Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 267
Chapter 267: มังกรร้าย
“ขอรับท่าน!”
นายตรวจที่ตามซูเหรินมานั้นซูเหรินตกรางวัลหนักให้ พวกเขาเดินตรงเข้าไปด้วยท่าทางดุร้าย คว้าตัวหมอผี แล้วโยนนางลงไปในน้ํา
หมอผีดิ้นรน แต่สุดท้ายแล้วนางก็เป็นเพียงหญิงร่างผอมที่ถูกโยนลงแม่น้ําลึก หลังจากกรีดร้องหลายครั้ง นางก็จมลงไปในน้ําและไม่โผล่ขึ้นมาอีกเลย
ชาวบ้านที่เป็นผู้ที่มอบเครื่องสังเวยออกไปล้วนตกตะลึง
แม้ว่าพวกเขาจะเคยเห็นการลงทัณฑ์ทรมานไร้เหตุผลของเจ้าหน้าที่ทางการมาก่อน แต่ทัณฑ์ทรมานเหล่านั้นล้วนเกิดกับคนที่อ่อนแอและยากจน ไม่กล้าขัดแย้งกับเทพเจ้า
แต่ตอนนี้ นายอําเภอคนใหม่เพิ่งสังเวยหมอผีให้กับเทพวารีใช่หรือไม่?
ภายในไม่กี่วินาที คนที่ขี้ขลาดที่สุดในกลุ่มพวกเขาก็เริ่มกระวนกระวาย
“โอ? หมอผีนั่นไม่กลับมา นางลืมพวกเราไปแล้ว? ใครสักคนลงไปดูหน่อยดีหรือไม่?”
หลังจากช่วยเด็กสองคนจากการกลายไปเป็นเครื่องสังเวย ซูเหรินก็ยิ้มเยาะ
ไม่มีใครกล้าสบตากับเขา
“โผละ! โผละ!”
ในตอนนี้เอง ผิวน้ําที่สงบนิ่งเริ่มมีฟองอากาศผุดขึ้นมา
เงาดําเงาหนึ่งลอยขึ้นมาพร้อมฟองอากาศ มีเลือดและเศษผ้า เป็นภาพที่น่ากลัว
“อุแง!”
เสียงเหมือนเด็กร้องดังเสียดแก้วหู
“เป็นเทพวารี! เทพวารีพิโรธแล้ว!”
ชาวบ้านล้วนตระหนก บางคนมองซูเหรินอย่างเกลียดชัง
“อิ่ม! หากไม่ใช่เพราะข้ายังมีระดับต่ํานัก ข้าจะกําจัดการส่งสังเวยอันเลวร้ายเช่นนี้ไปให้หมด!”
ซเหรินนั้นรักษากริยาสงบ ความคิดกระจ่าง
ในเมื่อเขาพาคนมาด้วยเพื่อขัดขวางการส่งเครื่องสังเวย เขาย่อมมีการเตรียมพร้อมมาก่อน
ถึงตอนนี้ ที่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ํา เงาดําวูบขึ้นขณะฟางหยวนกระโจนลงไปในน้ํา
เขาเร็วมากและยังพุ่งตรงไปทางเทพวารี แล้วเขาก็ได้เห็นว่าเทพวารีนั้นมีหน้าตาเยี่ยงไร
มันยาวประมาณสิบฉือ มีสีดําสนิท หัวแบน และขาสี่ข้าง มันคือกิ้งก่ายักษ์ชนิดหนึ่ง
“อุแงิ!”
กิ้งก่ายักษ์กินหมอผีลงไปและต้องการส่งน้ําขึ้นมาท่วมเหล่าชาวบ้านที่ริมฝั่ง ทันทีที่มันเห็นฟางหยวน มันก็นิ่งไปและกรีดร้องเสียงราวกับทารก
“ชั่วร้ายมาก!”
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกาย “เคล็ดหอกวารี!”
“ฝูบ!”
ตอนนี้เขาควบคุมน้ําได้อย่างละเอียดและทรงพลัง และหอกน้ําที่เขาร่ายออกไปนั้นก็มีสีฟ้าและแข็งแกร่งยิ่งกว่าก่อนหน้า
“อุแง?”
กิ้งก่ายักษ์รู้ว่าหอกน้ําเล่มนี้ร้ายกาจมาก มันกรีดร้องและไข่มุกสีขาวหลายเม็ดก็พุ่งออกจากปากของมัน
ไข่มุกเป็นประกาย มีเงาของจิตวิญญาณเด็กชายและเด็กหญิงปรากฏขึ้น แต่ว่า เด็ก ๆ กลับมีดวงตาแดงก่ํา ฟันคมกริบ มีกรงเล็บ และยังปกป้องกิ้งก่ายักษ์เอาไว้
“วิญญาณรับใช้งั้นรึ?”
ฟางหยวนอึ้งไป
เคยมีคําพูดเมื่อนานมาแล้วถึงการ รับใช้พยัคฆ์” นี่หมายถึงจิตวิญญาณแข็งแกร่งกินคนและตรึงวิญญาณของพวกเขาเอาไว้ เปลี่ยนเขาไปเป็นคนรับใช้ของตนเอง
นี่เป็นสิ่งที่กิ้งก่ายักษ์ทํา
นอกจากนี้ เห็นไข่มุกทั้งหมดตรงหน้าแล้ว จํานวนมนุษย์ที่กิ้งก่ายักษ์สังหารไปนั้นช่างน่าตกใจนัก
เห็นแล้วฟางหยวนก็ตะลึง “เจ้าปิศาจ เจ้าทําบาปหนานัก ถึงสวรรค์จะปล่อยเจ้าเอาไว้ แต่ข้าไม่!”
อันที่จริง หลังจากเข้าใจวัฏจักรของอาณาจักรนี้ว่าจะเกิดการล่มสลายของเหล่าปิศาจและมนุษย์จะรุ่งเรืองขึ้น การกระทําทั้งหมดของฟางหยวนนั้นก็โน้มเอียงไปทางช่วยเหลือมนุษย์ ในเมื่อกิ้งก่ายักษ์สังหารมนุษย์ไปมากมาย พลังชะตาของมันย่อมอ่อนลงและย่อมต้องพบกับจุดจบ ดังนั้น การสังหารกิ้งก่ายักษ์ตัวนี้จึงไม่ซับซ้อน และยังไม่ต้องกังวลถึงผู้มีอํานาจเบื้องหลังที่มันอาจจะมี
นี่คือการลงมือกระทําตามเจตนารมณ์ของสวรรค์ ซึ่งทําให้ทุกเรื่องนั้นง่ายขึ้น หากใครขึ้นเจตจํานงของสวรรค์ มันไม่เพียงจะยากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่ยังต้องเตรียมเผชิญหน้ากับทัณฑสวรรค์ด้วย
“ปั่นป่วน!”
ขณะเขารวบรวมพลังปิศาจของตน ที่ปลายหอกวารีก็เกิดคลื่นขึ้น
จิตวิญญาณของเด็กชายเด็กหญิงนิ่งไปและหยุดอยู่กับที่
“อ้า!”
เมื่อจิตวิญญาณเหล่านั้นถูกทําลาย หอกวารีก็พุ่งต่อและแทงทะลุเข้าร่างของกิ้งก่ายักษ์ มันกรีดร้องยาวอย่างเจ็บปวด และร่างพลังหยินของมันก็ปรากฏขึ้น “เจ้าสังหารข้าไม่ได้! ข้าเป็นเทพวารีแห่งเฮยเจ่ออย่างเป็นทางการ ได้รับการแต่งตั้งจากราชสํานัก!”
“ไปตายซะ!”
ร่างพลังหยินของฟางหยวนปรากฏขึ้นแล้วตวัดกรงเล็บออกไปบดขยี้ร่างพลังหยินของกิ้งก่ายักษ์เอาไว้ใน
“ปด! ปิด!”
ทันทีที่ร่างพลังหยินตายลง กิ้งก่ายักษ์ก็หมดลมหายใจและเริ่มจมลงไป
จิตวิญญาณมากมายในไข่มุกลอยขึ้น หากปล่อยไว้ไม่ทําอะไร พวกเขาก็จะกลายไปเป็นวิญญาณวารีกลุ่มหนึ่งและก่อปัญหาให้ผู้คน
“เฮ่ยย…”
ฟางหยวนปล่อยกระแสน้ําออกไปแล้วรวบรวมไข่มุกเอาไว้ด้วยกัน
“ดูเหมือนไข่มุกเหล่านี้จะทําจากกระดูกมนุษย์ ทุก ๆ เม็ดมีจิตวิญญาณถูกผนึกเอาไว้ มันต้องใช้เพลิงปิศาจหลอมไข่มุกเหล่านี้แล้วเปลี่ยนพวกเขาไปเป็นวิญญาณรับใช้อันทรงพลัง…”
ขณะที่เขาคิดถึงเคล็ดวิชาที่เคยอ่านมา เขาก็ปล่อยเจตจํานงเวทย์ออกไปสัมผัสกับไข่มุกกระดูกเหล่านี้
“แกร่ก!”
หลังจากเสียงระเบิด พลังปิศาจของกิ้งก่ายักษ์ก็ถูกกําจัดออกจากไข่มุกกระดูก และจิตวิญญาณจากไข่มุกทั้งสี่สิบเก้าเม็ดก็ได้รับการปลดปล่อย
“ผนึก!”
แม้ว่าวิชาจะต่างกัน ฟางหยวนก็ยังสามารถใช้เคล็ดวิชาทั่วไปผนึกจิตวิญญาณได้ เขาชี้ปลายนิ้วไปทางจิตวิญญาณหลายดวงนั้นอย่างรวดเร็ว
“ว็ดด!”
จิตวิญญาณอันทรงพลังส่วนมาแล้วไม่ยินยอมที่จะถูกผนึก แต่ทว่าก็อ่อนแอเกินกว่าจะสู้กลับได้ ในเมื่อพวกเขาทั้งหมดล้วนถูกตีตราตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกหลอมไปเป็นไข่มุก พวกเขาจึงย่อมไม่มีกําลังพอจะขัดขืน ไม่ช้า ทั้งหมดก็ถูกบรรจุลงในไข่มุกของตน และถูกร้อยเข้าด้วยกันเป็นสร้อยเส้นหนึ่ง
“แม้ว่านี่จะโหดร้าย แต่ก็ยังใช้การได้…”
ฟางหยวนส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วมองไปในน้ํา
เขามองเห็นอักขระเวทย์หลายตัวส่องประกายสีแดง และมันก็ก่อร่างขึ้นเป็นยันต์
“ป้ายบัญชาสูงสุด? และยังการฝึกตนอีกหลายปีของกิ้งก่ายักษ์?”
เมื่อคิดดูแล้ว เขาก็ไม่เข้าไปรับเอาป้ายบัญชาสูงสุดนั่นมาโดยตรง แต่กลับใช้เคล็ดวิชากับมันและยันต์ ก่อเกิดเป็นกล่องหยกแข็งล้อมรอบก่อนจะลอยมาตกในมือของเขา
“มันไม่ได้ดูทรงพลังนัก… เป็นไปได้ไหมว่าเพราะมันเป็นเพียงป้ายภายใต้อํานาจประเทศต่าฉ่?”
เทียบกับเทพวารีแห่งทะเลสาบฉีแล้ว ฟางหยวนบอกความแตกต่างได้ “เทพที่แท้จริงต้องได้รับมอบหมายจากสวรรค์จึงจะนับว่าถูกต้อง! หากเป็นเช่นเทพวารีนี้ ก็เป็นเพียงของปลอมและหากได้รับความเห็นชอบจากสวรรค์ก็เพราะโชคช่วยเท่านั้น หากวันนี้กิ้งก่ายักษ์สามารถใช้พลังวิญญาณจากแม่น้ําเฮยเจ๋อได้ ข้าคงไม่สามารถเอาชนะมันได้โดยง่ายเช่นนี้…”
“แต่ว่า ในเมื่อวัฏจักรของอาณาจักรนั้นโน้มเอียงไปทางสหายเต่ มันย่อมง่ายอย่างยิ่งที่จะได้รับตําแหน่งจากสวรรค์หากข้าให้การปกป้องมนุษย์!”
นี่คือวัฏจักรของอาณาจักรนี้
เพื่อที่จะให้เทพที่ทรงธรรมแข็งแกร่งและทรงพลังมากขึ้นพวกเขาต้องช่วยเหลือมนุษย์!
คงจะต้องสัมผัสให้รู้ด้วยตนเองถึงพลังจากสวรรค์ที่ถึงจะช้าแต่ว่าทรงอํานาจมากนัก!
ก็คงจะเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อยเหล่านี้สะสมกันจนเหนี่ยวนําให้เกิดวัฏจักรนี้ขึ้นมา
“ในอีกสิบปีข้างหน้า จะมีผู้กล้าและจิตวิญญาณแห่งพลังเกิดมาในหมู่มนุษย์! และเหล่าปิศาจก็จะเกิดความขัดแย้งภายในและเสื่อมโทรมลง… นี่คือชะตากรรม!”
ความคิดของฟางหยวนวิ่งวุ่น หากเขาสามารถดําเนินไปตามแนวโน้มนี้ได้ เขาย่อมได้ประโยชน์
แน่นอนว่าอย่างแรกเลย เขาต้องเข้าครอบครองที่พักใต้น้ําของกิ้งก่ายักษ์
ที่พักใต้น้ํานั้นเป็นถ้ําขนาดใหญ่ที่มีกระแสน้ําค่อนข้างแรงที่ด้านนอกเพื่อเป็นปราการชั้นหนึ่ง
“อืม… นี่เป็นพื้นที่ที่ดีทีเดียวและพลังวิญญาณที่นี่ยังค่อนข้างเข้มข้นด้วย เป็นสถานที่ที่ดีพอที่จะให้ข้าได้พักอยู่สักระยะ! สิ่งเดียวเลยก็คือกระแสน้ําป้องกันที่นี่ค่อนข้างอ่อน ข้าจะต้องเพิ่มการป้องกันของที่นี่ในภายหลัง!”
งูดํานั้นเป็นงูน้ํา และดังนั้นจึงสามารถเคลื่อนไหวได้น้ําได้ดีมาก
หลังจากสํารวจที่นี่แล้ว ฟางหยวนก็ตัดสินใจกําจัดเอาซากศพและกระดูกออกไปจากที่พักก่อนที่จะกลับไปที่ผิวน้ํา
“ท่านผู้มีพระคุณ?”
ซูเหรินนั้นไล่ชาวบ้านออกไปแล้วและสั่งให้นายตรวจยืนระวังอยู่ไกล ๆ เขากําลังรออยู่ที่ริมฝั่งด้วยตนเอง
เห็นฟางหยวนผุดขึ้นจากแม่น้ําเขาก็มีสีหน้ากระวนกระวาย “เทพวารีเป็นอย่างไรแล้ว?”
“ข้าสังหารมันไปแล้ว! มันทําบาปมหาศาลนักและสมควรตายแล้ว!”
ฟางหยวนพูดต่อ “ข้าจะพักอยู่ที่นี่ระยะหนึ่ง ทําตามแผนและให้ข้าเข้ารับตําแหน่งเทพวารีนี้!”
“อืม ข้ารู้ว่าควรทําอะไร!”
ซูเหรินพยักหน้า
เขาไม่มีอะไรจะแย้งเกี่ยวกับการกําจัดเทพชั่วร้าย และแทนที่ด้วยฟางหยวน
อย่างน้อย ฟางหยวนก็ไม่เรียกร้องเครื่องสังเวย แค่จุดนี้ก็เพียงพอโน้มน้าวเขาว่าฟางหยวนนั้นดีกว่ากิ้งก่ายักษ์นั่น แม้ว่าผู้คนจะกังขากับการกระทําของเขา เขาก็สามารถอธิบายได้
สําหรับฟางหยวน มันเป็นประโยชน์ต่อเขาที่จะใช้ประโยชน์จากทางการปกปิดความจริงที่เขาฉวยเอาที่พักใต้น้ํานั่นมาเป็นของตนเอง
“กลับไปแล้วก็รู้หน้าที่ใช่หรือไม่ ดูแลปลาหลีในบ่อด้านหลังให้ดี… นางติดค้างข้าอยู่ หากข้ากลับไปแล้วไม่พบนางที่นั่น ข้าก็คงทําได้แค่ตามทวงสิ่งที่นางติดค้างข้าไว้กับเจ้าแล้ว…”
ฟางหยวนหัวเราะและไม่สนใจซูเหรินที่ใบหน้าซีดเผือด หันหลังกลับแล้วกระโดดลงไปในน้ําและหายไปท่ามกลางน้ําที่แตกกระจายออก
ในทะเลสาบจนถึง
ที่ด้านใต้ทะเลสาบ มีวังมังกรแห่งหนึ่ง
วังมังกรนั้นใหญ่มหึมาราวกับประเทศขนาดยักษ์สักประเทศ บนจัตุรัสที่ทําจากหยกที่กลางวัง มีมังกรน้ําสีดําตัวหนึ่ง!
มังกรน้ํานั้นมีหนึ่งเขา สี่ขา และแต่ละขามีสามกรงเล็บ ดวงตาของมันเป็นสีแดง…และยังมีรัศมีของมังกร มันไม่ใช่แค่มังกรน้ําสีดํา แต่เป็นมังกรร้าย!
มันคือเทพมังกรจินถึง! ปิศาจที่ทรงพลังจากสวรรค์! ราชาแห่งปิศาจ! กระทั่งเทพมังกรน้ําหรือเทพวารีของทะเลสาบฉีก็ยังต้องให้ความเคารพแก่มัน
“คารวะเทพมังกร!”
ด้านนอกวังมังกร มีแสงวาบขึ้น ทหารยามเต่าตัวหนึ่งนําปิศาจตนหนึ่งเข้าไป
ปิศาจนั่นยืนด้วยขาที่เต็มไปด้วยขน ดวงตาสีทองเต็มไปด้วยความพิโรธและสีหน้าเหี้ยมเกรียม แต่ว่า ทันทีที่มันเห็นมังกรร้าย มันก็คารวะลง
“อืม เป็นเจ้า วานรู!”
มังกรน้ําสีดําลืมตาขึ้น และปิศาจวานรก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลบนร่างของตน “อะไรพาเจ้ามาถึงที่นี่ เทพวานร?”
“เหอเหอ… ข้าเพียงมาที่นี่เพราะว่าเทพมังกรแห่งแม่น้ําอันมอบหมายให้ข้ามาส่งสารนําจับกุมผู้กระทําผิดผู้หนึ่ง!”
ปิศาจวานรถอนขนเส้นหนึ่งของมันออกมาแล้วเป่าออกไป ภาพภาพหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ เป็นหญิงสาวงดงามผู้หนึ่ง หากฟางหยวนอยู่ที่นี่ เขาย่อมพบว่านางคุ้นตาเป็นอย่างยิ่ง
“เทพมังกรแห่งแม่น้ําอันต้องการจับตัวแม่นางผู้นี้!”
ปิศาจวานรหัวเราะ
“อืม ข้าจะสั่งผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของข้าเรื่องนี้”
มังกรน้ําสีดําตวัดกรงเล็บเป็นที่ให้เจ้าลิงออกไป
“เทพมังกร!”
ปิศาจวานรยังไม่ขยับ “ข้ามีสิ่งอื่นจะพูดด้วย!”
“ว่าไป!”
“ปิศาจที่บนฝั่งรู้สึกว่าท่านกระทําเกินเลยไปที่อนุญาตให้มนุษย์ตกปลาในทะเลสาบจนถึง! แม้ว่ามนุษย์จะมอบเครื่องสังเวยให้ท่านมากมายมาตลอดหลายปี ท่านไม่รู้หรือว่าในปีหลังมานี้มีบางอย่างต่างออกไป?”
ปีศาจวานรมีท่าทางจริงจังขึ้น “ความขาดแคลนทรัพยากรและพลังจากสวรรค์นํามาซึ่งความขัดแย้งระหว่างพวกเราเหล่าปิศาจ… แต่กลับมีมนุษย์มาฉกฉวยเพิ่มและหากยังดําเนินต่อไปเช่นนี้ ข้าเกรงว่า…”
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว!”
แต่เทพมังกรจินถึงส่ายหน้า ราวกับรู้สึกว่าปิศาจวานรนั้นกังวลเกินกว่าเหตุ
หลังจากปิศาจวานรจากไป มันก็ถอนหายใจ “ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงเจตจํานงของสวรรค์…”