A Stay-at-home Dad’s Restaurant In An Alternate World - ตอนที่ 426
Chapter 426 : นี่คือพุดดิ้งเต้าหูแบบคาวค่ะ
การประชุมได้ลดระดับลงกลายการแลกเปลี่ยนประวัติศาสตร์ที่มืดมนของกันและกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราสามารถบอกได้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็เตรียมการมาเป็นอย่างดี บางคนถึงกับเผาเรื่องที่อีกฝ่ายรดที่นอนตอนสามขวบและใช้ทุกอย่างที่พวกเขามีเพื่อทําให้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบ
เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนที่รับผิดชอบในการจดบันทึกเนื้อหาของการประชุมกําลังพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อระงับเสียงหัวเราะของพวกเขาเอาไว้ ใบหน้าของพวกเขาแดงกําโดยสมบูรณ์ พวกเขาเคยทําหน้าที่จดบันทึกมาหลายครั้งแล้วในการประชุมในอดีตแต่พวกเขาไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ลายมือของพวกเขาเริ่มมีความไม่มั่นคงและพวกเขาไม่รู้ว่าควรจะจดบันทึกเรื่องพวกนี้ลงไปมั้ย
แม้แต่ไมเคิลเองก็มีสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเห็นเหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้ อย่างไรก็ตามเขาต้องเป็นแบบอย่างให้กับลูกน้องของเขา เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องควบคุมตัวเองและไม่สามารถหัวเราะออกมาได้และยังคงนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ
ผู้ใหญ่เองก็มีด้านที่น่าอายแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย คุณลุงอเล็กซ์และคุณน้าอิริน่าน่าประทับใจมาก ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบไหน ในอนาคตฉันจะมีโอกาสได้เจอกับพวกเขามั้ยนะ? บางทีถ้าฉันแข็งแกร่งได้พอ ๆ กับพวกเขาในอนาคตฉันอาจจะได้เจอกับพวกเขาก็ได้ เอมเท้าคางด้วยมือเล็ก ๆ ของเธอและมองดูพวกเขา ด้วยสีหน้าแปลก ๆ
สําหรับยาเบะมิยะและแซลลี่พวกเธอก้มหน้าลงและพยายามกลั้นขําเอาไว้ พวกเธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า สิ่งมีชีวิตทรงพลังระดับ 9 จะมานั่งเผากันเองแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ตลกมากจริง ๆ
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลย ดูเหมือนว่าอเล็กซ์กับอิริน่าจะสร้างความหายนะไปตลอดทาง ตั้งแต่เกาะมังกรไปจนถึงหมู่เกาะปีศาจ และนี่อาจจะเป็นแค่ปลายสุดของยอดภูเขาน้ําแข็งเท่านั้น แม็กซ์ค่อนข้างดีใจที่เขาไม่ได้อยู่ในรูปลักษณ์ของแม็ก อเล็กซ์ ไม่งั้นถ้ามีคนจําเขาได้เขาจะต้องเดือดร้อนมากแน่ ๆ
การเผากันดําเนินต่อไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง และกลายเป็นเหมือนงานรวมตัวกันระหว่างเพื่อนก่อนจะตกอยู่ในความเงียบ
พวกเขาต่างก็มองดูคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของพวกเขาและอดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์ผสมปนเปภายในใจ ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่าศัตรูของพวกเขาจะรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกเขามากมายขนาดนี้
“พวกแกไม่มีมโนธรรมเลยเหรอ? พวกแกเอาเหตุการณ์ที่น่าเจ็บปวดแบบนี้มาเผากันได้ยังไง?” ทอรัสมองเผ่ามังกรทั้งสามคนด้วยสีหน้าเศร้าโศก จนถึงทุกวันนี้เขายังคงฝันร้ายเกี่ยวกับการถูกไล่ล่าโดยฝูงหมูป่าหลังเม่นอยู่เลย
“สองคนนั้นต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้ โชคดีที่ผู้ชายที่หยิ่งผยองคนนั้นตายไปแล้วและผู้หญิงปีศาจคนนั้นก็ถูกขังอยู่” เห็นได้ชัดว่าฟอกซ์ยังไม่ลืมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่น่าอับอายที่เกิดขึ้นกับเขา
“ฉันคิดว่ามันค่อนข้างน่าเสียดาย โลกใบนี้น่าเบื่อมากและในที่สุดเราก็มีคนที่น่าสนใจโผล่มาถึงสองคน วิธีที่โลกนี้ใช้กําจัดพวกเขาไม่ยุติธรรมเกินไป” ในทางตรงกันข้ามแดรกคูล่ากลับถอนหายใจออกมา
“หืม?” คนอื่น ๆ หันมามองแดรกคูล่าอย่างพร้อมเพรียงกัน
“แดรกคูล่า นายอยากกินผักอีกครั้งเหรอ?” กุสตาฟค่อนข้างสับสน
“ไม่มีทาง! แวมไพร์อย่างพวกเราจะไม่กินผัก!” แดรกคิวลายังคงยืนกรานอย่างหนักแน่น
แดรกคูล่ามองพวกเขา มีร่องรอยของการระลึกความหลังอยู่ในแววตาของเขา “มันน่าเสียดายจริง ๆ นะ ฉันได้ยินมาว่าอเล็กซ์ถูกปิดล้อมและถูกฆ่าตายในการโจมตีและมีปีศาจอยู่ในหมู่นักฆ่าพวกนั้น ในฐานะที่ฉันเองก็เป็นปีศาจฉันรู้สึกละอายใจมากที่พี่น้องของฉันมีส่วนร่วมในเหตุการณ์นี้ ถ้านายไม่สามารถสู้กับใครบางคนอย่างยุติธรรมและเป็นสุภาพบุรุษได้งั้นนายก็อย่าสู้กับพวกเขาเลย ในสายตาของฉัน อเล็กซ์เป็นสุภาพบุรุษที่ดี”
“เขาเป็นคนที่มีความยุติธรรมและเป็นหนึ่งในคนที่ทรงพลังที่สุดในช่วงเวลานั้น ฉันยอมรับว่าอเล็กซ์เป็นมนุษย์ที่พิเศษที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา” จิงซ์พยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคําพูดของแดรกคูล่า
ฟ็อกซ์พูดอย่างเย็นชา “คนอย่างเขาถูกกําหนดให้ตายอย่างเจ็บปวด เขาสมควรได้รับมันจากการตามล่ามังกรเพื่อชื่อเสียง”
“ฉันไม่เห็นว่าสิ่งที่เขาทํานั้นผิดอะไร เขาฆ่าขยะที่นําความอับอายมาสู่เผ่ามังกรของเรา คนพวกนั้นสมควรตายแล้ว” ฮาวิดเบ้ปากด้วยความรังเกียจ
“งั้นมันก็ควรจะเป็นมังกรอย่างพวกเราที่ตัดสิน มนุษย์ที่อ่อนแออย่างเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินมังกรอย่างพวกเรา” ฟ็อกซ์มองฮาวิดอย่างไม่พอใจ
“พวกนั้นเลือกที่จะต่อสู้กับอเล็กซ์และถูกเขาฆ่าตายอย่างยุติธรรม ยังมีอะไรให้พูดอีก? ในฐานะที่เป็นมังกร นายต้องมีความภาคภูมิใจและสง่างามถึงแม้ว่านายจะได้รับความพ่ายแพ้ ความภาคภูมิใจของนายในฐานะมังกร อยู่ที่ไหนฟ็อกซ์? นายไม่รู้เหรอว่าทําไมเกาะมังกรถึงไม่เคยคิดที่จะตามล่าเขาเลย แม้ว่าเขาจะฆ่ามังกรไปมากมาย?” ฮาวิดยิงคําถามกลับด้วยความรังเกียจในทันที
“ฮาวิด! แกอยากประกาศสงครามกับพวกเรามังกรน้ําแข็งใช่มั้ย?” ฟ็อกซ์มองฮาวิดด้วยความโกรธเกรี้ยวในแววตาของเขา
“เหอะ อย่าพูดจาใหญ่โตนักเลย นายไม่มีสิทธิ์ท้าทายเผ่ามังกรไฟของเราในนามของเผ่ามังกรน้ําแข็งด้วยซ้ํา และถึงแม้ว่าการต่อสู้จะเกิดขึ้นแต่พวกเราเหล่ามังกรไฟก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!” ฮาวิดไม่ยมอถอยแม้แต่นิดเดียว
บรรยากาศกลับมาตึงเครียดอีกครั้งและดูเหมือนว่าการต่อสู้พร้อมจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
เผ่าปีศาจทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยสีหน้างุนงง พวกเขายังไม่ได้ยุยงอะไรเลยแต่ตัวแทนของเผ่ามังกรกลับทะเลาะกันเองซะแล้ว!
บุคคลในตํานานทั้งสองคนที่ทําให้ทั่วทั้งทวีปสั่นสะเทือนในช่วงไม่กี่ปีก่อนเป็นหัวข้อต้องห้ามในวงสนทนา เมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงชื่อของพวกเขาความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันจะเกิดขึ้นเสมอและความขัดแย้งนั้นแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
ในขณะนั้นเสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา “เอ่อ…ขอโทษด้วยนะครับ แต่เราขอเสิร์ฟอาหารเลยได้มั้ยครับ?”
ทุกคนหันมามองที่ทางเข้าห้องครัวอย่างพร้อมเพรียงกัน
สีหน้าของฟ็อกซ์อึมครึมลงในทันทีแต่เขาก็บังคับไม่ให้ตัวเองระเบิดความโกรธออกมา
มังกรและปีศาจคนอื่น ๆ เองก็ไม่พอใจเช่นกันที่จะต้องหยุดการประชุม มนุษย์คนนั้นเป็นพ่อของลูศิษย์ของครัสซูและอูเรียนแต่เขาก็ยังเป็นแค่พ่อครัวมนุษย์ที่ไม่มีพลัง
“วัตถุดิบบางส่วนถูกเตรียมเอาไว้สักพักแล้วและรสชาติของพวกมันจะเสียไปถ้ายังล่าช้าออกไปอีก” แม็กซ์ ยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องครัวพร้อมกับขอโทษ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะขัดขวางการประชุม แต่มันเป็นความจริงที่อาหารอย่างพุดดิ้งเต้าหู และโร่วเจียหมัวจะสูญเสียเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุดของพวกมันไปหลังจากที่ผ่านไปสักพักหนึ่ง ซึ่งมันจะไม่เป็นผลดีกับประสบการณ์ในการกินอาหาร
“การประชุมยังไปไม่ถึงไหนเลย เรามากินอาหารกันก่อนเถอะ ฉันหวังว่าพวกคุณทุกคนจะเข้าใจว่าพวกคุณกําลังเข้าร่วมการประชุมระหว่างเผ่าปีศาจและมังกร ถ้าคุณมีปัญหาภายในให้ไปเคลียกันเองเมื่อพวกคุณกลับไปแล้ว” ไมเคิลกวาดตามองทุกคนก่อนที่จะหันไปหาแม็กซ์และพยักหน้า “เอาอาหารมาเสิร์ฟได้เลยแม็กซ์”
“ได้ครับ” แม็กซ์พยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องครัวโดยมียาเบะมิยะและแซลลี่ตามเข้าไป
“ในฐานะแวมไพร์ฉันจะไม่กินอาหารที่ทําโดยมนุษย์และฉันจะไม่กินผัก เลือดสด ๆ คืออาหารเพียงหนึ่งเดียวของฉัน” แดรกคูล่าเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทีแน่วแน่
“ขออนุญาตินะคะ นี่คือพุดดิ้งเต้าหูแบบคาวค่ะ”
เสียงพูดดังขึ้นพร้อมกับถ้วยพุดดิ้งเต้าหูที่วางลงตรงหน้าเขา