Fishing in the Myriad Heavens - ตอนที่ 267
บทที่ 627 นักแสดงยอดเยี่ยม ผู้อาวุโสนิกายอสูรแรกเริ่ม
พื้นที่ขนาดใหญ่เต็มไปด้วยกลุ่มมหาอำนาจ ซึ้งทั้ง 12 กลุ่มก็มาจากดินแดนขนาดใหญ่ พวกเขามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและทั้ง 12 กลุ่มต่างเป็นทั้งศัตรูและสหายที่ต่อสู้กันเองมานานหลายพันปี
ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นแตกต่างกันออกไป แต่มันมีความเป็นไปได้ที่จะลดความแตกต่างที่ว่าด้วยการส่งเสริมลูกหลานหรือรุ่นเยาว์ของพวกเขาเพื่อลดจุดด้อยของตัวเองลง
ทั้ง 12 กลุ่มต่อสู้กันเองบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่มีการคุกคามจากภายนอก พวกเขาจะรวมตัวกันเพื่อขับไล่ภัยคุกคามนั้นออกไป
พวกเขาคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี พวกเขาเป็นอัจฉริยะรุ่นก่อนที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกันจนกระทั่งมีพลังระดับหมื่นปี
สหายเก่าอย่างนิกายอสูรแรกเริ่มนั้นทุกคนคุ้นเคยกับเขาดี
แต่ถึงแม้ว่าจะคุ้นเคยกัน แต่พวกเขาก็ยังต้องระงับความอยากที่จะต่อยหน้ากันทุกครั้งที่พูดคุยกัน
ผู้มีพลังระดับหมื่นปีของนิกายอสูรแรกเริ่มอาจดูเหมือนเป็นพวกอารมณ์แปรปรวน แต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนช่างพูดและเขาจะพูดแต่เรื่องไร้สาระ
เป่ยเฟิงอยากจะหัวเราะเสียงดัง คำพูดพวกนี้ดูคุ้นเคยจริง ๆ เขาคงไม่ใช่พระถังซังจั้งที่น่าเคารพจากนวนิยายชื่อดังใช่ไหม ?
เทียนหยวนมองผู้อาวุโสตระกูลฉิงด้วยความผิดหวัง จากนั้นก็หันไปถามเป่ยเฟิง “เด็กน้อย เจ้าจะว่ายังไง เจ้าสนใจจะติดตามข้าไปหรือไม่ ข้ารับประกันเลยว่าเจ้าจะได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหราแน่นอน”
“ผู้อาวุโส ท่านแน่ใจนะว่าข้าจะมีชีวิตอย่างหรูหราหากข้าติดตามท่านไป ?” เป่ยเฟิงถามด้วยสีหน้าแปลก ๆ บนใบหน้า
“แน่นอน ทำไม ? เจ้าไม่อยากไปงั้นหรือ ? กายาของเจ้ามันแข็งแกร่งจริง ๆ มันจะเป็นการสูญเสียอย่างมากหากเจ้าไม่เข้าร่วมนิกายอสูรแรกเริ่มของเรา”
เป่ยเฟิงยิ้มเยาะในใจ ปากของเจ้าบอกจะให้ข้าใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ? มันคงจะดีไม่น้อยหากไม่ใช่เพราะการที่เจ้าชอบทำให้คนอื่นโมโหจนอยากจะฆ่าขนาดนั้น
ปากของผู้อาวุโสนิกายอสูรแรกเริ่มนี้น่ารังเกียจเกินไปจริง ๆ
มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้าหากเป่ยเฟิงต้องซวยในอนาคตเพราะปากของสหายผู้นี้
ศัตรูของเขาจะทำอย่างไรหากไม่สามารถเอาชนะเขาแทนได้ ? ไม่ยาก จัดการเป่ยเฟิงแทนยังไงล่ะ !
อย่าว่าแต่การใช้ชีวิตด้วยความหรูหราเลย บางทีเขาอาจถูกไล่ทุบตีตลอดทั้งวันเลยก็ว่าได้ !
ภาพนั้นปรากฎในหัวของเป่ยเฟิง
“ผู้อาวุโส ความจริงแล้วข้ามีนิกายที่ต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว” เป่ยเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มอาย ๆ
“ฮ่าฮ่า เทียนหยวน พูดต่อไปซะ ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้และจะไม่พูดอะไรสักคำ”
“ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด !”
ถึงแม้เสียงของเป่ยเฟิงจะเบา แต่ทุกคนก็ได้ยินเสียงของเขา
เป่ยเฟิงไม่ได้ตั้งใจจะซ่อนอะไรจากพวกเขา
เทียนหยวนเงยหน้าและพูดขึ้น “เจ้าจะไปสนใจพวกนั้นทำไม ? นิกายพวกนั้นไม่ดีหรอก ถึงเจ้าจะคิดว่ามันเหมาะกับเจ้า แต่ความจริงแล้วมันไม่มีทางเหมาะไปกว่านิกายอสูรแรกเริ่มหรอก !”
“ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องการเจ้า แต่พวกเขาก็ไม่มีทางแข็งแกร่งกว่านิกายอสูรแรกเริ่มของข้า !”
“ด้วยกายาที่ทรงพลังของเจ้า หากเจ้าเข้าร่วมนิกายอสูรแรกเริ่มของข้า นิกายของเราจะมอบทักษะกลั่นกายานับไม่ถ้วนให้กับเจ้า เมื่อเจ้ากลั่นกายาจนถึงระดับสูงสุด จะไม่มีใครทำอะไรเจ้าได้ !”
คำพูดเหล่านั้น แน่นอนว่ามันสามารถปลุกเร้าความตื่นเต้นของคนที่ฟังได้อย่างดี
แม้ว่าเทียนหยวนอาจจะดูเหมือนโง่ แต่ความจริงแล้วตัวเขาฉลาดมาก เขายกย่องตัวเองในใจถึงหลักการพูดอันสุดยอดของเขา
เป่ยเฟิงพยายามพูดแทรกหลายครั้ง แต่เขาก็ถูกขัดจังหวะทุกครั้ง
ในที่สุดเป่ยเฟิงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกปีศาจถึงอยากจะตัดกระเพาะของพระถังซังจั้งจากนั้นก็เอาอวัยวะภายในของเขามาพันรอบคอ
หลังจากพูดมาจนหมด เทียนหยวนรู้สึกว่าตัวเองทำได้ถูกต้องแล้ว ไม่มีทางที่เด็กคนนี้จะไม่สนใจ !
“ว่าแต่ นิกายที่เจ้าเลือกตอนแรกคือนิกายอะไร ?”
เทียนหยวนรู้สึกว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว จากนั้นก็ถามถึงนิกายของเด็กน้อยคนนี้ให้รู้ก่อนว่าต้องการเข้านิกายไหน จากนั้นก็จะใช้ “ความรู้ระดับมืออาชีพ” ของเขาในการทำลายข้อดีข้อเสียของนิกาย เด็กคนนี้ก็จะรู้ได้ทันทีว่าควรเลือกอะไร
“ผู้อาวุโส นิกายที่ข้าเลือกก็คือนิกายสวรรค์นิรันดร์”
เป่ยเฟิงถอนหายใจอย่างโล่งอก นี่มันจะทรมานเกินไปแล้ว บัดซบ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่สามารถเอาชนะสหายตัวใหญ่คนนี้ได้ เขาคงพยายามยัดหมัดของเขาเข้าไปในปากของอีกฝ่ายไปแล้ว !
“อ่อ ที่แท้ก็นิกายสวรรค์นิรันดร์ ? ข้าจะบอกเจ้าให้นะว่า .. เอ๋ ?”
เทียนหยวนกำลังจะพูด แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดพูดด้วยความตกใจ
“อุฟ ฮ่าฮ่า ! เทียนหยวน แกเลียนแบบเป็ดหรือยังไง ? มันดูเหมือนมากทีเดียว !”
ผู้อาวุโสตระกูลฉิงมองอยู่ด้านข้างหัวเราะเสียงดัง ในเวลาเดียวกันเขาก็มองเป่ยเฟิงและส่ายหัวเล็กน้อย
“หุบปาก !” หลังจากตกใจเป็นเวลาหลายวินาที ในที่สุดเทียนหยวนก็ได้สติ เขาคำรามใส่ผู้อาวุโสตระกูลฉิงอย่างไร้ความปราณี
“เด็กน้อย เจ้ากำลังล้อข้าเล่นใช่ไหม ? หากเจ้าไม่อธิบายมาละก็ วันนี้หมัดของข้าจะประทับอยู่บนใบหน้าของเจ้า !”
เทียนหยวนจ้องมองเป่ยเฟิงด้วยความขุ่นเคืองราวกับเขารู้สึกเหมือนถูกหลอก
เด็กคนนี้พูดว่าอะไรนะ ? อยากจะเข้านิกายสวรรค์นิรันดร์ ?
ข้าก็ต้องการเข้าร่วมนิกายสวรรค์นิรันดร์ด้วยเช่นกัน ! แต่ข้าเข้าไปไม่ได้
ข้าไม่มีคุณสมบัติแม้แต่การเป็นคนทำความสะอาดใบไม้ที่นั่นให้พวกเขา !
ในบรรดานิกายระดับสูงสุดทั้ง 13 นิกาย พวกเขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนิกายที่แข็งแกร่งที่สุด หากเทียบกับนิกายอสูรแรกเริ่มมันก็เสมือนนิกายอสูรแรกเริ่มเป็นเพียงแค่มดที่พวกเขาสามารถฆ่าได้ด้วยนิ้วเดียว
“นี่คือตราที่ใช้ในการทดสอบการเข้าร่วมนิกายสวรรค์นิรันดร์ จนกว่าจะถึงวันทดสอบแล้วมันจะไม่มีวันหายไป”
เป่ยเฟิงสะบัดมือจากนั้นสัญลักษณ์บางอย่างก็ปรากฎในมือของเขา
ตรานี้ไม่ใหญ่ แต่ออร่าของมันทำให้เทียนหยวนต้องหดตัวลง
หัวของตราถูกประดับด้วยต้นสนสีเขียวเสมือนจริงที่แลดูซับซ้อน มันดูโบราณ เก่าแก่และถูกปกคลุมไปด้วยเปลือกไม้ร้าว
ด้านหลังของตรามีคำสี่คำสลักอยู่ด้วยภาษาโบราณ แต่ละคำมันเด่นชัดจนน่าตกใจ !
“ฮึ่ม !”
เทียนหยวนหันไปมองเขาอย่างเย็นชาก่อนจะหันไปมองทางอื่น
บนใบหน้าของเทียนหยวนนั้นแม้ว่าจะเย็นชาและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่ความจริงแล้วใจเขาเต้นแรงมาก นี่มันน่าอึดอัดเกินไปแล้ว ! แต่ ข้าชักจะสงสัยแล้วว่าการแสดงของข้าตอนนี้สมควรหรือไม่ …
เทียนหยวนไม่ได้โกรธ แต่ทำไปโดยปกปิดความอึดอัดใจของเขา
แม้ว่าเขาจะมีตราที่ใช้ทดสอบเข้านิกายสวรรค์นิรันดร์ แต่ก้ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทดสอบผ่าน แต่ถึงอย่างนั้นเทียนหยวนก็เศร้าใจอย่างมาก
นั่นคือนิกายสวรรค์นิรันดร์ ! นิกายโบราณที่มีรากฐานที่ลึกล้ำอย่างเหลือเชื่อ !
สิ่งที่โชคร้ายที่สุดคือในบรรดานิกายทั้งหมด นิกายสวรรค์นิรันดร์เป็นที่รู้จักกันดีว่าเข้าร่วมยากมากเป็นพิเศษ
ถึงอย่างนั้นเด็กคนนี้กลับมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการทดสอบเข้านิกายสวรรค์นิรันดร์ นั่นหมายความว่าเขามีคุณสมบัติและพรสวรรค์ที่เหนือผู้อื่น !
ยิ่งเทียนหยวนคิดเรื่องนี้ มันก็ทำให้เขามีแนวโน้มว่าอยากจะทำความรู้จักเป่ยเฟิงมากยิ่งขึ้น
แต่เมื่อเขานึกถึงคำพูดที่พูดไป มันก็ทำให้เขาอึดอัดเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ทิ้งมันไปแล้วหันกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เขาตัดสินใจได้แล้ว
อีกฝ่ายต้องมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมแน่นอน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมนิกายสวรรค์นิรันดร์ได้ แต่เขายังคงเป็นต้นกล้าชั้นยอด
เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะส่งคนจากนิกายมารับเด็กคนนี้เพื่อเข้าร่วมกับนิกาย
สำหรับความเป็นไปได้ที่เด็กคนนี้จะผ่านการทดสอบของนิกายสวรรค์นิรันดร์ มันไม่ได้อยู่ในความคิดของเขา
มันยากเกินไปที่จะทดสอบผ่าน มันยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นไปบนสวรรค์ !
มีผู้คนจำนวนไม่มากที่เข้าร่วมการทดสอบทุกปี อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดมีกี่คนกันที่ผ่านการทดสอบ ?
ข้อกำหนดของนิกายสวรรค์นิรันดร์นั้นสูงเกินไป และเทียนหยวนคิดว่าเป่ยเฟิงนั้นไม่สามารถผ่านไปได้แน่นอน
เมื่อเป่ยเฟิงล้มเหลว เทียนหยวนก็จะมีโอกาสที่จะรับเขาเข้าร่วมกับนิกายอสูรแรกเริ่ม
การไม่สามารถผ่านการทดสอบของนิกายสวรรค์นิรันดร์ไม่ได้หมายความว่าเขาไร้ความสามารถ แต่มันหมายถึงความสามารถของเขาไม่เพียงพอ !
ซึ้งผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการทดสอบของนิกายสวรรค์นิรันดร์นั้น ส่วนมากจะเป็นอัจฉริยะที่น่าทึ่งซึ้งจะปรากฎเพียงครั้งเดียวในทุก ๆ 100 ปี !
นอกจากนี้ เป่ยเฟิงยังมีกายาที่ทรงพลังซึ้งตรงกับจุดแข็งของนิกายอสูรแรกเริ่ม บางทีเขาอาจมีหนทางนำนิกายไปยังจุดสูงสุดเลยก็ว่าได้หากเขาเข้าร่วมกับนิกายอสูรแรกเริ่ม
เทียนหยวนกำลังวางแผนจะบอกคนในนิกายของเขาถึงการค้นพบสิ่งนี้ เขาเต็มไปด้วยความหวังว่าเขาจะสามารถต้อนรับเป่ยเฟิงให้เข้าร่วมกับนิกายของเขาได้ !
แน่นอนว่านิกายสามารถเลือกศิษย์ที่จะเข้าร่วมนิกายได้ด้วยเช่นกัน !
ปกติแล้วผู้ที่มีพรสวรรค์ธรรมดา ๆ จะต้องอยู่ภายใต้การคัดเลือกของนิกาย แต่สำหรับเหล่าอัจฉริยะแล้ว พวกเขามีสิทธิ์ในการเลือกที่จะเข้าร่วมนิกายใดก็ได้
และเป่ยเฟิงเป็นคนที่มีความสามารถเพียงพอจนสามารถเข้าร่วมการทดสอบเข้านิกายสวรรค์นิรันดร์ได้ นั้นหมายความว่าเขาสามารถเลือกเข้านิกายใดก็ได้ !
ตอนนี้เป่ยเฟิงยังไม่รู้ว่าเขาถูกหมายหัวเอาไว้ เขาทำได้เพียงแค่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
เป่ยเฟิงมองผู้อาวุโสตระกูลฉิงและพูดอย่างจริงจัง “ผู้อาวุโสล้อข้าเล่นแล้ว ข้ามีความตั้งใจในเส้นทางการฝึกฝน ข้าไม่เคยคิดถึงเรื่องความรักมาก่อนเลย”
ในใจเขาได้แต่เย้ยหยัน
สำหรับผู้ที่อยู่แนวหน้าแล้ว ทำไมเจ้าไม่ถึงรักษาทัศนคติของมืออาชีพนั้นไว้จนถึงที่สุดกัน ? ทำไมเจ้าถึงทำให้ข้ารู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับพวกหลอกลวงกัน ?
เป่ยเฟิงมองผู้อาวุโสตระกูลฉิงที่กำลังกระตือรือร้น เขากำลังแนะนำหลานสาวของเขาอย่างดุเดือด เป่ยเฟิงทำได้แค่ส่ายหัวในใจ