Gate of God - ตอนที่ 513
ตอนที่ 513 จักรวรรดิ
”ข้าไม่ได้จะเป็นคนจัดการทุกอย่างในการเดินทางครั้งนี้ข้าแค่เพียงมาเที่ยวเล่นเท่านั้น ทุกอย่างข้าให้หลานชายข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว”
”ข้าเข้าใจแล้ว”ฉือ เฮา พยักหน้า
การที่เขาปล่อยให้คนอื่นจัดการทุกอย่างและตัว เหยียน เฉียนหลี่ ที่ตัดสินใจไปเมืองหลวงนั้น …
เพื่อเป็นการยืนยัน
และแนะนำผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำของดินแดนเหลียงตะวันตก
เขาไม่สามารถทำได้ถ้าไม่ออกมาด้วยตัวเองเขาต้องทำมันที่เมืองหลวง ฉือ เฮา มันใจว่าตำแหน่งของ เหยียน ซิว ต้องได้รับการยืนยันหลังจากการเดินทางครั้งนี้จบลง
แต่
มีเพียงเหยียน เฉียนหลี่ เท่านั่นที่สามารถตอบได้ว่าทำไมเขาถึงตาม เหยียน ซิว มาที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
ฉือเฮา ไม่อยากจะคาดเดาอีกต่อไป อย่างไรก็ตามเขาคิดว่าการเดินทางไปที่เมืองหลวงของ เหยียน เฉียนหลี่ ในครั้งนี้มีเบื้องหลังแฝงอยู่
หรือพวกเขาคิดจะเข้าร่วมการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์?
หรือเป็นอะไรที่มากกว่านั้น?
เขาต้องเตือนราชาต้วนล่วงหน้าถ้าพวกเขาได้รับการสับสนุนจาก เหยียน เฉียนหลี่ ทุกอย่างจะกลายเป็นเรื่องง่ายทันที
…
สามวันผ่านไปเหยียน ซิว พักอยู่ที่บ้านของ ฟาง เจิ้งจือ
เหยียนเฉียนหลี่ ไม่ได้ปรากฎตัวออกมาอีกเลย
ฉือเฮา ต้องการใช้สามวันนี้เพื่อพูดคุยกับ เหยียน เฉียนหลี่ อย่างไรก็ตาม เหยียน เฉียนหลี่ อาศัยอยู่แต่ในค่ายของเขา
เขาดูเหมือนไม่ต้องการจะพบฟาง เจิ้งจือ ด้วยซ้ำ
สามวันถัดไปฟาง เจิ้งจือ ได้บอกลาและไปที่เมืองหลวงกับ เหยียน ซิว หน่วยปีกสีชาด และกองทหารเมฆาตามไปด้านหลัง
จางหยางปิง, ฟาง เฮ่าเตอ และ ฉิน ซูเหลียน รวมถึงชาวบ้านคนอื่นๆต่างมองด้วยความกลัว
แต่
พวกเขาเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาไม่สามารถจะไปหยุดอะไรได้
”ผู้อาวุโสท่านคิดว่า เจิ้งจือ จะ… ”
”ไม่!ฉือ เฮ่า ได้บอกแล้วว่าจะมาที่นี่เพื่อช่วย ฟาง เจิ้งจือ! เขาต้องช่วย ฟาง เจิ้งจือ ให้พ้นโทษอย่างแน่นอน!”
”ลูกชายข้า…”
”เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอกเจิ้งจือ ต้องกลับมาแน่นอน!”
”จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาใช่ไหม?”
”ไม่มีแน่นอนเจ้ามั่นใจได้!”
…
ฤดูใบไม้ผลิมักเป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวาแต่บรรยากาศในเมืองหลวงกลับเต็มไปด้วยความกดดัน
ภายในที่พักขององค์รัชทายาท
เจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอกใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล
หลินเทียนหลง นั้นนั่งอยู่หัวโต๊ะประชุม และมองเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งขรึม
มีเศษกระดาษจำนวนมากอยู่บนโต๊ะมันเป็นจดหมายเร่งด่วนที่เขาพึ่งได้รับ
”สวะ!กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์… เจ้ากล้าต่อต้านข้าแบบเปิดเผยเช่นนี้เลยงั้นรึ?! พวกเจ้าคิดว่าข้าควรทำเยี่ยงไรดี?” มือขององค์รัชทายาทปัดถ้วยชาบนโต๊ะลงพื้นจนมันแตกละเอียด
เจ้าหน้าที่ต่างส่ายหัว
”ฝ่าบาทฉือ เฮา นั้นเป็นมือขวาของราชาต้วนมาตลอด ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะพา ฟาง เจิ้งจือ มาที่เมืองหลวง” หนึ่งในเจ้าหน้าที่พูดขึ้นมา
”ใช่ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่กองตรวจการศํกดิ์สิทธิ์แต่เป็นตระกูลเหยียน… ” เจ้าหน้าที่อีกคนพูดขึ้นดวงตาของเขาเปล่งประกาย
”เราไม่เคยคิดว่าราชาเหยียน…เหยียน เฉียนหลี่ จะออกมาจากดินแดนเหลียงเพราะเรื่องนี้ การที่เราจะโจมตีพวกเขานั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้”
”ใช่แล้วแค่การต่อสู้กับทหารสองพันนายจากหน่วยปีกสีชาดก็ยากมากพอแล้ว ถ้าพวกเราจะสู้กับกองทหารเมฆาอีกพวกเราต้องใช้ทั้งกองทัะ แต่ราชาต้วนนั้นได้ควบคุมกำลังกองทัพไว้เกือบทั้งหมด! มันเป็นเรื่องยากที่พวกเราจะทำอะไรโดยไม่เปิดเผยตัวตนออกไป”
”องค์จักรพรรดิอาจจะไปต้อนรับเหยียน เฉียนหลี่ ที่ประตูวัง ถ้าเป็นเช่นนั้น มันจะทำให้เรื่องยากขึ้นสำหรับพวกเรา”
”เจ้าคิดว่าฟาง เจิ้งจือ จะพูดอะไร ถ้าได้พบองค์จักรพรรดิหรือเปล่า?”่
”ข้าไม่มีทางปล่อยให้เขาพูดอะไรออกมาแน่นอนสิ่งที่เขาพูดอาจจะเป็นอันตรายต่อท่าน”
”เราจะต้องไม่ปล่อยให้เขาเข้ามาในเมือง!”
”พวกเจ้าคิดมากเกินไป!”เสียงของรัฐมนตรีกรมกฎหมาย ว่าน ฉง ดังขึ้น “จริงๆเราได้ออกหมายจับ ฟาง เจิ้งจือ แล้ว องค์จักรพรรดิไม่มีทางให้อภัยเขาเพียงเพราะกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ร้องขอ หากไม่มีหลักฐานใหม่ ย่อมไม่มีทางส่งผลกระทบกับองค์รัชทายาท”
”ว่านฉง พูดถูก พวกเราควรทำตัวให้นิ่งเงียบเข้าไว้ ไม่ตื่นตูมไปเอง!”
”ใช่แล้วๆ!”
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดแสดงความเห็นด้วย
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนที่สวมชุดของรัฐมนตรีกรมพิธีการได้ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะโค้งคำนับให้องค์รัชทายาท
”มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องรายงานมีข่าวว่าองค์ราชินีแดนใต้กำลังเดินทางมาที่เมืองหลวงเช่นกัน ข้าสงสัยว่าเรื่องนี้…อาจจะเกี่ยวข้องกับ ฟาง เจิ้งจือ?”่
”…”
ทั้งห้องต่างตกอยู่ภายใต้ความเงียบเจ้าหน้าที่ต่างมองหน้ากัน มีหลายอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันมากเกินไป
เริ่มต้นด้วยการที่ฟาง เจิ้งจือ ปรากฎตัวที่มณฑลฮวายอัน
หลังจากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนพวกเขาหายใจไม่ทัน
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?หรือมีการวางแผนล่วงหน้าหรือไม่? ไม่มีใครรู้
ยู่ยี่ปิง กำมือแน่นขณะมองไปที่เหล่าเจ้าหน้าที่และทหารที่คุกเข่าอยู่
”ตอนนี้เหยียน เฉียนหลี่ อยู่ที่หมู่บ้านทางเหนือใช่หรือไม่?” ยู่ ยี่ปืง ถามขึ้นมา
”ท่านรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายเขาไม่ได้ปรากฎตัวในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ” ทหารรายงาน
”เขาไม่แสดงตัวหรือ?แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าเขาจะมาเมืองหลวงพร้อม ฟาง เจิ้งจือ?” ยู่ ยี่ปืง ขมวดคิ้ว
”แม้ว่าเขาจะไม่แสดงตัวแต่เขาก็พูดกับ ฉือ เฮา ”
”เจ้ากำลังบอกว่าเขาไปที่นั่นแต่ไม่ได้เข้าไปในหมู่บ้าน รวมถึงออกมาพบ ฟาง เจิ้งจือ หรือฉือ เฮา ใช่ไหม?” ”
”ใช่แล้วขอรับ!”
”อืมเขาอยู่ในกระโจมตลอดเวลา…ข้าเข้าใจแล้ว!”ดวงตาของ ยู่ ยี่ปิง เป็นประกาย
เมื่อเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ได้ยินสิ่งที่เขาพูด พวกเขาก็มองหน้ากันด้วยความสับสน
”ท่านรัฐมนตรีช่วยทำให้พวกเรากระจ่างหน่อยได้หรือไม่?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถามขึ้นมา
”เหยียนเฉียนหลี่ เป็นผู้ปกครองเหลียงตะวันตก แต่ตอนนี้เขาก็แก่แล้ว เขาไม่คิดจะทำอะไรที่มีความเสียงแน่นอน” ยู่ ยี่ปิง ยิ้มด้วยความมั่นใจ
”เจ้าหมายความว่าอะไร?”เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจ
”เหยียนเฉียนหลี่ อาจไม่ช่วย ฟาง เจิ้งจือ” รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง กล่าว
”เหยียนเฉียนหลี่ ทิ้งเหลียงตะวันตกและไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ ถ้าเขาไม่ได้วางแผนจะช่วย ฟาง เจิ้งจือ แล้วเขาทำเช่นนั้นไปทำไม?”
”เป็นเพราะเหยียน ซิว!”ยู่ ยี่ปิง กล่าวออกมา
”รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายท่านกำลังจะบอกว่า เหยียน เฉียนหลี่มาที่เมืองหลวงเพราะ เหยียน ซิว ไม่ใช่เพื่อ ฟาง เจิ้งจือ งั้นหรือ?”
”ใช่แล้ว!”
”พวกเรายังไม่ค่อยเข้าใจท่านอธิบายให้กระจ่างได้หรือไม่” เจ้าหน้าที่ยังคงสับสนอยู่
”เหยียนเฉียนหลี่ อายุมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงจำต้องวางแผนถึงอนาคตของดินแดนเหลียงตะวันตก ข้าคิดว่าเขาคงส่งมอบหน้าที่ให้กับ เหยียน ซิว”รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายอธิบาย
”ยกเหลียงตะวันตกให้เหยียน ซิว? รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ข้าเกรงว่าเรื่องนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถตัดสินใจได้ เหตุผลว่าทำไมเขาถึงเป็นผู้นำของดินแดนเหลียงนั่นเป็นเพราะเขาคือ เหยียน เฉียนหลี่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาทั้งตระกูลเหยียนยังคงถือว่าเป็นคนนอกสำหรับที่นั่นอยู่ดีแม้ว่าจักรพรรดิต้องการให้ตระกูลเหยียนเป็นผู้ปกครองต่อไป ข้าก็มั่นใจว่าเขาจะส่งหน้าที่ให้หนึ่งในกองตรวจการไปคอยควบคุมที่นั่นด้วย”
เจ้าหน้าที่เริ่มแสดงความคิดเห็น
”ใช่แล้ว!นั่นแหละปัญหา!” ยู่ ยี่ปิง พยักหน้า
”รัฐมนตรีท่านหมายถึง …”
”เหยียนเฉียนหลี่ สามารถควบคุมเหลียงตะวันตกได้โดยไม่เกิดการรุกรานเลยในหลายสิบปีที่ผ่านมา ท่านคิดหรือว่าเขาจะยอมให้ 13 กองตรวจการ ไปโผล่ขึ้นที่นั่น?”ยู่ ยี่ปิง ถาม
”ไม่”เจ้าหน้าที่ตอบกลับโดยไม่ลังเล
”ใช่แล้วเหยียน เฉียนหลี่ ไม่มีทางปล่อยให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น ดังนั้นใครก็ตามที่สามารถช่วยเขาให้บรรลุเป้าหมายได้ เขาก็จะสนับสนุนให้ผู้นั้นขึ้นครองบัลลังก์!”
”เข้าใจแล้วเหยียน เฉียนหลี่ อาจจะไปที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร เขากำลังรอคนที่สามารถช่วยเขาได้!”เจ้าหน้าที่เข้าใจได้
”รัฐมนตรีท่านช่างฉลาดยิ่ง!”เจ้าหน้าที่คนอื่นพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ
”แม้ว่าเหยียน เฉียนหลี่ ยังไม่ได้ตัดสิใจ แต่เขาก็ยังเดินทางมาพร้อมกับ ฟาง เจิ้งจือเราจะทำยังไงกันดี?”เจ้าหน้าที่อีกคนถาม
”พวกเรายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้หาก เหยียน เฉียนหลี่ ยังไม่ได้เลือกเขา!”รัฐมนตรี ยู่ ยี่ปิง กล่าว
”พวกเราชอบแผนการของท่าน!”เจ้าหน้าที่ลุกขึ้นยืนคำนับให้รัฐมนตรียู่ ยี่ปิง
”วันพรุ่งนี้ในตอนเช้าท่านไปเสนอจักรพรรดิให้จัดงานเลี้ยงฉลองเพื่อเป็นเกียรติแก่เหล่าผู้อาวุโสที่ ทะเลสาบนอกเมือง!”ยู่ ยี่ปิง เสนอ
”งานเลี้ยง?ทำไมไม่จัดที่วัง?”เจ้าหน้าที่สับสน
”ตระกูลเหยียนพบกับความสูญเสียมากที่สุดที่ทะเลสาบนอกเมืองถ้าไม่ใช่เพราะแนวป้องกันที่กล้าหาญ เมืองหลวงคงไม่เป็นเหมือนที่เราเห็นทุกวันนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือพี่น้องของ เหยียน เฉียนหลี่ ทั้งห้าคนเสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งนั้น เขาไม่มีทางปฏิเสธคำเชิญที่อย่างแน่นอน!”
รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายยืนยัน
เจ้าหน้าที่คนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย
”รัฐมนตรีฝ่ายซ้ายท่านช่างฉลาดนัก องค์รัชทายาท ถ้างานเลี้ยงจัดขึ้นที่ ทะเลสายสิบลี้ เหยียน เฉียนหลี่ จะเข้าร่วมอย่างแน่นอน และพวกเราจะได้เปรียบ นอกจากนี้บุคคลภายนอกจะไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วม ”
”เปลี่ยนความคิดของเขา!แผนการที่ยอดเยี่ยม!”่
”แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อ?”
เจ้าหน้าที่หันไปมองรัฐมนตรียู่ ยี่ปิง อีกครั้ง
”ฆ่า!”ยู่ ยี่ปิง ตอบ
”ฆ่า?ทะเลสาบลี้นั้นห่างออกไปจากเมืองหลวงแค่ครึ่งวัน ยิ่งไปกว่านั้น ฉือ เฮา ปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ อยู่ เราจะเอาตัวเขามาได้ยังไง?” เหล่าเจ้าหน้าที่ตกใจมาก
”อย่างที่ท่านว่าน ฉง ได้กล่าวไปแล้ว คดีของ ฟาง เจิ้งจือ ถูกปิดไปแล้ว พวกเราไม่ต้องถามองค์จักรพรรดิอีกต่อไป” ยู่ ยี่ปิง มองไปที่ ว่านฉง
”ท่านต้องการให้ข้าจับฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่เขาจะเข้ามาในเมืองใช่ไหม?”ว่าน ฉง ถามขึ้นมา
”ไม่เจ้าต้องจับเขาที่ประตูโดยมีพยานรอบๆ!”
”ที่ประตูเมือง?พยาน?”
”ใช่นั่นเป็นวิธีเดียวที่ฉือ เฮา จะไม่สามารถหยุดเจ้าได้ เจ้าเพียงแค่ทำตามกฎหมาย เขาไม่สามารถฝ่าฝืนได้ ยิ่งไปกว่านั้นการที่เจ้าจับ ฟาง เจิ้งจือ ต่อหน้าผู้คน ฉือ เฮา ต้องคิดวาเจ้าไม่กล้าทำอะไร ฟาง จิ้งจือ แน่นอน!”
”อืมสมเหตุสมผล แล้วหลังจากนั้นล่ะ เราจะทำอะไรกับ ฟาง เจิ้งจือ?” ว่าน ฉง พยักหน้า
”ที่กรมของเจ้าไม่ได้มีวิธีการอยู๋แล้วหรอกรึ?”
”แต่… ถ้าเราจับเขาต่อหน้าพยานแล้ว … ”
”เจ้ากลัวถูกตำหนิงั้นรึ?”
”ข้า…”
”ท่านว่านไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่ ฟาง เจิ้งจือ ตาย เหยียน เฉียนหลี่ ไม่มีทางสนใจเรื่องมิตรภาพระหว่าง ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว เหยียน เฉียนหลี่ จะสนับสนุนองค์รัชทายาทด้วยซ้ำ ถ้าเจ้าทำตามที่ข้าพูดได้ องค์รัชทายาทต้องโปรดปรานเจ้าและตบรางวัลให้เจ้าอย่างงามเป็นแน่”
”ข้าเข้าใจแล้วงั้นข้าจะไปจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองเลย” ว่าน ฉง กัดฟัน ก่อนจะเดินออกไป
เจ้าหน้าที่คนอื่นยิ้มด้วยความเคารพให้กับยู่ ยี่ปิง และองค์รัชทายาท
”ข้ามั่นใจว่าฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางคาดเดาได้ว่าเขาจะถูกจับตัวที่หน้าประตูเมือง”
“แม้ข้าเองยังคาดไม่ถึงด้วยซ้ำ”
”เขาไร้เดียงสาเกินไป!หากเขาคิดว่าจะเข้ามาในเมืองได้กลางวันแสกๆเพราะมี กองตรวจกาศักดิ์สิทธิ์และตระกูลเหยียน ปกป้องเขาแล้วล่ะก็ เขาคิดผิด!”
”ท่านรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายช่างชาญฉลาดยิ่งนัก!”
เจ้าหน้าที่ต่างแสดงความชื่นชม
ยู่ยี่ปิง ยิ้มเมื่อได้ยิน เขารู้ว่าองค์รัชทายาทคิดอะไรอยู่
เขาไม่สบายใจตราบใดที่ฟาง เจิ้งจือ ยังมีชีวิตอยู่
ฟางเจิ้งจือ ต้องถูกกำจัด
เขายินดีที่จะสละรัฐมนตรีกรมกฎหมายเพื่อแลกกับฟาง เจิ้งจือ ความจริงองค์รัชทายาทยอมเสียรัฐมนตรีทั้งหกเพื่อจะได้จัดการกับ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยซ้ำ
เมื่อเรื่องนี้จบลงจะไม่มีอะไรมาขวางทางเขาได้อีก!