อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来 ) - ตอนที่ 375
CF:บทที่ 375 ดาวเทียมสร้างเสร็จแล้ว
มีกลุ่มผู้หญิงมารวมตัวกันที่สวน,พวกเธอช่างให้ความรู้สึกเหมือนหยินและหยางเสียจริงๆ, เมื่อเจอเข้ากับสายตาที่แปลกๆ อู่ฮาวเหรินจึงนั่งลงเงียบๆและไม่สนใจอะไร
แน่นอนว่า, พ่อแม่ของอู่ฮาวเหรินดูมีความสุขมากเมื่อได้เห็นสาวๆมากมายมาเล่นที่บ้านแบบนี้
หลิวหมิงเยว่เดินมาหาอู่ฮาวเหริน และนั่งลงแล้วถามขึ้น “เพลงนั้นร้องโดยหลิงเมิ่งเสี่ยจริงๆสินะคะ?”
“คุณรู้อยู่แล้วแต่ยังจะมาถามผมอีกเนี่ยนะ, แต่ว่ามันไม่ดีเลยนะที่มาหลอกถามเด็กแบบนี้เนี่ย”
เมื่อหลิวหมิงเยว่ได้ยินเข้า, เธอก็ยักคิ้วแล้วพูดกลับไป “ใครหลอกเด็กกัน, เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะส่งของมาให้คะ,ไม่ใช่แค่ของขวัญหรอกนะคะ”
เธอหันไปมองหลิงเมิ่งเสวี่ย ที่กําลังนั่งเล่นกับคนอื่นอยู่ก็ถามขึ้น “ถ้าเป็นเช่นนี้ ถึงเธออยากจะเป็นนักร้องแต่เธอก็คงขึ้นเวทีไม่ได้อยู่ดีนะคะ”
อู่ฮาวเหรินมองดูหลิวเม่ยหรูที่กําลังเล่นอยู่กับหลิงเมิ่งเสวี่ยและพบว่าพวกเธอดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี
เมื่อได้ยินที่หลิวหมิงเยว่พูด, เขาก็ตอบกลับไป “เธอกําลังฟื้นตัวแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในสภาพที่ออกไปพบใครไม่ได้อยู่ดี,ดังนั้นคงทําได้แต่บันทึกเสียงอยู่ที่บ้านเท่านั้น ถ้าเธออยากจะเป็นนักร้องจริงก็ให้เธอร้องต่อไป แบบนี้แหละ”
ในตอนเที่ยง, อู่ฮาวเหรินได้รับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาจากจอหยง,บอกว่าดาวเทียมที่ทางรัฐสร้างให้เขานั้น ได้ถูกสร้างเสร็จแล้ว
เมื่อได้ยินข่าวนี้, อู่ฮาวเหรินก็ดีใจมาก เพราะในที่สุดเขาก็จะได้ไม่ต้องใช้ดาวเทียมของคนอื่นเสียที
ในตอนบ่าย, เขาก็นั่งรถมุ่งหน้าไปยังโรงงานรถยนต์ที่จังหวัดหลี่ฉัยเพื่อมาเช็คสถานการณ์ของดาวเทียม และเตรียมขนย้ายดาวเทียมไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อทําการสลับเปลี่ยน
แต่งตัวด้วยเชิร์ตสีขาว ที่ดูธรรมดาและไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ตอนนี้เหอเผิงกําลังตื่นเต้นอย่างมาก ในฐานะ ที่เป็นหัวหน้างานวิจัยเทคโนโลยีดาวเทียมที่ให้มาโดยอู่ฮาวเหริน
ในที่สุด, เขาก็ได้พบกับอู่ฮาวเหริน, เขานั้นมีคําถามมากมายและต้องการที่จะปรึกษากับอู่ฮาวเหริน
และเพื่อที่เขาจะได้มาที่นี่เพื่อพบกับอู่ฮาวเหรินเพียงลําพัง, เขาจึงต้องหลอกคนอื่นๆ
“จ่อหยง, เมื่อไรคุณอู่ถึงจะมา?”
“เขามาโน่นแล้ว, ไปกันเถอะครับ อาจารย์เหอ, ไปที่สถานที่เก็บดาวเทียมกัน, เขาจะต้องรีบไปที่นั่นแน่”
ในโรงงานรถยนต์, อู่ฮาวเหรินมองดูดาวเทียวที่อยู่บนรถบรรทุกและเปรียบเทียบเข้ากับภาพดาวเทียมที่อยู่ในโน้ตบุ๊ค
ดูแล้วก็น่าจะต่างกันไม่มากนัก, ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาคงจะต้องขโมยแท่นปล่อยจรวดมาและเปลี่ยนเสาค้ําเสียใหม่แน่,
ซึ่งมันเป็นไปได้ยากมาก
“สวัสดีครับ, คุณอู่”
อู่ฮาวเหรินหันกลับมาก็พบกับจื่อหยงกับชายชราที่เขาไม่รู้จัก
“สวัสดีครับ, หรือว่าคุณจะเป็นนักวิจัยเรื่องดาวเทียมอย่างงั้นเหรอครับ?”
“ใช่แล้วครับ, ผมชื่อว่าเหอเผิง, เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการวิจัยดาวเทียมดวงนี้และการวิจัยเทคโนโลยีดาวเทียมที่คุณได้มอบให้พวกเรามาครับ,เทคโนโลยีดาวเทียมอันนี้มันช่างสุดยอดมากจริงๆเลยครับ,และผมเองก็มีคําถามมากมายที่ผมอยากจะถามคุณอ๋,ไม่ทราบว่าคุณพอจะสะดวกไหมครับ?”
“ได้สิครับ”
จื่อหยงจึงพูดขึ้น “ถ้าเช่นนั้นพวกคุณไปคุยกันที่ห้องประชุมกันดีกว่า, ที่นี่คงจะไม่เหมาะเป็นที่คุยกันซักเท่าไร”
โชคดีที่, อู่ฮาวเหรินนั้นพอจะมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีดาวเทียมมากอยู่พอสมควร, ถึงแม้อาจจะจะยังไม่ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่ยากอะไรสําหรับคําถามง่ายๆเหล่านี้
เมื่อทั้งสองคนออกมาจากห้องประชุม, สายตาของเหอเผิงก็เปลี่ยนไป
เป็นที่โจษจันกันไปทั่วในหลายวันมานี้ว่า อาจจะต้องมีองค์กรวิจัยยักษ์ใหญ่ที่คอยหนุนหลังอู่ฮ่าวเหรินอยู่ก็เป็นได้
แต่ตอนนี้เหอเผิงกลับรู้สึกว่าอู่ฮาวเหรินคืออัจฉริยะในด้านเทคโนโลยีดาวเทียมจริงๆ, ถ้าแนวคิดและทฤษฎีเหล่านี้สามารถทําได้จริง,มันจะต้องก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของการพัฒนาด้านIT.ของมนุษยชาติเป็นแน่แท้
“อาจารย์เหลา, ฟังทฤษฎีพวกนี้ได้อยู่, แต่อย่าเพิ่งคิดจะไปศึกษามัน,จากข้อวินิขฉัยของผม,ด้วยระดับของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ของโลกในปัจจุบันนั้นยังไม่ถึงขั้นพอที่จะให้ศึกษาทฤษฎีพวกนี้ได้ครับ”
เมื่อเหอเผิงได้ได้ยินที่อู่ฮาวเหรินพูด, เขาก็หัวเราะออกมาและพูดตอบ “ไม่ต้องกังวลไปหรอก,ผมนั้นรู้ดีว่า ระดับของเทคโนโลยีดาวเทียมของจีนในปัจจุบันนั้นเป็นเช่นไร, ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องการที่จะวิจัย,แต่ก็จําเป็นที่จะต้องออกอวกาศกันก่อน”
“ถ้าเช่นนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วพรุ่งนี้ผมจะเอาดาวเทียมที่ดัดแปลงแล้วมาส่งให้นะครับแล้วคุณก็นํามันกลับไปแล้วช่วยผมปล่อยขึ้นอวกาศให้ทีนะครับ เพราะผมอาจจะไม่ได้ไป”
เมื่อเห็นอู่ฮาวเหรินเดินจากไปแล้ว จริงๆแล้วเหอเผิงนั้นอยากที่จะชวนอูฮาวเหรินนั้นไปที่องค์การอวกาศเพื่อที่จะได้คุยกับพวกตาแก่พวกนั้นด้วย เพื่อให้พวกเขาได้รู้ถึงความสามารถและให้อู่ฮาวเหรินนั้นชี้นําแนวทางด้านเทคโนโลยีดาวเทียมของจีน
สิ่งที่อู่ฮาวเหรินกับเหอเพิ่งได้พูดคุยกันนั้นไม่นานก็ได้มาอยู่บนโต๊ะของท่านผู้นํา
“เจ้าหนูนี่มันช่างไม่ธรรมดาอย่างที่พวกเราคิดกันจริงๆ, หรือว่าการสอบสวนของพวกเราจะโฟกัสผิดจุดไปนะ” ท่านผู้นําพูดหลังจากที่ได้อ่านเนื้อความของเอกสาร
ท่านเลขานุการคิดอยู่สักพักแล้วก็ตอบกลับไป “จากในเอกสาร พวกเราจะเห็นได้ว่าเขานั้นเป็นอัจฉริยะจริงๆ, ซึ่งก็สอดคล้องกับที่พวกเราคาดการณ์เอาไว้, แต่ปัญหาในตอนนี้คือเทคโนโลยีมากมายและอุปกรณ์สมัยพวกนั้นอีก, มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนเพียงคนเดียวจะสามารถวิจัยของพวกนี้ออกมาได้”
“ถ้าเขาเป็นชายชรา, มันก็เป็นไปได้เพราะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรของเหล่าอัจฉริยะต่างๆในประวัติศาสตร์,แต่ปัญหาคือด้วยอายุของเขาเพียงเท่านี้นี่แหละที่ทําให้เป็นเรื่องที่น่าสงสัย”
ท่านผู้นําผงกหัว, ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสัยจริงๆ เขานั้นมีผลิตภัณฑ์ไฮเทคของฟิวเจอร์กรุ๊ปออกมามากมายอยู่เรื่อยๆ ซึ่งทําให้คิดว่าจะต้องมีองค์กรที่คอยหนุนหลังอู่ฮาวเหรินอยู่เป็นแน่
“จะว่าไป, เรื่องของการสืบในสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างไรบ้าง?”
ท่านเลขานุการก็ได้ตอบกลับมาอย่างตรงๆ “มีความคืบหน้าบางส่วนครับ, ติดปัญหานิดหน่อยในเอเรีย51ครับแต่ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของหุ่นยนต์ของพวกเรา, บางทีความลับของพวกเขาก็ยังคงเป็นความลับต่อไปแน่นอนครับ”
“โอ้, แล้วพบอะไรบ้างล่ะ?” ท่านผู้นําถามอย่างสงสัย
“มันไม่ใช่ซากอารยธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ครับ, แต่มันเป็นซากยานอวกาศที่พังเสียหายครับ,คนของพวกเราไม่สามารถเข้าไปมากกว่านี้ได้ครับ และคนที่เข้าไปแล้วก็ไม่สามารถออกมาได้เช่นกันครับ,การป้องกันของที่นั่นเข้มงวดมากครับ”
มองดูท่านผู้นําที่ทําสีหน้าขมวดคิ้ว, ท่านเลขานุการจึงได้พูดขึ้นมา “แต่จากการสืบจากภายนอก, พวกเราก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างมา, ในช่วงนี้ พวกเขาได้ทําการค้นพบอะไรบางอย่างเรื่องของอาวุธส่วนเรื่องของอวกาศนั้นพวกเขายังไม่มีการค้นพบอะไรครับ”
เร่งการวิจัยด้านอาวุธของพวกเรา, ถ้าพวกเขาสามารถวิจัยสุดยอดอาวุธขึ้นมาได้ล่ะก็ บางที่สงครามอาจจะเกิดก็ได้”
เลขานุการผงกหัว, เขานั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าท่านผู้นํานั้นกําลังกังวลอะไรอยู่
ในเวลานี้, อู่ฮาวเหรินได้นําดาวเทียมไปไว้ที่ห้องแล็บของเขาแล้ว,หลังจากที่ได้ทําการยืนยันแล้วว่าดาวเทียมไม่มีปัญหาอะไร,อู่ฮ่าวเหรินจึงได้เอาดาวเทียมเก็บใส่เข้าไปในช่องเก็บของแล้วจึงเอาดาวเทียมที่เขาได้ มาจากเจ้าแห่งเรดาร์ออกมาแทน
ระบบการทํางานของดาวเทียมดวงนี้มีประสิทธิภาพมากกว่าดาวเทียมทั้งหมดในโลกเสียอีก
ตราบเท่าที่มีดาวเทียมดวงนี้อยู่, อู่ฮาวเหรินก็จะสามารถทําอะไรได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แม้แต่เรื่องของในใต้ทะเลลึก, เขาก็ไม่จําเป็นต้องกังวลว่าจะขาดการติดต่อจากจี้เมื่อสัญญาณขาดอีกแล้ว
จากนั้นเขาจึงได้ทําการดัดแปลงดาวเทียมเพื่อที่จะอําพรางดาวเทียมไม่ให้ผิดสังเกตตอนที่เขาขนดาวเทียบกลับไป
ดาวเทียมดวงนี้สามารถที่จะแปลงเป็นเครื่องบินสนับสนุนได้ด้วยซึ่งเมื่อยานอวกาศกําลังจะบินข้ามอวกาศนั้นมันก็จะกลายร่างเป็นเครื่องบิน
ซึ่งแม้แต่ระบบซองแดงเองก็ใช่ในระบบเครื่องบินอันนี้ด้วย,แต่สําหรับอู่ฮาวเหรินแล้วระบบเปลี่ยนรูปแบบอันนี้ยังไม่จําเป็นกับเขาในปัจจุบัน
ด้วยเทคโนโลยีบนโลกในตอนนี้ ถึงแม้ยานอวกาศจะถูกสร้างขึ้นมาได้,แต่ก็คงจะยังไม่ใช่ระบบเครื่องบินสนับสนุนที่ว่านี้อยู่ดี
ถ้าเทคโนโลยีของโลกมาถึงในระดับนั้นแล้ว,มันก็คงจะเป็นเรื่องง่ายสําหรับฮ่าวเหรินที่จะใช้แก้ไขปัญหามากมาย
หลังจากที่แก้ปัญหาเรื่องของดาวเทียมเสร็จสิ้นแล้ว อู่อ่าวเหรินก็คิดถึงเรื่องในอนาคต โทรศัพท์มือถือที่ทาง กรุ๊ปจะสร้างขึ้นมานั้น เช่นเดียวกับเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้เครือข่ายก็จะสามารถใช้ดาวเทียมดวงนี้ได้
แน่นอนว่า เขาคงจะต้องไปคุยกับทางรัฐ, เพราะจากนี้, ระบบนําทางของดาวเทียมเป่ยโตวนั้นจําเป็นที่ต้องใช้