Invincible Divine Dragon’s Cultivation System ระบบฝึกฝนมังกรอมตะ - ตอนที่ 220
ตอนที่ 220 อำนาจที่อยู่เบื้องหลัง?
.
“คนของตระกูลมาร์เรอินนั้นกล่าวหาว่าพวกเรานั้นขโมยหินหยกและอัญมณีของพวกเขา พวกเขานั้นต้องการสอนบทเรียนให้แก่พวกเรา ซึ่งตัวผมเองก็คิดว่ามันน่าสนใจมากจริงๆที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในประเทศหินหยก!” หวังเสียนพูดขึ้นมาอย่างชัดเจน พร้อมกับหันไปมองทางชามาลา ที่อยู่ไม่ไกล
เมื่อชามาลา ได้ยินหวังเสียน พูดออกมาร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านพร้อมกับรีบคุกเข่าลง โดยไม่อายกลุ่มคนที่ยืนมุงดูอยู่โดยรอบ และพูดขอร้องขึ้นมาทันทีว่า “ท่านผู้นำกอร์แดนเวย์!..ผะ..ผม..ผมไม่รู้ว่าคนผู้นี้นั้นเป็นแขกของท่าน!..’
“เอาล่ะ!ถ้าอย่างนั้นเรื่องนี้ฉันคงต้องขอให้ชายชราผู้นำตระกูลมาร์เรอิน ของคุณมาอธิบายเรื่องนี้กับฉันโดยตรง หากไม่ได้คำอธิบายที่ดีพอ ก็บอกเขาว่าอย่าอยู่ให้ฉันเห็นหน้าอีกต่อไปเลย!” ผู้นำกอร์แดนเวย์ มองไปที่ชามาลาและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างไร้อารมณ์
มาร์เรอินเป็นหนึ่งในตระกูลสิบอันดับต้นๆที่มีอำนาจอยู่ในเมืองแห่งนี้
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงแค่เมืองเศรษฐกิจทั่วไปเพียงเท่านั้น มันเทียบไม่ได้กับเมืองหลวงเลยแม้แต่น้อย
สำหรับตระกูลกอร์แดนเวย์ อาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีสถานะคล้ายกับตระกูลมาร์เรอิน แต่ต่างกันตรงที่ว่าตระกูลกอร์แดนเวย์นั้นเป็นมหาอำนาจอันดับต้นๆของประเทศ
ความแตกต่างระหว่างพวกเขาทั้งสองตระกูลเหมือนดั่งฟ้ากับเหว!
“ท่านผู้นำของกอร์แดนเวย์ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ผมผิดไปแล้ว ผมขอร้องล่ะครับ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ได้โปรดเถิด..!”
ชามาลา โขกศีรษะแนบพื้นพร้อมกับตะโกนขอความเมตตาจากผู้นำกอร์แดนเวย์ ด้วยความหวาดกลัว
ถ้าเขากลับไปที่ตระกูลมาร์เรอิน โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากเลยแม้แต่น้อย ตัวของเขาจะกลายเป็นศพและถูกส่งตรงไปยังบ้านพักของท่านผู้นำกอร์แดนเวย์ พร้อมกับคำขอโทษและเงินชดเชยอีกจำนวนมากเพื่อหวังให้ท่านผู้นำกอร์แดนเวย์ ยกโทษให้กับตระกูลมาร์เรอิน
“ไสหัวไปพ้น!” ผู้นำกอร์แดนเวย์เห็น ชามาลา พูดพร่ำเสียงดังไม่หยุดจนเขารู้สึกรำคาญ เขาจึงตะเพิดไล่ออกไปด้วยความหงุดหงิด
“ไม่!..ไม่! …ได้โปรด!” แววตาของชามาลา เต็มไปด้วยความสิ้นหวังเขาหันไปคุกเข่าต่อหน้าหวังเสียน พร้อมกับพูดขอร้องขึ้นมา “ท่านหมอเทวะหวัง ผมกราบขออภัยจริงๆ! ได้โปรดเถอะครับ!..ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วยเถิด!..ผมผิดไปแล้วครับหมอเทวะหวัง!”
หวังเสียน มองไปที่ชามาลา อย่างเย็นชาพร้อมกับพูดขึ้นมา “นายพึ่งบอกกับฉันไปไม่ใช่หรือไงว่าฉันคงไม่ได้ออกไปจากประเทศของนายและอาจจะต้องบาดเจ็บหรือตายอยู่ที่นี่อย่างนั้นไม่ใช่เหรอ ?”
“ไม่!..ไม่..ผมผิด..ผม…”
ก่อนที่เขาจะพูดจนจบประโยค นายทหารที่มากับผู้นำกอร์แดนเวย์ ก็เดินเข้ามาเตะเขา เข้าที่หัวของเขาอย่างเต็มแรงจนชามาลานั้นสลบไป แล้วจึงลากตัวเขาออกไปจากบริเวณนั้นในทันที
“ท่านหมอเทวะหวังได้โปรดอย่าเป็นกังวลในเรื่องนี้ ผมจะให้คำอธิบายที่ดีกับคุณได้อย่างแน่นอน!”
ผู้นำของกอร์แดนเวย์ให้สัญญากับหวังเสียน
“ขอบคุณนะครับท่านผู้นำกอร์แดนเวย์! ผมขอฝากเรื่องพวกนี้ให้คุณจัดการแทนด้วย!”
ในขณะที่หวังเสียนกำลังพูดเขาก็หันไปมองยังกลุ่มคนจากตระกูลโจวและสำนักหลิงเยว่ เขามีรอยยิ้มที่มุมปากและพูดออกมาทันทีว่า “ท่านผู้นำกอร์แดนเวย์ คุณสามารถเป็นตัวแทนในการเจรจาซื้อขายหินหยกและอัญมณีที่นี่ได้หรือไม่!”
“การซื้อขายอัญมณีและหินหยกเหล่านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในการควบคุมของสิบตระกูลใหญ่ในเขตเทือกเขาราชาหยก แต่อย่างไรก็ตามในเขตพื้นที่ทั้งหมดของเทือกเขาราชาหยกแห่งนี้ยังอยู่ภายใต้การปกครองของผมอีกทีหนึ่ง!”
“เยี่ยมมาก! ถ้าอย่างนั้นผมต้องการให้ท่านผู้นำกอร์แดนเวย์ ช่วยผมอีกสักเรื่องนึงด้วยการหยุดข้อตกลงการค้ากับบริษัทการค้าเครื่องประดับตระกูลโจว และได้โปรดช่วยบริษัทเครื่องประดับทะเลครามในการติดต่อกับตัวแทนจำหน่ายหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอัญมณีและหินหยกเพื่อให้พวกเขาได้ตกลงเจรจาทำธุรกิจร่วมกันต่อไป!”
“ไม่ใช่ปัญหานี่เป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ เท่านั้น ! “
ผู้นำของกอร์แดนเวย์พยักหน้า หันไปทางหญิงวัยกลางคนตระกูลโจวและกลุ่มคนจากสำนักหลิงเยว่ “ตั้งแต่นี้ต่อไป ห้ามมิให้พวกคุณก้าวเข้ามาสู่ประเทศหินหยกอีกโดยเด็ดขาด!”
“พวกนาย! ขับไล่พวกเขาออกไปเดี๋ยวนี้!” ผู้นำกอร์แดนเวย์หันไปพูดกับนายทหารที่อยู่ใกล้ๆกันกับเขา
“พวกคุณกรุณาออกไปตามคำสั่งของท่านผู้นำในทันทีด้วย!”
ทหารหลายนายขยับปืนเล็งมาที่พวกเขา ก่อนที่นายทหารที่เป็นหัวหน้าจะโบกมือไล่ให้กลุ่มของหญิงวัยกลางคนตระกูลโจวออกไป
หญิงวัยกลางคนตะกูลโจวและกลุ่มของพวกเธอต่างตกตะลึงและรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที
พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าแค่โทรศัพท์เพียงสายเดียวจากเด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถเรียกนายทหารและเฮลิคอปเตอร์นับร้อยออกมาภายในไม่ถึง 5 นาที
ยิ่งไปกว่านั้นชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขานี้ เป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงมากในประเทศหินหยก พวกเขาเคยได้ยินชื่อเสียงของผู้นำกอร์แดนเวย์ มาก่อนเช่นกัน บุคคลผู้ที่ซึ่งเป็นตำนานและมีความแข็งแกร่งอย่างมากในประเทศหินหยก ในแวดวงสังคมชั้นสูงทุกคนต่างต้องเกรงใจและให้ความเคารพชายชราผู้นี้อย่างมากเลยทีเดียว
“ยกเลิกการค้าอัญมณีและหินหยกกับบริษัทการค้าเครื่องประดับตระกูลโจว?…!”
หญิงวัยกลางคนตระกูลโจวตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เธอได้แต่พึมพำออกมาด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า
การยกเลิกการค้าขายอัญมณีและหินหยกกับบริษัทการค้าเครื่องประดับตระกูลโจว เท่ากับเป็นการตัดแขนข้างนึงของพวกเขาเลยทีเดียว ต่อไปพวกเขาคงจะไม่สามารถต่อสู้กับบริษัทเครื่องประดับทะเลครามได้อย่างแน่นอนในด้านของเครื่องประดับที่ทำจากหยก
“ออกไปเดี๋ยวนี้! ไม่เช่นนั้นอย่าโทษพวกเราว่าใช้ความรุนแรงกับพวกคุณ!”
นายทหารคนหนึ่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับมองมาที่พวกเขาด้วยสายตาที่น่ากลัว
“ทุกคน!..ไปกันเถอะ!”
โจวหง จาก สำนักหลิงเยว่ หันหลังเดินออกไปอย่างขมขื่น การถูกขับออกจากประเทศหินหยกและห้ามไม่ให้เข้าประเทศตลอดไป นับว่าเป็นความอัปยศอดสูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยได้รับ
….
“อึกก!..ฟูวว!..”
ในขณะนั้นมีเสียงถอนหายใจพร้อมกับเสียงพึมพำออกมาเบาๆ
“แข็งแกร่ง! ช่างแข็งแกร่งมากจริงๆ!”
ราชาการพนันจากแห่งเมืองการพนัน เช็ดเลือดที่มุมปากของเขาด้วยหลังมือ เขามองไปที่โม่ชิงหลงด้วยความหวาดกลัว
ในก่อนหน้านี้ทั้งคู่ปลดปล่อยพลังงานออร่าเข้าปะทะกันโดยตรงผ่านทางสายตา หลังจากนั้นไม่นาน ราชาการพนันก็กระอักเลือดออกมาพร้อมกับซวนเซก้าวถอยหลังไปหลายก้าว
ตัวเขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองการพนัน แต่เขานั้นได้รับบาดเจ็บในทันทีที่เริ่มปะทะกันของพลังงานออร่า หากต้องต่อสู้กันจริงๆเขาคงจะตายภายในเวลาไม่เกิน 10 วินาทีเป็นแน่ แค่คิดขึ้นมาขนหัวของเขาก็ลุกจนตั้งชัน
“ฮึ! ต่อไปหากเจ้าคิดจะพูดอะไรออกมาจากปากจงพึงสังวรตัวเอาไว้บ้าง บางครั้งคำพูดง่ายๆก็อาจจะทำให้เจ้าตายได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน!” โม่ชิงหลง พูดกับราชาการพนันด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ชายชราแห่งเมืองการพนันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะหันไปมองยังผู้นำกอร์แดนเวย์ ที่กำลังพูดคุยอยู่กับหวังเสียน อย่างสนิทสนม
หมอเทวะหนุ่มคนนี้มีเครือข่ายที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังเขาอย่างมากมาย แค่เฉพาะบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ ตัวเขาที่เป็นราชาแห่งเมืองการพนันเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง ก็ไม่สามารถต่อสู้กับคนพวกนี้ได้อย่างแน่นอน แล้วกองกำลังและผู้สนับสนุนที่เขายังไม่รู้จักของหมอเทวะหนุ่มคนนี้น่าจะยังมีอีกมาก โดยเฉพาะข่าวล่าสุดที่หมอเทวะหนุ่มคนนี้พากลุ่มผู้แข็งแกร่งกว่า 50 คนพร้อมด้วยสำนักกระบี่พฤกษาขจี และดาบคลั่งโลหิตจี เข้าไปกวาดล้างดาบทรราชตระกูลหลิว นั่นก็เพียงพอจะทำให้ราชาการพนันนั้นหวาดกลัวจนจับใจ
“ระดับกองกำลังของฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับความแข็งแกร่งของกองกำลังที่อยู่เบื้องหลังหมอเทวะหวังคนนี้ได้จริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าฆ่า เจียงเทียนเฉิงและเด็กหนุ่มจากตระกูลจู้ พร้อมกับจมเรือสำราญโดยไม่หวาดกลัว้ลยแม้แต่น้อย!”
“ฟูววว…!”
เขาหายใจเข้าลึก ๆ อีกหลายครั้งและมองไปที่ โม่ชิงหลงพร้อมกับโค้งตัวลงและประสานมืออย่างเงียบๆ แสดงถึงการขออภัยและการเคารพ ก่อนที่เขาจะหันหลังแล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ
หลังจากที่เขาเดินกลับออกมาไกลพอสมควรเขาหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา
“ราชาการพนัน คุณโทรหาผมมีเรื่องอะไรเร่งด่วนหรือเปล่าครับ!”
คาสิโนในประเทศบนเกาะแห่งหนึ่ง สถานที่นี้เป็นหนึ่งในสี่คาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ชายชราคนหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์มือถือของเขาพูดกับปลายสายด้วยความเคารพ
แม้จะเพียงแค่คุยกันทางโทรศัพท์ แต่ชายชราคนนี้ก็ยังแสดงความเคารพและให้เกียรติเป็นอย่างมาก นี่แสดงถึงความมีอิทธิพลของราชาการพนันได้เป็นอย่างดี
“ลืมเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเกาเหวินและหลานชายของคุณซะ! หมอเทวะหวังนั้นเราไม่สามารถเป็นศัตรูกับเขาได้จริงๆ หากไม่เช่นนั้นตระกูลของคุณอาจจะจบสิ้นลงก็ได้!” ราชาการพนันพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พร้อมกับกล่าวเตือนอีกสองสามประโยคก่อนที่เขาจะวางสาย
“ให้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดยังงั้นหรือ?”
ชายชรามือสั่นเล็กน้อยขณะที่ถือโทรศัพท์เอาไว้ ดวงตาของเขาเหม่อลอยพร้อมกับใบหน้าที่เคร่งขรึมลงไปอย่างเห็นได้ชัด
“ให้ฉันลืมเรื่องเรือคาสิโนพันล้านหยวน กับชีวิตหลานชายของฉันอย่างนั้นเหรอ?”
ชายชรามีใบหน้าที่ขมขื่น แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นคำสั่งโดยตรงของราชาการพนัน และเขาควรต้องเชื่อฟังคำสั่ง
“ฉันควรจะยอมแพ้แบบนี้จริงๆอย่างนั้นรึ?”
ชายชรากัดฟันแน่นมีท่าทางไม่เต็มใจอย่างที่สุด ก่อนที่เขาจะโทรศัพท์ออกไปเพื่อติดต่อชายชราจากตระกูลจู้
….
“เสี่ยวเสียน นี่! … คุณ … คุณ …!”
เมื่อผู้นำกอร์แดนเวย์ กลับไปแล้ว หลานชิงเยว่ จ้องมองไปที่ หวังเสียน ด้วยอาการตื่นตะลึงและไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
โทรศัพท์ออกเพียง 1 สายและรอเพียง 5 นาที!
และการดำรงอยู่ที่สูงที่สุดในตระกูลกอร์แดนเวย์ ก็รีบวิ่งมาพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์และทหารเป็นกองทัพ
เพียงหนึ่งประโยคธุรกิจของบริษัทการค้าเครื่องประดับตระกูลโจวถูกยกเลิก และไม่มีสิทธิ์ก้าวเข้ามาสู่ประเทศหินหยกได้อีกต่อไป
เพียงหนึ่งคำขอบริษัทเครื่องประดับทะเลคราม กลายเป็นบริษัทคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดเพียงแห่งเดียวกับประเทศหินหยก
ทุกอย่างดูเรียบง่ายจนเกือบจะเรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์ หลานชิงเยว่ ไม่สามารถสรรหาคำพูดใดๆที่จะพูดออกมาได้ เธอได้แต่ยืนมองแฟนหนุ่มของเธอด้วยดวงตาเป็นประกายระยิบระยับอย่างหลงใหล
เธอหวนนึกถึงราชาแห่งการพนันจากเมืองการพนัน ที่จากไปอย่างเงียบๆพร้อมกับมีเลือดไหลออกจากมุมปาก และไม่มีคำพูดใดๆที่เกี่ยวกับเรือสำราญที่จมลงในทะเลก่อนหน้านี้ออกมาอีกเลยแม้แต่คำเดียว
แฟนหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธอ 1 ปีคนนี้ดูเหมือนจะมีความสามารถอีกหลายอย่างที่เธอนั้นยังไม่รู้!
หลานเฉียนเฟิง ซึ่งยืนอยู่ข้างๆก็ยืนอึ้งตกตะลึงไม่แพ้กัน มือของเขายังคงกำโทรศัพท์มือถือของเขาเอาไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว
ก่อนหน้านี้เขาได้โทรติดต่อผู้ที่มีอำนาจภายในประเทศหินหยกอยู่หลายราย แต่คำตอบที่เขาได้รับจากการติดต่อของเขานั่นก็คือ ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขา ทุกคนต่างให้เหตุผลว่าพวกเขาไม่สามารถทำให้ตระกูลมาร์เรอินขุ่นเคืองได้ พร้อมกับตัดสายและบล็อคเบอร์โทรศัพท์ของเขาในทันที
หลังจากนั้นความตื่นตะลึงและความประหลาดใจก็เกิดขึ้นกับเขาจนเขายืนตะลึงไปนานหลายนาทีกว่าจะตั้งสติได้ ว่าที่ลูกเขยตระกูลหลาน สามารถจัดการปัญหาทั้งหมดได้ภายในเวลา 5 นาทีอย่างที่เขาพูดเอาไว้ ด้วยการที่ผู้มีอำนาจในกองทัพระดับสูงสุดของประเทศหินหยก พร้อมกองกำลังของเขาเข้ามาจัดการปัญหาให้กับเขาโดยการที่เขาโทรศัพท์ออกไปเพียงครั้งเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้น่าตื่นตกใจมากกว่าการที่เขานำกองกำลังเข้าไปกวาดล้างตระกูลหลิวในก่อนหน้านี้มากนัก!
…….
จบบท