อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) - ตอนที่ 386
CF:บทที่ 386 หารือกันเรื่องสงคราม
อู่ฮาวเหรินมาดูการก่อสร้างฐานทัพลับบนภูเขา, ในปัจจุบันการดําเนินการเป็นไปได้อย่างราบลื่นดี, ถ้าเป็นไปตามนี้ต่อไป สถาบันวิจัยบนภูเขานี้คงจะแล้วเสร็จใน 1 เดือน
ถนนบนเขานี้ไม่ค่อยเป็นเส้นตรงเท่าไรนัก, อาจเป็นเพราะบนเขานี้มีบ่อน้ําผุดมากบนเขา, ทําให้ถนนที่นี่คดเคี้ยวมาก
ด้วยเหตุนี้จึงได้มีเส้นทางน้ําไหลเวียนอยู่สองฝั่งถนน, ทําให้เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามนี้
ในห้องแล็บ, มีกองชิ้นส่วนมากมายที่เขาสร้างขึ้นมาและบรรจุเก็บเอาไว้ในกล่อง, ถ้ามีใครได้เห็นบันทึกที่ อยู่ในคอมพิวเตอร์ของเขา, คงได้เกิดเรื่องที่น่ากลัวแน่
เมื่อใดที่ชิ้นส่วนทั้งหมดนี้สร้างเสร็จหมดแล้ว, แล้วนํามาประกอบเข้าด้วยกันก็จะกลายเป็นอาวุธที่สุดยอดขึ้นมาได้
แน่นอนว่าในปัจจุบัน, อู่ฮาวเหรินยังไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนทั้งหมดให้สําเร็จได้ ดังนั้นเขาจึงผลิตชิ้นส่วนที่เขาพอจะผลิตขึ้นมาเองได้ก่อน
ในออฟฟิศของท่านผู้นําในปักกิ่ง, เลขานุการได้เขามารายงานเรื่องของสถานการณ์ในปัจจุบัน
พอเมื่อพูดถึงเรื่องของอเมริกาแล้ว, ท่านผู้นําก็คิ้วขมวดขึ้นมาทันทีและถามกลับไป “เจ้าหนูนั่นยังไม่ได้ตอบกลับมาอีกเหรอ?”
“ยังครับ, เราควรที่จะส่งใครไปเร่งเขาหน่อยดีไหมครับ?”
“อม, ในเมื่อเขาไม่ได้ตอบอะไรมา, ก็แสดงว่าองค์กรที่อยู่เบื้องหลังเขานั้นไม่ได้ตอบอะไรเขากลับมาเช่นกัน, ทางสหรัฐเองก็เริ่มคึกคักมากขึ้นเรื่อยๆช่วงนี้ด้วย”
มองดูรูปภาพที่ถ่ายมาโดยดาวเทียม, ก็พบเรือรบอเมริกาเข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆน่านน้ําจีนทุกวัน, ซึ่งทําให้ท่านผู้นํารู้สึกไม่ค่อยดียิ่งนัก
ยิ่งไปกว่านั้น, สหรัฐอเมริกาที่ค้นพบเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดย่อมนั้นก็เริ่มอวดเบ่งใส่ในกลุ่มระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก
ถ้าพวกเราปล่อยให้พวกเขามีอาวุธจู่โจมหรือการป้องกันที่ล้ําสมัยแล้ว, บางทีพวกเขาอาจจะเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 แล้วบางที่พวกเขาอาจจะยึดครองโลกได้เลยก็ได้
ในขณะเดียวกัน, ผู้คนในเพนตากอนต่างก็กําลังหารือถึงเรื่องนี้
“ท่านประธานาธิบดีครับ, ถ้าอู่ฮาวเหรินนั้นเป็นไปตามที่พวกเราสงสัยไว้จริงๆล่ะก, เขานั้นสมควรที่จะต้องถูกเก็บนะครับ, มิเช่นนั้นแล้ว ตัวตนของเขาจะต้องเป็นปัญหากับแผนการของพวกเราแน่นอนครับ”
“ผมเองก็เห็นด้วยครับ, ในเมื่อเขาไม่ต้องการที่จะมาเข้าร่วมกับการพัฒนาสหรัฐ แล้วยังข่มขวัญกองทหารของเราอีก, ผมคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะกําจัดเขาครับ”
เหล่าเจ้าหน้าที่ระดับกลางแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา, แต่พวกเขาต่างก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้
ท่านประธานาธิบดีจึงนิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นมา “ถึงแม้พวกเราอยากจะฆ่าเขา, แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น, เพราะพวกเราก็ได้ปฏิบัติการไปหลายๆอย่างไปแล้ว แต่ก็จบลงด้วยความล้มเหลว”
“ท่านประธานาธิบดีครับ, ให้เป็นหน้าที่ของทางกองทัพของพวกเราจัดการเรื่องนี้เถอะครับ”
ในที่สุดประธานาธิบดีก็ตกลงที่จะใช้แผนลอบสังหารอู่ฮาวเหริน, ซึ่งภารกิจนี้จะดําเนินการโดยทางกองทัพ
ในเวลานี้, อู่ฮาวเหรินที่กําลังอยู่ในระบบซองแดง, กําลังคุยกันถึงเรื่องประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติกับคนในนั้นอยู่
“จากข้อมูลประวัติศาสตร์พวกนี้, มันไม่ง่ายเลยสําหรับพวกเราที่จะพัฒนาให้มาถึงระดับเดียวกับในปัจจุบันได้”
“ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเนี่ยมันน่าแปลกจริงๆเลยนะ” หินปีศาจพูดขึ้นมาบ้าง “โดนอารยธรรมนั้นรุกรานแล้วยังรอดมาและเข้าสู่สหพันธ์จักรวาลได้อีกเนี่ย”
“จริงๆแล้ว, ผมเองก็สงสัยเกี่ยวกับตัวร้ายที่มารุกรานอารยธรรมของพวกคุณเหมือนกัน, พวกคุณพบอะไรบ้างไหม?” คนจากอารยธรรมอื่นถามขึ้นมาบ้าง
“ไม่พบอะไรเลย, พวกเราได้ทําการตรวจสอบยุคมืดแล้ว แต่ก็ยังไม่พบคําตอบอะไร, แต่ที่น่าแปลกยิ่งกว่าคือในตอนที่พวกเราได้ทําการค้นหาข้อมูลของอารยธรรมทั้งหมดในสหพันธ์จักรวาลดูพวกเรากลับไม่พบอารยธรรมนั้นเลย”
“ยิ่งไปกว่านั้น, จากสถานการณ์ในตอนนั้น, อารยธรรมนี้ก็ตั้งใจที่จะทําลายอารยธรรมมนุษย์ให้สิ้นซากด้วย”
“จริงๆแล้ว, พวกเราเคยสงสัยว่าน่าจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับอารยธรรมพาลอส, แต่พวกเราก็ยังไม่พบหลักฐานอะไร”
มนุษยชาติเองไม่เคยรู้เลยว่ามีความเกลียดชังอะไรระหว่างอารยธรรมมนุษย์กับอารยธรรมพาลอส, อย่างไรก็ตาม พวกเราจะพบว่ามีเงาของอารยธรรมชั้นสูงที่อยู่เบื้องหลังสงครามทั้งหมดที่มนุษย์ได้พบเจอ ตั้งแต่เข้ามาสู่สหพันธ์จักรวาล
อู่ฮาวเหรินที่มองดูข้อมูลที่พวกเขาได้แสดงออกมาให้ดู หัวใจของเขานั้นก็ตกใจมากขึ้นเรื่อย, เขาไม่รู้เลยว่าโลกในยุคนี้จะต้องพบเจอกับการรุนรานของอารยธรรมนี้หรือไม่
แล้วถ้ามันเกิดขึ้นมา, เขาจะแก้ไขมันได้อย่างไร?
จากข้อมูล, เรื่องของการรุกรานของอารยธรรม ด้วยระดับของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกเพิ่งจะเข้าสู่ระดับอารยธรรมชั้นต่ําเท่านั้นเอง, มิเช่นนั้นแล้ว อารยธรรมมนุษย์คงจะได้ไม่มีตัวตนในอนาคตแน่
“ผมอยากจะถามหน่อยว่า, ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นซ้ําอีกครั้ง, อารยธรรมมนุษย์ต้องมียุทโธปกรณ์มากขนาดไหนถึงจะหลีกเลี่ยงการถูกกวาดล้างของอารยธรรมนั้นได้?”
“ถ้าพวกเราย้อนกลับไปได้, มียานรบรุ่นล่าสุดของอารยธรรมมนุษย์ซัก 2 ลํา, ก็เพียงพอที่พวกเราจะสามารถต่อต้านได้โดยปราศจากการสูญเสียล่ะนะ, มีบางข้อมูลที่หลงเหลือเอาไว้จากยุคมืดบอกว่าตอนนั้นเรามีเพียงยานรบไม่กี่ลําที่ใช้สู้บนอวกาศในตอนที่มนุษยชาติเพิ่งเริ่มเข้าสู่จักรวาล
“และเทคโนโลยีของอารยธรรมที่มารุกรานเราในตอนนั้นก็ไม่ได้ทรงพลังมากด้วย, เพราะเพิ่งจะเข้าสู่ยุคท่องอวกาศเท่านั้น, นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนสงสัยกันว่าจะต้องมีอารยธรรมที่แข็งแกร่งอยู่เบื้องหลังอารยธรรมที่มารุกรานแน่”
“ณ เวลานั้น, มนุษยชาติเพิ่งจะออกสํารวจดวงดาวรอบๆและยังไม่เคยพบอารยธรรมนี้มาก่อนเลย, หรือก็คือ พวกเขามายังอารยธรรมมนุษย์ผ่านทางรูหนอนนั่นเอง”
อู่ฮาวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก, เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ, เขาทําได้แต่คิดถึงยานรบรุ่นล่าสุดเท่านั้น แต่ทว่า, มันก็ทําให้เขารู้แล้วว่าเขาควรจะทําอะไรต่อไป, การรุนรานของอารยธรรมนี้มันจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งแน่
เขานั้นคิดที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของโลก, ถ้าอารยธรรมนั้นยังจะมาที่อารยธรรมมนุษย์เมื่อถึงเวลานั้น, อู่ฮาวเหรินจะทําให้พวกนั้นต้องเสียใจ
แต่คําถามคือเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าการปรากฏขึ้นมาของระบบซองแดงนั้นจะทําให้การรุกรานของอารยธรรมนั้น เกิดไวขึ้นหรือไม่
หลังจากที่ออกมาจากระบบซองแดง, อู่ฮาวเหรินคิดถึงเรื่องนั้นและตัดสินใจที่จะทําอะไรอย่างหนึ่ง
เขาจําเป็นที่จะต้องพัฒนาเกมขึ้นมาสําหรับใช้ฝึกฝนขับยานอวกาศ, มิเช่นนั้นแล้ว, มันจะเป็นการเสียเวลาไปอย่างมากถ้าต้องมาฝึกฝนหลังจากที่ได้ยานอวกาศมาแล้ว
เพื่อที่จะยืนยันในเรื่องนี้, เขาจึงกลับเข้าไปในระบบซองแดงอีกครั้ง และก็พบกับนักวิจัยและจึงได้ถามเขาถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง
แน่นอนว่า, ในอนาคตนั้นมีระบบจําลองการขับยานอวกาศอยู่แถมสมบูรณ์แบบมากด้วย เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยสําหรับโรงเรียนฝึกนักบินที่จะปล่อยให้นักเรียนนั้นขึ้นขับยานจริงๆทันที
“คุณต้องการเทคโนโลยีจําลองเสมือนจริงมากมาย, เดี๋ยวฉันจะส่งข้อมูลไปให้ก่อน, ส่วนเรื่องเกมที่คุณบอกเดี๋ยวฉันจะลองหาแบบที่แจกมาให้แล้วส่งไปให้คุณทีหลังละกัน
อู่ฮาวเหริน, ผู้ซึ่งได้ข้อมูลมา, ก็เริ่มทําการศึกษาข้อมูลอย่างตั้งใจและไม่นานนักเขาก็พูดอะไรไม่ออก
เขาจะต้องสร้างห้องสําหรับจําลองภาพขึ้นมา, แต่มีปัญหาคือเขาไม่รู้ว่าบนโลกนั้นจะมีวัสดุเพียงพอให้เขาใช้หรือไม่
หลังจากที่ล้มเลิกความคิดนี้ไป, เขาจึงได้ย้อนกลับไปใช้แผน 2 และเตรียมตัวพัฒนาเกมอย่างง่ายๆขึ้นมาก่อน
มันไม่ยุ่งยากอะไร, เพราะช่วงที่ผ่านมานี้ ด้วยความนิยมของระบบVRนั้น มีความสามารถเทียบเท่าได้กับห้องจําลองเกมส์
แต่ทว่าถ้าจะให้เครื่องเกมชนิดนี้เป็นที่นิยมขึ้นมาได้นั้น มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย และค่าใช้จ่ายก็จะสูงมากขึ้นด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น, ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้จะต้องทําให้ประเทศต่างๆเกิดความอิจฉาแน่
“จี้, เร่งความเร็วการก่อสร้างกองกําลังติดอาวุธบนเกาะ, ถ้าปราศจากกองกําลังป้องกันแล้ว, จะได้เอาของในซองแดงออกมา, แล้วยังมีเรื่องของประเทศต่างๆอีก, มันทําให้รู้สึกแย่จริงๆน้า”
“ถ้าเร่งความเร็วการก่อสร้างไปมากกว่านี้, มันจะกลายเป็นที่สังเกตได้ค่ะ”
ตราบเท่าที่กองกําลังติดอาวุธถูกสร้างออกมาได้ก่อน ก็เพียงพอที่จะมั่นใจเรื่องความปลอดภัยของพวกเราได้แล้ว, มันก็ไม่สําคัญแล้วว่าพวกเราจะถูกรู้หรือไม่”
อู่ฮาวเหรินคิดที่จะอัพเกรดระบบซองแดงให้ถึงเลเวล เพื่อที่เขาได้เอายานอวกาศที่เจ้าแห่งรถบินได้ได้เตรียมเอาไว้ให้เขา
ด้วยสิ่งนั้น, มันเป็นไปไม่ได้อีกที่จะมีคนมาขู่เขาได้อีก, ถึงแม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะทําลายโลก, อู่ฮาวเหรินก็จะพาใครบางคนหนีออกไปจากโลกและเข้าสู่จักรวาล
แต่ทว่าพวกเขานั้นไม่สามารถที่จะทําลายโลกได้จริงๆหรอก, ต่อให้ทั้งโลกโดนถล่มด้วยระเบิดนิวเคลียร์ก็ตาม เพราะอู่ฮาวเหรินสามารถแก้ปัญหาเรื่องของกัมมันตภาพรังสีได้