Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 187
Chapter 187 การซุ่มโจมตี และการปฏิเสธ
พอโรลโพลี่ส่งข้อความรักไปหาเจ้าหญิงเฉียน มันก็พบว่าอีกฝ่ายลบมันออกจากรายชื่อเพื่อนเสียแล้ว
มันล้มตัวลงพื้นเสียงดังตบ ตามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างสิ้นหวัง “เจ้าหญิงเฉียน ทําไมเธอโหดร้ายกับฉันอย่างนี้ ทําไมเธอช่างไร้หัวใจ ท่ากับฉันแบบนี้ได้ยังไง”
ฟิชบอลก็พิมพ์ความในใจออกมาส่งให้เจ้าหญิงเฉียนทันที “เสียวอวี่ ฉันรู้ว่าเธอรักฉันมาตลอด”
“เป็นบ้าเหรอ? บัญชีนั้นฉันสร้างเพื่อตกเจ้ามัจฉะ ไม่รู้ตัวหรือไง? ไม่ต้องส่งข้อความมาอีกนะ”
เสียวอวบบล็อกฟิชบอลกับโรลีโพลีในรายชื่อติดต่อวีแชททันที เธอเม้มปากอย่างไม่สบอารมณ์นักเมื่อเห็นคอมเมนต์จากมัจฉะ
“แมวพวกนี้เป็นบ้าอะไรกันไปหมด”
“ไม่มีทางที่เจ้านั่นจะไม่ตกหลุมพรางนี้ ฉันจะต้องทําให้แกล้มละลายให้ได้!”
หลายวันต่อมายังคงดําเนินไปอย่างปกติสุข ธุรกิจเป็นไปด้วยดอย่างเคย จาวเหยาอยู่ในมุมประจําอย่างทุกที แต่ทุกสิ่งก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อเข้าช่วงบ่ายของวัน
ภารกิจลับที่เกี่ยวข้องกับคนในวงกว้างนี้ถูกวางแผนมาอย่างรอบคอบโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ เป้าหมายคือร้า นกาแฟของจาวเหยา โดยภารกิจนี้อาจส่งผลไปทั้งเมือง หรือแม้แต่กับประเทศ
ชุนเหมิงกําลังลอบมองผ่านช่องหน้าต่างชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า เธอพูดกับไมค์เมื่อเห็นคาเฟ “ฉันประจําจุดแล้ว”
“ดี” เสียงสงบนิ่งของชายคนหนึ่งตอบกลับมาผ่านชุดหูฟัง ซึ่งซุนเหมิงรู้ว่าเสียงนี้เป็นของร่างคนใดคนหนึ่งที่คู่หูของเธอเพิ่งใช้พลังพิเศษครอบครองมา
พลังที่ทําให้เจ้านั้นเรียกตัวเองว่าราชาแห่งความตาย พลังนี้เป็นเหมือนกาฝากที่สามารถควบคุมร่างกายของคนอื่นได้ แต่ซุนเหมิงก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่านั้น เธอยังสงสัยว่าร่างจริงที่เขาเรียกตัวเองว่าราชาแห่งความตายก็อาจเป็นหนึ่งในร่างกาฝากของเขา
เพราะถ้าซุนเหมิงมีพลังนั้นกับตัวก็คงไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตนเหมือนกัน
ความสามารถของราชาแห่งความตายอาจไม่แข็งแกร่งนักหากต้องสู้ด้วยหมัดตัวต่อตัว แต่ถ้าใช้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ความหายนะที่อาจเกิดขึ้นก็คงไม่สามารถจินตนาการได้
พูดให้เข้าใจง่ายคือเขาสามารถปลูกฝังส่วนใดส่วนหนึ่งของจิตสํานึกตัวเองเข้าไปในตัวคู่ต่อสู้ได้โดยมีขั้นตอนพิเศษบางอย่าง
และหลังจากนั้น คู่ต่อสู้ของเขาก็จะเชื่อฟังทุกสิ่งที่ราชาแห่งความตายกระซิบบอกผ่านจิต โดยที่พวกเขายังคงมีสติปัญญา ความสามารถ และความทรงจําเดิมอยู่ การสื่อสารทางจิตของพวกเขายังไม่จํากัดระยะห่างระหว่างกายเนื้ออีกด้วย
แต่พลังนี้ก็มีจุดด้อยเหมือนกัน อย่างแรกคือราชาแห่งความตายไม่สามารถครอบครองร่างกายของอะพอสเซิลด้วยพลังกาฝากของเขาได้ อย่างที่สอง ขั้นตอนการเข้าครอบครองร่างใดร่างหนึ่งมีความซับซ้อนเกินไป เป้าหมายที่ไวต่อการสัมผัสอาจรู้ตัวได้ หากราชาแห่งความตายไม่สามารถทําให้คู่ต่อสู้หลงกลได้ในที่แรก เขาก็ต้องเอาชนะด้วยการต่อสู้ทางกายภาพเสียก่อนที่จะใช้พลังได้
แต่แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องมากมาย พลังนี้ก็ยังเป็นพลังที่แข็งแกร่งมากอยู่ดี ตั้งแต่ร่วมทีมกับเขา เธอเห็นกับตาว่าราชาแห่งความตายมีร่างกายไว้ในครอบครองเยอะเลยทีเดียว
ช่วงเป้าหมายของเขามีตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงกรรมกร ยังรวมไปถึงแพทย์ เจ้าของธุรกิจขนาดกลางหรือขนาดเล็ก และเจ้าหน้าที่รัฐหลายๆคน
ความสามารถนี้ทําให้เขามีทั้งสติปัญญา พลัง และทรัพย์สมบัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทําให้พวกเขาทําภารกิจปัจจุบันได้สะดวกยิ่งขึ้น
คราวนี้ราชาแห่งความตายพุ่งเป้าไปที่ผู้อาวุโสจวง เขาจึงร่วมมือกับซุนเหมิงและอะพอสเซิลมากความสามารถอีกสองคน
เมื่อเขาใช้พลังกาฝากกับผู้อาวุโสจวงสําเร็จ กลุ่มของราชาแห่งความตายก็จะบรรลุเป้าหมายสูงสุดของเขาได้
หลังจากซุนเหม็งรายงานไป เสียงชายอีกคนหนึ่งก็รายงานเข้ามาผ่านชุดหูฟัง
“ฉันก็ประจําตําแหน่งแล้ว”
เสียงนั้นทําให้ซุนเหมิงนึกภาพชายหนุ่มที่ดูเงียบๆ และจริงใจ เจ้าของเสียงนั้นคือเนสซี่
แต่ซุนเหมิงก็ต้องถอนหายใจเมื่อนึกถึงพลังของเขา “นี่ก็อะพอสเซิลอันตรายอีกคน”
ซูเปอร์แคทของเนสซีมอบพลังการเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้เป็นของเหลวกับเขา ทําให้การโจมตีทางกายภาพแทบไม่เป็นผล อีกทั้งร่างกายที่เป็นของเหลวยังทําให้แทรกซึมเข้าไปในที่ที่มีการคุ้มกันแน่นหนาได้อีกด้วย
พลังของเขาทําให้ได้เปรียบทั้งในการต่อสู้ตัวต่อตัว การลอบสังหาร การลักพาตัว และการแฝงตัวอย่างมาก
หลังจากนั้นมีเสียงจากผู้หญิงแปลกหน้าดังตามมา “ฉันก็พร้อมแล้ว”
ภาพในหัวของซุนเหมิงเป็นผู้หญิงผมทองที่รู้จักในนามของบาร์บี้เป็นชาวต่างชาติ
ซึ่งพลังของบาร์บี้นั้นแปลกยิ่งกว่าในมุมมองของซุนเหมิง แม้ตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจการทํางานพลังของเธอ
เธอเห็นบาร์บี้ถูกฆ่าและลอบสังหารโดยศัตรูหลายสิบครั้ง แต่ร่างกายของเธอหายไป แล้วก็กลับมาแบบไร้รอยแผล
แม้ซุนเหมิงจะรู้ว่าทีมของเธอทั้งสี่คนมีพลังอํานาจที่ไม่เท่ากัน แต่การร่วมมือกันของพวกเธอทําให้ซุนเหมิงเชื่อว่าต่อให้กองทัพมาตอนนี้พวกเธอก็รับมือได้
ดวงตาของราชาแห่งความตายยังคงจับจ้องอยู่ที่ร้านกาแฟ เขากําลังรอการมาของผู้อาวุโสจวง
“เนสซี่ต่อสู้แบบตัวต่อตัวได้แทบไม่มีปัญหา จะหมัด จะเตะ หรือจะปืนก็แทบไร้ประโยชน์เมื่อเจอเขา”
“ซุนเหมิงจัดการพวกผู้ติดตามได้ในคราวเดียว แถมยังสามารถลบความทรงจําได้ แค่ขโมยความทรงจํามาสักครึ่งชั่วโมง ก็จับสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายผู้อาวุโสจวงไม่ได้แล้ว”
“ความอมตะของบาร์บี้เป็นการตั้งรับที่ดีที่สุดของเรา ฉันสามารถใช้งานเธอได้ทุกเมื่อหากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน”
“การร่วมมือของพวกเรานี่ช่าง…ถ้าฉันได้ร่างของผู้อาวุโสมาครอบครองแล้วละก็ ฉันก็จะสามารถทําลายจิตใจของพวกผู้มีอิทธิพลทั้งหมดในเจียงไฮ้อย่างช้าๆได้ แล้วฉันก็จะกลายเป็นราชาโลกใต้ดินของเจียงไฮ้”
2 ชั่วโมงต่อมา รถเก๋งสีดําวิ่งเข้ามาจอดข้างร้านกาแฟ ทันใดนั้นราชาแห่งความตายกับทีมรีบสอดส่องมองตามทันที
แต่พวกเขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนที่ลงมาจากรถ
“นั่นมันอาเว่ยที่เป็นบอดี้การ์ดไม่ใช่เหรอ?”
“แล้วผู้อาวุโสจวงล่ะ? วันนี้ไม่มาอย่างนั้นเหรอ”
ภายในร้าน อลิซาเบธคาบคอแมงโก้เดินไปหาจาวเหยา
แมงโก้นอนแกล้งตายอยู่บนพื้น แม้อลิซาเบธจะเตะท้องไปหลายครั้งก็ยังไม่ยอมขยับตัว
“จาวเหยา ดูเจ้าแมงโก้นี่สิ!” อลิซาเบธตะโกนอย่างมีนโหก่อนชี้นิ้วไปที่แมงโก้ “ก้นเจ้านี่มีแต่คราบอีกแล้ว ไม่คิดจะเลียทําความสะอาดบ้างเลยสักครั้ง ตอนเข้าห้องน้ํายังละเลงไปทั่วจนสกปรกแล้วก็เหม็นไปหมดแล้ว! คิดว่าฉันจะไปใช้ห้องน้ําต่อได้ยังไง นายต้องดูแลเจ้านี้แล้ว!”
จาวเหยามองที่กันของแมงโก้อย่างละเหี่ยใจ “ท้องเสียอีกแล้วเหรอ นายควรจะทําความสะอาดตัวเองหลังเข้าห้องน้ําสิ”
แมงโก้ลอบมองจาวเหยาเล็กน้อยก่อนลงไปแกล้งนอนตายต่อ
“จาวเหยา ทําความสะอาดห้องน้ําหน่อยสิ ฉันไม่อยากให้ขนของฉันไปเปื้อนอะไรสกปรกหรอกนะ”
อลิซาเบธหันไปขู่มัจฉะที่มองมาทางเธออย่างใคร่รู้ มันแยกเขี้ยวคู่งามก่อนตะปบไปที่มัจฉะ และทั้งสองตัวก็วิ่งไล่กันรอบร้าน
อาเว่ยเดินเข้ามาในร้านพอดีผงะไปเล็กน้อยกับเหตุการณ์ไม่ปกติตรงหน้า จากนั้นเขาเดินไปหาจาวเหยา “ผู้อาวุโสจวงจะไม่มาที่ร้านของนายตามคําตัดสินด้านความปลอดภัยของท่าน แต่ผู้อาวุโสมีความต้องการให้นายไปช่วยดูแลเรื่องสุขภาพของท่าน เราหวังว่านายจะมาช่วย…”
“ฉันไม่ไป” จาวเหยาตอบกลับในทันที
อาเว่ยยิ่งไปครู่หนึ่งเนื่องจากไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะบอกปัดเขาโดยไม่ลังเลเช่นนี้