A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 429
Chapter 429 : ทองคําคือศรัทธา!
พวกเขาทุกคนกินพุดดิ้งเต้าหูกันเงียบ ๆ จนหมดแล้ววางถ้วยลงเกือบจะพร้อมกัน เมื่อพวกเขามองหน้ากันอีกครั้งความเกลียดชังในอากาศก็ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ
ใครจะไปคิดว่าพุดดิ้งเต้าหูหนึ่งถ้วยจะช่วยให้พวกเขาทุกคนสงบศึกกันได้? บางครั้งอาหารอร่อยก็ทําให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าฟังไมเคิลรู้สึกประหลาดใจมากก่อนหน้านี้เขากลัวว่าตัวแทนทุกคนจะต่อสู้กันเพราะพุดดิ้งเต้าหูแต่ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลมากเกินไป
พวกเขาจะเริ่มคุยกันแล้วใช่มั้ย? เจ้าหน้าที่จดบันทึกทั้งสองคนชะงักไปก่อนที่พวกเขาจะวางถ้วยเอาไว้ด้านข้างแล้วหยิบปากกาขึ้นมาพวกเขาต้องจดบันทึกรายละเอียดของการประชุม
นี่ต้องเป็นครั้งแรกแน่ ๆ ที่พุดดิ้งเต้าหูทําให้การประชุมสงบลงได้ แซลลี่มีสีหน้าแปลก ๆ การประชุมแบบนี้เป็นเรื่องที่มีรายละเอียดซับซ้อนมากเสมอทั้งสองฝ่ายจะสู้กับฝ่ายตรงข้ามเพื่อให้ฝ่ายของตัวเองได้รับประโยชน์สูงสุดและเสียเวลาไปหลายวันอย่างไร้ประโยชน์อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าหลังจากที่พวกเขากินพุดดิ้งเต้าหูเข้าไปพวกเขาก็เลือกที่จะเข้าประเด็นในทันที
“ฉันไม่คิดว่าเราจะต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ และไร้สาระแบบนี้ วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือการยุติสงครามที่ไร้จุดหมายเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถล่าถอยได้และจากนั้นเราสามารถตัดสินกันได้ว่าสิทธิ์การเป็นเจ้าของเกาะจะเป็นของใคร”จิงซ์แสดงความคิดเห็น
“ฉันเห็นด้วย มันเป็นแค่เกาะที่ไม่มีความสําคัญอะไรและไม่มีขุมทรัพย์อะไรอยู่ การสู้รบที่เกิดขึ้นนั้นไร้เหตุผลเกินไปและดูเหมือนว่ามันจะเลยเถิดไปไกลแล้วพวกเราปีศาจไม่กลัวสงครามแต่เราไม่ต้องการสู้ในสงครามที่ไร้จุดหมายและสิ้นเปลืองทรัพยากรด้วยเหตุนี้เราจึงอยากที่จะยุติเรื่องนี้”แดรกคูล่าพยักหน้าแล้วหยิบแผนที่ แบบเดียวกันออกมาสองชุดเขาโยนแผนที่ชุดหนึ่งไปให้ฝ่ายมังกรก่อนที่จะเปิดแผนที่อีกชุดลงบนโต๊ะของเขาเอง
“หลังจากที่เกิดความขัดแย้งบนเกาะนี้เผ่าปีศาจ 10 อันดับแรกของพวกเราก็ประชุมกันและตัดสินใจว่าจะสละสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของของเกาะนี้ อย่างไรก็ตามเรายืนยันได้ว่าเราเป็นคนแรกที่ค้นพบเกาะมันไม่มีเหมืองหรือขุมทรัพย์พิเศษบนเกาะดังนั้นฉันหวังว่าเผ่ามังกรของพวกนายจะไม่พยายามเรียกร้องอะไรข้อเสนอของฉันคือเราปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้นต่อไปและทําให้มันกลายเป็นเกาะที่พวกเราทั้งสองฝ่ายไม่มีกรรมสิทธิ์
“จากหลักฐานทางภูมิศาสตร์ ระยะทางจากเกาะนี้ไปยังหมู่เกาะปีศาจและเกาะมังกรของพวกนายนั้นเกือบจะพอ ๆ กันดังนั้นมันจึงไม่ควรกลายเป็นของเผ่ามังกร ตลอดระยะเวลาของการต่อสู้ครั้งนี้นักรบปีศาจผู้กล้าหาญของเราหลายคนเสียชีวิตไปในขณะที่เจ้ามังกรตัวนั้นก็หนีไปเรียกกําลังเสริมได้ดังนั้นฝ่ายของพวกนายจึงถือว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิตเลยฉันหวังว่าพวกนายจะช่วยจ่ายค่าชดเชยให้กับนักรบปีศาจผู้กล้าหาญที่เสียชีวิตไปของ พวกเรา”
แดรกคูล่าชี้ไปที่จุดเล็ก ๆ สีแดงบนแผนที่และพูดความคิดเห็นของเขา
“แกต้องการให้เรายอมแพ้ในการครอบครองเกาะและจ่ายค่าชดเชย? เผ่ามังกรของเราไม่มีนิสัยชอบยึดครองพื้นที่ดังนั้นเราสามารถยอมรับเงื่อนไขแรกของแกได้ แต่ไม่ใช่กับเงื่อนไขข้อที่สอง” ฟ็อกซ์มองแดรกคูล่าด้วย ท่าทีเยาะเย้ย เขาไม่ได้มองไปที่แผนที่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
กุสตาฟเม้มปากแล้วพูดว่า “จ เกาะมังกรมีเหมืองแร่ล้ําค่าทุกอย่างและการผลิตทองคําและเงินในแต่ละปีของพวกแกก็มีเป็นจํานวนมากเพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ของมันก็เพียงพอแล้วที่จะจ่ายค่าชดเชยแล้วทําไมแกถึงต้อ งข็งกด้วยล่ะ? พวกแกใช้โลหะมีค่าและหินพวกนั้นได้ไม่หมดด้วยซ้ําส่วนใหญ่พวกมันจะถูกกักตุนไว้ในถ้ําของพวกแก แกจะเก็บพวกมันเอาไว้ทําไมมากมาย?ตอนแกตายแกเอาของพวกนั้นไปด้วยได้มั้ย?”
“ทองคําคือศรัทธาของพวกเรา! ใครก็ตามที่พยายามจะเอาทองคําของเราไปจะต้องเจอกับความโกรธเกรี้ยว ของพวกเราเหล่ามังกรทอง!” จิงซ์มองปีศาจทั้งสามด้วยความไม่พอใจ
“มังกรอย่างพวกเรามีความภาคภูมิใจในการสะสมโลหะและหินมีค่า ทุกคนในทวีปนอร์แลนด์ต่างรู้ดีว่าเราจะไม่จ่ายค่าชดเชยใด ๆ ความตายนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการต่อสู้ ถ้าเราแพ้การต่อสู้เราก็ยินดีที่จะสละเกาะและจ่ายค่าชดเชยอย่างไรก็ตามตอนนี้เราได้ลอมเกาะเอาไว้แล้วในขณะที่ปีศาจอย่างพวกแกติดอยู่ในนั้นแค่นี้ก็แสดงให้เห็นถึงความใจดีของเราแล้วเราจะไม่จ่ายค่าชดเชยให้พวกแกพวกคุณมีข้อเรียกร้องอื่นมั้ยล่ะ? ถ้าพวกแกยังยืนยันว่าจะใช้ข้อเรียกร้องทั้งสองข้อนี้เราก็ไม่จําเป็นต้องประชุมกันอีกต่อไป”ฟ็อกซ์ไม่ยอมถอย
ทั้งร้านอาหารตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง แต่ละฝ่ายต่างก็พูดคุยปรึกษากันและเพราะว่ามีเวทมิติที่ถูกใช้เพื่อตัดเสียงทั้งหมดออกไปจึงไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากําลังคุยกันเรื่องอะไร
เปรียบเทียบกับการอภิปรายทางการเมืองที่ฉันเคยเห็นมาในชีวิตก่อนการประชุมของพวกเขานั้นง่ายและดูเหมือนกับการทะเลาะกันระหว่างเด็กอนุบาล ดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะได้ข้อสรุปกันภายในคืนนี้รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแม็กซ์ เขาเอาโร่วเจียหมัวใส่เข้าไปในถุงกระดาษก่อนที่กวักมือเร็กกยาเบะมิยะ
“หัวหน้าคะ คุณอยากให้ฉันเอาพวกมันไปเสิร์ฟตอนนี้เลยเหรอค่ะ?” ยาเบะมิยะรู้สึกสับสนเล็กน้อยทั้งสองฝ่ายกําลังถกเถียงกันอย่างร้อนแรงดังนั้นมันน่าจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
“โร่วจะหมัวจะแฉะถ้าวางพวกมันเอาไว้นานเกินไปดังนั้นเราควรจะเสิร์ฟพวกมันในตอนนี้”แม็กซ์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขากําลังจะควบคุมความคืบหน้าของการประชุม
“ก็ได้ค่ะ” ยาเบะมิยะยังมีความกังวลอยู่เล็กน้อยแต่เธอพยักหน้าแล้วน้ําโร่วเจียหมัวออกไปเธอวางโร่วเจียหมัวไว้ตรงหน้าพวกเขาแต่ละคนคนละหนึ่งอันและยิ้มในขณะที่เธอพูด “นี่คือโร่วเจียหมัวค่ะ กินให้อร่อยนะคะ”
“หืม?”
กลิ่นของเนื้อฝุ่นลอยฟังอยู่ในอากาศและดึงดูดความสนใจของทั้งมังกรและปีศาจไปที่โร่วเจียหมัวในถุงกระดาษ
เมื่อเปรียบเทียบกับกลิ่นที่หอมจาง ๆ ของพุดดิ้งเต้าหูแล้วกลิ่นของเนื้อตันนี้เข้มข้นกว่ามาก มันเหมือนกับผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วและมีความเย้ายวนใจ มันดึงดูดความสนใจของพวกเขาอย่างตรงไปตรงมาและทําให้พวกเขาหมดความสนใจในการพูดคุยกันในทันที
“เนื้อสัตว์เป็นของโปรดของฉัน! ให้ฉันดูซิว่าเนื้อสัตว์ที่ทําโดยความชอบของมนุษย์จะเป็นยังไง”จิงซ์เป็นคนแรกที่หยิบโร่งเจียหมัวขึ้นมา หลังจากที่เขาฉีกถุงกระดาษออกเขาก็มองเห็นโร่วเจียหมัวที่อยู่ข้างในทันใดนั้นกลิ่นหอมของเนื้อที่ทะลักออกมาก็กระตุ้นเขาและทําให้เขาอดใจไม่ไหวแล้วกัดเข้าไปคําใหญ่
ตรงกลางระหว่างขนมปังที่มีผิวนอกกรอบ ๆ นั้นเป็นเนื้อตุน ในขณะที่เขากัดลงไปรสชาติของเนื้อก็ทะลักออกมาในปากของเขาและทําให้ต่อมรับรสทั้งหมดของเขากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเขาไม่เคยกินอะไรที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน เมื่อเทียบกันแล้วเนื้อสัตว์ทั้งหมดที่เขาเคยกินมาในชีวิตนั้นเป็นแค่ขยะ!
หลังจากกลืนโร่วเจีมหมัวคําใหญ่ลงไปความอร่อยของมันก็เปลี่ยนไปเป็นพลังงานที่รุนแรงและทําให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นพร้อมกับเลือดที่สูบฉีดอย่างบ้าคลั่งอยู่ในเส้นเลือดของเขา
“อ๊าาา!”
จิงซ์ลุกขึ้นยืนในทันทีและคํารามออกมาดังลั่น หางมังกรสีทองโผล่ออกมาจากด้านหลังของเขาและทําลายเก้าอี้ของเขาเป็นชิ้นๆในทันที…