Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 310
บทที่ 310 – อาณาจักรของฉันเอง
เมื่อเจ้าไม่ได้ออกมาจาเมืองของเผ่าราชาแล้ว เจ้าไหก็ค่อยๆเรียกซอมบี้ของเขาออกมาเพื่อเตรียมรบกับทหารที่ไล่ตามมาตอนนี้เจ้าไห่และเวลส์ก็ใกล้มาที่ที่โคนอยู่แล้ว เมื่อโคนี้เห็นทั้ง 2 คน เขาก็สั่งทหารไปคุ้มกันพวกเจ้าไห่และเวลส์
ตอนนี้เวลส์ที่กําลังจะเข้าไปที่ตั้งค่ายของเขา เวลส์สั่งให้โคนสั่งทหารพร้อมที่จะต่อสู้ตลอดเวลาเมื่อโคนีได้ยินสิ่งที่เวลส์ได้สั่งเขา เขาก็สั่งกองทหารของเขาไม่ให้ดื่มไวน์ที่ได้มาจากเผ่าราชา
ตอนนี้พวกเขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ไวน์ของเผ่าราชานั้นมียาพิษ แต่มันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ต้องห่วงเพราะเจ้าไห่สามารถล้างพิษพวกนั้นได้
ที่พูดแบบนั้นได้ก็เพราะว่าเจ้าไม่สามารถใช้น้ําแห่งชีวิตได้นั้น ก็เพราะว่าเขามีมิติฟาร์มและน้ําที่ได้จากมิติฟาร์มนั้น ก็สามารถรักษายาพิษได้ มันทําให้คนหลายๆคนไม่ถูกฆ่าตายไปถ้าไม่ได้เป็นแบบนั้นพวกเขาก็อาจจะตายไปแล้ว
หลังจากที่โคนีพาเวลส์และพวกของเขาเข้ามาแล้ว พวกเขาก็ไม่คิดที่จะโจมตีทันที แต่พวกเขากับถอยกลับ ไปที่ค่ายของพวกเขาก่อน
รถของเจ้าไหก็ค่อยๆถอยกลับไปยังด้านหลังของกองทัพ เขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะสามารถทําลายเมืองของเผ่าราชาโดยซอมบี้ได้ แต่เวลส์ก็ไม่ได้ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้น เวลส์ต้องการที่จะจัดการเรื่องนี้เองเจ้าไหก็เลยไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องนี้
เมื่อมองไปที่เมืองของเผ่าราชา เวลส์ก็ตะโกนว่า “เผ่าราชาเอ่ย ตอนนี้พวกเจ้าได้ทรยศต่อเราแล้ว และยังคิ ดที่จะวางยาพิษข้าเพื่อกิลแห่งความสว่างพวกนั้นอีก และต่อไปนี้พวกเจ้าจะถูกลดลงไปเป็นทาสของเรา”
หลังจากนั้นเขาก็ยกขวานขึ้นพร้อมกับคนอื่นๆ ประกาศสงครามและพร้อมที่จะจัดการเผ่าราชา
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้นั้น พวกราชาและเผ่าเฮคัสพวกเขาได้ต่อสู้กันเพื่อเมืองของเผ่า ดังนั้นพวกเขาต้องมีแผนการที่จะรอบครอบในการต่อสู้ของพวกเขา แต่การต่อสู้รอบนี้มันไม่ได้เหมือนกับรอบนั้นเลยเวลส์และพวกเขาของเขาไม่ได้เป็นห่วงการต่อสู้เลย เพราะฉะนั้นพวกเขาก็เลยพุ่งเข้าไปที่เมืองของเผ่าราชาโดยที่ไม่ได้ลังเลที่จะต่อสู้เลย
ตอนนี้เจ๋าไร่ได้สัมผัสกับผลกระทบที่น่ากลัวของการต่อสู้ของชนเผ่า ไม่ว่าจะได้อยู่บนรถหรือนอกรถก็เถอะเจ๋าก็ถูกลูกหลงจากการต่อสู้
แต่เจ๋าไร่ก็ไม่ได้เป็นกังวลเลย เขามองไปด้านหลังของกองทัพ ตอนนี้เขาไม่ได้พาลอร่าและคนอื่นๆมากับเขาด้วยเขาปล่อยให้ลอร่าและคนอื่นๆ กลับไปที่มิติก่อน แต่พวกเขาก็สามารถที่จะมาหาเจ้าไม่ได้
เจ๋าไร่มั่นใจว่าเผ่าราชาจะพ่ายแพ้ความแข็งแกร่งของเผ่าเฮคัส เพราะตอนนี้เผ่าเฮคัสได้ผู้นําที่แข็งแกร่งกลับมาแล้ว และเวลส์ก็เป็นสิ่งที่สําคัญมากและเขาก็เป็นคนที่ทําให้ชาวเผ่ามีกําลังใจที่จะต่อสู้ทําให้ทหารของกลัวเผ่าเฮคัสมากๆ และตอนนี้มันก็ทําให้พวกเขารู้แล้วว่าไม่มีทางชนะแน่ๆ
ตอนนี้เจ้าไห่ต้องการที่จะดูว่าเวลส์จะรักษาทาสของเขาไว้ได้หรือไม่ และขณะที่เจ้าไร่กําลังรออยู่นั้นก็มีเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ”ใครที่ยอมคุกเข่าลง ผู้นั้นจะรอด และใครที่ยอมต่อเราผู้นั้นก็จะได้รับชีวิตใหม่”
เมื่อเจ้าไม่ได้ยินเรื่องนี้เขาก็รู้สึกโล่งใจ เสียงตะโกนนี้ไม่ได้ออกมาจากคนๆเดียว แต่ตอนนี้เผ่าเฮคัสก็ต่อสู้อย่างไร้ความปราณีแต่คนที่ยอมพวกเขาพวกเขาก็จะไม่ถูกฆ่าตายไป
นี่เป็นสิ่งที่เจ้าไห่คิดไว้ ชาวเผ่าเหล่านี้ไม่ต้องการทําสงครามกับเผ่าเฮคัส ไม่ว่าความคิดของวินเดอร์จะเป็น เช่นไรในจิตใจของพวกเขาจะเป็นอย่างไรก็ตามเผ่าเฮคัส เพราะว่าพวกเขาได้ช่วยพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ ควรคิดว่าเผ่าเฮคัสเป็นศัตรู
เมื่อเผ่าเฮคัสได้พ่ายแพ้ต่อสิ่งที่เผ่าราชาได้ทํา มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ หลายๆคนไม่ได้มีความคิดแบบนั้นและยิ่งไปกว่านั้นความคิดพวกนี้ก็มาจากเผ่ามูล
วินเดอร์คิดที่จะหนี แต่เขาก็ไม่มีโอกาสเขาถูกฆ่าตายก่อนในความสับสนวุ่นวายนั้น โบเรนก็ถูกฆ่าโดยซอมบี้ของเจ้าไห่เขาไม่สามารถใช้เวทมนตร์การต่อสู้ของเขาได้ เขาก็ดูไร้ประโยชน์ไปเลย
และในท้ายที่สุดเผ่าบูลก็แพ้เผ่าเฮคัสจริงๆแล้ว จากเดิมห้าแสนหนึ่งหมื่นคนถูกฆ่าทิ้งไว้เบื้องหลังสี่แสนคนและในสงครามครั้งนี้เวลส์ได้สูญเสียชาวเผ่าไป 20,000 คน
ตอนนี้อาจบอกได้ว่าในทุ่งหญ้าจะไม่มีเผ่าบูลอีกต่อไป เผ่าบลจะรู้จักในชนเผ่าที่เป็นทาสเท่านั้นและตอนนี้เผ่าเฮคัสกดิ์เป็นเผ่าปกครองอีกครั้ง
หลังจากการสู้รบจบลง ผ่านไปสามวันเจ๋าไร่ก็ตื่นขึ้นที่เมืองของเผ่าราชา เมื่อเจ้าไห่ตื่นแล้วนั้นพวกเขาก็ได้เดินทางไปยังเมืองของเผ่าเฮคัส แล้วแน่นอนว่าพวกเขาได้นําเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับไปด้วย
จู่ๆ เจ๋าไร่ก็นึกถึงเบต้า และเขาก็ไปถามกับเวลส์ว่ามีใครพบเบต้าหรือไม่? เวลส์ก็บอกกับเล่าไห่ว่า “เบต้าถูกฆ่าไปแล้ว” เรื่องนี้ทําให้เจ้าไม่รู้สึกเสียใจมากๆเพราะว่าเบต้าเป็นคนที่ดีมากจริงๆ
หลังจากผ่านไปนานกว่าสิบวันพวกเขาก็กลับไปที่เมืองเฮคัส เมื่อพวกเขามาถึง เวลส์ก็ลดฐานะของเผ่ามูลทันทีและเขาก็ไม่รู้ว่าจะประกาศข่าวออกไปยังไงดีเพราะมันไม่ง่ายที่จะส่งข่าวในช่วงฤดูหนาวถ้าเป็นเช่นนั้นชนเผ่าจํานวนมากจะไม่รู้ว่าตอนนี้เผ่ามูลได้กลายเป็นชนเผ่าของทาสไปแล้ว
หลังจากกลับไปที่เมือง เจ้าไหก็พูดถึงแผนการของเขากับลอร่าแล้วก็พร้อมที่จะมุ่งหน้ากลับ แม้ว่าเวลส์ไม่เต็มใจเขาก็รู้ว่าเจ้าไห่และคนอื่นๆ ไม่สบายใจที่มาที่นี่
แต่ครั้งนี้เขาไม่สามารถปล่อยเจ้าไห่กลับไปมือเปล่าได้ เขาให้แกะกับเจ่าไห่ 200,000 ตัวและทาสหนึ่ง หมื่นคน ตอนนี้เขาร่ํารวยมากจนจํานวนพวกนี้ไม่ได้หมายความหมายกับพวกเขาเลยนอกจากนี้เขายังรู้ว่าเจ้าไห่ชอบสัตว์ประหลาด ดังนั้นเวลส์ก็ได้นําผลไม้หิมะมาให้กับเจ้าไร่แต่มันก็ไม่ได้มีค่าทําให้มิติอัพเกรดได้
แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีคุณค่าต่อมิติมากอยู่พอสมควร มิติก็ได้ประเมินค่าของมันว่า ระดับ 30 โดยมีเวลาในการสุก 24 ชั่วโมงสามารถให้กําเนิด 8 ครั้งและสร้างลูกวัว 5 ตัวต่อครั้งโดยต้องเลี้ยงลูกด้วยนมห้าครั้งต่อชั่วโมง
โดยทั่วไปแล้วเจ้าไห่พอใจกับเวลาของเขาในทุ่งหญ้ามาก อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ส่งทาสที่เวลส์ให้เขาไปป้อมภูเขาเหล็กทันที เพราะที่นั่นยังไม่สามารถรับคนจํานวนขนาดนี้ได้ ในตอนนี้เจ้าไห่จะนําพวกเขาไปเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเมื่อเขาจะขยายป้อม
เวลส์ก็ไม่ได้คัดค้าน อย่างไรก็ตามพวกเขามีอาหารเพียงพอสําหรับทั้งเผ่า พวกเขาไม่ได้เรื่องมากกับเรื่องอาหารมากนัก เจ้าไห่ยังให้อาหารแก่พวกเขามาก และนั่นก็จะทําให้ไม่เกิดปัญหาอะไรเลย
เจ้าไม่ได้นําแกะ 200,000 ตัวให้พวกเขาด้วย เพราะเจ้าไม่รู้ดีว่าฤดูหนาวแบบนี้เป็นเรื่องยากมากที่จะหาแกะพวกนั้น
แม้ว่าเขาจะตัดสินใจที่จะเดินทางไป แต่ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาต้องดูแล ดังนั้นหลังจากผ่านไปสิบวันเขาก็จัดการเสร็จสิ้นการเตรียมตัวพวกเขาพร้อมที่จะไปแล้ว
เวลส์ได้พาเจ้าไห่ไปส่ง เมื่อเห็นขบวนรถของเจ้าไห่ออกจากเมืองไป เวลส์ยังคงลังเลมาก
เม็นเดซหันไปทางเวลส์ “พี่ชายเราจะได้เจอกับเจ่าไฟอีกแน่นอน เพราะว่าเขาเป็นเจ้าชายของเผ่าแล้วนะ ยังไงสักวันเขาก็ต้องกลับมาที่นี่”
เวลส์ถอนหายใจ “น่าเสียดายที่เจ้าไห่ไม่ได้เป็นคนที่นี่อย่างแท้จริง มิฉะนั้นแล้วเผ่าเฮคัสก็ไม่ต้องกลัวใครเลย” ไปส่งเขาหน่อยดีกว่า เม็นเดซก็ตามหลังไป พวกเขาจะไม่ยอมทิ้งเล่าไห่แม้ว่าเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันค่อนข้างสั้น เจ่าไฟได้มอบสิ่งต่างๆมากมายให้กับพวกเขา และเจ้าไร่ก็ได้ให้ความสําคัญกับพวกเขาตลอดเวลาตอนนี้พวกเขามีความรู้สึกดีๆกับเจ่าไห่เพราะเจ้าไม่ได้ช่วยพวกเขาไว้หลายรอบแล้ว
ชาวเผ่าเป็นคนที่ซาบซึ้งมาก พวกเขาจะแสดงความรู้สึกของพวกเขาโดยตรงซึ่งเป็นสิ่งที่ดีต่อพวกเขา พวกเขาจะรักษาได้ดีในขณะที่คนที่ไม่ดีต่อพวกเขา พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลที่จะให้หน้าพวกเขาเจ๋าไร่ทําอะไรให้พวกเขาเป็นมากพวกเขาจะเห็นเขาเป็นคนดี
เจ้าไหมองไปที่เวลส์ เมื่อเขาเห็นว่าเวลส์และคนอื่นๆ กําลังเดินกลับเข้าไปในเมือง เขาได้หายใจและรวบรวมทุกสิ่งของเขาและกลับไปที่ป้อมภูเขาเหล็ก
เนื่องจากสงคราม เล่าให้ไม่สามารถกลับไปที่ป้อมได้ หลังจากที่เขามาถึงเขาก็ไม่รู้จะทําอะไรก่อนเลยแต่เขาก็มองอยู่เฉยๆเขาไม่คิดว่าป้อมภูเขาเหล็กจะอุ่นขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เจ้าไห่ว่าอุณหภูมิของทุ่งหญ้าจะอยู่ที่ 40 องศาต่ํากว่าศูนย์ แต่ที่นี่ที่ 10 องศาเหนือศูนย์ตราบเท่าที่ผู้คนสวมใส่เสื้อผ้าหนาๆบางอย่างพวกเขาก็ไม่เป็นไร
เจ้าไห่และลอร่าไม่คิดว่าที่นี่จะอุ่นขึ้น ลอร่าเปลี่ยนจะเสื้อกันหนาวเป็นเสื้ออื่นทันที
พวกเขาปรากฏตัวที่ห้องนั่งเล่นภายในป้อม ปัจจุบันไม่มีใครอยู่ที่นี่ เจ้าไหมองหากรีนแต่ก็เห็นว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในป้อม พวกเขาน่าจะอยู่ข้างนอก
ขณะที่ทั้งสี่คนเดินออกจากห้องนั่งเล่น พวกเขาก็เห็นทาสบางคนที่ได้รับการฟื้นฟูสถานะของพวกเขาคนเหล่านี้เคยชินกับเจ่าไร่กับการปรากฏตัวและหายตัวไปอย่างลึกลับ
ปัจจุบันทุกคนมีงานของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาได้กินอิ่มและก็มีชุดดีๆใส่ พวกเขารู้สึกเหมือนทุกวันเป็นความฝันวันเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ฝันถึงมาก่อน
เจ้าไห่ไปตรวจสอบโรงงานหลายแห่งก่อนแล้วแต่ละโรงงานก็ยุ่งมากซึ่งเป็นเรื่องปกติ การผลิตไวน์นมสูงมากทุกๆวันพวกเขาจะสามารถส่งมอบได้ถึงพัน โรงงานผลิตขนสัตว์ได้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เหมือนชาวเผ่าได้แต่ดีกว่า
ก่อนหน้านี้เมื่อนักล่าสัตว์กําลังสร้างผลิตภัณฑ์เหล่านี้ พวกเขาก็ใช้วิธีการแบบโบราณของพวกเขาดังนั้นสไตล์ของพวกเขาจึงเป็นประโยชน์มาก ตอนนี้ในโรงงานผลิตขนสัตว์มีผู้หญิงเป็นจํานวนมากในที่ทํางานผู้หญิงเหล่านี้ฉลาดและคล่องแคล่วพวกเขาดําเนินการในการปรับปรุงวิธีของชาวเผ่าของการทํา ผลิตภัณฑ์ที่ทําในโรงงานดูการดีมากขึ้น เมื่อเทียบกับของชาวเผ่า
โรงสีข้าวยังยุ่งอยู่ทุกวันโรงงานแปรรูปน้ํามันก็อยู่ในสภาพเดียวกัน พวกเขาไม่ได้หยุดการทําธุรกรรมกับเพอร์เซลล์แต่ เจ้าฉินอี้ก็บอกเขาว่ามีเพียงไม่กี่คนที่อยู่ที่ภูเขาหิน แต่เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถมองเห็นเท่าไห่พวกเขาจึงถอยห่างออกไปอย่างช้าๆ
เจ้าไห่และกลุ่มเดินช้าๆ นอกป้อมเมื่ออยู่นอกป้อมเล่าให้เห็นว่าดินแดนสีดําตอนนี้ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวท้องฟ้ากําลังมีหิมะตกแม้ว่าจะไม่ถึงจุดที่มีความรุนแรงเช่นเดียวกับทุ่งหญ้าก็ตาม
เมื่อมองไปที่สิ่งเหล่านี้ เจ๋าไร่ก็ทําอะไรไม่ได้ และก็พูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าทําไม แต่หลังจากที่ได้เห็นฉากนี้ที่นี่ทําไมฉันรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่ฉันกลับไปที่ทุ่งหญ้า?”
ลอร่ายิ้มและตอบว่า “นี่เป็นสถานที่ของเราเองมันคงดูดีกว่าตอนนี้ฉันชื่นชมความสามารถของเจ้าฉินอี้จ ริงๆ เขาสามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างภายในและภายนอกได้ดีฉันไม่ได้คิดว่าความสามารถของเจ่าฉัน อี้จะเยอะขนาดนี้ ดูเหมือนว่าในช่วงหลังฤดูหนาวเราจะไม่ต้องเตรียมเสื้อผ้าหนาอีกต่อไป
เจ้าไห่หัวเราะ “จริงกับเจ่าฉินอี้ เราไม่จําเป็นต้องสวมเสื้อผ้าหนาในไม่กี่วันถัดไป แต่เราไม่สามารถทําในปีหน้าในปีหน้าเราจะมีมากกว่าแสนคนคิดถึงเรื่องนี้ทําให้ฉันปวดหัวเราจะให้พวกเขาไปอยู่ที่ไหนดีตั้งแสนคน?”
ลอร่ายิ้มและพูดว่า “อย่าเป็นห่วงเลย เราควรใช้สถานที่ที่เราสามารถทําได้ สิ่งที่ฉันกังวลตอนนี้ก็คือความต้องการหินในการขยายป้อมภูเขาเหล็ก แม้ว่าเราจะทําเหมืองหินได้ แต่ความคืบหน้าก็ช้ามากถ้าเราสร้างบ้าน หินสําหรับแสนคนปริมาณหินที่เราต้องการจะมีจํานวนเยอะมาก เราไม่ควรทําให้คนแสนมีชีวิตอยู่ภายในป้อมฉันคิดว่าเราควรจะดําเนินแผนการของเราในการสร้างหมู่บ้านเล็กๆ”
เจ้าไห่พยักหน้าเขามองไปที่ที่ลานกว้างใหญ่สีขาว เขาก็ไม่รู้จําทํายังไง แต่รู้สึกว่าต้องใช้เวลานานพอสมควร”ใช่เราควรจะเริ่มดําเนินการตามแผนของเราเราต้องสร้างอาณาจักรของเราเองขึ้น”
จบบทแล้วนะครับ ขออภัยที่หายไปนานนะครับ