เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) - ตอนที่ 114
Chapter 114: ทหารรับจ้างโจว
ทุกคนของทหารรับจ้างอัคนี้คิดว่าความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินอยู่ในระดับเซียน แม้กระทั่งตราทหารรับจ้างอย่างเขาก็ยังได้อยู่แค่ระดับ D และปัจจัยที่สําคัญที่สุดก็คือเจี้ยนเฉินยังเด็กมากเช่นกัน ในทวีปเทียนหยวนหากอายุ 20 สามารถเป็นเซียนได้ พวกเขาก็จะมีอนาคตที่สดใส และศักยภาพของเขานั้นก็ไม่อาจจินตนาการได้ สําหรับคนที่อายุ 20 ปีที่เหมือนอย่างเงี้ยนเฉินที่สามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2 ได้แม้ว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่มีใครที่จะเชื่อได้หากว่าพวกเขาไม่ได้เห็นมัน อย่างไรก็ตามนอกจากหัวหน้าเคนดัลก็เห็นได้เพียงแสงจากกระบี่จาง ๆ และตอนที่เจี้ยนเฉินฆ่าเสือดํา
ดวงตาของเคนดัลสั่นขณะที่มองไปที่กระบี่ของเจี้ยนเฉินก่อนที่จะสงบสติลงและหัวเราะ “ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อ เจ้าก็ลองถามเจี้ยนเฉินดู”ใบหน้าของเขายิ้มเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แต่เขาจะไม่มีความสุขได้อย่างไร? มีผู้เชี่ยวชาญอีกคนในกลุ่มของเขาแล้วตอนนี้
Xiao Dao was the first to give in. Running up to Jian Chen while looking at him from up to down, his eyes finally settled onto the blood free Light Wind Sword, “Jian Chen, please tell me honestly, did you kill the Black Tiger?”
เสี่ยวเต๋าเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไปหาเจี้ยนเฉิน ขณะที่เขามองเจี้ยนเฉินจากหัวจรดเท้า สุดท้ายเขาก็หรี่ตามองไปที่กระบี่วายุโปรยที่ไม่มีร่องรอยของเลือดใด ๆ ”เจี้ยนเฉิน บอกข้าหน่อยเจ้าเป็นคนฆ่าเสือดําจริง ๆ หรือ ? ”
เจี้ยนเฉินหันไปมองหน้าเสี่ยวเต๋าที่กําลังแสดงออกว่าไม่เชื่อและพูด “ถูกต้อง ข้าเป็นคนฆ่ามันเอง” ตั้งแต่ต้นเจี้ยนเฉินไม่ได้วางแผนที่จะปิดบังความแข็งแกร่ง เพราะงั้นเขาจึงไม่ได้โกหกและพูดอย่างตรงไปตรงมากับเสี่ยวเต๋า
“ว้าว ไม่มีทาง!” ตาของเสียวเต้เบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เสี่ยวเต๋ามองไปที่เจี้ยนเฉินที่ยังคงสงบอยู่และพูดว่า “สัตว์อสูรระดับ 2 นี้ถูกเจ้าฆ่าจริง ๆ รึ ? เจ้าทําได้อย่างไรและทําไมข้าถึงไม่เห็นว่าเจ้าฆ่ามันเช่นไร ? “
เมื่อได้ยินเสี่ยวเต๋าถามคําถามเหล่านี้ ทุกคนแม้กระทั่งเคนดัลต่างก็มองมาที่เจี้ยนเฉินอย่างตั้งใจและไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีไหนในการฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2 มันเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะอยากรู้อยากเห็น สําหรับพวกเขาเห็นก็คือเจี้ยนเฉินฉากหลบไปข้าง ๆ ขณะที่ชักกระบี่เรียว ๆ นั่นออกมาวิธีการที่แปลกประหลาดในการฆ่าเสือดํา แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าเขาใช้วิธีการใด
ในท่ามกลางกลุ่มทหารรับจ้างที่มองเจี้ยนเฉินต่างออกไป มันเป็นคาโบลด์ที่มองเจี้ยนเฉินและพูดกับตัวเองว่า “มันเป็นอย่างที่ข้าคิด”
เจี้ยนเฉินยิ้มขณะเขายกกระวายุโปรยขึ้นมา “ข้าใช้อาวุธเซียนในการฆ่าสัตว์อสูร สิ่งที่พวกเจ้าไม่เห็น นั่นก็เพราะว่าข้าเคลื่อนไหวเร็วมากจนมองไม่ทัน”
เมื่อได้ยินที่เจี้ยนเฉินพูด หัวหน้าเคนดัลก็นึกย้อนกลับไปถึงแสงสีเงินที่เขาเห็นและไม่อาจช่วยอะไรได้นอกจากกลัว นี่เป็นเพราะว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับว่ากระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วมากและทําให้เขาเห็นได้แค่แสงกระบี่จาง ๆ ในตอนนี้หัวหน้าเคนดัลอดไม่ได้ที่จะคิดว่าหากพวกเขาต้องมาต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีความเร็วอย่างนี้ เขาจะสามารถหลบการโจมตีของอีกฝ่ายได้หรือไม่ ?
ฉางหนิงเฟยมองไปที่ศพของเสือดําที่ด้านล่างและเตะให้ตัวของมันพลิกไปอีกทาง ก่อนที่จะจับหัวของมันเพื่อดูบาดแผล
เมื่อทุกคนเห็นรูที่เหวอหวะที่คอของเสือดํา แม้กระทั่งหัวหน้าเคนดัลก็อดที่จะสูดหายใจอย่างหนาวเหน็บ ออกมาเมื่อเห็นแผลที่น่ากลัวอันนี้ แค่มองไปที่คอใครก็สามารถเห็นได้ว่าสองในสามของมันได้หายไป มีเพียงหนึ่งในสองที่คิดอยู่กับหนังและส่วนอื่น ๆ ทําให้หัวของเสือดํายังคงติดอยู่กับร่างกายของมันแต่ก็จะสามารถขาดออกมาได้ทุกเมื่อ
สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ยิ่งกว่านั้นก็คือ เสือดํากระโดดเข้ามาหาอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่ากําลังร่อนอยู่กลางอากาศ สําหรับเจี้ยนเฉินซึ่งแทงไปที่คอของมันอย่างแม่นยํา สิ่งที่แสดงออกมาให้เห็นคือทักษะที่ไม่มีใครเทียบได้
ดีรี่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทําให้หัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งสงบลง เขามองไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับรอยยิ้มและพูดว่า “เจี้ยนเฉินก่อนนี้ เราได้คิดว่าเจ้าเป็นแค่เซียน แต่ดูเหมือนว่าพลังของเจ้านั้นเกิดกว่าที่เราจะคาดเอาไว้ เจ้าทําให้พวกเราดูด้อยไปจริง ๆ ”
หูป๋อเดินไปทางเจี้ยนเฉินและยื่นมือไปวางบนไหล่”เจี้ยนเฉิน เจ้าช่างเหลือเชื่อมาก! บอกข้าตรง ๆ เจ้าแข็งแกร่งแค่ไหน? เจ้าคงไม่มากไปกว่าหัวหน้าใช่หรือไม่ ? “
ได้ยินสิ่งที่หูป๋อพูด เจี้ยนเฉินทําได้แค่เพียงหัวเราะอย่างท้อแท้ “พี่หูป๋อ ข้าไม่ได้น่าทิ้งอย่างที่ท่านว่า ความแข็งแกร่งของข้าไม่ได้ต่างจากท่านที่เป็นเซียนระดับสูงขั้นกลาง”
“นั่นมันไม่ถูกต้อง หากเจ้าเป็นเซียนระดับสูงขั้นกลาง เจ้าจะฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2 ได้อย่างไร ? ” หูป๋อพูดด้วยความแปลกใจ แต่แทนที่จะรอคําตอบจากเจี้ยนเฉิน เขาก็หันไปคุยกับคนอื่น ” ก่อนอื่นเรามาจัดการชิ้นส่วนของเสือดําก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องนี้ต่อไป”
แม้ว่าพวกเขาจะเห็นว่าหูป๋อเป็นคนสั่ง อย่างไรก็ตามไม่มีใครพูดอะไรออกมา พวกเขาเตรียมที่จะจัดการซากของเสือดํา
“เสือดําตัวนี้น่าทึ่งมาก แม้ว่าจะมีเป็นสัตว์อสูรระดับ 2 แต่ความเร็วมันก็แทบจะเท่ากับสัตว์อสูรระดับ 3 หลังจากที่เอาแกนอสูรออกมาแล้ว เดี๋ยวค่อยเอาส่วนที่เหลือเก็บไว้ในเข็มขัดมิติ มันอาจจะทําเงินให้พวกเราเป็นจํานวนมาก” เคนดัลพูด
ในทวีปเทียนหยวน ไม่ค่อยเรื่องมากในเรื่องของประเภทเนื้อนอกจากเนื้อวัวปกติแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อที่มาจากสัตว์อสูร เนื้อของสัตว์อสูรไม่เพียงแต่อ่อนละมุนเท่านั้น มันยังสามารถให้คุณประโยชน์กับร่างกายหลังจากที่กินมัน ดังนั้นเนื้อของสัตว์อสูรจึงเป็นเนื้อที่ขายดี ยิ่งระดับสัตว์อสูรสูงเท่าไร ความต้องการของมันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
เจี้ยนเฉินเก็บกระวายุโปรยกลับไปและมองดูทหารรับจ้างชําแหละร่างของเสือดํา เขา ไม่สนใจว่ามันจะเป็นสัตว์อสูรระดับ 2 เพราะว่าเขาสามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับ 3 ได้ง่าย ๆ ตอนไหนก็ได้ ด้วยน้ํามือของเจี้ยนเฉินสัตว์อสูรไม่อาจหลบหนีออกไปได้ แตกต่างจากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี แม้ว่าพวกเขาจะมีเพียงแค่เซียนผู้เชี่ยวชาญเพียงคนเดียว ต่อให้รวมเข้าด้วยกันทั้งกลุ่มก็ไม่สามารถเทียบเท่าตัวของเจี้ยนเฉินเองได้ การฆ่าสัตว์อสูรระดับ 2 นั้นเป็นเรื่องที่ยากสําหรับพวกเขาและถ้าไม่ใช่ความจริงที่เจี้ยนเฉินได้ขวางเสือดําเอาไว้ พวกเขาก็ไม่อาจที่จะจัดการมันได้ สําหรับสัตว์อสูรตัวนี้อาจจะพูดได้มันก็ไม่ต่างอะไรกับปลาในน้ํา แตกต่างจากมนุษย์ที่การเคลื่อนไหวยังคงจํากัดด้วยสภาพแวดล้อมของป่า
หูของเจี้ยนเฉินกระดิกอีกครั้งและเขาก็หัวหน้าไปอีกทาง ดวงตาของเขาก็มองไปยังพุ่มไม้ที่สั่นอยู่สองสามครั้งก่อนที่จะปรากฏให้เห็นทหารรับจ้าง 20 คนที่สวมหมวกเหล็กและเกราะเหล็กเดินเข้ามาในสายตาของเขา
เช่นเดียวกันกลุ่มทหารรับจ้างคนอื่น ๆ ที่มีอาวุธครบมือเดินเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีก็หยุดทํางานทันทีและมองไปที่ทหารรับจ้าง 20 คนด้วยท่าทางที่เคร่งเครียด
ผู้นําของกลุ่มทหารรับจ้าง 20 คนมองไปที่ทหารรับจ้างอัคนีด้วยความเย็นชาและ จากนั้นก็เก็บเสือดําที่เหลืออยู่ครึ่งตัวก่อนที่เขาจะโบกมือพร้อมกับพูดว่า “เดินหน้าต่อไป ! ” กับทหารรับจ้างที่เหลือ พวกเขาเดินผ่านทหารรับจ้างอัคนีโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ในสายตาของพวกเขาทหารรับจ้างอัคนี้ไม่แม้แต่จะคุ้มค่าที่จะเสวนาด้วย
“นั่นคือทหารรับจ้างโจว ข้าไม่คิดว่าจะเจอพวกเขาที่นี่” หลังจากที่กลุ่มทหารรับจ้างเกราะเหล็กจากไปหูป๋อก็ถอนหายใจออกมา
” พี่หูป๋อ ทหารรับจ้างโจวนี่โด่งดังมากหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถาม
หูป๋อพยักหน้าและตอบ” ทหารรับจ้างโจวไม่ได้ถือว่าเป็นกลุ่มแข็งแกร่งที่สุดของเมืองเวค คนที่อยู่ในเมืองเวคว่ากันว่าทหารรับจ้างโจวนั้นจัดอยู่ในสิบอันดับต้น ๆ ของเมือง พวกเขามีคนประมาณ 50 คน ผู้นําของเขาอยู่ในขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นสุดยอด ลูกน้องทั้ง 6 คนที่อยู่ภายใต้ เขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญขั้นกลางพร้อมกับมีเซียนระดับสูงขั้นกลางกว่า 20 คน ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นมากเสียจนกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเราไม่อาจไปตอแยเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มทหารรับจ้างโจวยังได้รับการสนับสนุนจากหนึ่งในตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเวค ตระกูลโจว ด้วยสิ่งนี้มีคนไม่มากนักในเมืองเวคที่จะกล้าท้าทายพวกเขา”
“โอ้!”เจี้ยนเฉินมองไปยังที่ ๆ กลุ่มทหารรับจ้างโจวหายไปภาพลักษณ์ของเขายังไม่อาจหายไปจากจิตใจของเขา
“เจี้ยนเฉิน หากเจ้าเจอคนหรือกลุ่มคนเหล่านี้ในเทือกเขาสัตว์อสูรในอนาคตเจ้าควรจะระวังให้ดี เทือกเขาสัตว์อสูรเป็นที่ที่คนทั่วไปถูกฆ่าเพราะสิ่งของมีแม้กระทั่งบางคนที่เป็นทหารรับจ้าง แต่การกระทําของพวกเขาทําให้พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับพวกโจร” เคนดัลเตือนเจี้ยนเฉินด้วยใบหน้าที่จริงจัง
เมื่อเห็นว่าเคนดัลจริงจังขนาดนี้ เจี้ยนเฉินก็พยักหน้า “ข้าจะระวัง”
หลังจากนั้นศพของเสือดําก็ถูกเก็บไว้ในเข็มขัดมิติ “ตอนนี้พวกเราอยู่ในพื้นที่ซึ่งสัตว์อสูรระดับ 2 เดินไปมาและสัตว์อสูรระดับ 3 ก็อาจจะพบมันได้ ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มต้นเดินไปรอบ ๆ แถวนี้กันเถอะ”
ไม่นานหลังจากนั้นเคนดัลและดีรีก็เริ่มที่จะจัดการบาดแผลของพวกเขา ซึ่งมันไม่ใช่บาดแผลที่ลึกมากนักและไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายขณะต่อสู้ของพวกเขามากนัก ด้วยการเตรียมการเล็กน้อง ทั้งสองก็พร้อมที่จะเดินทางต่อไปขณะที่เฝ้าระวังรอบ ๆ ตัวไปด้วย
หลังจากที่เดินทางมาได้สักระยะ เจี้ยนเฉินก็ได้เจอรอบเท้าของสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ แต่คราวนี้ไม่เหมือนกับสัตว์อสูรเสือดําก่อนหน้านี้ สัตว์อสูรที่ซ่อนอยู่ในป่าห่างกลุ่มทหารรับจ้างออกไป 10 เมตรได้ถอยหลังออกไปอย่างเงียบ ๆ
คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวดเข้าหากันขณะที่เขาพยายามจะหาว่ามันเกิดอะไรขึ้นจากเส้ นทางที่พวกเขาเดินหลังจากที่ฆ่าเสือดําไปแล้วสัตว์อสูรระดับ 1 ที่เขาได้ตรวจพบนั้นมีมากกว่า 10 ตัวแต่ไม่มีตัวไหนเหมือนเสือดําที่เข้ามาโจมตี
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเพราะมีคนมากเกินไป สัตว์อสูรเหล่านั้นจึงกลัวและไม่กล้าโจมตีเรา ?” เจี้ยนเฉินถามกับตัวเองอย่างไรก็ตามความคิดเหล่านี้ถูกปัดทิ้งทันที เพราะมันไม่มีเหตุผลมารอง