A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 424
Chapter 424 : จ่ายเป็นเงินสด
ปีศาจและมังกรมองหน้ากันด้วยสีหน้าตกใจ ไมเคิลมีชื่อเสียงมากในเรื่องความเป็นมิตรแต่ดูเหมือนครั้งนี้เขาจะไม่ให้โอกาสอีก ไม่ใช่ว่าการต่อสู้ระหว่างการประชุมไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ครั้งนี้เหตุผลที่ไมเคิลห้ามคือกฎของร้านอาหาร?
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตัวแทนของเผ่ามังกรและปีศาจต้องคํานึงถึงกฎของร้านอาหาร?
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างสับสนแต่พวกเขาก็บอกได้ว่าไมเคิลไม่ได้ล้อเล่น นอกจากนี้พวกเขาก็เป็นตัว แทนของเผ่าพันธุ์ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถถูกไล่ออกจากเมืองเคออสก่อนที่การประชุมจะจบได้ นั่นจะเป็นเรื่องที่ดูแย่มาก
เมืองเคออสไม่ได้ทรงพลังเลยเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์ชั้นนําในทวีปนอร์แลนด์แต่มันมีสถานะพิเศษเนื่องจาก ความหลากหลายทางวัฒนธรรมเช่นเดียวกับความจริงที่ว่าเมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในยุคหลังสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ แทบจะไม่มีความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในเมืองเคออสและมันยังมีสถานะเป็นกลางในทวีปนอร์แลนด์
เพราะเหตุนี้เมืองเคออสจึงถูกเลือกให้เป็นคนกลางและสถานที่ในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์อยู่เสมอ
ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมาในเมืองเคออสมีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพนับไม่ถ้วนเกิดขึ้นและมันเกือบจะ กลายเป็นประเพณีแปลก ๆ แล้ว
นอกจากนี้เมืองเคออสก็เป็นขุมกําลังที่ไม่อาจมองข้ามได้ หลังจากที่ผ่านการพัฒนามานานกว่า 100 ปีเมืองเคออสได้รวบรวมสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังไว้มากมายจากทุกเผ่าพันธุ์และพวกเขาทุกคนต่างก็เรียกตัวเองว่าเป็นพลเมืองของเมืองเคออส ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ได้ถือว่าอยู่ในเผ่าพันธุ์ใดเผ่าพันธุ์หนึ่งและต่อสู้เพื่อเมืองเคออ สเท่านั้น
เจ้าเมืองเคออส ไมเคิลเป็นคนที่ทรงพลังอย่างมาก เขากลายเป็นอัศวินระดับ 10 ตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้วและ ลูกธนูที่เขายิงทะลุน้ําแข็งของอูเรียนนั้นเป็นเครื่องบ่งชี้ได้ดีถึงพลังของเขา เขาเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดในทวีปนอร์แลนด์และในเมืองเคออสคําพูดของเขาถือว่าเป็นประกาศิต
มาดูกันว่ากฎแปลก ๆ ของร้านอาหารนี้มีอะไรบ้าง แดรกคูล่าเป็นคนแรกที่หยิบเมนูขึ้นมาก่อนที่จะเปิดมัน หลังจากนั้นครู่หนึ่งสีหน้าแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาหันไปมองฮาวิดและทอรัสในขณะที่เขาพูด “ดูเหมือนพวกแกทั้งสองคนจะต้องจ่ายค่าชดเชยสําหรับเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหายและยังต้องจ่ายเป็นเงินสดอีกด้วย นี่เป็นเหตุผลที่พวกแกควรเรียนรู้ที่จะเป็นสุภาพบุรุษ ฉันสนับสนุนกฎของร้านอาหารนี้อย่างเต็มที่ สถานที่แห่งนี้พยายามสอนทุกคนให้เข้าถึงการเป็นสุภาพบุรุษ
คนอื่น ๆ ลังเลอยู่ไม่นานก่อนที่จะหยิบเมนูขึ้นมา ในขณะที่ฮาวิดกําลังเอื้อมมือไปหยิบเมนูเขาก็นึกขึ้นได้ว่าร่างกายของเขายังมีไฟลุกท่วมอยู่ ดังนั้นเขาจึงดับพวกมันก่อนที่จะหยิบเมนูขึ้นมา
“ท่านไมเคิลครับ วันนี้เรามาที่นี่เพื่อประชุมนะครับไม่ใช่เพื่อกินอาหาร ถ้าแม้แต่การพูดคุยก็เป็นเรื่องต้องห้ามแล้วเราจะจัดการปัญหากันได้ยังไง?” ฟ็อกซ์วางเมนูลงและหันไปมองไมเคิลด้วยท่าทางที่ดูโมโหเล็กน้อย
“เห็นด้วยเลย ฉันไม่ต่อสู้ได้แต่เสียงของฉันดังมาตลอด หัวหน้าบอกฉันว่าฉันต้องพูดเสียงดังในระหว่างการประชุมนี้เพื่อให้ได้ทุกคนเข้าใจสิ่งที่ฉันจะสื่อ” จิงซ์เกาหัวของเขาด้วยสีหน้าสับสน
“งั้น…ฉันต้องจ่ายเป็นเงินสดจริง ๆ เหรอ? ฉันไม่ได้เอาเงินสดมาด้วย ฉันจะทํายังไงดี” ฮาวิดเกาหัวของเขา พร้อมกับคิ้วที่ขมวดแน่น
“ใช่ค่ะ ร้านอาหารของเรารับแค่เงินสดเท่านั้น” เอมี่พยักหน้าและมองไปที่ฮาวิดในขณะที่เธอพูด “คุณลุงมนุษย์เพลิงคุณสามารถยืมเงินจากคุณลุงลวดทองที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คุณได้นะคะ ถ้าเขาไม่มีเงินคุณสามารถถอนผมสีทองของเขามาแทนได้และนั่นก็น่าจะเพียงพอแล้ว”
ฮาวิดหันไปมองจิงซ์ด้วยสีหน้าครุ่นคิดเมื่อได้ยินแบบนั้น
จึงรีบขยับหนีไปด้านข้างในทันทีและพูดเตือน “ฮาวิด นายเป็นคนโง่รึไง? อย่ามาสัมผัสผมของฉัน ถ้านายไม่มีเงินฉันจะให้นายยืม แต่นายจะต้องจ่ายคืนให้ฉันสองเท่าเมื่อเรากลับไป”
“เอาล่ะ ฉันจะจ่ายคืนให้นายสองเท่า” ฮาวิดพยักหน้าด้วยสีหน้าจนใจ
“มิยะ เอาโต๊ะกับเก้าอี้ตัวใหม่ไปให้ลูกค้าหน่อย” เสียงของแม็กซ์ดังออกมาจากข้างในห้องครัว เขาไม่คิดว่าไมเคิลจะตรงไปตรงมาและควบคุมสถานการณ์ได้ดีขนาดนี้ ถ้าการต่อสู้ทั้งหมดถูกห้ามเขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่า ร้านอาหารของเขาจะพังยับเยิน
“ได้ค่ะ” มิยะตอบรับก่อนจะยกโต๊ะและเก้าอี้จากมุมหนึ่งไปให้ฮาวิด ในขณะเดียวกันแซลลี่ก็มีหน้าที่ทําความสะอาดขี้เถ้าบนพื้นแต่เธอทําโดยไม่ได้ใช้เวทมนต์ของเธอเลย
เธอกังวลว่าจะถูกเปิดโปงเหรอ? แม็กซ์มองแซลลี่อย่างแปลกใจแต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรเธอ
“การประชุมสามารถดําเนินต่อไปได้ เป้าหมายของฉันในวันนี้คือการจัดการประชุมโดยมีเมืองเคออสเป็นคนกลางที่ยุติธรรมและคอยอํานวยความสะดวกให้กับทั้งสองฝ่าย ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งกับการประชุมของพวกคุณ หรือเสนอความคิดเห็นส่วนตัวของฉันเอง” ไมเคิลนั่งลงบนเก้าอี้ของเขาแล้วแบมือพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแสในขณะที่เขาพูด “พวกคุณคุยกันต่อได้เลย”
เหล่ามังกรและปีศาจมองหน้ากันและเข้าใจได้ในทันทีว่าหลังจากนี้การต่อสู้นั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น และ ถ้ามันเกิดขึ้นพวกเขาจะถูกไมเคิลไล่ออกไปจากเมืองอย่างแน่นอน
นอกจากนี้พวกเขาต้องการให้การประชุมครั้งนี้มีผลลัพธ์ที่แท้จริง การสู้รบบนเกาะนั้นถึงจุดอิ่มตัวแล้วและปีศาจได้ยึดครองเกาะแต่มันถูกล้อมรอบไปด้วยมังกร พวกเขากําลังอยู่ในช่วงชักเย่อกัน
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ใช้จ่ายกําลังคนและเงินจํานวนมากในการต่อสู้กันเพื่อสิทธิ์ของเกาะ แต่ในสาระสําคัญคือ มันเป็นการต่อสู้ที่ไร้จุดหมาย
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงขึ้นจนการเจรจาเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปถ้าไม่มีคนกลางที่เป็นบุคคลที่สาม พวกเขายังคงระงับสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขาจากการเข้าร่วมการต่อสู้ แต่ถ้าสถานการณ์ยังคงเลวร้ายลงไปอีก มันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต
ถ้าสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังระดับ 10 ถูกนําเข้าสู่การต่อสู้ขนาดเล็กมันก็อาจจะกลายเป็นสงครามที่แท้จริงระหว่างสองเผ่าพันธุ์ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นความสงบสุขที่ดํารงอยู่มานานกว่าร้อยปีจะถูกสงครามทําลายล้างอีกครั้ง
ดังนทั้งสองฝ่ายจึงต้องการที่จะแก้ไขปัญหานี้ผ่านทางการทูต อย่างไรก็ตามการขอให้กองทัพของพวกเขาล่าถอยนั้น จะทําให้ขวัญกําลังใจของทหารลดลงและมองว่ามันเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ เพราะเหตุนี้เมือง เคออสจึงจําเป็นต้องก้าวเข้ามาในฐานะคนกลาง
ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือการแก้ไขปัญหาอย่างสงบแต่การเจรจานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องการที่จะทําให้เผ่าพันธุ์ของตัวเองได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ดังนั้นความขัดแย้งของผลประโยชน์จึงเกิดขึ้น
เพราะงั้นวิธีที่จะสยบอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาที่สุดนั่นก็คือการต่อสู้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการต่อสู้จะไม่สามารถทําได้อีกต่อไปแล้วดังนั้นพวกเขาจึงมีส่วนร่วมได้แค่สงคราม ฝีปากเท่านั้น
แดรกคูล่ามองไปที่ฟอกซ์และเริ่มยิงกระสุนนัดแรก “ฟ็อกซ์ ฉันได้ยินมาว่าครั้งหนึ่งแกเคยวิ่งรอบเกาะมังกรสามรอบในสภาพที่เปลือยเปล่าเพื่อหลบหนีจากอเล็กซ์ มันเป็นเรื่องจริงมั้ย?”