Bringing The Farm To Live In Another World (ไปสร้างฟาร์มอีกโลกกันเถอะ) - ตอนที่ 303
บทที่ 303 – หนี
ถึงแม้ว่าเทพผู้มีพลังระดับเก้าของเผ่ามูลจะได้รับบาดเจ็บจากอาการที่ถูกไฟเผา แต่เขาก็ไม่ได้ดูอ่อนแอลงเลย
การต่อสู้ของเทพผู้มีพลังระดับเก้านั้น แต่การต่อสู้ที่เผ่ามูลไม่พร้อมจึงทำให้เทพผู้มีพลังระดับเก้าของเขาคนนึ่งได้ถูกฆ่าไปแล้วอีกคนก็ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก
ในความเป็นจริงถ้าเทพผู้มีพลังระดับเก้าไม่ตาย หรือเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บพวกเขาก็จะหนีจากสถานการณ์นี้ไปได้ แต่มันก็ไม่ได้มีโอกาสนั้นกับพวกเขาทั้งสองอีกแล้ว
มันเป็นเรื่องที่ดีมากที่เผ่ามาร์ซีได้ส่งเทพผู้มีพลังระดับเก้ามาช่วยพวกเขา เผ่าเฮคัสจึงแน่ใจว่าพวกเขาได้จัดการกับเทพผู้มีพลังระดับเก๋ของเผ่ามูลได้แล้ว
ดังนั้นเมื่อเจ้าไห่และฟาโรม่าก็เห็นเทพผู้มีพลังระดับเก้าทั้งสองคน และพวกเขาก็รู้ได้อย่างแน่ชัดเลยว่าตอนนี้พวกเขาได้รับชัยชนะแล้วแน่นอน
เจ๋าไร่ก็ยังไม่รู้สึกดีมากนักเขาก็พูดว่า “ถ้าปล่อยให้พวกเขารอดไปฉันคิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่ลำบากกับพวกเขาแน่ๆ งั้นก็ให้พวกเขาอยู่ที่นี่แหละดีแล้ว”
ฟาโรม่าถอนหายใจและพูดว่า “การต่อสู้ในครั้งนี้ของเทพผู้มีพลังระดับเก้านั้น มันเป็นอะไรที่ปกติมากๆ เพราะว่าเมื่อต่อสู้กันจะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตายไปแน่นอน”
เจ่าไหก็พูดออกมาว่า “ในตอนแรกที่จริงฉันไม่ได้วางแผนที่จะเข้าไปยุ่งกับการต่อสู้ ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นมองว่าพี่เวลส์ของฉันเป็นคนไม่ดี” เจ๋าไหโบกมือและปล่อยเจ้าเหวินแล้วเขาก็ขอให้เธอจัดการกับเทพผู้มีพลังระดับเก้าที่ตายไปแล้ว
จากนั้นเจ้าไหก็เริ่มปล่อยยุงจำนวนมากออกมา นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาใช้ยงเหล่านี้ ครั้งสุดท้ายที่เขาปล่อยพวกเขาอยู่ในระหว่างการโจมตีของกองทัพเผ่าราชา แต่รอบนี้เป็นการสั่งการที่สั่งการโดยตรง
อย่าประมาทพวกยงขนาดเล็กจำนวนมาก จะกลายเป็นภัยพิบัติที่น่ากลัวบนทวีป
และในคืนที่มืดเหล่านี้ยุงก็เหมือนนักฆ่าเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้เรื่องนี้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก
ฟาโรม่าเห็นสิ่งที่เจ้าไห่เพิ่งทำ เขามองแล้วก็รู้สึกสับสน หลังจากปล่อยยุงทั้งหมด เจ้าไห่หันไปหาฟาโรม่าและพูดว่า “พี่เวลส์อยู่ไหน ฉันจะสั่งให้คนของฉันช่วยพี่เวลส์” เจ้าเหวินยังเป็นเทพผู้มีพลังระดับเก้ ฉันเชื่อว่าเธอจะเป็นคนที่ช่วยเราได้ดีมาก”
ฟาโรม่ามองที่เง่าไร่ด้วยความตกใจและพูดว่า “นายหมายความว่านายมีเทพผู้มีพลังระดับเก้าอยู่ด้วยงั้นหรอ? และเธอฟังคำสั่งของนายได้ไหม?” ฟาโรม่านั้นไม่ใช่คนโง่เขารู้ว่าเทพผู้มีพลังระดับเก้านั้นเป็นอย่างไร และเขาเข้าใจดีว่าเทพผู้มีพลังระดับเก้าที่เจ้าไห่หมายถึงคือสัตว์เวทย์ที่เป็นแมลง แต่สิ่งที่เขารู้สึกประหลาดใจมากที่สุดคือจากการกระทำของเจ้าไห่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเทพผู้มีพลังระดับเก้าแต่เขา กับเป็นคนที่สามารถสั่งการได้
หลังจากที่เจ๋าไร่ได้ยินคำถามของฟาโรม่า เขาก็ยิ้มอย่างและตอบว่า “ท่านก็สามารถพูดได้ว่าเจ้าเหวินนั้นฟังคนสั่งของฉัน แต่เธอไม่ใช่ทาสของฉัน และเธอยังเป็นคนในครอบครัวของฉัน”
ฟาโรม่ารู้สึกตกใจกับสิ่งที่เจ้าไห่ เขารู้ว่าเทพผู้มีพลังระดับเก้าเป็นคนยังไง ในชนเผ่าเฮคัส และจุดสูงสุดของพวกเขาก็คือเทพผู้มีพลังระดับเก้าเท่านั้น และตอนนี้พวกเขาก็อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่พวกเขามีเพียงคนเดียว และอิทธิพลของเทพผู้มีพลังระดับเก้าก็สูงกว่าหัวหน้าเผ่าถ้าเทพผู้มีพลังระดับเก้ามีความเห็นใดๆ หัวหน้าต้องฟังเขา
อย่างไรก็ตามเจ้าไหมเทพผู้มีพลังระดับเก้า ซึ่งฟังคำพูดของเขาซึ่งหมายความว่าอย่างไร หมายความว่าเจ้าไม่สามารถใช้เทพผู้มีพลังระดับเก้าได้ตลอดเวลาเพื่อกำจัดศัตรู แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้นในเวลาลำบากเท่านั้นเขาจะขอให้เทพผู้มีพลังระดับเก้าทำการเคลื่อนไหว
ในเวลานี้เวลส์ได้เข้าสู่เมืองแล้ว เผ่าบูลรู้แล้วว่าถูกโจมตีพวกเขาได้วิ่งไปรอบๆเมือง ในความหวาดกลัวบางคนต้องการที่จะหลบหนี แต่เทพผู้มีพลังระดับเก้าไม่สามารถช่วยให้พวกเขาหนีออกไปได้
ในสถานการณ์ตอนนี้ไม่สามารถจัดกองกำลังของเขาได้ อย่างไรก็ตามเวลส์ไม่ได้อยู่ในเมือง เป้าหมายของเขาคือเพื่อให้เอาบ้านเกิดของเขาคืนได้ เพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจของเผ่าเฮคัส สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือกำหนดเป้าหมายขวัญกำลังใจของศัตรูเมื่อถูกบดขยี้แล้วพวกเขาจะสลายไป
และเมื่อเวลส์ได้เห็นหัวหน้าของเผ่าบูล ด้วยความโกรธแค้นที่เขามี เขาพุ่งไปหาหัวหน้าเผ่าด้วยความรวดเร็ว และจัดการหัวหน้าเผ่าเฮคัสทันที
ขณะที่หัวหน้าเผ่าเฮคัสยังงงๆอยู่นั้น เขาก็ถูกเวลส์วิ่งเข้าไปทันที ตอนนี้เผ่าเฮคัสได้ใช้กำลังของตัวเองทั้งหมดสู่โดยที่พวกเขาไม่ได้กลัวตายเลยแม้แต่น้อย
เมื่อหัวหน้าเผ่าได้เห็นเวลส์เขาก็ได้รีบวิ่งหนีทันที เมื่อทหารของเขาเห็นพวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกเสียใจมาก
ก่อนหน้าที่พวกเขาจะกลับมาที่นี่ หัวหน้าเผ่ามูลได้ฆ่าพี่น้องของเวลส์ไปหลายคน ทหารของเผ่ามูลนั้นน่านับถือมาก แม้ว่าเขาจะไม่มีโอกาสหนี้ เขาก็ยังต่อสู้และเสียชีวิตกับกลุ่มของเขาในการดูแลเขา สำหรับนักรบคนนี้เป็นคนที่สมควรค่าแก่การเคารพซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับหัวหน้าเผ่าที่น่าอับอายมาก
ทหารมองหัวหน้าของพวกเขา แล้วก็ตะลึงใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะทำอย่างไร
เวลส์มองที่หัวหน้าเผ่าที่กำลังหนีและสั่งได้อย่างรวดเร็ว” หัวหน้าก็ถูกเวลส์ไล่ล่าไป!”
ทหารที่ด้านข้างของเขายังตะโกนว่า “หัวหน้าหนีไป อย่าให้ท่านถูกจับได้!”
คำพูดเหล่านี้มีความสำคัญมากเมื่อหัวหน้าเผ่าได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ตัวแข็ง เขาไม่เชื่อเมื่อมองไปที่เด็นท์สีทองของเขา เงาของหัวหน้าไม่สามารถมองเห็นได้และธงของกษัตริย์ก็ถูกตัดลงไปที่พื้น
จบบทแล้วนะครับ ขอบคุณมากครับๆ