A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที 54
ลูกไฟขนาดมหึมานับ 10ลูก ได้พุ่งใส่เจสันในพริบตา แม้เขาจะมีการป้องกันจาก แหวนแสงศักดิ์สิทธิ์ แต่สีหน้าของเขาก็ไม่ค่อยจะสู้ดี
ทางด้านเมอร์ลิน เขาก็หน้าซีดเช่นกัน เนื่องจากพลังจิตของเขาลดลงอย่างฮวบฮาบ แม้แต่เรียกลูกไฟยักษ์จะใช้พลังจิตไม่มากแต่การควบคุมมันใช้พลังจิตอันมหาศาล
อย่างไรก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องควบคุมพวกมันมากนัก หลังจากที่มันไปถึงที่หมาย เขาก็ทำการจุดชนวนทันที
*ตูม!!!!*
ลูกไฟยักษ์นับสิบได้ระเบิดพร้อมกัน ก่อให้เกิดเปลวไฟอันร้องแรงกลืนกินเป็นวงกว้าง ควันไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศกลายเป็นรูปเห็ด ตัวของเจสันได้หายไปพร้อมกับเปลวเพลิงอันร้อนแรง
เหล่าอัศวินและขุนนางต่างถอยหลังไปด้วยความกลัว พวกเขาต้องมองเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ตื่นตระหนก
แม้แต่เมอร์ลินก็ตกใจเช่นกัน เพราะนี่เป็นครั้งที่เขาใช้ลูกไฟยักษ์ 10ลูก พร้อมกัน
“อึ่ก”
เมอร์ลินที่หน้าซีด เขาเอามือข้างหนึ่งกดท้องของเขาเบา ๆ ดูเหมือนว่าการร่ายมันพร้อมกันแบบนี้จะ ส่งผลต่อร่างกายของเขา โชคดีที่เขามีร่างกายที่อึด ทนทาน ไม่อย่างนั้นเขาคงล้มไปกองบนพื้นแล้ว
*ฟิ้ว*
เมื่อฝุ่น ควันเริ่มจางหายไป เมอร์ลินเงยหน้ามองเบื้องหน้า ตรงที่เป็นจุดศูนย์ของการระเบิด ดูเหมือนผลของ แหวนแสงศักดิ์สิทธิ์ จะจางหายไปอย่างสมบูรณ์ เขาเห็นเสื้อคลุมสีขาวได้กลายเป็นขี้เถ้า
ส่วนร่างของเจสันได้ไหม้จนกลายเป็นตอตะโก
“ในที่สุดก็ตายะที…” เมอร์ลินยิ้มอย่างโล่งใจ ตอนนี้ภัยคุกคามต่อชีวิตของเขาได้ถูกกำจัดไปแล้ว ทำให้เขาค่อย ๆ หมดสติไป
ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการเมอร์ลินแต่ออกัสตินกับบารอนวิงกูลก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวใด ๆ
“เมอร์ลิน!!”
เลห์แมนได้เข้ามาประคองเมอร์ลินและอุ้มเขาขึ้นเบา ๆ ตอนนี้เมอร์ลินยังมีสติอยู่แต่ด้วยร่างกายที่เหนื่อยล้ากับการใช้พลังจิตมากเกินเลยทำให้เขาวูบหลับไปชั่วแวบหนึ่ง
“ท่านพ่อ ตอนนี้ลุงแพรตต์รอพวกเราอยู่ที่ประตูเมือง พวกเราควรรีบออกจากเมืองให้เร็วที่สุด”
เมอร์ลินพูดพลางสูดหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่แน่ใจว่าศาสนจักรส่งเจสันมาคนเดียวหรือไม่ หากมีพ่อมดคนอื่นอยู่ที่นี่เขาคงไม่มีทางรอดแน่นอน
เลห์แมนพยักหน้าและแบกเมอร์ลินออกไป ในระหว่างที่เขากำลังจะไป เขาได้กวาดตามามองออกัสตินกับบารอนวิงกูลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็หันกลับมาและออกจากปราสาทไป
เขาตัดสินใจว่าควรรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ถึงอัศวินเกราะเหล็กของเขาจะแข็งแกร่งแต่เขาไม่อยากอยู่ที่นี่นานเกินไป ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
“ถอยทัพ” เลห์แมนสั่งการ
เหล่าอัศวินเกราะเหล็กรีบออกจากปราสาทอย่างรวดโดยที่ทางออกัสตินกับบารอนวิงกูลไม่คิดที่จะขวางพวกเขา
นอกจากเลห์แมนแล้ว พวกขุนนางที่เหลือก็ออกจากที่นี่เช่นกันแต่ก็มีขุนนางบางคนตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ หลังจากที่พวกเขาพิจารณาอยู่พักใหญ่
เพราะยังไงเพราะก็ไม่สามารถละทิ้งธุรกิจและครอบครัวในเมืองแบล็กวอเตอร์ได้ พวกเขาเลยตัดสินใยอมจำนนต่อศาสนจักร
“ท่านออกัสติน ท่านจะปล่อยวิลสันไปได้ง่าย ๆ อย่างนี้เหรอ” บารอนวิงกูลที่ได้รับบาดเจ็บถามออกัสตินด้วยเสียงดัง ขณะที่พยายามลุกขึ้นอย่างยากลำบาก
*ชิ้ง*
ออกัสตินหันไปมองบารอนวิงกูลด้วยสายตาที่เยือกเย็น
“บารอนวิงกูล ท่านเป็นคนที่ทะเยอทะยานมากเกินไป…แม้วิลสันจะไม่ฆ่าท่านในตอนนี้แต่ข้าว่าข้าสามารถทำแทนเขาได้…”
ออกัสตินหัวเราะพลางชักดาบขึ้นมา
“เดี๋ยว!! ท่านกำลังจะทำอะไร?”
บารอนวิงกูลได้ถอยหลังไปก้าวสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว
“ตายซะ!!”
เปลวไฟได้ลูกโชนบนตัวดาบของออกัสติน จากนั้นเขาก็ยกดาบฟาดฟันไปที่ร่างของบารอนวิงกูล เนื่องจากบารอนวิงกูลได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อนแล้วจึงทำให้เขาไม่สามารถป้องกันได้เลย
*ฉัวะ*
เปลวเพลิงอันเหี้ยมโหดได้เผาร่างของบารอนวิงกูล
จากนั้นออกัสตินได้ดึงดาบออกมา ตัวดาบได้โชกไปด้วยเลือดสีแดง จากนั้นเขาก็หันไปมองขุนนางคนอื่น ๆ และพูดอย่างใจเย็นว่า
“อย่างที่พวกท่านเห็นว่าบารอนวิงกูลกับพ่อมดเจสันได้ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของตระกูลวิลสันทั้งพ่อและลูก!!”
เหล่าขุนนางได้มองหน้าและพยักหน้าพร้อมกัน
…
ที่ประตูเมือง เมอร์ลินถูกนำมาไว้ที่รถม้าโดเลห์แมน เขาทำการรักษาเมอร์ลินพลางมองเขาด้วยสายตาที่อ่อนโยน
เมอร์ลินที่เห็นลาง ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าพ่อของเขาจะมีแววตาที่อ่อนโยนเช่นนี้ได้
นอกจากพวกเขาแล้วยังมีเมซี่ส์กับมาดามหน้าอกใหญ่อยู่ในรถม้าด้วย
เมซี่ส์และคนอื่น ๆ เป็นสภาพที่อ่อนแอของเมอร์ลินก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
เลห์แมนได้ถามเมอร์ลินที่ได้สติขึ้นมาว่า “เมอร์ลิน ลูกเป็นยังไงบ้าง?”
เมอร์ลินพยายามลุกขึ้นนึ่งและพิงที่นั่ง เขาส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า
“ท่านพ่อ ผมสบายดี เรารีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เราไม่สามารถอยู่ต่อได้แม้แต่วินาทีเดียว!!” เมอร์ลินได้เตือนอีกครั้ง
เลห์แมนพยักหน้าและหันไปพูดกับเมซี่ส์และมาดามหน้าอกใหญ่ “ตอนนี้เมอร์ลินได้รับบาดเจ็บ ช่วยดูแลเขาด้วย”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็กระโดดออกจากรถม้าไปทันทีและทำการรวมพลอัศวินของเขา เขากำลังเตรียมตัวเพื่อเดินทางออกจากเมืองแบล็กวอเตอร์
“เมอร์ลิน นายกำลังจะออกไปจากเมืองแบล็กวอเตอร์ใช่มั้ย” เสียงของกัตต์ได้ดังขึ้นมาจากนอกรถม้า
เมอร์ลินรีบดึงม่านออกมาและพบกับกัตต์ เขาได้พยักหน้าเบา ๆ กับคำถามของกัตต์
“ใช่แล้วกัตต์ เราจำเป็นต้องไปจากที่นี่และตอนนี้อาณาจักรแห่งแสงก็ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้ว…นายจะมากับฉันมั้ย”
เมอร์ลินต้องการช่วยกตต์อย่างจริงใจ ถ้ากัตต์เต็มใจ เขาก็จะพากัตต์ไปด้วย
เมื่อได้ยินคำชวนของเมอร์ลิน กัตต์ก็ได้ส่ายหัวเล็กน้อย “ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ปกครอง พวกเขาคงจะอยู่ไม่ได้หากขาดนักธุรกิจ ดังนั้นฉันจะปลอดภัยหายห่วง”
กัตต์รู้ดีว่าด้วยสถานะของเขา จะทำให้เขาไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ในเมืองแบล็กวอเตอร์
จากนั้นทั้งสองก็ไม่พูดอะไร ปล่อยให้ความเงียบได้พัดผ่านไป
เมื่อเลห์แมนได้รวบรวมอัศวินเสร็จ เขาก็พบว่าศึกครั้งนี้เขาสูญเสียอัศวินไป 30นาย ดังนั้นจึงเหลือเพียง 170นาย นอกจากนี้เขายังสูญเสียอัศวินธรรมดาไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เขามีอัศวินเพียง 500นาย ที่อยู่ภายใต้คำสั่งของเลห์แมน
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เขาก็สั่งการให้กองอัศวินเคลื่อนตัวออกจากเมืองแบล็กวอเตอร์
เมอร์ลินได้หันไปมองนอกรถม้า เขามองดูร่างของกัตต์ที่ค่อย ๆ เล็กลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งหายไปจากสายตาของเขา
“เมอร์ลิน เราจะสามารถกลับมาที่นี่ได้อีกมั้ย?” จู่ ๆ เมซี่ส์ก็ถามขึ้นมาหลังจากที่เงียบมานาน
“อืม สักวันหนึ่ง เราจะได้กลับมาที่เมืองนี้แน่นอน”
เมอร์ลินสูดหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองเมืองแบล็ดวอเตอร์ที่อยู่ห่างไกลด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame