Mai Kitsune Waifu – ภรรยาของผมเป็นเซียนจิ้งจอก - ตอนที่ 97
ตอนที่ 97 จ้าวแห่งเครื่องเคลือบ
หลิวอวี้ไม่รู้ว่าอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาหาเขาอย่างเงียบๆ.
ในเวลานี้ เขาอาศัยช่วงพักเที่ยงเพื่อไปซื้อโทรศัพท์มือถือที่ร้านโทรศัพท์ใกล้ๆ.
โทรศัพท์มือถือของเขาพัง ซึ่งเป็นเรื่องไม่สะดวกเอามากๆ.
ในการณ์นั้น เขาก็มีเงินสำรองจ่าย มันจึงไม่เจ็บปวดนักสำหรับการซื้อบางอย่างที่เขาอยากได้.
ร้านโทรศัพท์นี้ค่อนข้างใหญ่. มีคนจำนวนมากกำลังซื้อโทรศัพท์ที่นี่. มีผู้หญิงวัยรุ่นน่ารักคอยให้คำแนะนำต้อนรับลูกค้าด้วย.
หลิวอวี้เดินเข้ามาในร้าน แต่เขาไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้และต้องการหาคนให้คำแนะนำเพื่อเลือกซื้อ.
สมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีความฉลาดขึ้นทุกวัน และหลิวอวี้ต้องการซื้อเครื่องที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้สักเครื่อง เพื่อที่เขาจะสามารถรับภารกิจได้โดยตรงจากโทรศัพท์มือถือ.
หลิวอวี้เดินไปที่เคาน์เตอร์และมองดูอยู่นาน.
อย่างไรก็ตาม เพราะเขาอยู่ในชุดนักเรียน จึงไม่มีใครให้ความสนใจเขา.
หลิวอวี้มีเวลาจำกัด ดังนั้น เขาจึงไม่สามารถเสียเวลาในที่นี่ได้.
เขามองไปยังคนให้คำแนะนำที่อยู่ถัดจากเขาซึ่งกำลังให้คำแนะนำโทรศัพท์มือถือด้วยความกระตือรือร้นกับผู้ชายอ้วนสวมชุดขนมิ้งค์ ดังนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถาม.
“คนสวย คุณช่วยผมเลือกโทรศัพท์มือถือได้มั้ย?”
ใครจะรู้ว่าสาวสวยจะจ้องเขาด้วยสายตาและกล่าว.
“คุณสามารถเลือกโทรศัพท์มือถือด้วยตัวเองได้เลย. ด้านข้างนั่นมีที่สาธิตสำหรับเครื่องสาธิตที่คุณสามารถเล่นได้ อย่าได้รบกวนงานของเรา”
สำหรับนักเรียนยากจนคนหนึ่งที่พยายามมาลองเล่นโทรศัพท์รุ่นใหม่หรือเพียงต้องการเดินดูเรื่อยเปื่อยมีมาให้เธอเห็นอยู่บ่อยๆ.
เธอจะปล่อยเวลาของเธอไปแนะนำให้พวกเขาได้อย่างไร มันเสียเวลาชัดๆ.
“ผมไม่ได้มาดูโทรศัพท์มือถือ. ผมมาซื้อโทรศัพท์มือถือ”
หลิวอวี้เน้นย้ำ.
“คุณ? ต้องการจะซื้อโทรศัพท์มือถือเหรอ?”
เพราะว่าสาวสวยสละเวลาคุยกับหลิวอวี้ ผู้ชายอ้วนจึงเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว.
“มีร้านโทรศัพท์มือสองอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนจากที่นี่ ไปที่นั่นและถามดู บางทีมันอาจมีบางอย่างที่เหมาะกับคุณ”
“คุณ สหายคนนี้ ทำไมคุณถึงได้มีทัศนวิสัยเหมือนสุนัขอย่างนี้”
“ใครที่คุณพูดว่ามีตาสุนัข?”
สาวสวยผู้แนะนำสินค้าพลันบีบเอวของเธอ และพูดอย่างเอาเรื่องกับหลิวอวี้ “นายไม่มีปัญญาจ่ายเงินเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ แต่ยังมาก่อกวนเพื่อสร้างปัญหาอีก เฮอะ นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับนักเรียนกระจอกอย่างนาย”
“ใครบอกว่าผมไม่มีปัญญาจ่าย?”
หลิวอวี้พลันเย้ยเยาะ ล้วงมือของเขาแล้วดึงปู่เหมาสีแดง (100 หยวน) ปึกหนาออกมาและตบบนฝ่ามือของเขา.
เมื่อตอนเช้า ระหว่างที่มาโรงเรียน เขานำเงินออกมา 3000 หยวนเพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่.
หลิวอวี้ไม่ได้มีเวลาเพื่อตรวจดูราคาของโทรศัพท์มือถือ. ดังนั้น เขาจึงนำออกมาเกินความจำเป็นในกรณีที่มันไม่พอ.
“โอ้ คุณชายน้อย คุณต้องการโทรศัพท์แบบไหน ฉันจะได้ช่วยแนะนำให้คุณ”
เมื่อเห็นปู่เหมานี้ นัยน์ตาของสาวสวยผู้แนะนำสินค้าส่องประกายขึ้นทันทีและกล่าวอย่างร่าเริง.
นั่นมันเงินจำนวนมาก.
ถ้าเขาซื้อโทรศัพท์อันแพงๆ ฉันก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นเยอะ.
“คุณไม่กลัวว่าผมเป็นนักเรียนกระจอกเหรอ?”
“โอ้ว ฉันจะกล้าได้อย่างไร คุณชายน้อยออกจะร่ำรวย หน้าผากของคุณช่างเปล่งปลั่ง และคุณนำเกียรติมาสู่ร้านที่ต่ำต้อยของเรา”
สาวสวยคนนี้พลันพลิกกลับ 180 องศา จากการกระทำที่หยาบคายเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา.
หลิวอวี้รู้สึกว่าเขากำลังพูดคุยกับคนสองคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง.
“ผมไปดูร้านโทรศัพท์มือสองที่ฝั่งตรงข้ามถนนดีกว่า และก็อีกอย่าง มันไม่ไกลไม่ใช่เหรอ?”
“เชิญเถอะ พวกโทรศัพท์ดีๆจะมีที่ร้านโทรศัพท์มือสองได้อย่างไร? พวกนั้นเป็นโทรศัพท์ที่ประกอบแบบลวกๆ. หลังจากที่คุณซื้อ มันจะพังเอาง่ายๆ ถ้าคุณซื้อที่นี่ จะมีประกันเครื่องให้ด้วย”
สาวสวยรีบพูดขึ้น.
“หึ หึ งั้นก็เยี่ยม”
หัวใจของหลิวอวี้เต็มไปด้วยอารมณ์.
ไม่แปลกใจเลยที่คนเค้าพูดว่าโลกหมุนด้วยเงิน.
เงินทำให้สาวสวยยิ้มได้.
“ช่วยผมเลือกสมาร์ทโฟนที่เชื่อมอินเตอร์เน็ตไวๆหน่อยได้มั้ย”
“สมาร์ทโฟนเหรอ ฉันแนะนำซัมซุงตัวนี้เลย มันแค่ 3998 หยวนเอง มันเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต 3G และเป็นแอนดรอยด์รุ่นล่าสุด”
“ผมอยากได้สินค้าในประเทศน่ะ”
“หืมมม?”
คำพูดของหลิวอวี้ทำให้สาวสวยราวกับดิ่งลงนรก.
โทรศัพท์มือถือในประเทศ.
มันมีค่าคอมมิชชั่นนิดเดียวเองสำหรับโทรศัพท์มือถือในประเทศ.
อย่างมากที่สุด สินค้าจีนจะมุ่งเน้นที่ราคา สเปคที่ดีอยู่ที่ราคา 1000 หยวน.
ถึงแม้รูปลักษณ์มันจะน่าสนใจน้อยกว่าของนำเข้า การใช้งานจริงๆมันก็ไม่ต่างกัน.
ค่าคอมมิชชั่นของเธอในการขายสินค้าในประเทศมันน้อยมากเมื่อเทียบกับสินค้านำเข้า.
เว้นแต่ว่ามันจะเป็นสินค้าเลียนแบบ.
แต่พวกเธอไม่มีสินค้าเลียนแบบในร้านของเธอ.
นักเรียนคนนี้ ชัดเจนว่าพกเงินมาจำนวนมาก แต่ทำไมเขาถึงขี้เหนียวนักนะ.
“สินค้าในประเทศจะเทียบกับสินค้านำเข้าได้อย่างไรกันเล่า”
สาวสวยกลอกตาของเธอและพูดด้วยลิ้นที่คล่องแคล่ว “ถ้าคุณต้องการซื้อโทรศัพท์ คุณควรจะซื้อยี่ห้อดังๆ. คุณภาพที่ยอดเยี่ยม และมันมีประกันเครื่อง ราคาก็จะไม่ตกด้วย”
“อ้อ? โทรศัพท์สินค้าของจีนจะเสื่อมค่าลงเหรอ?”
ได้ยินดังนี้ หลิวอวี้ช่วยไม่ได้ที่จะเย้ยเยาะ “คุณเกิดเป็นคนจีนเหมือนกัน คุณคิดว่าคุณมีคุณค่าลดลงด้วยมั้ย?”
“ฉัน ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
สาวสวยในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร.
“ผมต้องการสินค้าในประเทศ แนะนำบางอย่างกับผม”
หลิวอวี้ยืนยัน.
ถ้าเขาไม่สนับสนุนสินค้าของประเทศเขา แล้วพวกเขาจะพัฒนาได้อย่างไรเล่า?
“คุณซื้อเครื่องนี้ได้”
สาวสวยหยิบโทรศัพท์หน้าจอใหญ่สีดำออกมาจากหลังเคาน์เตอร์และวางบนเคาน์เตอร์อย่างเฉยชา.
“หน่วยความจำแบบ Dual-core, RAM 1GB, ใช้งานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 2.2. มันมีเครือข่าย 3G และไม่แพง เพียงแค่ 980 หยวน”
“งั้นผมเอาเครื่องนี้. พร้อมกับที่สาวสวยลดให้ มันควรจะเป็น 400 หยวน ใช่มั้ย?”
“อย่ามาตลกกับฉัน นี่ไม่ใช่ร้านขายของชำนะ คุณจะมาต่อรองราคาได้อย่างไร 980 หยวน จะเอาหรือจะออกไป”
สาวสวยคนนี้คิดว่าเธอจะไม่ยอมจนถึงที่สุด.
ร้านโทรศัพท์อย่างนี้มีชุดแถบป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจนและแสดงให้ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน.
“ก็ได้ งั้นผมเอาเครื่องนี้”
หลิวอวี้ไม่มีทางอื่น ไม่นานหรือหลังจากนี้ เขาต้องใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อสามารถรับภารกิจระดับ E ซึ่งมีไม่มาก เพื่อดำเนินต่อไป.
ถ้าเขามีโทรศัพท์ เขาสามารถยอมรับภารกิจและอื่นๆได้โดยง่าย.
สาวสวยให้หลิวอวี้เซ็นสัญญาซื้อขาย เมื่อเขาจ่ายเงิน และรับโทรศัพท์มา.
ถึงแม้รูปลักษณ์ของโทรศัพท์มันจะดูตลกเล็กน้อย หลิวอวี้ก็คิดว่ามันดูดี.
เครื่องนี้มันใช้ง่ายกว่าเครื่องเก่าของเขา.
“ไปที่ร้าน KFC ที่อยู่ใกล้ๆ และดาวน์โหลดแอปสิ”
หลินถงเตือนหลิวอวี้ “ด้วยแอป มันจะสะดวกกว่า”
“ผมกำลังจะไป บ้าเอ้ย..เว็บไซต์ของผู้ฝึกตนอมตะของคุณ มันมีบนแอปแอนดรอยด์จริงๆเหรอ?”
“วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้ชีวิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น เจ้าเห็นมั้ย นี่มันไม่สะดวกสบายกว่าเหรอ?”
หลิวอวี้ได้ยินคำอธิบายของหลินถง ได้แต่ทำตัวไม่ถูก.
เขาถือโทรศัพท์มือถือและนำเงินใส่กระเป๋าของเขาและเดินออกไป.
แต่หลิวอวี้ไม่ได้สังเกตเห็นชายแก่ที่เดินออกมาจากร้านโทรศัพท์และติดตามเขาไปข้างหลัง.
หม่าหยู่ซินเป็นจ้าวแห่งเครื่องเคลือบที่มีชื่อเสียงในถนนสายนี้.
ถ้าจะพูดให้ถูก มันคือ ‘การบังเอิญพบเข้ากับเครื่องเคลือบ’.
หม่าหยู่ซินถือกาน้ำชามาหนึ่งโหลที่เขาซื้อมาจากตลาดขายของมือสอง. เดินย่องๆไป ไม่นานเขาก็มาทันหลิวอวี้และพุ่งไปตรงจุดไกลๆและหันกลับมา ยืนอยู่ที่ตรงมุมถนน.
เขากำลังมองหลิวอวี้ที่กำลังตรงมาที่เขาพลางคิด “เด็กน้อย นายอับโชคแล้ว ถ้าฉันไม่ได้ขนแกะของนายวันนี้ (รีดไถ) ฉันต้องขอโทษปู่เหมาแล้ว”
หลิวอวี้กำลังเล่นกับสมาร์ทโฟนของเขา ก้มศรีษะลงและเดินตรงไปข้างหน้า.
ในเวลานั้น หลิวอวี้รู้สึกว่ามีแรงลมพุ่งตรงมาหาเขาจากด้านซ้าย.
เขาก้าวถอยหลังสองก้าวโดยไม่รู้ตัว จากมุมถนนด้านซ้าย มีชายแก่พุ่งตรงไปหาเขา.
ชายแก่มองดูอย่างโง่งม เดินเซไปสองก้าว แล้วร่วงลงพื้น.
กาน้ำชาในมือของเขาร่วงลงพื้นและแตกเป็นชิ้นๆ.
ชายแก่งุนงงเล็กน้อย.
แม่งเอ้ย.
นี่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น.
ไอ้เด็กนี้หลบได้อย่างไรกัน.
ไม่ดีแล้ว นี่มันไม่เหมือนกับ ที่วางแผนไว้.
“คุณลุง เป็นอะไรมั้ยครับ”
เมื่อหลิวอวี้ตกใจ ชายแก่รีบบีบน้ำตา และมือของเขาจับขาของหลิวอวี้แล้วร้องไห้.
“นายชดใช้ค่ากาน้ำชาของฉันมา จ่ายค่ากาน้ำชาที่พังของฉัน นี่เป็นเส้นเลือดชีวิตของฉัน เป็นของโบราณจากสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงเชียวนะ”
หลิวอวี้ตกตะลึง ‘แม่มันเถอะ นี่มันนรกอะไรกัน’.
ทันใดนั้นพวกเขาถูกล้อมรอบด้วยฝูงชน บางคนพยายามหาตำแหน่งให้ตัวเองได้อยู่ข้างหน้าเพื่อจะได้เห็นเรื่องสนุก.
หลิวอวี้กระวนกระวายเล็กน้อย คาบเรียนจะเริ่มในไม่ช้านี้แล้ว แต่เขากลับยุ่งอยู่กับปัญหาอย่างนี้.
“คุณลุง คุณเป็นคนผิด คุณล้มลงเอง ทำไมคุณถึงอยากให้ผมชดใช้พวกนั้นด้วย”
“ไร้สาระ”
หม่าหยู่ซินกล่าวขึ้นมาทันที “ร่างกายคนแก่ของฉันทนทาน ขาและเท้าของฉันก็แข็งแรงเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะนายเดินก้มศรีษะ โดยที่ไม่มองถนนข้างหน้า นายจะชนฉันได้อย่างไรกัน ฉันจะล้มได้อย่างไรกัน กาน้ำชาเหล่านี้มาจากสมัยจักรพรรดิเฉียนหลงเป็นของที่ระลึกจากจักรพรรดิเชียวนะ ถ้านายไม่แก้ไขปัญหานี้วันนี้ อย่าคิดว่านายจะจากไปได้เลย”
พร้อมกันนั้น เขาจับขาของหลิวอวี้ไว้แน่นและไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย.
หลิวอวี้รู้สึกปวดศรีษะ.
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าโง่ เจ้าบังเอิญพบเข้ากับเครื่องเคลือบซะแล้ว”
หลินถงนอนอยู่บนไหล่ของหลิวอวี้ตบอุ้งเท้าทั้งสองของเธอเชียร์อยู่.
“นี่มันน่าสนุกมากๆ ข้าเคยได้ยินมาจากอาจารย์ของข้าว่ามีคนประเภทนี้อยู่ วันนี้ในที่สุดข้าก็ได้พบกับหนึ่งในพวกเขา ข้ามีความสุขมากเลย”
สนุกน้องสาวคุณสิ.
นี่มันมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นชัดๆ.
หลิวอวี้ปวดศรีษะหนักไปอีก.
หลิวอวี้สามารถฆ่าปีศาจกำจัดมารได้ แต่เขาทำตัวไม่ถูกเมื่อเผชิญหน้ากับการระรานของชายแก่คนนี้.
ฉันควรทำยังไงดี.
ทุบตีเขาดีมั้ย?.
ในการณ์นั้น ผู้ชายคนนี้เป็นคนแก่ หลิวอวี้ไม่อาจนำตัวเองไปทุบตีคนแก่ได้.
หนี?.
แต่ฉันจะหนีได้อย่างไร? ด้วยผู้คนจำนวนมากอยู่รอบๆบวกกับที่ชายแก่เกาะขาของฉันไว้ เว้นแต่ว่าฉันจะบินได้อ่ะนะ.
หลิวอวี้มีลักษณะที่น่าสังเวชเกินไป
“กาน้ำชาของฉัน โอ้ กาน้ำชาของที่ระลึกจากจักรพรรดิของฉัน ถ้านายไม่จ่ายเงินให้ฉัน ฉันไม่ปล่อยนายไปแน่”
หม่าหยู่ซินจับแขนของหลิวอวี้ขณะที่ตาของเขามองไปที่กระเป๋าข้างขวาของหลิวอวี้อย่างตะกละตะกลาม.
กระเป๋าข้างนั้นมีแบงค์พันหลายใบ.
เงินนี้จะเป็นของฉันในวันนี้.
“คุณลุง ผมไม่มีเงิน”
หลิวอวี้แกล้งทำเป็นยากจน.
เขาไม่รู้ว่าหม่าหยู่ซินได้หมายตาเขาไว้ตั้งแต่ที่เขาเข้าไปในร้านโทรศัพท์แล้ว.
“ไม่มีเงิน? ถ้าหากว่านายไม่มีเงิน นายก็จากไปไม่ได้”
คิดจะลูกเล่นกับฉันเหรอ? ฉันรู้ว่านายมีเงินหรือไม่.
“ฉันเห็นว่านายยังเป็นนักเรียนอยู่ ดังนั้น ฉันไม่ต้องการให้นายลำบากใจ. 2000 หยวน ชดใช้ให้ฉัน 2000 หยวน และฉันจะพิจารณาถึงการแก้ไขปัญหานี้. นายคิดว่ายังไง?”
หม่าหยู่ซินเริ่มใช้ลูกเล่นจิตวิทยา.
ใจของหลิวอวี้เต้นถี่.
บังเอิญงั้นเหรอ?.
ฉันมีเงินในกระเป๋า 2000 หยวน.
ปัญหานี้มองดูแปลกนิดๆ.
หลิวอวี้คิดว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง.
แต่หลินถงไม่ได้แสดงความคิดเห็นสักอย่าง เธอเพียงมองดูความสนุกอยู่ด้านข้างเท่านั้น.
ในเวลานั้น จากด้านหลังฝูงชน เสียงที่คุ้นเคยพลันตะโกนออกมา.
“หลีกทางหน่อย หลีกทาง ตำรวจจะสอบสวนคดี”