Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 340
บทที่ 340 – แผน
จริงๆแล้ว เจ้าไม่ตั้งใจที่จะพูดถึงลิออนต่อหน้าของฟู เขาต้องการให้ฟูคิดว่าเขาไม่เข้าใจเรื่องทุกเรื่องเขาอยากทําให้ภาพลักษณ์ของลิออนเป็นคนไม่ค่อนดีและนี่ก็เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทําได้กับคนทั่วไป
มันก็เป็นการพูดเพียงไม่มากนัก แต่การพูดมากๆหรือเยอะๆก็ทําได้เหมือนกัน ก็เหมือนกับสิ่งที่เจ้าไม่ได้พูดมันก็เกี่ยวกับล้ออนโดยตรง คําพูดของเจ้าไห่นั้นทําให้ฟูสงสัยในตัวของลีออนมากขึ้น
เมื่อเขากลับมาที่ห้องของเขา เจ้าไหก็เจอลอร่า และลอร่าก็ถามว่า “พี่ไร่แม้ว่าเราจะหนีทหารพวกนั้นมาได้แต่ฉันก็คิดว่าเราควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะ”
เจ๋าไร่ก็ยิ้มและพูดว่า “มันก็แน่อยู่แล้ว เพราะฉันคิดไว้แล้วว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆหรอกแม้ว่าเราจะหนีออกมาได้ แต่ฉันก็แน่ใจเลยว่าลิออนจะไม่ปล่อยเราไปแน่ๆ และเขาก็จะไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่ๆ แต่ตราบใดที่เขาไม่ได้ใช้วิธีที่ถูกต้องกับเรา ฉันก็ไม่กลัวเขาหรอก”
ลอร่าก็พูดต่อว่า “พี่ไท่จงใจบอกกับฟูว่าเราอยู่ข้างเดียวกับตระกูลเซี่ด้วยใช่ไหม? แม้ว่าลิออนจะไม่ได้มีเจตนาที่จะทําให้เราเดือดร้อนแต่ตอนนี้ก็เหมือนกับว่าเขาบังคับให้เราอยู่ข้างเดียวกับตระกูลเซรี่”
เจ้าไห่ยิ้มและก็พูดกับลอร่าว่า “จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี เราไม่จําเป็นต้องทําดีหรือมีความสัมพันธ์กับลิออนนอกจากนี้กับสิ่งที่เขาได้ทํานั้น มันเป็นอะไรที่ฉันไม่ชอบเลย ฉันไม่ต้องการที่จะทําอะไรแบบนั้นร่วมกับเขาแม้ว่าตระกูลเซ์รี่จะขนาดที่ใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทําตัวเหมือนกับโรงแรมของลิออนฉันคิดว่าเราจะไม่เสียการ ทําธุรกิจกับเขาเพราะเขาเป็นคนที่ดีกว่าฉันตั้งใจที่จะบอกเรื่องที่เรามีความสัมพันธ์กับฟูเกี่ยวกับตระกูลเซี่ของเราเพื่อที่ว่าเมื่อลออนจะได้ตัดสินใจที่จะจัดการกับเรา ด้วยเหตุนี้ความสัมพันธ์ของเรากับพวกเขาอาจได้ใกล้ ชิดมากขึ้น”
ลอร่าก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่เล่าไม่ได้คิด แต่เธอก็ยังไม่สามารถทําอะไรได้ แต่ก็เป็นการดีที่ทําให้เราได้รู้จักกับลิออนการที่จะเข้าสู่จักรวรรดิโรเซ่นจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตระกูลเซี่ได้เปิดสงครามกับลออน?
เจ๋าไร่ก็ยิ้มและพูดว่า “ตอนนี้เรากําลังวางพนันกับตระกูลเซี่ว่าจะชนะไหม? หากทําได้ความร่วมมือกับพวกเขาจะก้าวหน้าไปเรื่อยๆ และหากพวกเขาแพ้ก็ไม่สําคัญกับเราอย่าลืมว่าเรามุ่งหน้าไปยังเมืองสกายเราสามารถ
พึ่งพาความสัมพันธ์ของเรากับตระกูลเซี่ในฐานะเพื่อน และด้วยการแนะนําของเบลล์ ตระกูลเซี่จะทําหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลางในความขัดแย้งนี้ ฉันไม่คิดว่าลิออนจะทําอะไรแบบนี้”
ลอร่าเห็นว่าเจ้าไม่ได้คิดอย่างนี้ แล้วเธอพยักหน้าและพูดว่า “แล้วลหยางหล่ะ? ถ้าลิออนไม่สามารถจัดการกับเราได้เขาจะไม่ไปทําอะไรลูหยางงั้นหรอ? “
เจ้าไร่ก็พยักหน้าและพูดว่า “เป็นไปได้ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น, ลูหยางก็เป็นคนของตระกูลเพอร์เซลล์,นอกจากนี้ที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อมาเรียนเท่านั้น ฉันได้ยินมาว่าโรงเรียนของจักรวรรดิโรเซ่นนั้นมีสถานะสูงในประเทศฉันคิดว่าลูหยางจะไม่เป็นอะไร”
ลอร่าพยักหน้า แม้ว่าเธอจะไม่ชอบลหยาง แต่เธอก็ยังต้องทําตามอีวาน ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่สามารถละเลยความเป็นอยู่ของลูหยางได้
ถึงแม้ว่าเจ้าไห่จะได้พูดถึงความคิดของเขา แต่ลอร่าก็ยังคงกังวลว่า “ถ้าเกิดปัญหาภายในโรงเรียนจะเป็นอย่างไร? เธอยังเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและต้องการความช่วยเหลือฉันกลัวว่าเธอจะไม่โอเคนักเพื่อหาวิธีใช้ชีวิตเมื่อเธอต้องการ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอเราจะไม่สามารถไปพบกับอีวานได้”
เจ้าไห่ถอนหายใจและพูดว่า “เราไม่สามารถช่วยเธอได้จริงๆ จริงๆแล้วลุงอีวานเดินทางไปไกลเพราะต้องการพัฒนาความเป็นตัวของเธอเอง ถ้าทุกคนกําลังจะช่วยเธอ ลุงอีวานก็จะล้มเหลว”
ลอร่ามองอยู่แปปนึ่ง เธอลืมเรื่องนี้ไปเลยจริงๆ เธอพยักหน้า เพราะอีวานตั้งใจจะฝึกลูหยางโดยที่ต้องพึ่งพาตัวเองหากพวกเขาไปและช่วยเธอในทุกความต้องการของเธอแล้ว ก็ไม่มีความแตกต่างระหว่างการที่เธออยู่ในเมืองคาซ่าหรือเมืองคาร์สัน
และคืนนั้นรอบตัวของเจ้าไหก็เงียบมาก เขาไม่ได้มีเรื่องอะไรกับคนอื่นอีก แต่ตอนนี้พ่อค้าที่อยู่ที่ป้อมปราการสายลมแห่งนี้ก็ได้ยินชื่อของเจ้าไห่และรู้จักเขา เมื่อเจ้าไหยังอยู่ที่นี่พวกเขาก็จะเห็นว่าเจ้าไห่นั้นเป็นนักเวทย์แห่งไฟและน่าจะแข็งแกร่งอยู่ในระดับที่ 7 แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเจ้าไห่นั้นมีพลังมากแค่ไหนพวกเขาคิดแค่ว่านี่คือพลังที่แท้จริงของเจ้าไห่
พ่อค้าพวกนี้เริ่มที่จะสงสัยในตัวของเจ้าไห่มาขึ้น เขามีพลังและสติปัญญา เรื่องทั้งหมดนี้ทําให้เจ้าไห่คล้ายกับหิงห้อยในที่มืด
ขบวนรถใหญ่ก็ให้ความสนใจกับเจ่าไห่มากขึ้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้จักกับเขามาก่อนก็เถอะแต่ขบวนรถพวกนี้ก็ไม่อาจจะทําให้เจ้าไห่ไปอยู่กับพวกเขาได้ แต่พวกเขาก็ต้องการที่จะรู้ว่าเจ้าไห่เป็นใคร
เจ๋าไฟไม่รู้ว่าพ่อค้าเหล่านี้ได้เริ่มให้ความสนใจกับเขาแล้ว เขาไม่คิดว่าพ่อค้าเหล่านี้จะสนใจเขามากเช้าวัน รุ่งขึ้นเจ้าไห่และพวกของเขาก็กินอาหารเช้ากัน และพร้อมที่จะออกเดินทางไปยังเมืองคาร์สัน
ตอนนี้ลูหยางก็ยังคงเดินทางไปกับเจ้าไร่อยู่ แต่ตอนนี้เจ้าไร่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอมากนักอย่างไรก็ตามพวกเขาจะต้องพาเธอให้ไปที่เมืองคาร์สันก่อนแล้วทุกอย่างก็จะจบ
ดินแดนของโรเซ่นมีขนาดใหญ่มากและประชากรของพวกเขาก็ไม่ได้น้อย จึงไม่ต้องห่วงเจ้าไห่ ในการหาสถานที่ที่จะค้างคืน ชีวเคยใช้เวลาอยู่ในจักรวรรดิโรเซ่นมาก่อน เจ้าไหจึงให้เขาเป็นผู้นําตอนนี้พวกเขาไม่ได้รีบที่จะเดินทางไปเพราะเจ้าไห่คิดว่าพวกเขาจะต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตในจักรวรรดิโรเซ่น
ในเวลาเดียวกันเจ๋าไร่ก็ยังระวังตัวมากขึ้น หลังจากที่พวกเขาออกจากป้อมปราการสายลม และก็ดูเหมือนว่าคนที่อยู่เบื้องหลังก็น่าจะเป็นลิออน
แม้ว่าเจ้าไห่จะไม่เคยเจอกับลิออน เขาก็รู้ดีว่าลิออนจะใช้วิธีไหนกับพวกเขา คนที่ไม่สามารถเอาชนะได้นอกจากนี้กับฟูและเจ้าไร่ก็ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีเหมือนกับเป็นเพื่อนกันมานาน เจ้าไห่ก็เป็นเพื่อนของตระกูลเซ์รี่โดยการช่วยโรงแรมเซรี่ ความจริงแล้วข้อเท็จจริงที่ว่าลิออนคงต้องหาทางจัดการกับพวกเขาอย่างแน่นอน
หลังจากออกจากป้อมปราการสายลมแล้ว เจ้าไห่ก็รู้สึกว่าบรรยากาศไม่ดีนัก ถนนจากป้อมปราการแห่งหนึ่งไปถึงเมืองคาร์สันน่าจะยุ่งมากในเวลานี้แต่แทนที่จะมองไม่เห็นคนเพียงคนเดียวตอนนี้ก็คล้ายกับแดนทมิฬ
เจ้าไม่รู้ว่ามีคนที่ต้องการเผชิญหน้ากับพวกเขา เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะไปไกลเท่าที่จะขับรถออกไปตามถนนทั้งลําเพื่อรับมือกับเขา ตราบเท่าที่ยังไม่มีคนงี่เง่า และมันก็จะชัดเจนมากว่าทําไมคนเหล่านี้ถึงทําอย่างนี้
เจ้าไหมองไปที่สถานการณ์และทันทีที่ลอร่าและคนอื่นๆ เข้าไปในมิติ ในเวลาเดียวกันเขาก็เดินไปหาบล็อคบล็อคไปบอกลหยางเกี่ยวกับสถานการณ์ กลุ่มของลูหยางพวกเขารู้ว่าจุดแข็งของพวกเขาสั้นลงเมื่อเทียบกับเจ้าไห่
สองชั่วโมงหลังจากออกจากป้อมปราการ พวกเขายังคงไม่ได้รับการโจมตีใดๆ ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ได้รับ การโจมตีใดๆ พวกเขายังไม่ได้พบกับคนอื่นๆ สถานการณ์นี้ส่งผลดีต่อกลุ่มของพวกเขา พวกเขาเครียดเพราะไม่รู้ว่าศัตรูจะมาตอนไหน
พวกเขายังคงไม่ไกลจากเทือกเขา พื้นที่นั้นยังคงเป็นเนินเขาอยู่มาก บ่อยครั้งจะมีสองเนินเขาอยู่ทั้งสองฟากของถนน แม้ว่าเนินเขาไม่สูงเท่าต้นไม้ที่สูงชันอยู่บนภูเขาสูงและเขียวชอุ่มซึ่งเป็นพื้นที่ที่เพียงพอที่จะรอกการซุ่มโจมตี
จากกลุ่มทหารของลูหยางเป็นคนที่แข็งแกร่งมากที่สุด ขณะที่เจ้าไร่ทําท่าดีขึ้น เขานั่งลงข้างในรถม้าของเขาจ้องที่จอถ้ามีการซุ่มโจมตีอยู่ใกล้ๆ เขาก็จะเห็นก่อน
หลังจากนั้นอีกสองชั่วโมงเขาก็ยังไม่เห็นคนเดียวบนจอภาพ ทําให้เจ้าไร่สับสนเขาไม่ได้หวังว่าอีกฝ่ายจะมีความอดทนมากหลังจากผ่านไปนานกว่าสองชั่วโมงพวกเขาก็ยังสามารถจับมือได้
แต่ในขณะนี้จอแสดงผลก็มีจุดสีเขียว จุดสีเขียวมีความหนาแน่นมากและดูเหมือนจะมีคนนับพัน พวกเขาถูก วางไว้บนเนินเขาทั้งสองด้านของถนน
เจ๋าไร่ก็มองสักครู่ก่อนที่เขาจะดึงจอภาพเข้ามาใกล้ เขาเห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยทหารม้าเวทมนตร์พวกเขาสวมเกราะเต็มตัวถืออยู่ ด้านหลังของพวกเขาและมีเกราะใหญ่อยู่บนปลอกและหอกของพวกเขาพวกเขาตั้งอยู่บนเนินเขาที่ด้านข้างของเนินเขาดูเหมือนว่าพวกเขากําลังรออยู่ที่ระยะทางที่เหยื่อหมดแรง
อัศวินบนเนินเขาไม่ได้สนใจที่จะซ่อนตัว พวกเขาเพียงแค่ยืนอยู่พร้อมกับชุดเกราะของพวกเขาที่เจ้าไห่สามารถเห็นได้อย่างง่ายดายดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการโจมตีกลุ่มของเจ้าไหโดยตรง
เท่าไหเห็นสถานการณ์ เขาให้ซอมบี้ของเขาไป และนกอินทรีย์บินไปบนฟ้า เขาต้องการจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีกองทหารคนใดซุ่มโจมตีถ้าไม่มีอะไรเขาสามารถเตรียมการตอบโต้ของตัวเองได้อย่างปลอดภัย
นกกําลังบินวนเวียนอยู่รอบๆ ที่ตั้งของพวกเขาและไม่พบคนอื่นๆ ซุ่มโจมตีเหล่าทหารม้าเหล่านี้เท่านั้นดูเหมือนว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นมากว่าจะฆ่าเจ่าไฟได้ พวกเขาจึงไม่ได้เตรียมการซุ่มโจมตีใดๆการตัดสินใจครั้งนี้ช่วยเจ้าไห่เนื่องจากเขาไม่จําเป็นต้องวางแผนที่ซับซ้อน เขาต้องการที่จะมีกองทหารม้าของตัวเอง ด้วยการอัพเกรดที่ได้รับพวกเขาอาจได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีป
จบบทแล้วนะครับขอบคุณมากนะครับ