Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 195
195 – ช่วงนี้สบายดีหรือเปล่า
ในรถยนต์นิสสัน โจวเจ๋ออยู่ในตําแหน่งคนขับหมอหลินนั่งอยู่ที่ด้านข้าง
หากมองเข้ามาจากด้านนอกและเห็นคู่แต่งงานใหม่ซึ่งเป็นคู่หนุ่มสาวนั่งอยู่ในรถด้วยกัน มันง่ายสําหรับคนทั่วไปจะคิดเล็กคิดน้อย
แต่ในความเป็นจริงบรรยากาศในรถเต็มไปด้วยความอึดอัด
โจวเจ๋อยังคงสูบบุหรี่และร่างของกู้ภัยตัวน้อยยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขา
โจวเจ๋อรู้ว่ากู้ภัยคนนั้นคงจะโกรธเคืองเขาเพราะถูกดูหมิ่น แต่สุดท้ายแล้วกู้ภัยคนนั้นกับใช้ร่างกายของตัวเองแบกรับต้นไม้ไว้ก่อนที่มันจะกระแทกบ้านที่อยู่ข้างล่าง
แม้ว่าเขาจะกลายเป็นผู้ไปแล้วแต่ในความเป็นจริงร่างกายของเขายังคงเป็นมนุษย์ ดังนั้นจึงสามารถบอกได้ว่ากู้ภัยคนนั้นเสียสละชีวิตเพื่อช่วยเขา
โจวเจ๋อลงไปข้างล่างเพราะต้องการช่วยเหลือกู้ภัยคนนั้นไม่ให้ตาย แต่สุดท้ายแล้วกู้ภัยคนนั้นกลับเป็นคนที่ช่วยเหลือเขาแทน
ความรู้สึกนี้ทําให้โจวเจ๋อรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก และสมุดบันทึกเล่มนั้นสามารถทํานายความตายของคนได้ล่วงหน้าซึ่งหมอหลินถูกลิขิตให้ตายแล้ว
พญายมบอกให้คุณตายยามสาม แล้วคุณจะไปตายยามได้อย่างไร
สมุดบันทึกถูกทิ้งไว้ในรถโดยโจวเจ๋อเขาไม่ได้วางแผนที่จะนําติดตัวไปด้วย มิฉะนั้นหากเขาเดินทางไปตามถนนแล้วพบเจอกับคนที่ต้องตายเขาคงอดช่วยเหลือไม่ได้
หากมองไม่เห็น ก็ไม่หวั่นไหว ความจริงของโลกเป็นเช่นนี้
หมอหลินกัดริมฝีปากของตัวเอง เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ท่าทางลําบากใจของโจวเจ๋อ ทําให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้ด้วยว่าถ้าไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นโจวเจ๋อคงไม่ตามเธอมา
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
หมอหลินถาม เธออยากฟังคําอธิบายของเขา
โจวเจ๋อเลียริมฝีปากของเขาและพูดว่า
“ผมมีของบางอย่างที่สามารถทํานายความตายของคนได้ กู้ภัยคนนั้นเขากําลังจะตายดังนั้นผมจึงช่วยเขา แต่สุดท้ายเขาก็ตาย ของชิ้นนี้ก็ทํานายว่าคุณจะตายดังนั้นผมจึงต้องพาคุณออกไป”
ใบหน้าของหมอหลินดูหนักอึ้งเมื่อได้ยินคําพูดนั้น
เธอไม่ได้หักล้างสิ่งที่โจวเจ๋อบอก และไม่ได้ขอให้โจวเจ๋อปล่อยเธอไป เธอสงบมาก
หลังจากได้ยินคําอธิบายของโจวเจ๋อ เธอยอมรับการปกป้องของเขาอย่างใจเย็น
โจวเจ๋อพอใจกับสิ่งนี้มาก หมอหลินเป็นคนที่อ่อนโยนและมีความใจเย็น การที่อยู่กับเธอทําให้เขามีจิตใจที่สงบ
เขาเอื้อมมือออกไปจับมือของเธอแล้วยิ้มก่อนจะพูดว่า
“ไม่มีใครเอาคณไปได้ มันต้องข้ามศพผมไปก่อน”
หมอหลินพยักหน้าและนั่งลงที่ด้านข้างของคนขับเหมือนเดิม
คนจากโรงพยาบาลเข้ามาถามหมอหลินเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขากําลังจะออกไปจากที่นี่ แต่ถูกโจวเจ๋อปฏิเสธโดยบอกว่าเขาจะพาเธอกลับบ้านเพราะเธอรู้สึกไม่สบายเท่าไหร่
ความช่วยเหลือจากหมาป่าสงครามอย่างโจวเจ๋อทําให้คนอื่นไม่สามารถพูดอะไรได้กับการขาดงานของหมอหลิน ไม่ว่าจะอย่างไรสามีภรรยาคู่นี้ก็ช่วยเหลือคนอื่นมามากพอแล้ว
มีขนมและน้ําอยู่ในรถ โจวเจ๋อบอกให้หมอหลินกินอะไรบางอย่างจากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาเด็กหญิงตัวน้อย
ไม่นานโทรศัพท์ก็เชื่อมต่อและเสียงไม่พอใจของเด็กหญิงตัวน้อยก็ดังออกมา
“ฉันตามหาบาทหลวงคนนั้นกว่าจะเจอ คุณไปตายอยู่ที่ไหนรีบกลับมาเดี๋ยวนี้ถ้าเขาหายไปอีกรับรองว่าฉันจะไม่ตามหาให้อย่างแน่นอน…”
“หุบปาก”
เด็กหญิงตัวน้อยหยุดพูดทันที
“ผมมีหนังสือหยินหยางอยู่ในมือ ซึ่งว่ากันว่าเป็นของวิเศษประจําตัวของผู้พิพากษา”
“คุณได้มันมาจริงๆสินะ”
เด็กหญิงตัวน้อยคาดเดาบางอย่างได้ตั้งแต่ตอนที่เธอเห็นวิญญาณของซุนชิว
แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือโจวเจ๋อไม่เพียงไม่ตายเท่านั้นแต่เขายังได้หนังสือหยินหยางมาด้วย
สิ่งนี้น่าตกใจอย่างยิ่ง ควรทราบว่าอาวุธวิเศษของระดับผู้พิพากษานั้นเป็นสิ่งที่หายากจริงๆ และระดับตัวตนของโจวเจ๋อเป็นเพียงระดับต่ําสุดของฝ่ายหยิน
มันเหมือนกับทหารไพร่คนหนึ่งที่พกตาลัญจกรของจักรพรรดิไว้กับตัว
“มันสามารถทํานายชีวิตและความตายได้?” โจวเจ๋อถาม
“มันสัมผัสได้ถึงความตาย” เด็กหญิงตัวน้อยแก้ไขให้ถูกต้อง
“ถูกต้อง 100% หรือไม่” โจวเจ่อถาม
“ฉันไม่รู้ แม้ว่าจะไม่ถึงร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงมาก คุณควรเข้าใจต่อให้เป็นหนังสือประจําตัวของสิบห้องโถงหลักก็ยังมีความผิดพลาด นับประสาอะไรกับอุปกรณ์ของผู้พิพากษาซึ่งอยู่ในระดับต่ํากว่า
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าฉันเดาไม่ผิดหนังสือหยินหยางของคุณคงเป็นของที่ได้รับความเสียหาย ไม่อย่างนั้นคนที่สร้างเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคงยึดมันกลับไปแล้ว “
“ใช่”
“ไม่น่าจะแม่นยําขนาดนั้น”
“ขอบคุณ” จากนั้นโจวเจ๋อก็วางสาย
ในร้านหนังสือเด็กหญิงตัวน้อยกระแทกโทรศัพท์กับโต๊ะด้วยความโกรธ!
“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร! ฉันยังพูดไม่จบด้วยซ้ําคุณกล้าวางสายใส่ฉันได้ยังไง
ในตอนนี้คุณเป็นผู้พิทักษ์เต็มตัวแล้วการที่ล่วงล้ําเข้าไปในเขตของผู้พิทักษ์คนอื่นโดยไม่แจ้งพวกเขาจะถือเป็นการยั่วยุ
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเพิ่งประสบภัยธรรมชาติ และอาจกําลังยุ่งอยู่ภูตผีที่บ้าคลั่ง มันง่ายที่จะทําให้เกิดความเข้าใจผิดถ้าผีของเขตอื่นล่วงล้ําเข้าไปในดินแดนของพวกเขา
“ช่างเถอะฉันไม่สนใจเรื่องของคุณอยู่แล้ว” เด็กหญิงตัวน้อยบ่นในใจ
“คุณก็กินอะไรบ้าง”
หมอหลินป้อนขนมปังให้โจวเจ๋อ โจวเจ๋อเคี้ยวขนมปังด้วยใบหน้าเจ็บปวด
“เราพักที่นี่ก่อน ผมรู้สึกไม่สบายใจจริงๆที่ต้องกลับบ้านตอนนี้” โจวเจ๋อกล่าว
หมอหลินพยักหน้าเห็นด้วย
ตอนค่ําโจวเจ๋อขอให้หมอหลินนอนไปก่อนแล้วเขาก็ยืนเฝ้าอยู่นอกรถ
ทีมกู้ภัยได้ออกจากหมู่บ้านแล้ว และพวกเขาต้องไปยังพื้นที่ภัยพิบัติอื่น
ช่วงนี้หมู่บ้านเงียบสงบมาก บ้านครึ่งหนึ่งยังไม่พังเพราะคุณภาพดี ชาวบ้านหลายคนจึงอาศัยอยู่ที่บ้านญาติของตัวเองรวมทั้งคนรู้จักด้วย
โจวเจ๋อเหยียดมือออก เขามีลางสังหรณ์ว่าหากเขาทนได้จนถึงพรุ่งนี้พวกเขาจะปลอดภัย
เมื่อโจวเจ๋อมองเข้าไปในรถหมอหลินกําลังคุยโทรศัพท์อยู่ เธอบอกให้น้องของเธอทําการบ้านและไม่ดูทีวีมากเกินไป
โจวเจ๋อคิดว่าถ้าผีที่อยู่กับน้องภรรยาของเขายังอยู่ก็คงดี อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถขอความช่วยเหลือจากเธอได้
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะฆ่าเธอไปแล้วเขาก็ไม่เสียใจที่ทําอย่างนั้น ต่อให้มีโอกาสอีกครั้งเขาก็ยังจ่ายฆ่าเธอเหมือนเดิม
เมื่อค่ําคืนเริ่มมืดลง โจวเจ๋อก็กลับไปที่รถและเปิดไฟภายในรถ
หลังจากที่หมอหลินโทรศัพท์เสร็จแล้วเธอก็เข้านอน โจวเจ๋อยังคงตื่นอยู่เขาสอดส่องอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
กลางดึกโจวเจ๋อที่เหน็ดเหนื่อยแต่นอนไม่หลับเพราะไปวิ่งไม่อยู่ที่นี่ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเครื่องดนตรีดังมาจากนอกรถ
เขาคิดว่าน่าจะเป็นชาวบ้านที่กําลังเก็บรวบรวมทรัพย์สินของตัวเองในบ้านที่กลายเป็นซากปรักหักพัง แต่ถึงจะไม่ใช่เขาก็ไม่ต้องการออกจากรถเพราะว่าหมอหลินไม่สามารถถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวได้
ในเวลานี้หมอหลินซึ่งนอนหลับอยู่ก็ตื่นขึ้น เธอยื่นมือมาจับชายเสื้อของเขาเบาๆ
“ผมไม่หนาว” โจวเจ๋อกล่าว
“ดีแล้ว”
“เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?” โจวเจ๋อถาม
“ฉันอยากเข้าห้องน้ํา”
“เดี๋ยวผมจะไปเป็นเพื่อน”
โจวเจ๋อมองไปรอบๆและพูดว่า “มีป่าหญ้าอยู่หลังรถ ไม่มีใครมองเห็นหรอก”
หมอหลินรู้สึกเขินอาย แต่ก็พยักหน้า
หลังจากลงมาที่หลังรถ หมอหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงสิ่งใด เธอไม่ได้ให้โจวเจ๋อหันหน้าออกไปอีกทางแต่เธอเลือกจะถอดกางเกงออกตรงๆ
ในหนังผีปัญญาอ่อนหลายเรื่อง มักจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น หญิงสาวที่กําลังตกอยู่ในอันตรายเกิดต้องการเข้าห้องน้ําและได้แยกตัวออกไปจากกลุ่ม
จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้น
โจวเจ๋อไม่ยอมทําผิดพลาดแบบนั้น ดังนั้นสายตาของเขาจึง “สอดส่องไปทุกที่” เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น!
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีหมอหลินก็ลุกขึ้นยืนใส่กางเกง เธอเดินไปที่รถพร้อมกับโจวเจ๋อ เมื่อถึงประตูรถเธอก็หอมแก้มเขาครั้งหนึ่ง
“ขึ้นรถก่อนเดี๋ยวผมจะไปเอาน้ําดื่มจากท้ายรถมาให้”
หมอหลินขึ้นรถอย่างเชื่อฟัง อย่างไรก็ตามเมื่อเธอนั่งบนเบาะรถร่างกายของเธอก็แข็งที่อ
“คุณอยากดื่มอะไรไหม มีน้ําอัดลมและนมด้วย”
เสียงของโจวเจ๋อดังมาจากท้ายรถ
หมอหลินไม่ตอบเพราะในเวลานี้มีใครบางคนนั่งอยู่ตรงตําแหน่งคนขับ ชายคนนั้นหันหน้ากลับมามองเธอด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง”