Guild Master จอมราชันโลกออนไลน์ - ตอนที่ 173
ตอนที่ 173 แม่สื่อ
“คุณกวี แบบนี้จะไหวเหรอครับ”ระหว่างกวีกําลังเดินเข้าไปหาแดน อยู่ๆบอมก็ใช้ช่องทางสื่อสารภายในปาร์ตี้เข้ามาสอบถามกวีด้วยท่าทีกังวล อย่างที่เห็นแดนเป็นนักดาบอันดับ 2 ของโลกเสมือนจริง แถมด้วยเลเวลที่สูงกว่ามากแบบนี้พวกตนจะทําอะไรแดนได้จริงๆงั้นเหรอ
“ไม่ต้องกลัว ทุกคนโจมตีเข้ามาเรื่อยๆเลยครับ”กวีตอบพลางจ้องหน้าแดนนิ่ง ตอนนี้กวีเริ่มร่ายเวทมนตร์บทต่อไปแล้วทําให้แดนตั้งท่าดาบเตรียมตั้งรับทันที เพียงแต่ตอนนี้แดนกําลังจ้องมองไปรอบๆว่าใครกําลังจะโจมตีเข้ามาบ้าง บอมที่อยู่ด้านหลังยังอยู่ห่างจากตรงจุดที่เขายืนมาก ระยะประชิดแบบเขาคงต้องใช้เวลาอีกหน่อยกว่าจะเข้ามาถึงส่วนจอมเวทอีก 2 คนร่ายเวทเสร็จแล้วอยู่ที่ว่าจะยิงออกมาเมื่อไหร่ ส่วนนักธนูดูเหมือน เจ้านั่นจะรอจังหวะเหมือนกันเลยยังไม่ยิงเข้ามา….
ฟุบ!!
แดนยังไม่ทันได้ขยับ บอลที่อยู่ทางขวามือของกวีก็ยิ่งเวทเคียวสายลมเวทมนตร์ธาตุลมระดับ 2 ออกมาเทียบกับกระสุนเพลิงแล้วเคียวสายลมมีความเร็วมากกว่า แต่ทว่าความเร็วระดับนี้ไม่ทําให้แดนกังวลใจเลยขอแค่ฟันทิ้งซะก็ไม่มีความเสียหายอะไรแล้ว
กึก…..
พริบตาที่แดนยกแขนเตรียมจะฟันเวทเคียวสายลมของบอล อยู่ๆกวีก็เข้ามาหาแดนตรงหน้าก่อนจะใช้ปลายไม้เท้าจิ้มเข้าไปที่ข้อพับของแดนทันที เหมือนกับการเจาะยางนั่นล่ะขอเพียงให้ตรงจุดก็ทําให้แดนเสียกําลังพยุงขาไปได้อย่างง่ายดาย แต่แดนเองก็มีสติมากพอจะฝืนเอาไว้ให้ร่างกายกลับมายืนอย่างมั่นคงตามปกติแต่ เพราะมัวแต่พยายามกลับมายืนอย่างมั่นคงให้ได้เคียวสายลมที่คิดจะฟันทิ้งก็เลยฟันไม่ทันแล้ว
เปรี้ยง!!
เคียวสายลมของบอลอัดเข้ากลางอกของแดนอย่างจัง แต่น่าเสียดายที่เกราะของแดนหนาไม่ใช่น้อยๆ แค่โดนเคียวสายลมเข้าไปไม่ทําให้เขาเจ็บปวดอะไรมากมาย เพียงแต่เวทมนตร์ที่เพลงกําลังร่ายเข้าใส่นี่สิ
“หนอย…”เพราะเห็นแดนสามารถฟันเวทมนตร์ทิ้งได้ เพลงก็เลยเลือกเวทมนตร์พายุหมุนที่ทํางานจากพื้นดินรอบๆตัวแดนแทน เวทมนตร์บทนี้ฟันทิ้งไม่ได้ทําได้ทําให้แดนมีทางเลือกเดียวคือต้องหนีออกจากพื้นที่ของพายุเท่านั้น
กึก….
ขณะกําลังจะหนี อยู่ๆแดนก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่กําลังมัดเท้าของตัวเองเอาไว้ มันคือเวทมนตร์ไม้ของกวีที่แอบร่ายไว้เมื่อครู่นั่นเอง
“อั่ก…”แดนเบิกตากว้างก่อนจะยกแขนขึ้นเพื่อป้องกันใบหน้าจากเวทมนตร์พายุหมุนที่กําลังก่อตัวขึ้นเบื้องหน้าตนเอง แม้แดนจะเลเวลสูงกว่า แต่แดนก็เป็นผู้เล่นสายความเร็ว เพื่อทําให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แดนเลยต้องสวมเครื่องป้องกันที่เบาและบางกว่าพวกสายแทงค์ แถมพลังชีวิตก็ไม่ได้มากมายอะไรทําให้โดนโจมตีหลายๆครั้งติดกันแบบนี้พลังชีวิตของเขาก็ลดไปมากพอสมควร
“แกเล่นบ้าอะไร”แดนกัดฟันด้วยความโมโหก่อนจะใช้ดาบเตรียมเข้าไปฟันกวีที่อยู่ตรงหน้า เพียงแต่คราวนี้ กวีกลับถอยออกห่างเพื่อหลบการโจมตีไม่ได้ขัดสกิลของแดนแต่อย่างไร ทว่าทันทีที่ดาบของแดนวาดผ่านอากาศเบื้องหน้ากวีไปนั้น กวีก็วางไม้เท้าลงบนมือที่ใช้จับดาบของแดน ก่อนจะออกแรงหนุนให้เสียหลักมาข้างหน้าเสียอย่างนั้น
ฉึก!!!
แดนเซมาตามแรงของกวีกลับโดนลูกธนูปักเข้าที่ไหล่ทันที ราวกับกวีจงใจดึงตัวของแดนเข้ามารับธนูเสียอย่างนั้น
“หนอย….”แดนกัดฟันเปลี่ยนท่วงท่าดาบเพื่อจะกลับมาฟันกวีอีกรอบ แต่เพราะโดนกวีขัดจังหวะหลายครั้งแล้วแดนก็เลยไม่ได้จะฟันกวีในดาบแรกเหมือนเมื่อครู่ แต่เปลี่ยนมาเป็นดูท่าทีของกวีก่อนว่าจะเอาอย่างไร การฟันครั้งนี้เลยไม่ได้ใช้สกิลหรือใส่แรงลงไปแต่อย่างไร
ฉึก!!
เป็นอย่างที่แดนคิด กวีตั้งใจจะหยุดสกิลของเขาก็เลยแทงลงมาบนหลังเท้าของแดน แต่ครั้งนี้แดนเดาเอาไว้แล้วก็เลยถอยเท้าของตัวเองออกมาหนึ่งจังหวะแล้วเปลี่ยนกระบวนท่าเพื่อจะฟันสกิลออกไป
โครม!!
แดนถอยหลังไปยังไม่ทันจะได้วางเท้าดีๆ ร่างของบอมก็พุ่งเข้ามาชนแดนอย่างจังทําเอาแดนเสียหลักล้มลงไปนอนกับพื้น หากเป็นตอนปกติแดนสามารถต้านแรงกระแทกจากโล่ของบอมได้สบาย แต่เพราะเมื่อครู่ยืนด้วยขาข้างเดียวทําให้แดนล้มลงไปอย่างง่ายดาย
เปรี้ยง!!
เวทสายฟ้าของกวีร่างของแดนที่กําลังล้มอยู่กับพื้นเข้าอย่างจังก่อนที่เวทมนตร์ของพวกบอลและเพลงจะโจมตีตามเข้ามาพร้อมๆกับลูกธนูของแฟรงค์ทันที
“อย่ามาดูถูกกันนะโว้ย”แดนคํารามออกมาด้วยท่าทีโมโหก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ไอ้หมอนี่มันอะไรกัน เป็นจอมเวทแท้ๆแต่กลับใช้ไม้เท้าไล่ทุบเขาอย่างกับเป็นแค่เด็กน้อยไม่มีผิด
วูบ…!!
ทันทีที่ลุกขึ้นมาได้ แดนก็เปิดใช้บัพของตนเองทันที ตอนแรกคิดว่าสู้กับพวกเลเวลน้อยๆไม่จําเป็นต้องใช้หรอก แต่เพราะประมาทแบบนั้นก็เลยมีสภาพอย่างที่เห็น
“ตายซะ” แดนนอกจากจะใช้บัพอาชีพออกมาแล้วเขายังเลือกใช้สกิลใหญ่ออกไปใส่กวีอีกต่างหาก พริบตานั้นเบื้องหน้าของกวีราวกับมีร่างของแดนปรากฏตัวขึ้น 4 – 5 ร่างพร้อมคมดาบที่ฟันเข้ามาใส่กวีอย่างต่อเนื่อง แต่ละร่างฟันออกมา 7 – 8 ดาบรวมๆกันแล้วสกิลนี้ฟันออกมาอย่างรวดเร็วเกือบ 40 ครั้ง ต่อให้เป็นพวกอันดับ สูงๆก็เถอะ ไม่มีทางหลบได้หมดแน่ๆ
“ท่าทางตารางอันดับจะมีปัญหานะ ตั้งแต่แก้วยังไม่ได้ขึ้นเป็นนักธนูอันดับหนึ่งสักทีแล้ว” กวีมองสกิลเบื้องหน้าตนเองก่อนจะหลบการโจมตีของสกิลที่ละดาบราวกับดวงตาสามารถมองเห็นทุกการโจมตีได้ไม่มีผิด นี่นะเหรอฝีมือของนักดาบอันดับ 2 ของตารางจัดอันดับ แต่ก็อย่างว่าการจัดอันดับของตารางจัดอันดับวัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่ฝีมือแท้ๆของผู้เล่น แม้จะใช้อ้างอิงความเก่งของแต่ละคนได้ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ทั้งหมดว่าจริงๆแล้วใครเหนือกว่าใครกันแน่
“……….”แม้แต่แดนเองก็ไม่อยากจะเชื่อภาพที่เห็นเบื้องหน้าเลย สกิลของเขาโดนหลบได้หมดไม่เหลือแม้แต่คมดาบเดียว คนที่ทําแบบนี้ได้แดนก็รู้จักเพียงเมฆคนเดียวเท่านั้น….
เปรี้ยง!!
กวียิงเวทสายฟ้าระดับ 5 คลื่นอัสนีกระแทกเข้าใส่ร่างของแดนอย่างจัง แสดงว่าระหว่างหลบสกิลของแดนอยู่กวีก็ร่ายเวทมนตร์ระดับสูงไปด้วยงั้นเหรอ..
“อัก…”เวทมนตร์ของกวีรุนแรงมากอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเวทระดับสูงด้วยแล้วยิ่งรุนแรงเข้าไปใหญ่ คลื่นอัสนี กระแทกของกวีทําเอาพลังชีวิตของแดนหายไป 2 ใน 10 เลยทีเดียวประกอบกับการโจมตีก่อนหน้านี้ที่แดนโดนมาทําให้พลังชีวิตของแดนเหลือต่ํากว่าครึ่งเสียอีก หากยังโดนรุมโจมตีต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ เขาคง…..
“นั่นเพราะคนพวกนั้นไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าของฉันต่างหาก”
อยู่ๆเสียงของเมฆที่เคยตอบคําถามของแดนก็ผุดขึ้นมาในหัวเสียอย่างนั้น ตอนนั้นแดนไม่เคยคิดเลยว่าจะมีใครเก่งพอจะเป็นหัวหน้าของเมฆได้ แต่พอโดนกวีเล่นงานเข้าแบบนี้ทั้งๆที่เลเวลน้อยกว่ามาก แดนก็นึกถึงคําพูดนั้นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
แม้จะเป็นความคิดแปลกๆแต่แดนก็รู้สึกว่าฝีมือของกวีนั้นไม่ปกติ จอมเวทจําเป็นต้องมีวิชาต่อสู้ระยะประชิดขนาดนี้ด้วยงั้นเหรอ แล้วถ้าเขาเปลี่ยนจากจอมเวทเป็นนักดาบขึ้นมาเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน..
เปรี้ยง!!
แดนที่เหลือพลังชีวิตไม่มากเหวี่ยงดาบเข้าใส่โล่ของบอมที่กําลังจะโจมตีเข้ามาหาตน ดาบของแดนทําลายโล่ของบอมที่เกือบจะพังอยู่แล้วได้ในพริบตาก่อนที่แดนจะ…
ฟุบ!!
ร่างของแดนวิ่งหายเข้าไปในป่าข้างทางอย่างรวดเร็ว กว่าพวกบอมจะมองตามไปก็ไม่พบเงาร่างของแดนในป่าอีกแล้ว เรื่องความเร็วแดนเหนือกว่าพวกตนมากต่อให้คิดอยากจะตามไปก็ตามไม่ทันแน่ๆ ครั้งนี้เลยได้แต่ปล่อยไปเท่านั้น…
อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของน้ําหวานและอ้อน ตอนนี้พวกเธอกําลังอยู่ในงานเลี้ยงของพวกขุนนางของอาณาจักรทริชโดยมีเหล่าคุณนายล้อมรอบราวกับกําลังร่วมชมละครอะไรบางอย่างไม่มีผิด แต่ระหว่างวงสนทนากําลังลื่นไหลอยู่นั้น อยู่ๆก็มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาหาน้ําหวานด้วยท่าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข
“คุณน้ําหวาน ขอบคุณนะครับเป็นเพราะคุณช่วยแนะนําแท้ๆเลย”ชายหนุ่มที่ควงแฟนสาวเดินเข้ามาพูดพลางหันไปมองหญิงสาวที่อยู่ข้างตัว หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นเลย แต่เป็นบุตรสาวของเจ้าเมืองกอนนั่นเองเช่นนั้น แล้วชายหนุ่มที่เดินเข้ามาก็คือชายหนุ่มที่เดินทางไปสู่ขอบุตรสาวของเจ้าเมืองกอนนั่นเอง
“ต้องขอบคุณจริงๆนะคะ ว่าแต่ท่านทราบได้อย่างไรว่าท่านพ่อจะยอมรับการคบหาของพวก เรา”บุตรสาวเจ้าเมืองกอนถามด้วยท่าทีสงสัย บิดาของเธอไม่ถูกกับตระกูลของฝ่ายชายอย่างมาก โอกาสที่ท่านพ่อของเธอจะยอมรับแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ตอนแรกเธอคิดว่าจะหนีไปด้วยซ้ําแต่เพราะได้น้ําหวานเข้ามาช่วยก็เลยได้อยู่กับคนที่รักโดยไม่ต้องหนีหายไปไหน
“เรื่องนั้นเป็นความลับค่ะ” น้ําหวานยิ้มออกมาด้วยท่าทีมีชั้นเชิงก่อนจะพากันหัวเราะร่วมกับสองหนุ่มสาวที่เข้ามาขอบคุณ
แต่เดิมน้ําหวานถูกส่งมาช่วยงานอ่อนที่เข้ามาทําความสนิทสนมกับพวก NPC ที่เป็นคนชั้นสูงของอาณาจักรทริช แต่ไม่ทราบว่าน้ําหวานคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้หรือไม่ก็มีพรสวรรค์กันแน่ เธอเลยเข้าหาพวกขุนนางผู้หญิงได้อย่างง่ายดาย แต่เรื่องที่ทําให้น้ําหวานกลายเป็นจุดสนใจกลับกลายเป็นเรื่องการเป็นสื่อรักให้กับหญิงสาวในสังคมชั้นสูงของอาณาจักรทริชเสียอย่างนั้น
เรียกได้ว่าน้ําหวานมีพรสวรรค์ที่จะเป็นแม่สื่อก็คงได้ หลังจากเริ่มมีเหล่าหญิงสาวเข้ามาปรึกษาเรื่องความรัก น้ําหวานก็เริ่มช่วยเหลือพวกเธอให้ได้สมหวัง ครั้งนี้แม้แต่ความรักที่เป็นไปไม่ได้ของคู่ที่ครอบครัวเป็นอริกัน อย่างร้ายแรงน้ําหวานก็ยังช่วยให้ทั้งสองได้คบหากันจนสําเร็จ เรื่องราวนี้คงโด่งดังไปทั่วในพริบตาแน่ๆและจะมี คนมาขอความช่วยเหลืออีกไม่น้อย และนั่นก็เป็นข้อมูลอย่างดีที่น้ําหวานจะสามารถนํามาใช้ได้
“ท่านคือคุณน้ําหวานสินะครับ”ระหว่างกําลังหัวเราะคิกคักกับพวกสาวๆ อยู่ๆเบื้องหน้าน้ําหวานก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ช่วงนี้มีขุนนางทั้งชายและหญิงเข้ามาหาน้ําหวานบ่อยขึ้น ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องความรักทั้งนั้น แต่ทว่าครั้งนี้การมาของชายหนุ่มรูปงามท่านนี้กลับทําเอาแขกคนอื่นๆตกใจกันเป็นอย่างมาก
“องค์ชาย…”