Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 192
192 – ความสามารถอีกอย่างของสมุดบันทึก
ในเวลานี้โจวเจ๋อมีความสุขและภูมิใจมาก หากในชีวิตที่แล้วของเขามันก็เปรียบเสมือนการสอบบรรจุได้เป็นข้าราชการ เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้ก้าวไปอีกขั้นของชีวิต
หนังสือในหน้าถัดไปมีรูปของคนมากมายวิ่งผ่านกันไปมาพร้อมกับมีคําตัดสินอยู่ใต้ชื่อของพวกเขา
โจวเจ๋อกําลังอ่านคําพิพากษาของชายที่เขาโยนเข้าไปในนรก เดิมที่สําหรับผู้ชายคนนี้ ถ้าไม่มีเหตุบังเอิญในชีวิตเขาควรจะใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แต่เขาหมกมุ่นอยู่กับการแสวงหาผลกําไรมากเกินไปและเขายังทําการดูหมิ่นสวรรค์และปฐพี ดังนั้นเมื่อเขาตายไปแล้วไม่เพียงแต่ครอบครัวและลูกๆของเขาจะถูกทําลายไปด้วยแม้แต่ญาติของเขาก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
“เจ้านาย ครอบครัวนั้นยากจนมาก”
หลังจากเดินออกจากชุมชนแล้วเหล่าเต๋าก็อดไม่ได้ที่จะพูด
“แล้วยังไง?”
“ผู้หญิงกับลูกสามคน พวกเขาจะลําบากกันมากในอนาคต”
“สําหรับผมแล้วคนพวกนั้นไม่ได้น่าสงสารแม้แต่น้อย พวกเขาพึ่งพาการเลี้ยงดูของอาชญากรไม่มากก็น้อย พวกเขาย่อมมีความเกี่ยวข้องกับความชั่วของพ่อแล้วพี่ชายของพวกเขา”
“ก็…”
เหล่าเต๋าคิดว่าคําพูดของเจ้านายถูกต้องแต่มันดูไร้มนุษยธรรมมากเกินไป
“ในตอนที่พวกเขาร่ํารวยทุกคนในครอบครัวต่างใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เมื่อถึงตอนชีวิตตกต่ําลงพวกเขาก็ควรแบกรับด้วยกัน
เลิกเป็นห่วงพวกเขาได้แล้ว คุณต่างหากที่กินซาลาเปากระดาษลงไปตั้งเยอะตอนนี้รู้สึกปวดท้องขึ้นมาหรือยัง? “
“เจ้านาย อย่าพูดถึงซาลาเปาพวกนั้นอีกเลย…”
ก่อนที่เหล่าเต๋าจะพูดจบชายชราก็ผายลมเหม็นคาวออกมา
“เจ้านาย… เดี๋ยวผมหาที่ที่สะดวกก่อนนะครับ ผมทนไม่ไหวแล้ว”
เหล่าเต๋าบอกว่าไม่มีเวลาหาส้วมดังนั้นเขาจึงเดินไปตามกอหญ้าข้างทาง
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เหล่าเต๋าก็กลับมาพร้อมขาที่แกว่งไปมา เห็นได้ชัดว่าเขาร่างกายของเขาอ่อนเพลียเป็นอย่างมาก
พวกเขากลับไปที่รถ ทันทีที่เหล่าเต๋าเดินขึ้นมาบนรถเขาก็เอามือกุมท้องแล้วเปิดประตูรถลงไปอีกครั้ง
เมื่อเหล่าเต๋ากลับมาใบหน้าของเขาก็ขาวซีดไปหมด
“บัดซบ ครอบครัวนี้สมควรตายจริงๆ!”
โจวเจ๋อนั่งอยู่ในตําแหน่งคนขับ เขาไม่กล้าปล่อยให้เหล่าเต๋าขับรถเพราะเขาไม่ต้องการตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อีกครั้ง
“ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล”
เหล่าเต๋าพยักหน้าเขาต้องไปโรงพยาบาล มิฉะนั้นชีวิตของเขาที่เพิ่งเก็บเกี่ยวกลับมาจากโรงเรียนนรกอาจจะต้องสูญหายไปอีกครั้ง
โจวเจ๋อขับรถไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลประชาชน จากนั้นเขาก็ตามเหล่าเต๋าําไปเพื่อลงทะเบียนรับการรักษา
ไม่รู้ว่าหมอหลินอยู่ที่นี่หรือไม่แต่โจวเจ๋อไม่ได้วางแผนจะไปพบเธอ
ตั้งแต่มีเรื่องกับน้องภรรยาเขาก็ไม่เคยติดต่อกับใครที่บ้านนั้นอีกเลย บางทีความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะจบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว
เหล่าเต๋าเดินไปเข้าห้องน้ําอีกครั้งพร้อมกับขวดแก้วที่อยู่ในมือโจวเจ๋อนั่งบนม้านั่งข้างนอกและหยิบสมุดบันทึกออกมา เขาไม่กล้าเปิดมันทําได้เพียงมองมันที่ด้านนอกเท่านั้น
ลายแมวดําที่ด้านหลังสมุดบันทึกนั้นชัดเจนกว่าเมื่อก่อนมาก และเมื่อมองดูจะรู้สึกว่ามันกําลังจ้องมองมาที่คุณด้วย
ในโรงพยาบาลมีคนเดินผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา โจวเจ๋อถือสมุดบันทึกไว้ในมือเป็นเวลาสั้นๆ ในขณะเดียวกันเมื่อมีใครบางคนเดินผ่าน บางครั้งสมุดก็จะส่งสัญญาณเตือนออกมาด้วยการสั่นสะเทือน
โจวเจ๋อสังเกตเห็นว่าเมื่อใครบางคนถูกเข็นผ่านหน้าของเขาไปด้วยอาการสาหัสพอสมควรสมุดเล่มนี้จะสั่งอย่างรุนแรง
นี่คือการค้นพบครั้งใหญ่ ดูเหมือนว่าสมุดบันทึกนี้สามารถทํานายชีวิตและความตายของผู้คนรอบตัวได้ เมื่อคนที่กําลังจะตายเดินผ่านสมุดบันทึกเล่มนี้ ก็จะเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ขณะที่บางคนก็สั่นเพียงเล็กน้อยซึ่งอาจหมายความได้ว่าพวกเขาจะมีชีวิตต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้าหรืออาจเป็นเดือนหน้าก็ได้
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มันเป็นสายจากไป๋อิ่ง
“เจ้านายอยู่ที่ไหน” ไป๋อิ่งถามอย่างกังวลที่ปลายสาย
“มีอะไรเหรอ?” โจวเจ๋อถาม
“รุ่ยรุ่ยพบตําแหน่งบาทหลวงชาวญี่ปุ่นแล้ว เธอกําลังรอคุณอยู่ในร้านหนังสือ เธอกังวลเกี่ยวกับวิญญาณของเธอที่อยู่กับเจ้านายดังนั้นเธอจึงรู้สึกเป็นห่วงเจ้านายมาก เจ้านายอยู่ที่ไหนตอนนี้”
ในร้านหนังสือเมื่อเธอพูดคําเหล่านี้ ไป๋อิ่งก็เหลือบมองเด็กหญิงตัวน้อยที่นั่งอยู่ด้านข้าง
เด็กหญิงตัวน้อยกําลังโกรธจัด!
ต่อให้เธอโง่กว่านี้เธอก็รู้ว่าไปยุ่งกําลังย้ําเตือนโจวเจ๋อในเรื่องที่เขาครอบครองวิญญาณของเธออยู่!
เด็กหญิงตัวน้อยรู้สึกว่าเธอประมาทผีดิบตัวนี้มากเกินไป ไป๋อิ่งที่เธอคิดอยู่ตลอดว่าเป็นคนโง่เขลากลับสามารถใช้ลูกไม้นี้ออกมาได้
“ฮ่าๆๆ” โจวเจ๋อยิ้ม แน่นอนว่าเขารู้ถึงความหมายของคําพูดไป๋อิ่ง
เด็กหญิงตัวน้อยต้องการให้เขาตายในขณะที่ทําภารกิจ ใช่! มันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่เขาต้องการให้เธอตายเมื่อเธอไปที่เฉิงตู
“เดี๋ยวก็กลับไปแล้ว เหล่าเต๋าท้องเสียผมเลยพาเขามาที่โรงพยาบาล”
“เจ้านายรีบกลับมานะ ยิ่งยิ่งคิดถึงเจ้านาย”
เมื่อกดวางสายไปแล้วไป๋อิ่งก็ยิ้มเยาะไปทางเด็กหญิงตัวน้อย
เด็กหญิงตัวน้อยเชิดจมูกของตัวเองขึ้นแล้วแค่นเสียงพูดว่า
“โอ้ เด็กน้อย”
“ฉันไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นเด็ก แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายรับรองได้ว่าคนที่เขาจะเอาไปด้วยคือเธอไม่ใช้ฉันแน่นอน”
“…………” เด็กหญิงตัวน้อย
นั่งเจ้าเล่ห์!
ซอมบี้ไร้หัวใจ!
บนม้านั่งของโรงพยาบาลโจวเจ๋อกําลังดูข่าวพายุถล่มเมืองหยานเฉิงซึ่งอยู่ใกล้ๆกับตงเฉิง
มณฑลเจียงซูและเจ้อเจียงตั้งอยู่ในตําแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ดีดังนั้นจึงไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติอื่นๆ ถึงจะมีแต่ผลกระทบส่วนมากก็เกิดขึ้นกับเลือกสวนไร่นาเท่านั้น
แต่คราวนี้ การโจมตีของพายุทําให้ผู้คนในพื้นที่มณฑลเจียงซูต้องสูญเสียอย่างแท้จริง
เมื่อมณฑลเสฉวนถูกแผ่นดินไหวผู้คนจํานวนมากในหรงเฉิงเคยชินกับมันแล้วดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนมากเท่าไหร่นัก
พวกเขาสามารถขนย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าของตัวเองขึ้นสู่บ้านชั้น 2 รวมไปถึงยังสามารถตั้งโต๊ะเล่นไพ่นกกระจอกกันได้อย่างสบายใจ
แต่ชาวเจียงซูแทบไม่มีประสบการณ์ที่เผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติเช่นนี้ ดังนั้นแม้แต่ในโรงพยาบาลประชาชนแพทย์และพยาบาลก็ยังวิ่งกันวุ่นอย่างบ้าคลั่ง
หมอหลินในชุดขาวก็วิ่งผ่านหน้าโจวเจ๋อเช่นกัน จากนั้นเธอก็หยุดและมองที่โจวเจ๋อด้วยความประหลาดใจ
“คุณมาที่นี่ได้อย่างไร”
หมอหลินผอมลงกว่าเมื่อก่อนมากและเสื้อผ้าของเธอก็ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ความสวยก็ลดลงเช่นกัน สถานการณ์ของเธอทําให้โจวเจ๋อรู้สึกเจ็บปวดใจ
“เพื่อนเข้าโรงพยาบาล” โจวเจ๋อตอบกลับ
“ที่เมืองข้างๆมีพายุถล่มมีคนได้รับบาดเจ็บเป็นจํานวนมาก โรงพยาบาลของเราก็จัดทีมแพทย์ออกไปช่วยเหลือด้วย ส่วนเรื่องใบหย่าฉันส่งไปที่ร้านหนังสือของคุณแล้วแต่ไม่เห็นคุณส่งกลับมาสักที”
“โอ้ ผมย้ายร้านหนังสือแล้ว” โจวเจ๋ออธิบาย
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันกลับมาค่อยคุยกัน”
หมอหลินรีบจากไป ตอนนี้ทีมหมอของโรงพยาบาลได้ขึ้นไปบนรถเป็นที่เรียบร้อย พวกเขามีความร้อนรนเป็นอย่างมาก
โจวเจ๋อค่อยๆลุกขึ้นยืน ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง
ไม่ใช่เพราะหมอหลินพูดถึงเรื่องการหย่าร้างของพวกเขาแต่มันเป็นเพราะตอนที่หมอหลินยืนคุยกับเขาอยู่ สมุดบันทึกในมือของเขาก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เมื่อหมอหลินขึ้นไปบนรถพยาบาลสมุดก็เงียบลงอีกครั้ง
เรื่องนี้หมายความว่ายังไง?