เทพปีศาจผงาดฟ้า - ตอนที่ 154
ตอนที่ 154 ประวัติศาสตร์กําลังจะซ้ํารอย!
ระหว่างที่องค์ชายหญ่หวังรําพึงรําพันอยู่นั้น หญิงสาวก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นพอดี..
“สุดท้ายท่านก็รู้เรื่องนี้เข้าจนได้สินะ! ข้าเฝ้าภาวนามิให้ท่านได้ล่วงรู้เรื่องนี้ แต่เห็นที่จะเป็นไปมิได้เสียแล้ว!ข้าคงจะทําให้ท่านต้องรู้สึกกังวลใจมาก?!” หญิงสาวพึมพําออกมาด้วยน้ําเสียงที่เบาหวิว
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า.. ข้าจะรู้สึกกังวลใจได้อย่างไรกันเล่า? ตรงกันข้าม.. ข้ารู้สึกมีความสุขมากต่างหากข้ามีความสุขมากที่กําลังจะได้เป็นพ่อคน..”
องค์ชายหญ่หวังเอ่ยออกไปด้วยน้ําเสียงตื่นเต้นดีใจ และพยายามเก็บซ่อนความกังวลใจไว้เบื้องหลังรอยยิ้มนั้น..
“แต่ท่านกําลังจะแต่งงาน?” หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมกับจ้องลึกลงไปในดวงตาของเขา
“ข้าจะกลับไปปรึกษากับท่านพ่อเพื่อหาทางออกให้กับเรื่องนี้ ข้าคงจะมิสามารถยกเลิกการแต่งงานกับองค์หญิงแคว้นเฉียนตี้ได้ แต่ข้าจะพยายามเกลี้ยกล่อมท่านพ่อ ขอให้สามารถมีเจ้าอีกคนได้ด้วย..”
องค์ชายหญ่หวังเอ่ยตอบหญิงสาว ดวงตาของเขาจ้องลึกลงไปในดวงตาของนางเช่นกันและใบหน้าก็บ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกมากมาย..
“ท่านมิจําเป็นต้องทําเช่นนั้น.. การแต่งงานของท่านกับองค์หญิงต่างแคว้น หาใช่เรื่องธรรมดาทั่วไปไม่หากท่านตัดสินใจผิดพลาดไป.. คงต้องเกิดความขัดแย้งจนนําไปสู่สงครามครั้งใหญ่อีกเป็นแน่!ข้าสามารถดูแลลูกของเราตามลําพังได้..” หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงที่เบาราวกระซิบพร้อมกับเบนสายตาเหลือบมองเพดานห้องแทน
“เจ้ามิต้องกังวลใจไป! ข้ามั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี ข้าจะรีบกลับไปปรึกษาท่านพ่อแล้วจะรีบกลับมาหาเจ้าทันที่ที่ทําได้”
องค์ชายหญ่หวังเอ่ยตอบพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยอะไรออกไปร่างขององค์ ชายหญ่หวังก็ได้หายออกจากร้านไปแล้ว
องค์ชายหญ่หวังกลับไปที่พระราชวังทันที หลังจากที่ตามหาไปทั่วทั้งวัง ในที่สุดก็พบว่าบิดาของตนกําลังอยู่ที่ห้องทรงอักษร..
เขาเดินตรงไปที่ห้องทรงอักษรขององค์จักรพรรดิ และรีบเคาะประตูทันที หลังจากได้รับอนุญาตแล้วองค์ชายหญ่หวังก็พุ่งตรงเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดิหญ่จนเว่ยกําลังยืนอยู่ที่ชั้นตํารา..
“ลมอะไรหอบเจ้ามาถึงที่นี่? เจ้ามีเรื่องใดต้องการจะสนทนากับข้างั้นรึ?” องค์จักรพรรดิหลู่จวิ่นเว่ยหันไปถามองค์ชายหญ่หวัง
“ท่านพ่อ.. ข้ามีเรื่องสําคัญจะต้องบอกกับท่าน!!” องค์ชายหญ่หวังเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“เหตุใดสีหน้าของเจ้าจึงดูเป็นกังวลเช่นนั้นเล่า? นี่คงจะเป็นครั้งแรกกระมัง ที่ข้าได้เห็นบุตรชายผู้ห้าวหาญของตนมีใบหน้าวิตกกังวลเช่นนี้! มิมีสิ่งใดเลวร้ายจนเกินไป.. มีอะไรก็บอกข้ามาข้าจะช่วยเจ้าสะสางปัญหาเอง..” จักรพรรดิหลู่จวิ้นเว่ยเอ่ยบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เรื่องนี้เกี่ยวกับหญิงสาวที่ข้าไปมีสัมพันธ์ด้วย…”
องค์ชายหญ่หวังเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับจักรพรรดิหลู่จวิ่นเว่ยฟังอย่างละเอียด..
จักรพรร วยนิ่งฟังอย่างสงบโดยมิได้เอ่ยขัดองค์ชายหญ่หวังเลยแม้แต่น้อย นั้นกลับขมวดเข้าหากันแน่น..
“…หลังจากที่ได้ยินเรื่องการแต่งจากท่านพ่อ เพื่อความสงบสุขรุ่งเรืองของสองแควัน ข้าจึงตัดสินใจที่ดีมนาง และตั้งใจที่จะฝังความทรงจําเกี่ยวกับนางไว้เพียงแค่นั้น!”
“แต่วันนี้ด้วยความบังเอิญ.. ทําให้ข้าได้รู้เรื่องที่นางกําลังตั้งท้องลูกของข้า! นางเป็นหญิงที่มีจิตใจดียิ่งนักนางตั้งใจปกปิดเรื่องที่นางตั้งท้องกับข้าไว้ เพื่อให้ข้าได้ไปแต่งงานกับหญิงอื่นได้โดยมิต้องกังวลใจ..”
“ท่านพ่อ.. ข้ามสามารถทอดทิ้งนางได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ที่นางกําลังอุ้มท้องลูกของข้าอยู่แต่ก็มิสามารถล้มเลิกการแต่งงานกับองค์หญิงแห่งแคว้นเฉียนตี้ได้เช่นกัน!ท่านพ่อ.. ได้โปรดช่วยลูกด้วย!”
องค์ชายหญ่หวังคุกเข่าลงตรงหน้าพระบิดา พร้อมกับอ้อนวอนด้วยน้ําตาที่คลอเบ้า..
จักรพรรดิหลู่จวิ่นเว่ยยังคงยืนนิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน พร้อมกับจ้องมองบุตรชายที่กําลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าด้วย ใบหน้าที่บ่งบอกถึงความตกอกตกใจอย่างมาก
“นี่ประวัติศาสตร์กําลังจะซ้ํารอยสินะ..” จักรพรรดิหญ่จนเว่ยพึมพําออกมาด้วยสีหน้าแววตาที่ว่างเปล่า..
“แต่ข้าจะมิยอมให้เหตุการณ์เช่นเดิมเกิดขึ้นซ้ําอีกเป็นแน่..” จักรพรรดิหลู่จวิ้นเว่ยเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าและแววตาที่บ่งบอกถึงการตัดสินใจอันแน่วแน่
“เรื่องการแต่งงานนั้น ข้าได้รับปากแคว้นเฉียนตี้ไปแล้ว!!” จักรพรรดิหลู่จวิ่นเว่ยเอ่ยตอบด้วยน้ําเสียงหนักแน่นในขณะที่ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างขององค์ชายหญ่หวัง
ด้ เจ้าจะต้องแต่งงานกับองค์หญิงแห่งแคว้น
“มันสายเกินไปแล้ว!! เจ้ามิสามารถแต่งงานกับหญิง เฉียนตี้เท่านั้น!”
ทันทีที่ได้ฟังคําพูดของพระบิดา องค์ชายหญ่หวังก็ถึงกับน้ําตาไหลนองหน้าเขาจ้องมองหน้าจักรพรรดิหลู่จขึ้นเว่ยแน่นิ่ง..
“แต่.. ข้าก็มต้องการบีบบังคับให้เจ้าต้องทอดทิ้งหญิงผู้นั้นเช่นกันข้ามิอาจทนเห็นลูกของเจ้าต้องเติบโตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อได้แม้เจ้าจะมิสามารถแต่งงานกับนางได้แต่ก็ยังสามารถดูแลนางได้หากเจ้าต้องการทุกอย่างจะมิมีปัญหาอะไรหากเจ้าทําเรื่องนี้อย่างลับๆรอจนกระทั่งเด็กเติบใหญ่พวกเราค่อยคิดหาหนทางให้เจ้ารับมาเด็กมาเลี้ยงดู แม่วิธีนี้จะดูไม่เป็นธรรมกับหญิงสาวผู้นั้นนักแต่นี่ก็เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดต่อทุกๆฝ่าย..”
จักรพรรดิจขึ้นเว่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ําเสียงหนักแน่น..
“ข้า.. ข้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของท่านพ่อ!!”องค์ชายหวังเอ่ยตอบในขณะที่ยังคงก้มหน้า
“แต่นับจากนี้ไปจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน เจ้าห้ามไปมาหาสู่หรือติดต่อกับหญิงสาวผู้นั้นอีกนี่เป็นคําสั่ง!! เอาล่ะ.. เจ้าออกไปได้แล้ว!” จักรพรรดเหลู่จวิ่นเว่ยหันหลังให้โอรสพร้อมกับออกคําสั่ง
องค์ชายหญ่หวังลุกขึ้นยืน และเดินจากไปทันที..
“ลูกพ่อ.. ข้าขอโทษที่ต้องทําเช่นนี้!แต่นี่เป็นการตัดสินใจที่ดีต่อทุกๆฝ่าย หากเจ้าบอกเรื่องนี้กับข้าตั้งแต่แรกข้ายังสามารถปฏิเสธการแต่งงานได้โดยอ้างกับพวกเขาว่าเจ้ามิยินยอมแต่ตอนนี้ทุกอย่างได้สายไปแล้วการแต่งงานกําลังจะเกิดขึ้นอีกในไม่กี่วัน..”
องค์จักรพรรดิหลู่จวิ่นเว่ยรําพึงรําพันกับตนเองหลังจากที่องค์ชายหญ่หวังออกจากห้องไป..
องค์ชายหญ่หวังกลับไปที่ห้องบรรทมของตนเองแม้เขาจะยินดีทําตามคําสั่งของบิดา แต่ก็ได้ตัดสินใจเขียนจดหมายเพื่ออธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้หญิงสาวฟังและให้คนแอบนําไปมอบให้กับนาง
เวลาล่วงเลยไปอีกหนึ่งวัน.. และอีกหนึ่งวันการแต่งงานก็จะเริ่มขึ้นแล้ว
บ่าวในวังผู้หนึ่งได้นําจดหมายมามอบให้กับองค์ชายหญ่หวังแต่เมื่อเปิดจดหมายออกอ่าน องค์ชายหญ่หวังก็ถึงกับตกตะลึง..
องค์ชายหวัง..
ข้าได้รับจดหมายของท่านแล้ว แต่แทบไม่อยากเชื่อว่าท่านจะเป็นผู้เขียนจดหมายฉบับนั้นด้วยตนเองอาจเป็นไปได้ว่ามีใครบางคนกําลังเล่นตลกกับข้า ข้าจึงต้องการพบท่านอีกครั้งเพื่อเจรจากันต่อหน้าท่านมิจําเป็นต์องกังวลเรื่องคําสัญญาเพราะพวกเราจะไม่พบกันในเมือง..
ทะเลทรายที่ติดกับชายแดนด้านใต้ของเมือง มีกระท่อมร้างแห่งหนึ่งข้าจะไปรอท่านอยู่ที่นั่นจนถึงเย็น หาก จดหมายฉบับนั้นเป็นท่านเขียนจริงสถานที่แห่งนั้นก็จะเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่เราจะนัดพบกันโดยที่มิมีผู้ใดพบเห็นแต่หากจดหมายฉบับนั้นเป็นของปลอมและเป็นผู้อื่นเขียนขึ้นมาเพื่อล้อเล่นกับความรู้สึกของข้า ข้าก็จะถือเสียว่านี่เป็นชะตากรรมที่ข้าจะต้องได้รับและออกจากแคว้นนี้ไปเพื่อที่ท่านจะได้ไม่ต้องกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องของข้าอีก.. ข้าจะรอท่านอยู่ที่นั่น
เจียอี้ของท่าน
องค์ชายหญ่หวังอ่านจดหมายซ้ําไปซ้ํามาอยู่เช่นนั้นสีหน้าของเขาบ่งบอกว่ากําลังเป็นกังวลยิ่งนัก เขาจ้อง มองประตูห้องนอนด้วยสีหน้าแววตาครุ่นคิดแต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจออกจากห้องไปแต่เป็นเพราะความรีบร้อนองค์ชายหญ่หวังจึงได้ลืมเก็บจดหมายและวางมันไว้บนเตียงเช่นนั้น
องค์ชายหญ่หวังควบม้าออกจากพระราชวังไปอย่างรีบร้อน..
หลังจากที่องค์ชายหญ่หวังออกไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยามองค์หญิงหมิงยู่ก็เข้ามาที่ห้องนอนของเขา