เพื่อนบ้านผมคือคุณหนูสาวเจ้าเสน่ห์ - ตอนที่ 21 พบเจอกันในรอบหลายปี
ตอนที่ 21 พบเจอกันในรอบหลายปี
“…”
“เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“เรามาเข้าประเด็นกันดีกว่า”
หมอสมเกียรติย้ายไปนั่งเก้าอี้ประจำตัว
นอกจากพบเจอหน้าชายหนุ่มเบื้องหน้าเขายังต้องทำแผลให้อีกฝ่ายตามคำขอร้องของใบเฟิร์นอีกฉะนั้นจะรั้งรอปล่อยเสียเวลาไม่ได้
เริ่มแรกจากดูบาดแผลก่อน
“ขอดูแผล”
“ครับ”
หลังจากตอบรับคำของอีกฝ่าย
ทราเวียร์เลือกเปิดผ้าพันแผลให้อีกฝ่ายดู
แม้ใจจริงเขาไม่อยากรบกวนอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อมาแล้วอีกทั้งยังเป็นคำขอของใบเฟิร์น เขาคงปล่อยผ่านทำเมินไม่ได้
สุดท้ายปลายทางยินยอมได้สมควรยินยอมไปก่อน
แววตาสมเกียรติหวั่นไหวเล็กน้อยพอเห็นบาดแผล
…‘หนักเอาเรื่อง’
“…”
“ถึงแม้จะเคยเห็นภาพมาก่อน”
“แต่เทียบกับของจริงนี่มันคนละเรื่องกันเลย”
“แผลตกบันไดแน่นะ?”
“…”
“แน่ครับ”
ชายหนุ่มสวมแว่นพยักหน้าตอบกลับ
เสมือนรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังครุ่นคิดสิ่งใดตอนแรกหลังจากที่เขาได้แผลกลับมา เขาเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นแผลตกบันได
เขานึกว่าตัวเองโดนมีดดาบฟันแขนมากกว่า หลังจากปล่อยให้หมอสมเกียรติผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแพทย์ตรวจสอบบาดแผล
ทราเวียร์เลือกถามกลับไปตามตรง
“…” ถามหวังเอาคำตอบ
“อาการเป็นยังไงครับ?”
“…”
“จากเท่าที่ดู”
“บาดแผลส่วนใหญ่เริ่มตกสะเก็ด”
“เว้นตรงแขนขวา”
“แขนขวายังน่าเป็นห่วงอยู่”
“นอกเหนือจากนั้นไม่เกิน 2 – 3 วันก็น่าจะหาย”
“…”
“แล้วตรงแขนขวา—”
“อย่างต่ำก็เป็นเดือนกว่าจะหายเป็นปรกติ”
“ช่วงนี้ห้ามออกกำลังกายห้ามออกแรงหรือใช้งานแขนขวา”
“เน้นใช้แขนซ้ายไปก่อน”
“เกิดมีปัญหาภายหลังมันจะยุ่งยากเอา”
“ขยับแขนเข้ามาอีกหน่อย”
“ครับ”
ทราเวียร์ยื่นขยับแขนเข้าไปใกล้ไม่มีขัดขืน
สำหรับคำแนะนำของหมอสมเกียรติเขาไม่มีอะไรจะกล่าวเพิ่มเติม
หลังจากตรวจดูเสร็จเรียบร้อยหมอสมเกียรติก็เริ่มทำความสะอาดบาดแผลให้กับเขาทำอย่างละเอียดนุ่มนวลไม่มีหนักมือ
ขณะกำลังทำความสะอาดหมอวัยกลางคนยังจดจ้องมองไปที่รอยเย็บปิดแผลตลอดเวลา ไม่ว่าจะระยะห่างของด้ายความถี่กระทั่งรูปลักษณ์บาดแผล
ทุกสิ่งอย่างล้วนอยู่ในระดับสูงลิบ
…‘ฝีมือยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิม’
“…”
“ฉันจะทำแผลให้ก่อน”
“…”
“ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา”
“จำพวกไข้ขึ้นสูงหรือว่าปวดทรมานเกินกว่าระดับปรกติธรรมดา”
“ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที”
“ห้ามรอช้าเด็ดขาดเข้าใจไหม?”
หมอสมเกียรติหรี่ตามองเคร่งเครียด
ด้วยบาดแผลระดับนี้ของชายหนุ่มสวมแว่น
เกิดปล่อยผ่านหรือดูแลได้ไม่ดีพอจากที่เลวร้ายอยู่แล้วอาจเลวร้ายมากกว่าเดิมไปหลายเท่าตัว ซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดอาจถึงขั้นชีวิต
เขาเลยต้องย้ำเตือนให้อีกฝ่ายไม่ปล่อยปละละเลย
“…” ทราเวียร์พยักหน้าตอบกลับเป็นอันเข้าใจ
“ครับ”
“ถ้าเกิดอาการผมย่ำแย่ขึ้นมาเมื่อไหร่”
“ผมจะรีบไปโรงพยาบาลทันที”
“เรื่องเข้าโรงพยาบาลผมถนัดอยู่แล้ว”
“…”
“มันใช่เรื่องล้อเล่นเหรอ?”
หมอสมเกียรติขมวดคิ้วแน่น
เจ็บตัวมาขนาดนี้แล้วยังจะมาล้อเล่นอีก
ขณะหมอกำลังจมจ่อมอยู่กับห้วงความคิดของตัวเอง
เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดังขึ้นดังท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นของสหายต่างวัยทั้งสองที่ไม่ได้พบเจอกันมานานหลายปี
พอโดนแทรกแซงเข้าขัดขวางหัวคิ้วทั้งสองก็เริ่มขมวดเข้าหากันทันที
จนเห็นเป็นปมบนหน้าผากเหนือดวงตา
…‘เสียงโทรศัพท์?’
“…”
“ใครโทรมาอีกเนี่ย?”
ปรกติเขามักจะปิดโทรศัพท์ตลอด
กันไม่ให้ใครคนอื่นหรือใครคนไหนโทรเข้ามารบกวนเวลาทำงาน แต่ด้วยวันนี้เป็นวันพิเศษเป็นวันที่เขาจะได้เจอคนที่ห่างหายไปหลายปี
เขาเลยเปิดโทรศัพท์เอาไว้ตลอดเวลาเพื่อมีเหตุการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นเขาจะได้รับมือทันทีโดยไม่ปล่อยให้เสียโอกาส
ดวงตากะพริบมองพร้อมเบิกกว้าง
…‘เดี๋ยวก่อนนะ’
“…”
“เบอร์นี่มัน?”
“เวรกรรม?!”
“พอเป็นเรื่องเธอทีไรต้องโทรตามจิกตลอด”
“ให้มันได้ยังงี้สิ”
สมเกียรติสบถหัวเสียออกมา
เพียงแค่เห็นปลายสายโทรมาเขาก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร สายตาเขาเหลือบมองโทรศัพท์กับทราเวียร์หลายต่อหลายครั้งก่อนทอดถอนหายใจออกมา
ซึ่งชายหนุ่มสวมแว่นเพียงยิ้มเป็นกันเอง
“…” ก่อนบอกให้เขาทำตามใจได้เลย
“เชิญเลยครับ”
“ผมรอได้”
หมอสมเกียรติขยี้หัวไม่ชอบใจเป็นที่สุด
ก่อนเจ้าตัวจะเลือกก้าวเท้าเดินออกจากห้อง
ปล่อยให้ชายหนุ่มสวมแว่นได้กวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ กวาดมองไปพลางระลึกถึงความทรงจำเมื่อครั้งก่อนแน่นอนก่อนไปสมเกียรติมีทิ้งท้ายให้เล็กน้อย
กันไม่ให้อีกฝ่ายหนีหายไปเสียก่อน
“5 นาที”
“งั้นขอเวลา 5 นาที”
“เดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา”
“เชิญครับ”
หลังจากพูดคุยจัดการธุระตรงหน้าเสร็จเรียบร้อย
ชายวัยกลางคนก็เดินกลับมาพร้อมทำสีหน้าที่เขาไม่ได้เห็นมาเนิ่นนานเป็นสีหน้าตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้วยความสงสัยทราเวียร์เลยถามกลับไป
“…” ถามโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายบ่ายเบี่ยง
“ได้ความว่าไงครับ?”
“หล่อนบอกให้ฉันดูแลเธอให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“แถมไม่จำกัดวงเงินอีกต่างหาก”
“ใจปล้ำเป็นบ้า”
“…”
“ห่วงกันเกิน”
“ก็นะข้อดีอย่างหนึ่งของเธอก็คือเป็นห่วงมากเกินไปนี่แหละ”
“ห่วงจนเกินพอดี”
รอยยิ้มชายวัยกลางยิ้มหัวเราะเบาบาง
นิสัยของใบเฟิร์นเป็นแบบนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอะไรขอเพียงเป็นเรื่องปัญหายากจะหาทางออก หล่อนก็พร้อมยื่นมือตรงเข้ามาช่วยเหลือเสมอครั้งนี้เองก็เหมือนกัน
หากไม่ได้หล่อนเข้ามาเป็นตัวกลางระหว่างเขากับทราเวียร์ การพบปะครั้งนี้คงไม่มีวันเกิดขึ้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอนอย่างน้อยที่สุดก็ด้วยมือของเขา
หมอสมเกียรติละมือจากแผลใหญ่บนแขนขวา
ก่อนเหลือบมองนาฬิกาติดฝาพนัง
“เสร็จ”
“เสียเวลานานพอดู”
“เทียบกับคุณภาพไม่ถือว่านานครับ”
ไม่ถือว่านานเลยสักนิดถ้าเทียบกับของเดิม
อย่างว่าล่ะนะเทียบฝีมือคนปรกติธรรมดากับหมอชายวัยกลางคนที่เชี่ยวชาญวิชาการแพทย์เป็นหลักมันก็เหมือนเอาเด็กน้อยไปเทียบกับผู้ใหญ่ร่างใหญ่
หมอสมเกียรติมองผลงานตัวเองส่งท้ายก่อนจะทอดถอนหายออกมาครั้งนี้ทอดถอนหายใจหนักหน่วงกว่าครั้งไหน
เนื่องจากต้องจากลากันเสียที
…‘น่าเสียดาย’
“…”
“รบกวนเวลามามาก”
“ถึงเวลาต้องส่งเธอกลับบ้านไปพักผ่อน”
“ยาที่ฉันให้ไปอย่าลืมกินให้หมดด้วยล่ะ”
“ห้ามเหลือเด็ดขาด”
“เข้าใจไหม?”
“รับทราบครับ”
“…”
“โชคดี”
หมอสมเกียรติยิ้มส่ง
ผ่านมานานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เอ่ยปากอำลาชายหนุ่มเบื้องหน้า
ไม่ใช่ชายวัยกลางคนที่กระอักกระอ่วมกับสถานการณ์เบื้องหน้า กระทั่งฝ่ายของทราเวียร์เองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
เขาทำได้แค่ก้มหัวขอบคุณ
ขอบคุณทุกอย่างที่อีกฝ่ายกระทำให้
ขอบคุณที่เป็นห่วงเป็นใยเขาจากใจจริง
“ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งอย่างครับ”
“คนกันเองทั้งนั้น”
“…”
ฝ่ามือข้างขวาออกอาการสั่นไหวเล็กน้อย
ก่อนน้ำเสียงสั่นเครือจะดังขึ้น แม้น้ำเสียงจะเบาบางจนแทบไม่ได้ยินหากกับเต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงอารมณ์และความรู้สึกเป็นที่สุด
หมอสมเกียรติมองสู้สายตา
“เวียร์”
“ครับ?”
“ถึงแม้ลูกสาวตัวดีของฉันจะไม่อยากให้เธอกลับมาที่บ้าน”
“แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น”
“ไม่ได้คิดแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย”
“…”
“ผมรู้ครับ”
“บ้านหลังนี้พร้อมต้อนรับเธอเสมอ”
“อยากจะมาเมื่อไหร่ก็มาได้เลย”
“ทำเหมือนเป็นบ้านตัวเองก็ได้ถ้าเธอต้องการ”
ระยะห่างเพียง 2 – 3 วินาที
มันก็มากพอทำให้หมอวัยกลางผู้มากไปด้วยประสบการณ์มากไปด้วยความอดทนอดกลั้นร้อนรนจนแทบทำอะไรไม่ถูก
ก่อนทราเวียร์จะกล่าวตอบกลับเสียงเรียบ
เป็นคำตอบที่ยากจะคาดเดาอารมณ์
“…”
“จะพยายามครับ”
ไม่เหนือความคาดหมายเลยแม้แต่น้อย
ออกจะอยู่ในการคาดการณ์ด้วยซ้ำ หมอสมเกียรติทอดถอนหายใจไม่อยากให้ช่วงเวลาจากลามันเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วม
แต่มันคงสายไปแล้วละมั้ง
สมเกียรติยิ้มแห้ง
…‘จะพยายามสินะ’
“…”