เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ - ตอนที่ 785-786
บทที่ 785 ความคิดของเวินรั่ว
อันที่จริง เด็กสาวตัวน้อยคนนั้นคงเป็นห่วงเขาสินะ เธอคงไม่อยากให้เขาเหนื่อยเกินไป
ในความทรงจํา เด็กหญิงตัวเล็กๆคนนั้นกอดขาเขาตลอดเวลาพร้อมกับใบหน้าที่น้ําตาคลอ
“พี่ชายใหญ่ ถ้าพี่ไม่เล่นกับฉัน ฉันจะบอกแม่ว่าพี่แกล้งฉันนะ”
“ไม่เล่น”
“ไม่เป็นไร ถ้าพี่ไม่เล่นกับฉันงั้นฉันจะโกรธพี่”
สาวน้อยกอดอกทําหน้ามุ่ยโกรธพี่ชาย
“ไปเล่นกับพี่ชายรองสิ”
“วันนี้อาจารย์ขอยืมพี่ชายรองไป”
“งั้นอยากเล่นอะไร” ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจประนีประนอม
ถ้าฉันตายพี่ก็จะไม่มีน้อง
“เล่นอะไรก็ได้ เรียนอยู่ได้น่าเบื่อจะตาย ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว สาวนะ”
“พี่ใหญ่?” เป็นรั่วร้องออกมาเมื่อเห็นว่าเจี่ยนหยุ่นเฉิงนิ่งไป
ความคิดของเจี่ยนหยุ่นเฉิงถูกดึงกลับมา และเมื่อเขามองไปที่เวินรั่ว ดวงตาของเขาก็กลับมาเย็นชา
“ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว กลับไปเถอะ ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ”
เจียนหยุ่นเฉิงมีท่าทางที่แปลกแยกและเย็นชาอยู่เสมอ
เพราะเขาเป็นแบบนี้มาตลอด เว้นรั่วเลยไม่ถูกกีดกันออกจากท่าทางที่เย็นชาของเขา
และด้วยเหตุนี้เป็นรั่วกล่าวเสริมว่า “ฉันเกือบลืมไป แสดงความยินดีสําหรับการร่วมมือกันกับบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ซื่อหมิงด้วย”
เวินรั่วมีน้ําเสียงที่นุ่มนวลที่เต็มไปด้วยความยินดีอย่างจริงใจ “ฉันได้ยินมาว่าเว่ยฉีรุ่ยคุยกับผู้เฒ่าจางหลายครั้งเกี่ยวกับความร่วมมือนี้ แต่พี่ใหญ่ที่เพิ่งรับช่วงต่อบริษัทกลับได้พูดคุยกันแล้ว ตอนนี้คนนอกกําลังคาดเดาเกี่ยวกับพรสวรรค์และความสามารถของพี่ที่ทําให้ผู้เฒ่าจางมีความคาดหวังสูงกับตัวพี่”
ค่าพดของเวินรั่วนั้นเป็นความจริง มีการเก็งกําไรที่เกี่ยวข้องมากมายภายนอก
ทุกคนรู้ว่าเว่ยรุ่ยโกรธมากจนแทบกระอักเลือด
บริษัทยังคงเป็นบริษัทเดิม แต่ท่าทางของเฒ่าจางเปลี่ยนไป เมื่อรู้ว่าบริษัทนั้นได้เปลี่ยนเจ้าของ
ดังนั้น จึงเห็นได้ชัดว่าผู้เฒ่าจางไม่ค่อยพอใจผู้บริหารของบริษัทคนเดิม
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน” เจียนหยุ่นเฉิงตอบ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าผู้เฒ่าจางกําลังทําอะไร แต่เขาไม่ได้มีบทบาทอะไรในการตัดสินใจของผู้เฒ่าจาง
ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้คบหาสมาคมกับผู้เฒ่าจางแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องเจียมตัวขนาดนั้นก็ได้ บริษัทหวนเหยียวเทคโนโลยอยู่ในช่วงพัฒนาและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ใครมีตาก็เห็นความสามารถของพี่ทั้งนั้น ฉันเชื่อว่าผู้เฒ่าจางก็รู้เรื่องนี้ดี”
“มีอะไรจะพูดอีกไหม” เจียนหยุ่นเฉิงถามพร้อมลุกขึ้นยืน “ฉันต้องไปประชุม
“ขอดูรอบๆบริษัทหน่อยได้ไหม ฉันไม่เคยเห็นบริษัทเกมมาก่อน” เป็นรั่วถาม
“แล้วแต่เธอ”
พูดเสร็จเจียนหยุ่นเฉิงก็หยิบคอมพิวเตอร์แล้วเดินไปที่ห้องประชุม
เป็นรั่วไม่ได้ออกไปทันทีหลังจากที่เจียนหยุ่นเฉิงออกจากห้องไป ในทางกลับกันเธอพักอยู่ที่ห้องของเจี่ยนหย่นเฉิงสักพัก แล้วเธอก็ลุกขึ้นไปเยี่ยมชมส่วนอื่นของบริษัทต่อ
เลขาของเจี่ยนหยุ่นเฉิงกลัวเธอวิ่งไปรอบๆ ดังนั้นจึงเดินตามเธอไปด้วย
คนในบริษัทต่างกระซิบกันเมื่อเห็นเธอ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
“ดูเหมือนเธอเป็นน้องสาวของ CEO”
“ประธานมีน้องสาวด้วยเหรอ?”
“ได้ยินมาว่าเขามีน้องสาว”
“อิจฉาเนอะ อยากมีพี่ชายแบบ CEO บ้างจัง
“ใช่ แต่เราคงไม่ได้โชคดีขนาดนั้น คงต้องเป็นชาติหน้าแล้วแหละ”
หลังจากเดินดูไปได้สักพักเป็นรั่วก็พบว่าขนาดของบริษัทเกมของเจี่ยนหยุ่นเฉิงนั้นใหญ่กว่าที่เธอคิดไว้มาก
ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักว่าพวกเขาประเมินความแข็งแกร่งของเจี่ยนหยุ่นเฉิงต่ําไป
ถึงแม้จะไม่มีการควบรวมกิจการและการเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์หญิง บริษัทของเจี่ยนหยุ่นเฉิงก็ค่อนข้างแข็งแกร่งมากเลยที่เดียว
บทที่ 786 การสืบสวนซึ่งกันและกันของสามีภรรยา 1
หลังจากออกจากบริษัทหวนเหยียวเทคโนโลยีแล้ว เป็นรั่วก็ยิ่งมุ่งมั่นที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเจี้ยนหยุ่นเฉิงไว้
เป็นรั่วยังรู้อีกว่าเจียนอีหลังไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่ชายคนนี้ด้วย
ดังนั้น นี่คือโอกาสสําหรับเธอ
ในคลับส่วนตัว หานหมิงอวี่สวมเสื้อลายดอก เขามีแก้วไวน์แดงอยู่ในมือ
เขาไม่ได้มีความสง่างามเหมือนพวกคุณหนูแต่กลับเต็มไปด้วยเสน่ห์
“นายท่านเชิง โชคของพี่เขยช่างเหลือเชื่อ ตอนแรกทุกคนคิดว่าเขาจะขาดทุนจากการซื้อกิจการครั้งนี้ แต่ไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะร่วมมือกับบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์หญิง และพลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วแบบนั้น”
“ไม่ใช่โชค”
จํายหวินเพิ่งเอนหลังบนม้านั่งอย่างเกียจคร้าน เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็กสีดํา
“ไม่ใช่โชค? ถ้าอย่างนั้น จะบอกว่าผู้เฒ่าจางเชื่อมั่นในความสามารถของเจี่ยนหยุ่นเฉิงงั้นเหรอ?”
หานหมิงอวรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไป
จํายหวินเชิง “มันราบรื่นเกินไป”
นี่คือสัญชาตญาณของจํายหวินเชิง
จากอุบัติเหตุของตระกูลเว่ยจนถึงการได้มาของตระกูลเจี้ยนทุกอย่างมันราบรื่นเกินไป
ซิงเหว่ยพูดว่า “พูดถึงเรื่องนั้น เราก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับริษัทโปลงนี้เลย”
ซึ่งเหว่ยที่กําลังยกดัมเบลล์อยู่ข้างๆ เพื่อออกกําลังแขนอยู่ ถึงเขาจะรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถเอาชนะนายท่านเชิงได้ แต่เขาจะไม่ยอมแพ้
หานหมิงอวพูดต่อว่า “ยังไงก็เถอะ พี่สะใภ้ก็คือคนของตระกูลเจียน ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอยู่ข้างนายท่านเชิงเสมอใช่ไหม?”
ซึ่งเหว่ยตอบกลับว่า “พูดยาก เพราะในตอนแรกตระกูลเจียนดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงนี้”
หานหมิงอวี่แย้ง “นั่นเป็นเพราะพี่สะใภ้ของเรายังเด็กอยู่ และนายท่านเชิงก็ขโมยเธอมาจากตระกูลเจียน เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะหงุดหงิดนิดหน่อย”
จํายหวินเชิงพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ก็ยังดี คอยดูบริษัทโปลังต่อไป ยังไงก็ตามอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”
ซึ่งเหว่ยตอบ “เข้าใจแล้ว แล้วจะให้ทําอะไรกับพวกตระกูลเว่ยที่เหลืออยู่”
จํายหวินเชิงตอบ “ให้ตระกูลเว่ยที่เหลือเปลี่ยนนามสกุลซะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหานหมิงอวี่ก็แสดงความตื่นเต้นออกมา “ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นเว่ยจีรุ่ยกระโดดไปมาด้วยความโกรธ”
เฟิงเหว่ยส่งข้อความถึงเจี่ยนอีหลิง
เฟิงเหว่ย [ อีหลิงมีองค์กรที่กําลังตรวจสอบบริษัทของเราอยู่ ]
เจี่ยนอีหลิง [ องค์กรไหน?]
เพิ่งเหว่ย [ เราไม่แน่ใจ อีกฝ่ายทําค่อนข้างเรียบร้อย ตอนที่พวกเขาเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของเรา ระบบของเราตรวจพบการเข้าถึง แต่พอเราพยายามติดตามพวกเขาดูเหมือนพวกเขาจะรู้ตัว ดังนั้นจึงไม่มีเบาะแสอะไรที่เป็นประโยชน์เลย ]
เจียนอหลิง [พวกเขากําลังโจมตีเราอยู่เหรอ? ]
เพิ่งเหว่ย [ไม่ใช่ เหมือนสนใจแต่ข้อมูลบุคลากรของเรา แต่ข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บไว้ที่อื่น เซิฟเวอร์นั้นมีไว้หลอกคนเท่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์อะไร ]
เจียนอีหลิง [ บอกให้ทีมรักษาความปลอดภัยระมัดระวังยิ่งขึ้น ]
เฟิงเหว่ย [ เข้าใจแล้ว นอกจากนี้ รายงานรายได้จากการชอร์ตหุ้นได้ถูกส่งไปที่อีเมลแล้ว ดูเหมือนคราวนี้เราได้กําไรมหาศาลอีกแล้ว ]
เจียนอหลิง [ ขอบคุณเหมือนเดิม 60% ของกําไรสุทธิที่หักค่าใช้จ่ายแล้วที่เหลือแบ่งให้ทีม ]
เฟิงเหว่ย [ เข้าใจแล้ว ]
ไม่มีใครคาดคิดว่าเพิ่งเหว่ยจะเป็นหนึ่งในสมาชิกของบริษัทโปลังนี้
ในฐานะที่เขาจะมีหน้าในสังคมแล้ว ตอนแรกเขาแค่มาร่วมงานกับบริษัทโปลงเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
แต่ทว่ายิ่งทําก็ยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้น