Martial God Space - ตอนที่ 254
Martial god space ตอนที่ 254 ไข่สัตว์ปีศาจ
เป็นที่รู้กันดีว่าไข่สัตว์ปีศาจทั้งหมดเกิดมาพร้อมอายุขัยที่จำกัด และต้องมีการฟักไข่ภายในระยะเวลาหนึ่ง มิฉะนั้นไข่เหล่านี้จะไม่สามารถฟักตัวได้ และฝังตัวอยู่ใต้พื้นดินเป็นเวลานานจนกลายเป็นฟอสซิล บางฟองอาจจะเน่าเสีย ในขณะที่บางฟองอาจจะรอดพ้นจากกาลเวลาที่ผ่านมาหลายปีอย่างปาฏิหาริย์ อย่างไรก็ตามก็ต้องแลกด้วยการเผาพลาญพลังชีวิต
ถ้าไข่เหล่านี้ได้ถูกฟักตัวมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เมื่อพวกมันฟักตัวออกจากไข่เองตามธรรมชาติแล้ว สัตว์ปีศาจที่เพิ่งเกิดใหม่นี้อาจจะมีพลังขอบเขตระดับตำนาน หรือขอบเขตที่เหนือกว่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นมีคนกล่าวว่าน่าจะมีไข่มากกว่าหนึ่งฟองที่ถูกฝังเอาไว้ใต้พื้นดิน นี่เป็นคลื่นแห่งความสุขและความตื่นเต้นของผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์ และพวกเขาก็รีบออกตามหาไข่ใบที่เหลืออยู่ แม้ไข่เพียงหนึ่งฟองก็เป็นผลผลิตอันยิ่งใหญ่
ในไม่ช้าไข่สีทองใบที่สองก็ถูกค้นพบโดยผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์ มันเป็นไข่ของ เทอร์โรซอร์ และผู้เชี่ยวชาญที่พบมันกล่าวว่ามันเป็นเพียงไข่ระดับลมปราณมหาเทพขั้นที่ 4 ทันทีที่เขาเจอไข่มันกำลังฟักออกมาเป็นตัว แต่มันไม่ได้เป็นไปได้ด้วยดีสำหรับผู้เชี่ยวชาญ ในทางตรงกันข้าม ลูกของเทอร์โรซอร์กับโจมตีเขา ด้วยแรงระเบิดอันรุนแรงมันฆ่าเขาเกือบจะทันที ก่อนที่จะบินออกไปจากที่นั่น
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งความบ้าคลั่งของผู้เชี่ยวชาญ จากการตามหาไข่ที่ถูกฝัง เพราะพวกเขาเชื่อว่าผู้เชี่ยวชาญคนนั้นถูกฆ่าเพราะความประมาท และไร้ความสามารถ พวกเขามั่นใจว่าสัตว์ปีศาจที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่น่าจะเป็นภัยคุกคามชีวิตของพวกเขา
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจากทั่วทั่งเกาะ จึงพากันแห่ไปที่บริเวณที่ได้ถูกค้นพบว่าไข่เหล่านี้ถูกฝังอยู่!
สัตว์ปีศาจที่ถูกฟักออกมาจากไข่เหล่านี้ ไม่เหมือนสัตว์ปีศาจทั่วไปที่มีอยู่โดยทั่วไปบนเกาะแห่งนี้ พวกมันแข็งแกร่งกว่าสัตว์ปีศาจอื่น ๆ ของเกาะปีศาจ
สิ่งหนึ่งที่เราต้องรู้ว่าสายพันธุ์ของสัตว์ปีศาจที่พบบ่อยในเกาะนี้มีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์ที่พบในโลกภายนอก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะคาดเดาว่าไข่เหล่านี้เป็นของสัตว์ปีศาจที่ทรงอำนาจตั้งแต่สมัยยุคโบราณ
อย่างไรก็ตาม การรอดพ้นจากกาลเวลาที่ผ่านมานานหลายปีทำให้เผาพลาญส่วนสำคัญของพลังชีวิต และแกนพลังของไข่ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าสัตว์ปีศาจที่เกิดมาในขอบเขตระดับตำนาน จะให้กำเนิดไข่ในขอบเขตลมปราณมหาเทพ
ไม่ใช่ทุกคนรู้เรื่องนี้
ต่อมามีอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ทุกคนต่างพากันตกใจ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสัตว์ปีศาจ เพราะในเกาะปีศาจแม้ว่าจะมีสัตว์ปีศาจจำนวนมากมาย แต่พวกมันส่วนหนึ่งได้แบ่งอาณาเขตระหว่างในหมู่ของพวกมัน พวกมันแทบจะไม่เคยข้ามไปในอาณาเขตของกันและกันและเนื่องจากผู้เชี่ยวชาญมนุษย์ก็ไม่ต้องการบุกเข้าไปในอาณาเขตของสัตว์ปีศาจ และไม่ค่อยมีการปะทะกันระหว่างสองเผ่าพันธุ์
อย่างไรก็ตามหลังจากการออกตามหาไข่สัตว์ปีศาจกลายเป็นที่นิยม ผู้เชี่ยวชาญมนุษย์ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ และเริ่มบุกรุกเข้าไปในอาณาเขตของสัตว์ปีศาจ
แต่เดิมการปรากฏตัวของสัตว์ปีศาจที่น่าเกรงขามจะอยู่ในส่วนลึกของเกาะปีศาจ และสัตว์ปีศาจตนหนึ่งได้เข้ามาเยือนค่ายของสมาพันธ์เหยี่ยว มันเป็นสัตว์ปีศาจนกชนิดหนึ่งอยู่ในขอบเขตระดับตำนาน ซึ่งเป็นสัตว์ปีศาจระดับอาวุโสที่เข้าไปเยือน เหยี่ยวสงคราม เป็นการส่วนตัว และคนของเขาต้องการนำลูกนกอินทรีปีกสีทองที่ถูกพบโดย เหยี่ยวสงคราม กลับไป ตามข่าวกล่าวว่าลูกนกเป็นเทพปีศาจโบราณอันยิ่งใหญ่ และสัตว์ปีศาจไม่ต้องการให้มันตกไปอยู่ในมือของมนุษย์
ทั้งสองฝ่ายเกือบจะทำสงครามกัน และ เหยี่ยวสงคราม ก็ไม่กลัว แม้จะต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ปีศาจระดับตำนาน แต่การต่อสู้นี้ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะลูกนกอินทรีปีกสีทองไม่เต็มใจที่จะออกมาจาก เหยี่ยวสงคราม และต้องการที่จะเป็นคู่หูของเขา ดังนั้นสัตว์ปีศาจระดับอาวุโสต้องจากไปอย่างขมขื่น
ก่อนที่จะจากไป มันโค้งคำนับอย่างนอบน้อมไม่แสดงความดูหมิ่นต่อผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์ ถึงแม้ลูกนกยังเด็กแต่ก็อยู่ในขอบเขตลมปราณปฐมบท
เหตุการณ์นี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าสัตว์ปีศาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่โง่โดยปราศจากสติปัญญา มันเพียงไม่รู้ว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์ อาศัยอยู่บนเกาะที่เป็นที่พำนักของสัตว์ปีศาจที่ทรงอำนาจ ผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์มักจะดูถูกสัตว์ปีศาจ และไม่ลังเลที่จะสังหารพวกมันเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แต่สัตว์ปีศาจที่ชาญฉลาดบนเกาะแห่งนี้ เป็นเรื่องที่ต่างกันออกไปซึ่งเกี่ยวข้องกับสติปัญญา และความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขาม
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำให้ผู้คนบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้นในการออกตามหาไข่ ทุกคนไม่ต้องการมีสัตว์ปีศาจโบราณเป็นสัตว์เลี้ยง
เมื่อสัตว์ปีศาจที่เพิ่งเกิดใหม่จะมีพลังสูงมากอยู่ในของขอบเขตลมปราณมหาเทพ เราสามารถจินตนาการได้ว่าพลังของมันจะเพิ่มขึ้นมาเพียงใดหลังจากโตเต็มวัย ผู้เชี่ยวชาญบางคนวางแผนที่จะจับพวกมัน และขายมันในอนาคตเพื่อผลกำไรอันมหาศาล
ผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์บางคนไม่ใช่คนโง่ และสามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขารู้ได้โดยมองจากตัวอย่างของ เหยี่ยวสงคราม ว่าสัตว์ปีศาจที่เพิ่งเกิดใหม่อาจทำให้เชื่อง และกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ซื่อสัตย์
แม้ว่าพวกเขาไม่สามารถต่อสู้กับสัตว์ปีศาจที่ดักซุ่มอยู่ในส่วนลึกของเกาะ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถขโมยไข่ของพวกมันได้
ทันใดนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็รีบวิ่งไปยังบริเวณที่มีข่าวลือว่ามีไข่ของสัตว์ปีศาจหลบซ่อนอยู่ที่นี่
ในถ้ำมีแสงสีดำเปล่งรัศมีออกมา และส่งคำรามของมังกรระเบิดออกมาในรูปของคลื่นช็อก แต่ได้รับการป้องกันไม่ให้กระจายออกไปภายนอกโดยใช้ม่านพลังทรงกลมที่สร้างขึ้นจากพลังงาน
” เคล็ดวิชาแบบไหนกันที่ เย่ ซีหวิน กำลังฝึกในตอนนี้? เขากำลังสร้างความสับสนวุ่นวายอย่างมาก! ” จากระยะไกล วู เฉาฉิน กล่าวในขณะที่มองไปที่ทางเข้าของถ้ำด้วยแววตาที่ดูเหลือเชื่อ
” ข้าก็ไม่รู้!” มู่ หลิง ตอบและแกว่งดาบในมือของเขา ปลดปล่อยลำแสงที่ไม่มีที่สิ้นสุดขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
นับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนั้น วู เฉาฉิน รู้สึกไม่อยากกลับไปร่วมกลุ่มเล็กๆ ของ ฉิง ซู และผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ อีกหลายคน เขาชอบพักอยู่กับ เย่ ซีหวิน และ มู่ หลิง และสร้างเป็นกลุ่มเล็ก ๆ สามคน ไม่ต้องพูดถึงนี้ทั้งสามคนตอนนี้แข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับภัยคุกคามที่เป็นไปได้บนเกาะแห่งนี้
ตอนนี้บนเกาะปีศาจทั้งหม สถานการณ์ตอนนี้เริ่มแปลกประหลาดมากขึ้น และอันตรายก็เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าที่จะอยู่คนเดียว
หลังจากฝึกฝนเป็นเวลา 3 เดือน เมื่อสองวันก่อน มู่ หลิง ก็ก้าวเข้าสู่ลมปราณมหาเทพขั้นที่ 9 แม้ว่าขอบเขตภายในของเขายังไม่เสถียร แต่นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้เขายืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระดับหัวกะทิที่โดดเด่นที่สุดบนเกาะแห่งนี้
วู เฉาฉิน ยังห่างอีกไม่มากก็จะถึงระดับสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 เขาเกือบจะก้าวเข้าสู่ลมปราณมหาเทพขั้นที่ 9
ในบรรดาอัจฉริยะที่ถูกเรียกตัว มู่ หลิง และ วู เฉาฉิน เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดหัวกะทิท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญระดับหัวกะทิอย่างไม่ต้องสงสัย แม้อายุยังน้อยพวกเขาก็สามารถก้าวมาถึงระดับที่สูงขึ้นได้เช่นกัน แน่นอนว่ามีผู้เชี่ยวชาญคนอื่นอีกหลายคนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าทั้งสองเมื่อพวกเขามาถึงเกาะนี้ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นต่างก็มีอายุมากแล้ว อาจกล่าวได้ว่าทั้งสองคนจะถูกเลือกให้เป็นผู้นำในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ในไม่ช้าก็เร็ว
อันที่จริงแล้วไม่เพียงแต่ มู่ หลิง และ วู เฉาฉิน ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ทั้งหมดนี้ก็จะกลายเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจในอนาคต
เมื่อพิจารณาถึง เย่ ซีหวิน เมื่อสามเดือนที่ผ่านมา เขาสามารถเอาชนะผู้เชี่ยวชาญลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 ได้ถึงสองคน
เมื่อทั้งสามคนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ใครจะกล้าล่วงเกินพวกเขา? เย่ ซีหวิน กำลังจดจ่ออยู่กับการฝึกฝน และยกระดับการเพาะบ่ม ในขณะที่อีก 2 คนในกลุ่มกำลังเฝ้าคอยระวัง แม้พวกเขารู้ว่าไม่มีใครกล้าล่วงเกินพวกเขา
วู เฉาฉิน พอใจมาก เพราะในขณะที่เขาฝึกฝนเพื่อยกระดับการเพาะบ่มเช่นเดียวกับ มู่ หลิง และ เย่ ซีหวิน เขาสามารถฝึกฝนเพื่อยกระดับการเพาะบ่มได้โดยไม่ต้องกังวล เขารู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ร่วมกับเพื่อนสนิททั้งสองคน
มู่ หลิง ก็ไม่ได้ตั้งใจอยู่กับ เย่ ซีหวิน และ วู เฉาฉิน ตราบใดที่มันไม่เป็นอุปสรรคต่อการฝึกฝนของเขา การเพาะบ่มของเขาอาศัยปราณมรณะ และแม่น้ำสีเหลือง และเขามีเวลาจำกัดบนเกาะแห่งนี้ เขาจึงไม่สามารถเสียเวลาอันมีค่าเหล่านี้ได้ ตอนนี้ความเร็วในความก้าวหน้าของเขาเกือบจะเทียบเท่ากับ เย่ ซีหวิน
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสามคนมักจะแบ่งปันประสบการณ์ของแต่ละคน และต่างก็ได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก
” ดูเหมือนว่าเขาเร็ว ๆ นี้จะมีการทะลวงขอบเขต และสามารถเพิ่มพลังอำนาจให้กับค่ายกลธงของเขา ” มู่ หลิง กล่าวว่า
เย่ ซีหวิน พบว่ามันยากมากที่จะทะลวงขอบเขตสำเร็จเนื่องจากรากฐานของเขาแข็งแกร่ง และการทะลวงขอบเขตแต่ละครั้งจำเป็นต้องสะสมพลังงานมหาศาล ระดับความยากของการทะลวงขอบเขตของเขาสูงกว่าผู้เชี่ยวชาญทั่วไปมาก แต่เมื่อการทะลวงขอบเขตเกิดขึ้นแล้วความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเหนือกว่าความแข็งแกร่งของผู้เชี่ยวชาญในระดับที่สูงกว่ามาก
” เขาสามารถทำมันได้อย่างไร? ข้าค่อนข้างสนใจ ไปดูกันเถอะ ” วู เฉาฉิน ยิ้ม และพูด
” ข้าไม่สนใจ” มู่ หลิง ตอบ
วู เฉาฉิน เมมริมฝีปาก และพูดว่า ” หลายคนต้องการที่จะให้ได้มันมา ยังไม่สามารถหาได้ เจ้าไม่รู้เหรอ”
วิถีของข้าเป็นวิถีแห่งดาบ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้จิตใจของข้าไขว้เขว ” มู่ หลิง กล่าว อย่างไม่แยแส
” เจ้า มันอีกคนที่ฝึกฝนจนเหมือนคนเสียสติ ” วู เฉาฉิน กล่าว และตระหนักว่านี่เป็นเหตุผลว่าทำไมระดับการฝึกฝนของเขาถึงได้ตามหลัง มู่ หลิง เขาขาดความคลั่งไคล้เหมือน เย่ ซีหวิน และ มู่ หลิง
แต่เขาไม่ได้วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลง เพราะนิสัยของเขาเป็นคนรักอิสระ ง่ายๆ และตรงไปตรงมา
หนึ่งในสิ่งต้องห้ามในโลกแห่งวรยุทธ รวมถึงการฝืนความรู้สึกของตัวเอง การฝึกฝนไม่เพียงแต่มุ่งไปที่การพัฒนาร่างกาย แต่ยังมีจิตใจและจิตวิญญาณ ดังนั้นผู้ฝึกวรยุทธต้องไม่พยายามปิดกั้นความสนใจที่แท้จริงของตัวเองในขณะที่กำลังฝึกฝน เช่นเดียวกับนิสัยของ องค์ชายแปด ก็เป็นไปตามธรรมชาติซึ่งมันช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก
“บรึ้มมมมมม!” เสียงระเบิดดังก้องสะท้อนไปทั่วทั้งถ้ำ