Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 330
บทที่ 330 – ริน
เจ่าไห่, เบลล์และโรเบิร์ตคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่นจนไม่ได้ดูเวลา เรื่องที่พวกเขาคุยกันส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มของนักเวทย์แห่งความมืด เจ่าไห่เป็นคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ เข้าก็เลยไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับกลุ่มๆนี้ เจ่าไห่ก็เลยใช้โอกาสนี้เพื่อถามเรื่องต่างๆ
ทั้งสองคนบอกเจ่าไห่หมดทุกอย่างที่เขาอยากจะรู้ ที่โรเบิร์ตได้เข้าร่วมกลุ่มนี้ก็เพราะเบลล์ ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ก่อนที่โรเบิร์ตจะได้เข้าร่วมกับกลุ่มนักเวทย์ และเมื่อเบลล์ได้ถามโรเบิร์ตเกี่ยวกับความคิดที่มีต่อกิลแห่งความสว่างเขาไม่ได้ชอบกิลนี้เลย เขาจึงได้เข้าร่วมกับกลุ่มนักเวทย์
เมื่อเจ่าไห่ได้ยินสิ่งที่โรเบิร์ตพูด เจ่าไห่ก็รู้สึกกระวนกระวาย จากการพูดคุยของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาได้รวมเจ่าไห่กับกลุ่มมันเป็นเรื่องที่ตลกมาก
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากเพียงทําให้พวกเขาเชื่อว่าเขาเป็นคนที่มีความมั่นคง ทั้งสองยังเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับกลุ่มนักเวทย์ มันทําให้เจ่าไห่เข้าใจถึงกลุ่มนี้มากขึ้น
เมื่อถึงเย็นแล้วทั้งสามคนก็ไปที่ห้องอาหาร เฟอร์นันต์ก็มาดื่มไวน์และทานอาหารกับพวกเขาด้วย ในตอนนี้ ความคิดของเฟอร์นันต์ก็ดีขึ้นมากแล้ว เขารู้สึกอายมากๆ เขาไม่โง่หรอกเมื่อเขาสงบลงได้ เขาก็รู้ว่าลหยางเป็นแค่คนทําให้เขาเป็นแบบนั้น แต่หัวใจของเขาไม่มีความผิดพลาดใดทําให้เขาต้องสูญเสียซึ่งทําให้เขารู้สึกอึดอัดมาก โรเบิร์ตก็ส่งคนไปหาเขา เขาจึงไป
หลังจากที่ทุกคนนั่งลง โรเบิร์ตหยิบไวน์ผลไม้ที่เขาเตรียมไว้ แต่เบลล์รีบหยุดเขาและพูดว่า “เก็บไวน์นี้ไว้ ในวันนี้ เวลส์จะให้ไวน์ที่ดีกับคุณ”
และตอนนี้เฟอร์นันต์ก็อยู่ในห้องอาหารด้วยเขาจะบอกเรื่องของเจ่าไห่ให้ลูชายของเขารู้ไม่ได้ พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกเจ่าไห่ว่า เวลส์ นี่ไม่ได้หมายความว่าโรเบิร์ตไม่ต้องการให้เฟอร์นันต์รู้จักเจ่าไห่ การรู้ว่าเจ่าไห่เป็นใคร มันจะเป็นเรื่องที่ดีสําหรับลูกชายของเขา
แต่เขาก็ไม่อาจจะบอกเรื่องนี้ได้ เจ่าไห่ซึ่งเคยอยู่ที่จักรวรรดิอาร์ซูและน้อยคนนักที่รู้จักเขา เพราะว่ายิ่งน้อยคนรู้จักก็จะเป็นเรื่องที่ดี ถึงแม้เฟอร์นั้นต์จะไม่โง่ก็ตาม แต่เขาก็ชอบโมโหเป็นครั้งคราว เมื่อสถานะของเจ่าไห่ถูกเปิดเผยอีวาน, เบลล์และโรเบิร์ตก็จะมีส่วนเกี่ยวข้องโรเบิร์ตจึงตัดสินใจที่จะไม่บอกเรื่องที่ว่าเจ่าไห่เป็นใคร
โรเบิร์ตมองไปที่เจ่าไห่ เจ่าไห่ก็ยิ้มและพูดว่า “เอาเถอะไวน์ของฉัน มันอาจจะใช้เป็นคําของโทษที่ฉันได้ทํากับเฟอร์นันต์เลยก็ได้” ถังไวน์ปรากฏขึ้นขณะที่เขาโบกมือ
และตอนนี้เฟอร์นันต์ก็ไม่กล้าคิดไม่ดีต่อเจ่าไห่แล้ว จากการกระทําของเจ่าไห่นั้น เห็นได้ชัดว่าเขามีอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดา ตอนนี้เฟอร์นันต์ไม่ได้สงสัยอะไรในตัวของเจ่าไห่
เจ่าไห่ก็ไม่ได้สนใจท่าทางของเฟอร์นันต์ เขาเทไวน์ของเขาใส่แก้วของเขาและอีกสามใบ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นและส่งไปให้เฟอร์นันต์และพูดว่า “เฟอร์นันด์ ฉันเคยโมโหคุณในวันนี้โปรดรับสิ่งนี้เพื่อเป็นการขอโทษจากฉันด้วยเถอะ”
เฟอร์นันต์รู้สึกเป็นเมื่อเขาได้เห็นสิ่งที่เจ่าไห่ได้กระทํา เขารีบยกมือขึ้นและพูดว่า “ไม่ต้องทําแบบนี้ก็ได้เจ่าไห่ ฉันคิดว่าความผิดของฉันมันก็ไม่น่าให้อภัยเหมือนกัน และอีกอย่างฉันสิที่ต้องให้ของขวัญค่าขอโทษกับนาย” จากนั้นทั้งคู่ก็ดื่มไวน์
เจ๋าไฟเป็นคนที่ทําไวน์นี้ขึ้นมา และเมื่อดื่มเข้าไปเข้าก็ไม่ได้มีท่าทางพิเศษอะไร แต่ที่ตรงกันข้ามเลยก็คือ เฟอร์นันต์ที่ไม่เคยดื่มไวน์นมของเจ่าไห่ หน้าของเฟอร์นันต์แดงไปทั่วทั้งหน้า
เจ่าไห่ยิ้มและเขาก็เทไวน์ใส่แก้วตัวเองอีกครั้ง เขาหันไปหาโรเบิร์ตและพูดว่า “โรเบิร์ตวันนี้ฉันต้องขอโทษด้วยที่ต้องทําให้เป็นเรื่องลําบากแก่คุณ” เขาก็พยักหน้าให้กับเจ่าไห่
โรเบิร์ตมองท่าทางของเฟอร์นันด์และรู้สึกประหลาดใจ เขารู้ดีว่าเฟอร์นันต์นั้นเป็นคนที่ดื่มไวน์เป็นประจําอยู่แล้ว ถึงแม้เฟอร์นันด์จะไม่ได้เป็นลูกชายที่ดี แต่เขาก็ไม่เคยเห็นลูกชายของเขาเป็นแบบนี้
เบลล์มองไปที่ท่าทางของโรเบิร์ตเขายิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรไวน์นี่มีกลิ่นหอมมาก แต่ก็แรงมาก มันเป็นเรื่องที่ดีต้องระวังและไม่ดื่มมันเหมือนไวน์ผลไม้เมื่อคุณดื่มมัน เพียงแค่จิบๆก็น่าจะเมาแล้ว มันเป็นไวน์ที่หายากมากๆ”
โรเบิร์ตมองไปที่เบลล์ราวกับว่าเขาไม่เชื่อว่าเขาเบลล์เพิ่งกลับมาจ้องมอง เขามองไปที่ผ้าพันคอและค่อยๆหยิบจิบน้อยๆ จากนั้นใบหน้าของเขาก็ดูมีความสุขมาก
โรเบิร์ตจิบอีกครั้ง เขาลิ้มลองรสชาติของไวน์โรเบิร์ตไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่เงียบและชื่นชมไวน์ หลังจากนั้นสักครู่เขาก็เปิดปากและพูดว่า “ไวน์รสเลิศรสดี”
เฟอร์นันด์ดื่มหมดไปอีกแก้ว เจ่าไห่ก็เทให้เขาอีกแก้วและพูดว่า “เฟอร์นันด์เป็นยังไงบ้าง ไวน์ของฉันมีรสดีไหม?”
เฟอร์นันด์ไม่ตอบสนองอะไรเขามองไปที่ไวน์ที่อยู่ในแก้ว และพยักหน้าซ้ําๆ และพูดว่า “ดี มันดีจริงๆเปรียบกับไวน์อื่นๆ ที่ฉันดื่มมาก่อน ดูเหมือนว่าไวน์พวกนั้นจะเป็นเหมือนน้ําเปล่า และไวน์เป็นไวน์ที่ดีมาก” จากนั้น เขาก็ยกมือขึ้นและจบอีกครั้ง
โรเบิร์ตยังคงดื่มไวน์ขณะที่ทุกคนกินอาหารบนโต๊ะ ได้มีการพูดกันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการทําให้เพื่อนๆเลิกเมาไวน์ หลังจากนั้นไม่นานความสัมพันธ์ของทุกคนก็ดีขึ้น เจ่าไห่และเฟอร์นันด์ตอนนี้ดูคล้ายกับพี่น้องที่สนิทกันไปแล้ว
มื้ออาหารมื้อนี้ก็เป็นอะไรที่เฮฮามากๆ เฟอร์นันด์ยังไม่อยากไปเรียนต่อ ถึงแม้ว่าโรเบิร์ตจะโกรธเขา แต่ดูเหมือนว่าเฟอร์นันด์จะไม่ได้คิดว่าคําพูดของพ่อของเขานั้นต้องจริงจัง
หลังจากกินข้าวเสร็จเจ่าไห่ก็กลับมาที่โรงแรม ตอนนี้เขาไม่ได้พาลอร่าและคนอื่นๆไป เขาจึงต้องการบอก พวกเขาถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
เมื่อเขาเดินเข้าไปในโรงแรมรินก็ต้อนรับเขา เจ่าไห่รีบตอบกลับว่า “สวัสดีผู้จัดการ”
รินยิ้มและพูดว่า “นายน้อยเวลส์ฉันมีบางสิ่งบางอย่างเพื่อหารือกับคุณ ฉันของเวลาคุณสักหน่อยได้หรือไม่?”
เจ่าไห่ยืนมองอยู่ครู่นึ่ง เขารู้ว่ารินเป็นคนดี เขาก็เลยตอบไปว่า “ได้เลย” รินรีบจับมือและพูดว่า “ได้โปรด” จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปที่ห้องทํางานที่ชั้นหนึ่ง
ห้องรินดูดีมากๆ นอกเหนือจากห้องนั่งเล่นแล้วยังมีห้องนอนอยู่ด้านใน แต่ประตูก็ปิดไว้ เพื่อที่เจ่าไห่จะไม่สามารถเข้ามาได้
หลังจากที่เจ่าไห่เข้ามา รินก็บอกให้เจ่าไห่นั่งลงรินเริ่มด้วยการเทชาให้เจ่าไห่ แล้วเขาก็พูดต่อเลยว่า “นายน้อยเจอปัญหาอะไรไหมที่ไปที่คฤหาสน์ของโรเบิร์ต ถ้ามีอะไรก็บอกฉันได้นะ ถึงแม้ว่ามันเป็นเป็นเพียงไม่กี่อย่างที่ฉันจะช่วยได้ก็เถอะ”
เจ่าไห่ยิ้มและพูดว่า “โอ๋ ขอบคุณรินจริงๆ ไม่ต้องเป็นกังวล โรเบิร์ตไม่ได้ทําอะไรฉัน และเขาก็เข้าใจ ในขณะที่ฉันอยู่ในคฤหาสน์ของเขา” ถึงแม้ว่าเขาจะขอโทษฉันก็ตาม แต่ฉันก็รู้ตัวเองอยู่เสมอ
รินพยักหน้าและพูดว่า “ดีจัง ฉันขอถามอะไรอีกอย่างได้ไหม? คุณมีไวน์ชั้นดีใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าไวน์มีกลิ่นหอมมาก ฉันของลองได้ไหม ไวน์ที่ได้จากทุ่งหญ้าได้ไหม?”
เมื่อเจ่าไห่ได้ยินเขาพูดอย่างนั้นเขาก็เข้าใจเรื่องนี้ได้ทันที เนื่องจากไวน์นมมีการแจกจ่ายต่อไปเขาไม่ได้ปิดบัง “ถึงแม้ว่าไวน์ถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้วิธีการทํานมผงปกติ ฉันก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นทําให้รสชาติดีขึ้น ทําไมคุณถาม?”
รินยิ้มและพูดว่า “นายน้อยไม่จําเป็นต้องกังวลใจความตั้งใจของตระกูลเซี่ของเราเป็นสิ่งที่ดีมันเป็นเช่นนี้ เราต้องการที่จะซื้อไวน์จํานวนมากจากนายน้อยและขายมันในร้านค้าของฉัน ฉันไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้ไหม?”
เจ่าไห่มองสักครู่แล้วพูดว่า “เป็นไปได้สิ แต่ฉันได้ตกลงกับเบลล์เพื่อให้เขาเป็นผู้จัดจําหน่าย แต่เพียงผู้เดียวภายในอาร์ซู ถ้าฉันให้คุณด้วยก็อาจจะไม่ดีต่อฉัน ไวน์นี้มันเป็นไวน์ที่หาวัตถุดิบยากฉันคิดว่าการที่จะผลิตเยอะมันก็เป็นเรื่องยาก”
รินพยักหน้าเขายังเป็นนักธุรกิจ เขาจึงรู้เรื่องความยากลําบากของเจ่าไห่ เขามองไปที่เท่าไห่และพูดว่า “ไวน์นมที่คุณจัดหาจะทําในโรงแรมของเราเท่านั้น ถ้าแขกต้องการรับบางส่วนสําหรับตัวเขาเองแล้วเบลล์จะจัด การกับมันใช่ไหมยกเว้นเบลล์ให้คุณเท่าไหร่ในแต่ละเดือน?”
เจ่าไห่คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “นับตั้งแต่ที่ผู้จัดการตัดสินใจว่าจะทําอะไรฉันจะให้โรงแรมของคุณ 10,000 ขวดของไวน์แต่ละเดือน ถ้ามียอดเพิ่มขึ้นในภายหลังเราจะทําตามสิ่งที่สั่ง คุณคิดยังไง?”
รินยินดีมากเขาตอบกลับทันที “10,000 ขวด แม้ว่ามันจะไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอแล้วในระหว่างนี้ฉันหวังว่า คุณจะสามารถเพิ่มการผลิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ใช่ไหมนับตั้งแต่มีการจ่ายเงินให้มากเท่าไร คุณจะขายพวกมัน?
เจ่าไห่ยิ้ม “เหรียญทองสองเหรียญต่อไวน์และนี่เป็นราคาขายของเบลล์ด้วย รินคิดยังไงล่ะ”
รินพยักหน้า “ราคาไม่สูงดี เราตัดสินแล้วฉันจะรู้ได้ไหมว่า เมื่อไรนายน้อยจะสามารถส่งมอบได้เมื่อคุณต้องการจะได้รับเงิน?”
เจ่าไห่ยิ้มและพูดว่า “ในอีกไม่กี่วันฉันจะติดต่อเบลล์ คุณเตรียมเงินที่จะจ่ายให้กับเบลล์และเขาจะจ่ายให้กับฉัน คุณพร้อมหรือไม่?”
รินพยักหน้า “เอาล่ะฉันจะทําในสิ่งที่นายพูด คุณต้องการข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่?
เจ่าไห่ยิ้มแล้วเขาก็ตอบว่า “ไม่ต้องฉันเชื่อว่าสําหรับตระกูลเซ์รี่ เพื่อจัดการธุรกิจขนาดใหญ่ พวกเขาควรจะซื่อสัตย์มากในข้อตกลงของพวกเขา ฉันไม่มีปัญหาใดๆ ที่นี่ผู้จัดการก็สามารถรอไวน์ที่จะมาถึงและตรวจสอบไวน์ ถ้าผู้จัดการสามารถหาข้อบกพร่องในผลิตภัณฑ์ได้ คุณสามารถส่งคืนให้ฉันได้ คุณคิดอย่างไร? “
รินพยักหน้าและพูดว่า “เอาล่ะไปเลยแล้วฉันจะไม่รบกวนการพักผ่อนของคุณแล้ว” เล่าให้ยืนขึ้นและเดินออกจากห้องไป
จบบทแล้วนะครับขอบคุณมากๆนะครับ