Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 127
Chapter 127 ให้อภัย
จาวเหยานิ่งตึงขณะมองกระจุกขนในมือ “พอแล้วมั้ง”
ทันทีที่อลิซาเบธปล่อยอุ้งมือจากมัจฉะ มันก็รีบวิ่งไปหน้ากระจกทันที มันมองเงาในกระจกพลางลูบหัว เมื่อเห็นหัวของตัวเองแหว่งไปมันก็ทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะแตก
แมววิญญาณที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดมองอลิซาเบธกับมัจฉะสลับกันไปมา
“นี่มันบ้า บ้าไปแล้วจริงๆ ทำไมแมวบ้านนี้ถึงนิสัยโหดร้ายแล้วก็รุนแรงแบบนี้?”
โรลี่โพลี่กับลูกฝุ่นก็ตกใจไม่ต่างกัน แต่โรลี่โพลี่นั้นแอบนับถือใจอลิซาเบธ ขณะที่ลูกฝุ่นเองก็ลอบหัวเราะเยาะมัจฉะเงียบๆ
‘ผู้หญิงคนนี้เวลาโกรธนี่น่ากลัวจริงๆ’ โรลี่โพลี่คิด
10 นาทีต่อมา…
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว!” ทั้งอลิซาเบธและลูกฝุ่นมีขนใหม่บนหัวแล้ว ส่วนโรลี่โพลี่นั้นต้องใช้ผ้าพันรอบหน้าไว้ และมัจฉะใส่หมวกบีนนี่สีเขียวตามเดิม จาวเหยาพยักหน้าอย่างพอใจ “ไปที่ร้านกันเถอะ! จำไว้นะร้านของเราขึ้นอยู่กับพวกนายแล้ว เรียกลูกค้าให้ได้เยอะๆ ทำให้ดีที่สุดล่ะ!”
…
ช่วงบ่ายของวัน มีชายวัยกลางคนท่าทางดุดันน่าเกรงขามยืนอยู่หน้าห้างสรรพสินค้า
เขาเรียกหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านเขาไป “ขอโทษนะครับ ทราบไหมครับว่าคาเฟ่แมวปริศนาอยู่ทางไหน?”
“อ๋อ คาเฟ่นั้น ทางโน้นค่ะ…”
ชายวัยกลางคนเดินไปตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นชี้ เขาทั้งร้อนใจทั้งลังเลที่จะเข้าไปในร้าน
ขื่อของเขาคือเถียนเจี้ยน เป็นมนุษย์บ้างานที่ทำงานทั้งวันทั้งคืนทุกวันเพราะต้องเลี้ยงดูครอบครัว ทั้งยังทำงานล่วงเวลาเพื่อเงินพิเศษ บางครั้งเขาถึงกับไปทำงานในวันหยุดราชการด้วย
สองปีที่แล้ว ภรรยาของเขากลายมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวจึงทำให้เขาสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะเรื่องงานบ้านงานเรือนนั้นเธอเป็นคนดูแลทั้งหมด
ทั้งคู่รักกันและช่วยกันประคับประคองความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี
แต่ช่วงหลังมานี้เขารู้สึกว่าภรรยาของเขามักออกจากบ้านทุกวัน เสื้อผ้าล้วนไม่ได้ซัก พื้นก็ไม่ได้ปัดกวาดเช็ดถู บางครั้งเขากลับมาจากที่ทำงานเร็วกว่าปกติแต่กลับพบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้านเลย ทั้งอาหารเย็นของเขาก็ไม่มีการเตรียมไว้
นั่นหมายความอย่างชัดเจนว่าภรรยาของเขาแทบจะไม่อยู่ที่บ้านเลย และเมื่อถามรปภ.ของหมู่บ้าน ภรรยาของเขามักเข้ามาทานอาหารกลางวันในเมืองและจะกลับบ้านเมื่อถึงเวลาอาหารเย็นเท่านั้น
“เธอยังมีหน้ามาบอกฉันว่าเงินไม่พอใช้อีกเหรอ”
“ก็มัวแต่ไปดื่มกาแฟที่คาเฟ่แบบนั้น…”
เถียนเจี้ยนได้แต่กระวนกระวายใจ เขาไม่คิดอยู่แล้วว่าที่คาเฟ่แมวจะมีอะไรดลจิตดลใจให้ภรรยาของเขาไปทุกวันแบบนี้ นอกเสียจากว่าเธอจะทำอะไรมากกว่านั้น
“หรือว่าจะ…” หลังคิดถึงความเป็นไปได้ เถียนเจี้ยนยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม
เมื่อเช้าเขาถามภรรยาว่าจะไปที่คาเฟ่อีกหรือไม่ ถ้าเธอตอบว่าไปเขาจะลาหยุดเพื่อแอบตามไปดูว่าเธอพูดเรื่องจริง เขาต้องการรู้จริงๆ ว่าทำไมช่วงนี้ภรรของเขาถึงอยู่ไม่ติดบ้านเลย
แต่เขาเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในการแอบตามใคร ไม่นานภรรยาเขาก็ลับสายตาไปแล้ว โชคดีที่เขายังพอจำชื่อร้านได้ลางๆ เลยตัดสินใจถามทางจากคนแถวนี้เอา
ทันทีที่มาถึงร้าน เขาก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า ในร้านเป็นเพียงคาเฟ่เล็กๆ แต่ที่นั่งด้านในกลับเต็มไปด้วยเด็กสาวกว่า 60 คน และยังมีผู้ชายอีกนิดหน่อย ทุกคนต่างกอด เล่น และให้อาหารกับแมว
เถียนเจี้ยนนั้นไม่เคยเลี้ยงสัตว์มาก่อนและไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้มากนัก เขาไม่ค่อยเห็นความแตกต่างของแมวแต่ละสายพันธุ์ แต่เขาสามารถบอกได้เลยว่าแมวในร้านนั้นมีความแตกต่างกับพวกแมวที่เตร็ดเตร่ตามข้างถนนมากทีเดียว
“ร้านนี้ดังขนาดนี้เชียวหรือ?” เถียนเจี้ยนเบ้หน้าพลางมองหาภรรยาของตัวเองในฝูงชน
ไม่นานเขาก็เห็นภรรยาของเขา เธอกำลังนั่งหัวเราะคิกคักขณะพูดคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ท่าทางดูมีความสุขกว่าปกติ
จากมุมของเถียนเจี้ยน เขาเห็นเพียงด้านหลังของชายคนนั้นเท่านั้น แต่ดูจากทรงผมและเครื่องแต่งกายน่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟของที่ร้าน
เถียนเจี้ยนยิ่งจิตตกที่เห็นว่าภรรยาของเขาดูมีความสุขแค่ไหนกับพนักงานคนนั้น เขากระทืบเท้าเข้าไปในคาเฟ่อย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในร้านก็รู้สึกว่ารอบตัวมีพลังงานประหลาด
คนที่โหมงานหนักทุกวันอย่างเถียนเจี้ยนมักจะมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับลำไส้ กระดูกสันหลัง และสะโพก
พอเข้ามาในร้านเขาก็รู้สึกเหมือนอาการป่วยของเขาค่อยๆ ทุเลาไป
แต่ความสบายก็ไม่สามารถดับไฟในดวงตาของเขาได้ เขารีบเดินไปทางที่นั่งของภรรยาทันที
“คุณเหมือนเขามากเลยค่ะ! ฉันว่าคุณต้องเป็นญาติกันแน่ๆ!” เสียงภรรยาของเถียนเจี้ยนกำลังสนทนากับผู้ชายคนนั้นอย่างร่าเริง
เธอยื่นมือไปแตะใบหน้าชายคนนั้นก่อนพูด “ฉันว่าคุณสร้างชื่อให้ตัวเองได้นะ ตอนนี้คุณเหมือนเงาของคนดังพวกนั้นเลย”
“หม่าชิวสวี!” เถียนเจี้ยนแผดเสียงลั่นเพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป
ภรรยาของเถียนเจี้ยนเงยหน้ามองพลางอ้าปากค้างเพราะตกใจ “ที่รัก! ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะคะ? วันนี้ไม่ทำงานหรือ?”
“นี่…” เถียนเจี้ยนยังไม่ทันจะพูดอะไร เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่กับภรรยาของเขาก็หันมาจนเขาเองก็ตกใจไปด้วย “คริสวู?”
“ฮ่าๆ คุณก็ด้วยเหรอ? เขาไม่ใช่คริสวูค่ะ แค่คนหน้าคล้ายเฉยๆ” ภรรยาของเถียนเจี้ยนหัวเราะอีกครั้ง
จาวเหยาโค้งให้เถียนเจี้ยนเป็นเชิงทักทาย “สวัสดีครับ ผมเป็นพนักงานอยู่ที่นี่ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Star Cat’s Night ครับ! สั่งเครื่องดื่มอะไรหน่อยไหมครับ?”
“อ้อ” เถียนเจี้ยนเองก็รีบโค้งหัวกลับไปอย่างงงๆ เพราะยังตกใจกับคนตรงหน้าอยู่ ‘จบแล้ว ฉันแพ้ แพ้ราบคาบเลย’ เขาคิด
“ขอคาปูชิโน่ให้เขาแล้วกันค่ะ” ภรรยาของเถียนเจี้ยนดึงเขาให้มานั่งที่ข้างๆ “ลมอะไรพาคุณมาที่นี่คะเนี่ย? ฉันขอให้คุณมาด้วยตั้งหลายครั้งยังไม่ยอมมาเลย เป็นยังไงคะ? อยู่ในร้านแล้วรู้สึกสบายใช่ไหม?”
เถียนเจี้ยนไม่ตอบอะไร กลับยิ่งรู้สึกโมโหตัวเองมากขึ้น สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่เด็กหนุ่ม
“เข้าใจละ เหตุผลที่คุณมาที่นี่บ่อยๆ เพราะเจ้าหนุ่มนั่นสินะ? เดี๋ยวนี้ชอบเด็กหนุ่มๆ แล้วสิ?”
ภรรยาของเถียนเจี้ยนขมวดคิ้วทันที “ว่าไงนะคะ เถียนเจี้ยน คุณหมายความว่ายังไง?”
“หมายความว่ายังไง? คุณมาที่นี่ทุกวันเพราะผู้ชายตรงนั้นไง คุณไม่ทำอาหารเย็น บ้านก็ไม่ดูแล! คุณหมายความว่ายังไง!?” เถียนเจี้ยนตอบทั้งโมโห
ภรรยาของเสียนเจี้ยนอารมณ์เสียทันทีที่ได้ยิน เธอกรีดร้องพลางชี้นิ้วสามีของตัวเอง “เถียนเจี้ยน! คุณว่ายังไงนะ!”