Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 188
188 – สมุดบันทึก
“เข้าใจทุกอย่างแล้วหรือยังโจวเจ๋อ นายเห็นทุกอย่างแล้วนายเข้าใจทุกอย่างแล้วใช่ไหม”
โจวเจ๋อพึมพํากับตัวเอง
ในระยะไกลเหล่าเต๋าได้จมลงในกระแสเลือดที่อยู่ในปากของอาคารหลังใหญ่ การดิ้นรนของเขาเหลือเพียงเล็กน้อยนั่นแสดงให้เห็นว่าเขากําลังหมดแรงแล้ว
ร่างสีดําเหล่านั้นดูเหมือนจะเข้าใกล้เขาเข้ามาเรื่อยๆ พวกมันมีร่างกายกระทัดรัดไม่ใช่คนแท้ที่จริงแล้วเป็นแมวดําจํานวนหนึ่ง
เล็บของโจวเจ๋อแทนที่จะกวาดไปรอบๆแต่เขากลับปักมันเข้าไปในหัวใจของตัวเอง
“ฟู…”
ความเจ็บปวดนั้นชัดเจนจนร่างของโจวเซ่อเริ่มกระตุก แต่ในเวลานี้ภาพรอบๆก็เริ่มถอยกลับอย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนนั้น ครูเวร เด็กครึ่งตัว รองเท้าหนัง และแม้แต่หอพักที่โค้งงอก็เริ่มกลับมาเป็นปกติ
ในระหว่างกระบวนการนี้ทั้งหมดโจวเจ๋อมองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกําลังยิ้มให้เขา เด็กผู้หญิงคนนี้มีรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างคุ้นเคยสําหรับโจวเจ๋อ
“ …”
เหล่าเต๋าอยู่บนสนามหญ้า หอบหายใจถี่ ไออย่างรุนแรง เขาบีบคอด้วยมือทั้งสองข้าง ค่อยๆฟื้นตัวหลังจากนั้นครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองไปรอบๆอย่างอธิบายไม่ถูก
เขาเห็นโจวเจ๋อยืนอยู่ข้างๆพร้อมกับสมุดบันทึกในมือ
เสียงที่คมชัดก่อนหน้านี้คือเสียงที่โจวเจ๋อทําขึ้นเมื่อเขาปิดสมุดบันทึกของเขา
โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นราวกับว่าเขายังคงรู้สึกเจ็บที่หน้าอก
“เจ้านาย เกิดอะไรขึ้น?” เหล่าเต๋าคิดว่าเขากําลังจะตาย แต่ทําไมมันกลับกลายเป็นแบบนี้?
“คุณคิดได้ว่าเราเข้ามาได้ยังไง” โจวเจ๋อพูดช้าๆ
“เราขับรถมาที่นี่ ผมโกหก รปภ. ที่ประตูโรงเรียนแล้วขับเข้ามาจากนั้นเราก็ลงจากรถไปที่ห้องนั่งเล่น เราเจอบล็อก B แล้วเราก็แอบเข้ามาเห็นซุนชิว หลังจากนั้นเราก็เจอกับครูเวรคนนั้น…”
“ลองทบทวนใหม่” โจวเจ๋อเดือน
“ทบทวนใหม่?” เหล่าเต๋าเกาหัวแล้วทําหน้าตกใจ
“ เราขับรถเข้ามา ใช่ แต่เราเพิ่งลงจากรถ ดูเหมือนว่าเราเห็นแมวดํา แมวดําจ้องมาที่เราในสนามหญ้า ผมบอกเจ้านายว่าเราควรจะนํามันกลับไปเป็นสัตว์เลี้ยง
จากนั้นเราไปที่สนามหญ้าและพบว่าแมวดําหายไป แต่มีสมุดบันทึกอยู่บนพื้น เจ้านายหยิบมันขึ้นมา ผมถามว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้นพอเจ้านายเปิดสมุด …ผมจําไม่ได้…”
โจวเจ๋อมองสมุดเล่มเก่าในมือของเขา และเขาไม่กล้าเปิดสมุดเล่มนั้นอีกครั้ง
“เจ้านาย สมุดเล่มนี้เกี่ยวอะไรกับหอพัก?” เหล่าเต๋ามองไปรอบๆและพบว่ามีบางอย่างขาดหายไป
“ดูอาคารพวกนั้นสิ”
“อาคาร 1 อาคาร 2 อาคาร 3…”
เหล่าเต๋านับหอพักต่างๆที่ตั้งชื่อตามเลขอารบิค ไม่มีแม้แต่หอพักเดียวที่ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ
“เจ้านาย บล็อคบอยู่ที่ไหน?”
โจวเจ๋อชี้ไปที่สมุดบันทึกในมือซึ่งเขียนคําว่าบล็อก B
ใกล้จะรุ่งสางแล้ว ซึ่งหมายความว่าโจวเจ๋อและเหล่าเต๋าจริงๆแล้วอยู่ที่สนามหญ้าตรงนี้ตลอดเวลา พวกเขายืนนิ่งโดยไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
โชคดีที่ในเวลานี้ไม่มีคนเดินไปรอบๆหอพัก ดังนั้นจึงไม่มีใครสังเกตว่าพวกเขายืนโง่ๆอยู่แบบนี้
เหล่าเต๋านั่งอยู่ในรถ หยิบไวน์ออกมาแล้วดื่มคําใหญ่ ในเวลานี้เขาค่อนสับสน ไม่รู้ว่าอะไรคือโลกมายาไม่รู้ว่าอะไรคือความเป็นจริง
ความรู้สึกจริงและเท็จสองประเภทรบกวนจิตใจเขาตลอดเวลา เขาไม่รู้ว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับในตอนนี้เป็นของจริงหรือไม่
เหมือนกับเวลาที่คนเพิ่งขึ้นฝั่งหลังจากว่ายน้ํามักจะรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยกับแรงโน้มถ่วง
โจวเจ๋อก็นั่งอยู่ในที่นั่งอยู่ในตําแหน่งคนขับพร้อมกับสมุดบันทึก
หน้าปกของสมุดบันทึกเป็นสีน้ําเงิน มันเป็นสมุดบันทึกธรรมดาเท่านั้น
“เจ้านายเกิดอะไรขึ้น สมุดบันทึกเล่มเดียวจะทําให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง”
เหล่าเต๋าอยากรู้เรื่องนี้มาโดยตลอด เขาไม่รู้ว่าทําไมก่อนหน้านี้ ความทรงจําหลังจากเข้ามาโรงเรียนของเขาและเจ้านายถึงเกิดความสับสนจากนั้นพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่บล็อกปี
ทั้งที่จริงๆแล้วไม่มีบล็อกปีในโรงเรียนนี้เลย
ไม่มีครูประจําหอพัก ไม่มีเด็กผู้ชายครึ่งตัว ไม่มีผีที่เดินกลับหัวคนที่เปลี่ยนถังน้ําและสิ่งอื่นๆ
แต่ความรู้สึกแบบนั้นพวกเขาสัมผัสได้ว่ามันเกิดขึ้นจริง มันเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สํานึกของพวกเขา
“คุณเคยได้ยินเรื่องจิตรกรรมฝาผนังหรือปล่าว” โจวเจ๋อถาม
“เรื่องเล่าโบราณมาเหรอครับ”
“เกือบจะเหมือนกัน แต่เรื่องนั้นก็คือมีใครบางคนหลงเข้าไปในโลกจิตรกรรมฝาผนังแต่คราวนี้พวกเราหลงเข้าไปในโลกของสมุดบันทึก”
“ใครเป็นคนทําเรื่องนี้?”
“สิ่งที่เราทําได้ตอนนี้ก็คือหาว่าใครเป็นคนบงการให้ซุนชิวเดินเข้าไปในร้านหนังสือ?”
ถ้าโจวเจ๋อไม่ได้พบกับซุนชิวมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมายืนอยู่ตรงนี้
เด็กผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาในร้านหนังสือเขาเล่าเรื่องของตัวเองให้ทุกคนฟัง หลังจากนั้นโจวเจ๋อและเหล่าเต๋าก็มาที่โรงเรียนมัธยมต้นผิงเจ้าก่อนจะไล่ตามแมวสีดําตัวนั้นและมาเจอสมุดบันทึก
ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆถูกเรียงร้อยให้เป็นขั้นตอน
ความรู้สึกของการถูกคนอื่นชักใยอยู่เบื้องหลังไม่ใช่เรื่องที่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่
และในตอนที่โจวเจ๋อ “ปิด” สมุดบันทึกเขาก็มองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงคนนี้คือเด็กผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ออกมาจากหมู่บ้านที่สาม
ไปยิ่งไม่ใช่ผีดิบระดับธรรมดาแต่เธอกลับไม่สามารถต่อสู้กับเด็กผู้หญิงคนนั้นได้
ก่อนหน้านั้น โจวเจ๋อคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของนรกและคงเดินทางมาที่ตงเฉิงโดยบังเอิญ หลังจากพบเห็นความยากลําบากของผู้คนในหมู่บ้านที่สามเธอจึงชักนําให้เขาไปช่วยเหลือวิญญาณพวกนั้น
แต่เมื่อพบเจอกับเหตุการณ์ครั้งนี้เขารู้แล้วว่าเขาคิดผิดไป เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นตัวตนระดับสูงในนรกไม่ผิดแน่ แต่เรื่องที่เธอเดินทางมาตงเฉิงไม่แน่ว่าจะเป็นความบังเอิญ
ภาพวาดปากกาทั้งหกชิ้นที่พบในอาคารหอพักมีจุดประสงค์อะไร ในความเป็นจริงโจวเจ๋อสามารถคาดเดาได้บางส่วนโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเหล่าเต๋า
ภาพวาดก็เหมือนกับภาพยนตร์เป็นของปลอม ไม่มีอยู่จริง รูปภาพและตัวละครในภาพวาดเขาสามารถจัดการได้ง่ายๆ
แต่ว่าหากมีสิ่งมีชีวิตจริงๆตายในโลกปลอมเหล่านั้นมันจะส่งผลให้คนที่อยู่ในโลกจริงตายไปด้วย
เช่นเดียวกับการหลอกลวงทางการเงิน ลูกเล่นและการประชาสัมพันธ์ทั้งหมดนั้นเป็นของปลอม แต่พวกเขาสามารถโกงเงินของคุณได้จริงๆ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม หากเรื่องราวในโลกปลอมสามารถดําเนินไปได้จนสําเร็จ ในโลกของความเป็นจริงเหล่าเต๋าจะตายอย่างแน่นอน
และเนื่องจากโจวเจ๋อเป็น “คนตาย” ไม่ใช่คนที่มีชีวิต ดังนั้นตัวละครหลักของภาพวาดนั้นจึงกลายเหล่าเต๋า
โจวเจ๋อขมวดคิ้ว พูดตามตรงแล้วเหล่าเต๋าเป็นเพียงแค่ชายชราธรรมดาเท่านั้น เขาไม่มีนัยยะสําคัญอะไร แล้วเหตุไฉนฝ่ายตรงข้ามจึงต้องการเอาชีวิตของเขา
“เหมียว!”
จู่ๆเสียงร้องของแมวก็ดังขึ้น เหล่าเต๋าที่กําลังดื่มไวน์ในที่นั่งด้านข้างของคนขับร่างกายสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
เขามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็วจากนั้นสายตาของเขาก็มองไปเห็นแมวดําตัวหนึ่งที่นอนอยู่บนสะพานด้านนอกของโรงเรียน