Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 200
Chapter 200 พลัง! จานน! เลเวลอัพ!
“นายเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น” ดิอาน่ามองไปรอบๆ ทั้งสับสนและตื่นกลัว คิ้วของมันขมวดมุ่นอย่างไม่รู้ควรทําอย่างไร
เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนมันยังทําหน้าที่อยู่ในเต็นท์ พริบตาเดียวก็มาอยู่ในที่แปลกตาเสียแล้ว
“ดิอาน่า ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องกลัว” แคทเธอรีนผู้เป็นแม่วางอุ้งเท้าบนหัวของดิอาน่าอย่างพยายามปลอบก่อนหันไปทางแอรสและพรรคพวก “สวัสดี ขอถามหน่อยได้มั้ยว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ซีซาร์สามีของฉันล่ะ” แคทเธอรีนเอ่ยถามออกไปอย่างสุภาพ
หลังสิ้นคําถาม แคทเธอรีนมองไปทางที่ซีซาร์เคยยืน เห็นร่างของอีกฝ่ายนอนทับอยู่บนแมวส้มตัวหนึ่งไกอามันยิ่งสับสนยิ่งกว่าเดิม
“เจ้าหน้าใหม่…” ฟูจินกําลังจะพูดก็ถูกแอรีสยกขาขึ้นมาเป็นเชิงห้าม
แอรีสมองแคทเธอรีนตาไม่กระพริบ “สวัสดีคุณผู้หญิง ที่คุณอยู่ ณ ตอนนี้เป็นหมู่บ้านแห่งความฝันพระผู้เป็นเจ้าได้สร้างสถานที่นี้มาให้เราเหล่าแมวโดยเฉพาะ
แอร์สมองแคทเธอรีนตั้งแต่หัวจรดเท้า มันอยากจะเลียขนยาวสวยของอีกฝ่ายให้ทั่วทั้งตัว
แคทเธอรีนนั้นเป็นแมวที่ถูกเลี้ยงในระบบปิดเกือบทั้งชีวิต มันไม่คุ้นชินกับท่าทีสนใจอีกฝ่ายอย่างออกหน้าออกตาของแอร์สอย่างยิ่ง สายตาของแอรีสทําให้มันรู้สึกไม่สบายใจนัก พลันหน้าแดงขึ้นมา มันจึงก้มหน้าอย่างต้องการซ่อนความอาย”คุณชื่ออะไรคะ” มันกระซิบ
“ฉันคือแอรีส” ขณะที่พูด แอรีสก็เห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างบริเวณหางตา ซีซาร์ แรกดอลล์อีกตัวค่อยๆ ลุกขึ้นยืน
มันรีบออกคําสั่งให้แมวที่เหลือผ่านโทรจิตที่เชื่อมกันทันที “อย่าให้เจ้าแมวอ้วนน่ารังเกียจตัวนั้นเข้ามาใกล้และขัดบทสนทนาของฉันกับแร็กดอลล์ตัวนี้เด็ดขาด”
“มีอะไรงั้นเหรอหัวหน้า” ฟูจินถามขึ้นอย่างสงสัย “พวกนั้นมีปัญหาอะไรงั้นเหรอ”
“ปัญหาใหญ่เลยล่ะ!” แอรีสว่าต่อทั้งยังไม่ละสายตาจากแคทเธอรีน “โดยเฉพาะแร็กดอลล์สาวตัวนี้มีออร่าประหลาดแผ่ออกมา เกรงว่าจะมีแค่ฉันที่รับมือได้ ฉันอยากให้พวกนายรับมือกับแร็กดอลล์ตัวผู้นั่นแค่ทําให้หมดสติก็พอ”
แมวที่เหลือต่างทําตามคําสั่งแอรีส รีบเข้าไปล้อมซีซาร์ทันที
ลูซิเฟอร์ที่ไม่โดนแอร์สหลอกเอาง่ายๆ ได้แต่กรอกตาอย่างหน่ายใจ “แอรีส นี่นายชอบแมวตัวนี้อย่างนั้นเหรอ ดูแล้วยังไงก็มากับสามีและลูกสาวแท้ๆ นะ”
“นายจะไปรู้อะไร” แอรีสว่า “นี่ล่ะยิ่งทําให้สมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก!”
แคทเธอรีนมองทางซีซาร์อย่างกังวล มันพยายามจะเดินเข้าไปหาแต่แอรีสมองตามไม่วางตาจนมันต้องหยุด”ไม่ต้องเป็นห่วง พวกลูกน้องฉันจะดูแลเขาเอง”
แคทเธอรีนทําตาแป๋วใส่แอรีส “แต่ฉันเห็นเหมือนเขาจะรู้สึกตัว”
“เป็นไปไม่ได้ จะได้สติเร็วขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ” แอรีสยิ้มเหยเกก่อนออกคําสั่งอย่างโหดเหี้ยม “ทําให้เจ้านั่นหมดสติเดี๋ยวนี้”
ซีซาร์ที่กําลังได้สติพยายามลืมตาขึ้น แต่มันก็ถูกพลังปริศนาอัดเข้าที่หัวจนสลบไปอีกครั้ง
ลูซิเฟอร์ไม่อาจรับพฤติกรรมของผองเพื่อนตัวเองได้แต่เอ่ยเตือน “รักษสา แรงไป”
รักษสา แมวพันธุ์บริทิชชอร์ตแฮร์กัมมองอุ้งเท้าตัวเองก่อนค่อยๆ กางเล็บออกมา พลังของมันทําให้อุ้งเท้ากลายสภาพเป็นโลหะ เพียงมันตีหัวซีซาร์แค่เบาๆ ก็แรงพอกับโดนตีด้วยก้อนอิฐแล้ว “ก็หัวหน้าบอกให้ทํานี่นาฉันก็ต้องทําให้เจ้านี่หมดสติสิ”
แคทเธอรีนกระพริบตาปริบๆ พลางแปลกใจกับท่าทางของแอรีส “แต่ฉันมั่นใจว่าเห็นเขาขยับเมื่อกี้นี้”
“ผมว่าคุณคงจะตาฝาด” แอรสขยับตัวเผยให้เห็นซีซาร์กําลังนอนหมดสติอยู่บนพื้น “ดูสิ เขายังไม่ได้สติ!แมวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ครั้งแรกมักยังไม่คุ้นชินกับความกดอากาศจนอาจสลบไปสองสามวันเราต้องให้เขาได้พักผ่อนก่อนระหว่างนี้ให้ผมช่วยแนะนําสถานที่”
มันนําแมวสาวทั้งสองไปที่โทรศัพท์ แอรีสกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่เมื่อมีแร็กดอลล์สาวสวยถึงสองตัวเดินขนาบข้างมันสูดหายใจเข้าลึกอย่างปลื้มปริ่ม
ลูซิเฟอร์ ฟูจิน และรักษสายังคงยืนล้อมซีซาร์อยู่ ฟูจินยกขาขึ้นมาเลียขนพลางถาม “แล้วถ้าเจ้าไกอาตื่นมาเราต้องทํายังไง”
นิสของแมวโดยทั่วไปมักต้องกําจัดกลิ่นเหม็นออกจากร่างกาย โดยเฉพาะช่วงขาหนีบข้างหลังที่เป็นจุดอับก็ไม่เว้น
“ก็ทําให้สลบไปอีกซะสิ” เจ้าบริทิชชอร์ตแฮร์เผยยิ้มอย่างชั่วร้ายก่อนชอุ้งเท้าขึ้นฟ้า อุ้งเท้าหุ้มโลหะของมันสะบัดไปมาในรากาศราวกับเป็นคํางคาวเหล็ก
แมวการ์ฟิลด์ ไกอาเริ่มส่งเสียงครวญครางและกําลังได้สติ แต่ไม่ทันที่จะได้ทําอะไรก็ถูกกําปั้นเหล็กของรักษาสาฟาดเข้าที่หัวจนมันน็อคไปอีกครั้ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ซีซาร์ชอุ้งเท้าขึ้นทั้งยังไม่ลืมตา “เดี๋ยวก่อน ฉัน…”
ปัก! รักษสาไม่คิดจะฟังแม้แต่น้อย มันฟาดกําปั้นเหล็กออกไปอีกครั้ง ซีซาร์หมดสติจนลิ้นห้อยออกมานอกปาก
ลูซิเฟอร์เบ้ปากมองภาพเหตุการณ์ป่าเถื่อนตรงหน้าอย่างขยาด มันมองแมวทั้งสองที่นอนอยู่ก่อนว่า “ฉันว่าหน้าเจ้าพวกนี้เริ่มบวมแล้วนะ”
รักษสายิ้มกว้างอย่างภาคภูมิ “ก็เพราะผลงานที่ยอดเยี่ยมของฉันยังไงล่ะ”
ลูซิเฟอร์รีบถาม “เมื่อกี้แอรีสบอกว่าแมวตัวนี้จะสลบไปสองสามวัน อย่าบอกนะว่านาย…”
รักษสาพยักหน้า “ถ้าหัวหน้าต้องการให้เจ้าแมวตัวนี้หลับสักสองสามวัน หน้าที่ของฉันคือทําให้มันเป็นจริง”
อีกด้าน แอร์สสัมผัสได้ถึงขนฟูฟ่องที่สะบัดไปมาระหว่างที่กําลังเดินไปยังโทรศัพท์ มันรู้สึกฟินเหมือนได้สวรรค์ ดวงตาของมันส่องประกายพลางกล่าวบางสิ่งในใจ “พระผู้เป็นเจ้าช่างใจกว้างกับเราจริงๆ!”
จาวเหยาที่กําลังทานมื้อเย็นผงะไปเล็กน้อยเมื่อได้รับการแจ้งเตือนจากตารางภารกิจ
แอรีสยอมรับคุณเป็นผู้นํา ได้รับ 300 ค่าประสบการณ์ X2
“?”
“เกิดบ้าอะไรขึ้น” จาวเหยารีบสลับใช้พลังลูกฝุ่นก่อนเข้ามิติพิเศษไปเพื่อดูว่าข้างในมีเรื่องอะไร สักพักเขาก็กลับออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
ไม่ว่ายังไงจาวเหยาก็แฮปปี้ที่แอรีสยอมรับเขาเป็นผู้นํา เพราะเขาเองก็ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้นด้วยคะ แนนที่ได้รับจากแอรีสและภารกิจช่วยครอบครัวของอลิซาเบธทําให้หนังสือของเขามีคะแนนปัจจุบันเป็น Lv3 (2258/2000)
จาวเหยาชูมือขึ้นอากาศ ในที่สุดเขาก็จะได้อัพเลเวลให้หนังสือของเขาเสียที
จาวเหยาอยากจะดึงแอร์สเข้ามาเป็นพวก เขาจึงไม่ลังเลที่จะอัพเลเวลให้หนังสือของเขา
หากเขาอัพเกรดหนังสือ นอกจากจะได้รับพลังยังเพิ่มแมวตัวใหม่ได้ด้วย จาวเหยารีบพุ่งตัวเข้าห้องนอนล็อคประตูทันที อัพเลเวลเรียบร้อย หนังสือ Lv4 (258/5000)
จาวเหยาตัวแข็งที่อไปชั่วขณะ เขาล้มลงพื้น กล้ามเนื้อและกระดูกทั่วร่างสั่นไหวอย่างรุนแรงเหงื่อเย็นซึมหน้าผากเขาอ้าปากกว้างอย่างพยายามสูดอากาศรอบตัวให้มากที่สุด
จาวเหยารู้สึกราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง พลันพลังหายไปจากร่างกาย
ถัดมา แสงแฟลชสว่างวาบในดวงตาของจาวเหยา และเขารู้สึกดีกว่าที่ผ่านมา
เขาได้รับการบูสต์พลังจากลูกฝุ่น ทําให้ความสามารถ “สองดีกว่าหนึ่ง” แข็งแกร่งขึ้น แต่เพราะลูกฝุ่นนั้นมีเชื้อแคระอยู่ทําให้พลังที่ได้บูสต์ไม่ได้มากมายเท่าไรนัก
ทักษะการสังเกตของเขาก็ได้รับการพัฒนา เขาสามารถใช้ทักษะการสังเกตกับแมวทั้งสามได้รวมถึงสัมผัสทั้งห้าการรับรู้และสัญชาตญานของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขารู้สึกได้เลยว่าสามารถควบคุมกล้ามเนื้อและกระดูกได้ทุกส่วนในร่างกาย ราวกับว่าตัวเองเหนือกว่ามวลมนุษย์และแมวทุกตัวบนโลกใบนี้…