Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 265
ตอนที่ 265 รวมตัวคนดัง
ในวันสุดท้ายของแคมป์ฝึกบาสเก็ตบอล การแข่งทดสอบก็ได้เริ่มขึ้น
“หลี่ ขอบใจมากนะ ถ้าไม่ได้นายฉันคงต้องกลับไปที่เวอร์จิเนียแล้วแน่ๆ” อัลเลนยิ้มแบบซึ้งใจ
หลี่ไต้ตบบ่าเขา “ไม่เป็นไรหน่า อย่าคิดมาก แค่เล่นให้ดีก็พอ วันนี้มีคนดังมาดูเยอะ นายมีเวลาแค่5นาทีเท่านั้น อย่าเสียเวลาไปกับอะไรที่ไม่จําเป็นละ พยายามดึงเอาข้อดีของตัวเองออกมาให้มากที่สุดให้พวกเขารู้ถึงความเร็วของนายพลังของนาย ความแม่นของนายทําให้พวกเขารู้ว่าไม่มีใครหน้าไหนหยุดนายได้!”
“เอาโว้ย!”อัลเลนพูด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอยากเอาชนะ
ใครบางคนที่หน้าตาคุ้นๆกําลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้าของสนาม แล้วส่ายตาไปมาขณะดูการแข่ง
“ดูนั้นซิ โค้ชอัลฟอร์ดจากUCLAกับโค้ชเบบจากมหาลัยUSCก็มาด้วย พวกมาจริงๆ!”
“อะแน่นอนซิ พวกเขาเป็นโค้ชในแคริฟอเนียนะ พวกเขาต้องมาอยู่แล้ว เห็นคนหนวดเทาๆผิวสีตรงนั้นไหมนั้นคือโค้ชทอมสันจากมหาลัยจอร์จทาวน์”
“มีอีกนะ โค้ชไรท์จากมหาลัยNCก็มา เขาเป็นโค้ชที่ดีที่สุดในNCAAเลย เก่งเรื่องการเล่นเกมพื้นที่โคตรเหมาะกับฉันเลย”
“หัวหน้าโค้ชของมหาลัยดุคไม่ได้มา แต่ส่งรองหัวหน้าโค้ชไฟล์มาแทน”
“ไม่ต้องบอกก็รู้เลย มหาลัยนั้นมันเข้ายากชิบหาย แม้แต่นักบาสตัวท็อปของม.ปลายยังอาจจะดวงไม่ดีมาก พอที่จะได้ทุนบาสของมหาลัยดุคเลย”
“ดูนั้นซิ คนนั้นต้องเป็นคุณดจากทีมLA เลเกอร์แน่ๆ!”
“นั้นเขาจริงๆด้วย โห เอาเรื่องวะ แม้แต่แมวมองจากทีมเลเกอร์ก็มาด้วย นั้นมันทีมNBAชั้นนําเลยนะพวกเขาสนใจแคมป์ฝึกบาสม.ปลายด้วยเหรอ?”
ไม่แปลกใจเลย นี้มันเป็นแคมป์อดิดาสนะ! มันต้องดึงดูดแมวมองNBAอยู่แล้วซิวันนี้ฉันจะยิ่งใหกเต็มที่แล้วหวังว่าร็ดคนนั้นจะเขียนรายงายถึงฉันดีๆนะ!
“คนนั้นที่ชุดสีน้ําตาลใส่สูทผูกไทด์นั้นเป็นนักข่าวบาสชื่อแซส เขาดังมาก ได้ยินมาว่านักบาสมืออาชีพหลายๆคนก็เป็นติดตามคอลัมน์เขา ฉันเห็นเขาสัมภาษณ์ผู้เล่นระดับตํานานมาหลายคนแล้ว”
“เขาต้องเป็นคนนั้นแน่ๆ โค้ชที่โรงเรียนเก่าฉันก็ติดตามผลงานของเขามาเกือบ10ปีแล้ว”
“ใช่ๆมีคนอ่านคอลัมน์ของแซสทั่วประเทศเลย ถ้าเราได้ไปอยู่ในนั้นนะ หึม ทั้งอเมริกาจะต้องรู้จักชื่อเรา!”
การปรากฏตัวของเหล่าดาราต่างๆสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เล่นม.ปลายอย่างมาก นี้มันเป็นสิทธิ์พิเศษเฉพาะค่ายฝึกระดับสูงเท่านั้น เพราะดาราพวกนี้จะไม่ตอบรับคําเชิญของแคมป์ฝึกธรรมดามันต้องเป็นแคมป์ฝึกที่ยินดีที่จะจ่ายตังให้พวกเขามา
โค้ชพวกนี้รู้จักกันเองดีอยู่แล้วเพราะพวกเขาเป็นโค้ชชื่อดังขอมหาลัยและได้เจอกันในการแข่งNCAAอยู่บ่อยครั้งแล้วพวกแมวมองของNBAก็คุ้นชินกับโค้ชมหาลัยอยู่แล้วด้วย เพราะยังไงมหาลัยก็เป็นแหล่งส่งนักกีฬาให้NBAอยู่แล้ว
โค้ชมหาลัยนั้นหวังให้ลูกศิษย์ตัวเองเขาไปเล่นในNBA บางครั้งโค้ชมหาลัยพวกนี้แหละที่เป็นคนแนะนําลูกศิษย์ตัวเองให้กับแมวมองพวกนี้
สําหรับแซส เขาเป็นนักข่าวบาสอยู่แล้ว เขาจึงต้องรู้จักโค้ชทุกคนแถวนี้ บางคนเคยโดนเขาสัมภาษณ์บางคนก็รู้จักแซสมามากกว่า10ปี
การเจอกันของคนรู้จักคนกันเองแบบนี้มันมักจะทําให้เกิดบรรยากาศการแข่งขันได้เป็นอย่างดีอีกทั้งโก้ชบางคนนั้นก็มาจากทีมที่เรียกได้ว่าเป็น“ศัตรูคู่อาฆาต”อยู่แล้วด้วยยกตัวอย่างเช่นอริอย่างUCLA กับ USC ที่นอกจากจะอยู่ในรัฐเดียวกันแล้วดันอยู่ในเมืองเดียบวกันอีกตั้งหากนี้ยังไม่รวมมหาลัยดุคกับมหาลัยNCที่อยู่ในรัฐเดียวกันอีก
ทีมพวกนี้เป็นทีมที่สูสีกันและแข่งขันกันเองเป็นธรรมชาติด้วย
โค้ชอัลฟอร์ดไม่มองหน้าโค้ชเบบที่อยู่มหาลัยคู่อริ ส่วนโค้ชไรท์จากNCก็เมินการมีอยู่ของโค้ชไฟล์จากมหาลัยดุคเช่นกันแล้วหันไปคุยกับโค้ชทอมสันแทน
“ทอมสัน ฉันรู้ว่ามหาลัยจอร์จทาวมักจะปั้นนักกีฬารุ่นใหญ่ๆมาเสมอเลย แล้วปีนี้นายมาหารุ่นใหญ่เพิ่มอีกใช่ไหมละถ้าฉันเดาไม่ผิดนายเล็งไอ้หนุ่มสูงๆคนนั้นใช่ไหมถึงเขาจะผอมไปหน่อยแต่ไหล่เขากว้างดีมากน่าจะเหมาะกับนายนะไรท์พูด
“ฉันได้ยินมาว่าเขาจะเข้ามหัลยแมทซาชูเซต ซึ่งให้ทุนดีๆกับเขา เราคงไปเทียบอะไรกับพวกนั้นไม่ได้หรอก”ทอมสันส่ายหัว แล้วพูด “แล้วนายละ ทีมนายยังต้องการการ์ดดุๆอยู่ใช่ไหมสตีฟคนนั้นเป็นไงละ”
“สตีฟเหรอ บุตรแห่งNYCอะนะ ใช่! ฉันมาเพราะเขานั้นละ เราต้องการตัวการ์ดรุกอยู่ ฉันค่อนข้างเห็นดีกับเขาเลยเขาต้องเขาNBAได้แน่ๆ ถ้ามีเขาทีมมหาลัยเราต้องแกร่งขึ้นแน่ๆ!”ไรท์พูดแบบไม่ปิดบังอะไร
“ใช่แล้ว เขาเก่งมากทีเดียว ถ้าNBAอนุญาติให้เด็กมหาลัยเข้าสมัครได้ฉันว่าเขาต้องไปอยู่ในโผติดอันดับแรกๆแน่ๆ ด้วยพรสวรรค์ที่เขามีระดับของเราคงไม่ต่ําแน่ๆบางทีเขาอาจจะโดนรับตัวไปเล่นเลยก็ได้” ทอมสันพูดเขารู้ว่าโค้ชหลายคนในนี้มาชิงตัวบุตรแห่งNYCคนนี้
และในขณะเดียวกันนั้นเองสตีฟ“บุตรแห่งNYC” ก็กําลังนั่งอยู่ข้างสนาม กําลังดูคนที่เข้ามาดูเขาอยู่และจากนั้นโค้ชไฮด์ก็เดินพาผู้เล่นใหม่เดินเข้าสนามมาแต่ไกล
“เอา นั่งนี้แหล่ะ เดี๋ยวนายได้เล่นแล้วฉันจะเรียก” โค้ชไฮด์พูดแล้วชี้ไปที่ม้านั่ง
“แฮมป์ตั้น!” สตีฟตะโกนด้วยความตกใจ
“สตีฟเหรอ!”อัลเลนจําสตีฟได้เช่นกัน
ทั้งคู่นั้นรู้จักกันอยู่แล้วเพราะว่าต่างก็เป็นการ์ดที่อายุเท่าๆกัน คนนึงมาจากนิวยอร์ค ส่วนอีกคนมาจากเวอร์จิเนียที่เกิดของพวกเขานั้นเกิดแถวๆชายฝั่งมหาลัยแอตแลนติคเหมือนกันซึ่งไม่ไกลกันมากอีกอย่างทั้งคู่มักจะถูกพูดถึงใกล้ๆกันเสมอๆและเป็นที่ถกเถียงถึงว่าใครเป็นนักบาสอันดับ1ของม.ปลายฝั่งตะวันออกมาเรื่อยๆ
แต่ถึงอย่างนั้น สตีฟรู้ตัวดีว่าเขาเองก็เทียบชั้นกับอัลเลนไม่ไหว เพราะสตีฟนั้นสําเร็จแบบนี้ได้เพราะทุ่มแรงทุกอย่างไปที่บาสเก็ตบอลส่วนอัลเลนนั้นเล่นทั้งบาสทั้งบอลพร้อมๆกันซึ่งหมายความว่า อัลเลนนั้นเก่งพอๆกับสตีฟโดยที่ยังใช้พลังไปไม่เต็มที่ด้วยซ้ํา
ทําไมแฮมป์ตั้นถึงมาอยู่นี้ละ ตอนฝึกฉันก็ไม่เห็นเขานี้ …เขาขมวดคิ้วแล้วเริ่มคิด ว่าวันนี้มันคงไม่หมูอย่างที่เขาคิดแล้ว
“นั้นอัลเลน แฮมป์ต้นจากเวอร์จิเนียรึเปล่า ? เขาดูไม่ได้สูงมากเลยนี้ ฉันเดาว่าเขาสูงไม่เกิน6ฟิตนะ”
“เห้ยระวังหน่อยเขาเป็นตัวอันตรายนะนายได้ยินเรื่องที่ว่าเขาไปมีส่วนร่วมในการตะลุมบอนครั้งใหญ่นั้นไหม คนเกือบ20คนโดนหามไปโรงบาลเลยนะเราอยู่ห่างๆเขาดีกว่า!”
“ฉันรู้ เขาเข้าคุกไปด้วยนี้”
“บอกหน่อยได้ไหมว่าใครเก่งกว่ากัน สตีฟกับแฮมป์ตั้น”
“ไม่รู้ดิ แต่เดี๋ยววันนี้ก็รู้ ทั้งคู่ต้องแข่งกันเองในแมทช์นี้อยู่ละ ถ้าฉันเป็นโค้ชไฮด์ ฉันจะให้พวกเขา2คนอยู่คนละทีมกันเลยแฟร์ๆ”
ขณะที่นั่งพักกันนั้น อัลเลนก็กําลังก้มหัวนึกถึงการฝึกและการสอนของหลี่ไต้ที่ฝึกมาอยู่เงียบๆ
เสียงนกหวีดเริ่มการแข่งดังขึ้น อัลเลนยังไม่ได้ไปอยู่ในไลน์อัพแข่งด้วย เขายังนั่งอยู่ในที่นั่งตัวสํารอง
นี้มันเป็นการแข่งทดสอบ ซึ่งจะต่างกับแมทช์จริงๆ ผู้เล่นจากทีมเอจะขึ้นเล่นก่อน ส่วนทีมBจะขึ้นเล่นในรอบหลังดังนั้นมันจะไม่มีการหยุดพักระหว่างการแข่ง จะมีแค่พักเบรกเล็กๆที่จะจัดขึ้นทุก20นาที
ดังนั้นสิ่งสําคัญที่สุดไม่ใช่ผลการแข่งแต่เป็นผลงานที่ผู้เล่นจะทําได้ระหว่าง20นาทีแรกนั้นโค้ชไฮด์เหมือนจะลืมอัลเลนไปเลยเขาเอาแต่เปลี่ยนตัวผู้เล่นแต่ไม่ยอมเรียกอัลเลนซักทีเพราะยังไงอัลเลนเองก็ไม่ได้มีส่วนกับการฝึกโค้ชไฮด์เลยไม่แปลกที่จะเลือกผู้เล่นคนอื่นก่อนอัลเลนเริ่มกังวลนิดหน่อยเขาทําได้แค่นั่งเฉยๆรอ และดูการแข่งไป 20นาทีครึ่งแรกผ่านไปนักกีฬาทั้งหมดไปพักและสุดท้ายโค้ชไฮด์ก็โมงอัลเลน
“แฮมป์ตั้น ไปเตรียมตัวขึ้นเล่น”