนิกายในตอนนี้ก็แทบจะมองไม่เห็น เขาจึงพื้นที่การต่อสู้ที่สูงขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ

เย่ ซีหวิน  โคจรพลังศักดิ์สิทธิ์ไปที่ดวงตาทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นของเขาเพิ่มมากขึ้น และทันใดนั้นเขาก็มองเห็นอดีตผู้นำนิกายกำลังต่อสู้ด้วยกำลังทั้งหมดของเขา  และพลังชีวิตส่วนใหญ่ของเขาได้ถูกใช้ไปจนเกือบหมดแล้ว เขาเริ่มสูญเสียวิสัยทัศน์การมองเห็น และมีอาการหายใจติดขัด เขาอาจจะต้องพ่ายแพ้ เพราะดูเหมือนว่าตอนนี้เขากำลังจะหมดสติได้ตลอดเวลา

อีกทางด้านหนึ่ง คือ ร่างเงาปีศาจ ผู้ซึ่งอยู่ในขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์ที่แข็งแกร่ง  เป็นสิ่งที่ เย่ ซีหวิน  รู้สึกกังวลอย่างมาก ถ้าอดีตผู้นำนิกายต้องพ่ายแพ้ ทุกคนจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้าย เพราะเพียงแค่พลังของร่างเงาปีศาจก็สามารถกวาดล้างสำนักยี่หยวนได้ในชั่วพริบตา

ความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์นั้นแข็งแกร่งมากเกินไป  ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับตำนานคนเดียวก็เพียงพอที่จะสร้างหายนะให้กับทั้งสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์แล้ว  ด้วยความแข็งแกร่งของเขาก็มากพอที่จะปกครองดินแดนภาคตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดได้

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์เพียงคนเดียวก็เพียงพอจะยกระดับทั้งนิกายให้เป็น  นิกายระดับแถวหน้าของสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้  อีกทั้งยังมีอำนาจเหนือสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย เช่นเดียวกับ สำนักยี่หยวน

แต่ก่อนหน้านั้น  เย่ ซีหวิน  ไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์คนอื่น ๆ ในสำนักยี่หยวน มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์เพียงคนเดียว คือ อดีตผู้นำนิกาย ซึ่งทุกคนต่างพากันเชื่อเรื่องการตายของเขา

เมื่อคิดถึงเรื่องอาการบาดเจ็บของอดีตผู้นำนิกายแล้ว หากเป็นจริงอย่างที่ ร่างเงาปีศาจ กล่าวว่า ท่านอดีตผู้นำนิกาย ใช้เคล็ดวิชาลับบางอย่าง เพื่อชะลอการเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเอง มิเช่นนั้น อดีตผู้นำนิกาย  คงไม่สามารถรอดชีวิตมาได้ เมื่อครั้ง 1,000 ปีที่ผ่านมา

เห็นได้ชัดว่ากลุ่มผู้นำระดับสูงในนิกายต่างช่วยกันปกปิดเป็นความลับ เพื่อใช้ ท่านอดีตผู้นำนิกาย เป็นไพ่ตายสุดท้ายของสำนักยี่หยวน เพื่อยับยั้งสถานการณ์ขั้นวิกฤตที่เป็นภัยต่อการถูกกวาดล้างทั้งอาณาจักรหุบเขาเมฆา

” ตึ้งงงงง! ”  เย่ ซีหวิน  เรียกตราประทับถล่มภูผาออกมา  ขนาดอันใหญ่โตของมันปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และตกลงมากระแทกทันทีที่กองทหารปีศาจ ทำให้ทหารปีศาจบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมาก

ผู้เชี่ยวชาญของปีศาจทำเป็นไม่สนใจ  เย่ ซีหวิน  พวกมันไม่ต้องการต่อสู้กับเขา พวกมันเห็น ลู่ หงเหวย และปีศาจลมปราณระดับตำนาน ถูกฆ่าตาย พวกมันไม่ได้มีพลังมากพอที่จะต่อกรกับ  เย่ ซีหวิน  พวกมันไม่รู้ว่า ลู่ หงเหวย  และปีศาจลมปราณระดับตำนาน  ต้องพ่ายแพ้ให้กับ เย่ ซีหวิน  ก็เพราะพลังอำนาจของกระจกเทียนหยวน

พวกมันไม่รู้ความจริงในเรื่องนี้ พวกมันคิดว่า  เย่ ซีหวิน  นั้นแข็งแกร่งเกินไป พวกมันต่างพากันหวาดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้  ซึ่งเป็นผลมาจากพลังอำนาจของกระจกเทียนหยวน

อย่างไรก็ตามความสนใจของ  เย่ ซีหวิน  ในตอนนี้อยู่ที่การต่อสู้ระหว่างสองผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์

” วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า! ” ร่างเงาปีศาจ หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง งูพิษจำนวนนับหมื่นตัวระเบิดออกมาจากหอกของเขา งูแต่ละตัวถูกปกคลุมไปด้วยพิษที่กัดกร่อนชั้นบรรยากาศ ความรู้สึกที่น่าหวาดหวั่นสะพรึงกลัวกระจายออกไปในหมู่ผู้ชมที่อยู่ในเหตุการณ์

ใบหน้าของอดีตผู้นำนิกายยังคงเรียบเฉย  เพียงแต่เขายังไอออกมาเป็นเลือดอยู่ตลอดเวลา   ดาบยาวในมือของเขาไม่ได้เชื่องช้า  แต่กลับรวดเร็ว และรุนแรงปราณดาบกระจายออกไปทั่วท้องฟ้า ดาบของอดีตผู้นำนิกายอาจกล่าวได้ว่าทำลายกฎนับหมื่นของกฏแห่งโลก

“ เปรี้ยงงง!”

การโจมตีด้วยดาบของอดีตผู้นำนิกายดูเหมือนการโจมตีธรรมดา แต่มันระเบิดออกเป็นลำแสงสว่างจ้า ซึ่งยากจะมองโดยตรง ขนาดที่ใหญ่ของมันกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบ ๆ  และทำลายปราณหอกของร่างเงาปีศาจในทันที

สีหน้าของร่างเงาปีศาจถึงกับเปลี่ยนสี มันตกใจหลังจากได้เห็นพลังการโจมตีด้วยดาบของอดีตผู้นำนิกาย

“ วิ้งงงงง! ”

พลังการโจมตีด้วยดาบของอดีตผู้นำนิกายเต็มไปด้วยความน่าสยดสยอง  และในทันทีที่มันปะทะเข้ากับการโจมตีจากหอกของร่างเงาปีศาจ

การโจมตีของดาบนั้นกลับรวดเร็ว และมีพลังมากขึ้น และทำให้การโจมตีของหอกสลายไป

อย่างไรก็ตามการโจมตีของดาบที่รวดเร็วไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น มันยังพุ่งตรงต่อไปข้างหน้า  และตัดไปที่คอของร่างเงาปีศาจทันที

” นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? ” ในแววตาของร่างเงาปีศาจ มันไม่อาจเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

” ตูมมม! ” ร่างของร่างเงาปีศาจร่วงหล่นลงมากระแทกกับพื้น  อดีตผู้นำนิกายค่อยๆ ร่อนลงมาจากท้องฟ้า เขาถือศีรษะของร่างเงาปีศาจเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง แต่  เย่ ซีหวิน  สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเขาเริ่มแห้งเหี่ยว และผิวของเขาก็แตกเหมือนเปลือกไม้เก่า เขาสูญเสียพลังทั้งหมด และมือกับเท้าของเขาก็เริ่มสั่นเทา

สาวกของสำนักยี่หยวนต่างพากันร้องไห้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าวาระสุดท้ายของอดีตผู้นำนิกายได้มาถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตของเขาแล้ว

” ทำลายแนวป้องกันของพวกมัน! ” เสียงคำรามดังออกมาจากส่วนลึกของสำนักยี่หยวน เหล่าผู้อาวุโส และผู้นำระดับสูง และผู้นำนิกายคนปัจจุบันของสำนักยี่หยวน หวู่ โผ่เทียน ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยเลือด ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งในนั้นขาดแขนและเสียเลือดมาก

เห็นได้ชัดว่าผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้รอดชีวิตจากการต่อสู้อย่างหนัก  และตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญระดับนักปราชญ์ของศัตรูได้ถูกตัดศีรษะ  จู่ ๆพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นทำให้ขวัญกำลังใจของสาวกเพิ่มขึ้นอย่างมาก การเสียชีวิตของร่างเงาปีศาจ  ทำให้เกิดความวุ่นวายในหมู่ทหารปีศาจ พวกมันไม่เคยคิดว่าอดีตผู้นำนิกายจะแข็งแกร่งมากพอที่จะเอาชนะร่างเงาปีศาจได้

การเสียชีวิตอย่างฉับพลันของร่างเงาปีศาจ ทำให้พวกมันขวัญกำลังใจที่จะสู้อีกต่อไป และเริ่มหลบหนีผ่านรอยแยกของพื้นที่มิติ

ขวัญกำลังใจของสาวกของสำนักยี่หยวน เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน จิตวิญญาณในการต่อสู้ของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน

” ท่านอาจารย์! ” หวู่ โผ่เทียน เห็นอดีตผู้นำนิกาย เขาถึงกับเข่าอ่อน เขาคุกเข่าลง พร้อมกับหลั่งน้ำตา  เขาระลึกถึงช่วงวัยเด็กของเขากับอดีตผู้นำนิกาย เมื่อครั้งตอนที่เขาเคยเป็นแค่ศิษย์ธรรมดา  ด้วยความช่วยเหลือของอดีตผู้นำนิกาย  ความสามารถของเขาได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด และในที่สุดเขาก็กลายมาเป็นหัวหน้านิกายของสำนักยี่หยวน เขาไม่สามารถปิดกั้นอารมณ์ของเขาได้หลังจากที่ได้เห็นสภาพของอดีตผู้นำนิกายในตอนนี้

น้ำตาของทุกคนต่างไหลอาบแก้ม หลังจากอดีตผู้นำนิกายได้ดูแลพวกเขามาเป็นเวลานาน  ผู้นำระดับสูงหลายคนตระหนักดีถึงชื่อเสียงในทุกๆด้านของอดีตผู้นำนิกาย และเคยเป็นศิษย์ของเขา  แต่พวกเขากับไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของอดีตผู้นำนิกายของเขาเลย

ในหัวใจของพวกเขา อดีตผู้นำนิกายมีศักดิ์สูงกว่าผู้ก่อตั้งสำนักยี่หยวน

” โง่เขลา! ” อดีตผู้นำนิกาย ร่อนลงมาถึงพื้น และวางหัวของร่างเงาปีศาจ  หลายคนก้าวออกไปเพื่อรับหัวของร่างเงาปีศาจ เพราะมันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สามารถนำมาสร้างอาวุธวิเศษที่น่ากลัวได้

อดีตผู้นำนิกาย ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า ” ชีวิตมีเกิดย่อมต้องมีดับเป็นเรื่องปกติ สิ่งที่สำคัญ คือ การใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าต้องการ และทำในสิ่งที่เจ้าต้องการ อย่างไรก็ตามหน้าที่การปกป้องสำนักก็เป็นหน้าที่ของข้ามาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว นอกจากนี้ข้าควรจะตายไปนานกว่าพันปีมาแล้ว การใช้ชีวิตอยู่มานานกว่าพันปีก็นับว่าเพียงพอสำหรับข้าแล้ว “

” ท่านอดีตผู้นำนิกาย  ท่านจะตายไม่ได้  ท่านจะจากสำนักยี่หยวนไปไม่ได้! ” หวู่ โผ่เทียน หลั่งน้ำตา  มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นผู้ชายอย่างเขาร้องไห้ แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครจะตัดสินเขา  สาวกจำนวนมากต่างพากันร้องไห้

อดีตผู้นำนิกาย ส่ายหัว และกล่าวว่า ” ข้ารู้สึกภูมิใจ สำนักยี่หยวนในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่ารุ่นแรก ๆ  ข้าไม่มีอะไรต้องห่วง  เวลาของข้าในตอนนี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว “

ลมหายใจของอดีตผู้นำนิกายเริ่มอ่อนแอลงมากขึ้น

เขานึกถึงเรื่องราวในอดีต เดิมทีเขาเป็นเพียงศิษย์เอกธรรมดา  แต่วันหนึ่งสำนักยี่หยวนตกอยู่ในสถานการณ์ขั้นวิกฤตเมื่อผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเสียชีวิตในการค้นหาสมบัติ เขาต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง และกลายมาเป็นผู้นำของนิกาย เพื่อนำนิกายที่กำลังอ่อนแอไปสู่ความรุ่งเรืองจนมาถึงปัจจุบัน

ชีวิตที่สงบสุขของเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งนี้

ในยุคแห่งความสับสนวุ่นวาย  การเดินทาง  การต่อสู้ที่เสี่ยงตายด้วยชีวิต  และสงคราม  เขาเข้าร่วมในทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูสถานะของสำนักยี่หยวนให้ฟื้นกลับขึ้นมาใหม่ และนำมันกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามเขาต้องพบกับความสูญเสียอย่างมาก

คนที่รัก เพื่อนสนิท  พี่น้อง อาจารย์ คู่ชีวิต พวกเขาทั้งหมดล้วนตายจากเขาไป  และเขาใช้ชีวิตที่เหลือมาจนถึงปัจจุบัน

มันเป็นการตายอย่างสงบ  ร่างกายที่ผอมแห้งของอดีตผู้นำนิกาย ค่อยๆ กลายเป็นหมอกและฝุ่นละออง และหายไปในอากาศ

อดีตผู้นำนิกายตายอย่างสงบในท่านั่ง!

ทุกคนหยุดร้องไห้ แต่พวกเขาก็เต็มไปด้วยความเสียใจหลังจากได้เห็นการตายของอดีตผู้นำนิกาย ในเวลานั้น หวู่ โผ่เทียน ลุกขึ้นยืนและโห่ร้องอย่างโกรธแค้นว่า ” ฆ่าปีศาจที่ชั่วร้ายเหล่านี้ทั้งหมด พวกมันต้องชดใช้! “

เย่ ซีหวิน  ควบคุมอารมณ์ที่หนักหน่วงของเขาไว้ได้ ด้วยเหตุเพราะอดีตผู้นำนิกายเสียชีวิตลงอย่างสงบในท่านั่ง และหลุดพ้นจากวัฏจักรของมนุษย์ เขาไม่เคยได้พบกับอดีตผู้นำนิกาย แต่เขาก็นับถือเขาอย่างมาก

เย่ ซีหวิน   ลูกหมาป่า และ เย่ ซู  และคนอื่นๆ บินตรงกลับไปที่ ยอดขุนเขาเฉียนหยู่ (ป้อมปราการสงคราม) ในเวลานี้บรรยากาศอันเงียบสงบราวกับทรวงสวรรค์ในยอดขุนเขา  ถูกแทนที่ด้วยจิตสังหาร การโจมตีทุกอย่าง และค่ายกลทั้งหมดถูกเปิดใช้งาน  เย่ ซีหวิน  ในตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในรถถัง

เย่ ซีหวิน  เริ่มโจมตีทันที  ไม่จำเป็นพูดถึงพลังที่แท้จริงของ ยอดขุนเขาเฉียนหยู่ ถูกปลดปล่อยออกมาทันทีราวกับเครื่องจักรสงคราม มันบินไปตรงข้างหน้าพร้อมกับบดขยี้ทหารปีศาจไปตลอดทางของมัน ปีศาจระดับตำนานพยายามจะหยุดป้อมปราการสงคราม แต่ถูกบดขยี้จนตายด้วยการโจมตีของ  เย่ ซีหวิน  และ ยอดขุนเขาเฉียนหยู่

” ฆ่าพวกมันทั้งหมด ทำลายรังของปีศาจ! ”  เย่ ซีหวิน  นั่งอยู่บนเก้าอี้ และตะโกนราวกับเป็นผู้บัญชาการที่แท้จริง