cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

หมอหญิงพลิกธรรมเนียม - บทที่ 14

  1. Home
  2. All Mangas
  3. หมอหญิงพลิกธรรมเนียม
  4. บทที่ 14
Prev
Next

“หรือไม่ ให้หลี่ว์หมัวมัวรอก่อน” ในน้ำเสียงปรึกษาหารือแฝงแรงกดดันที่ไม่อาจปฏิเสธได้ขุมหนึ่ง “พี่สะใภ้ใหญ่ให้ตามหมอมาแล้ว ก็ให้เขามาตรวจดูก่อน”

การตายของซิ่วเอ๋อร์ย่อมไม่อาจแล้วกันไปเช่นนี้!

เฉียนหมัวมัวเผยสีหน้าท่าทางแปลกใจออกมา

“โบราณพูดไว้ได้ดี หมอรักษาได้แต่โรคที่ไม่ถึงตาย คนก็ไม่มีลมหายใจแล้ว อย่าว่าแต่หมอ ต่อให้เป็นเทพเซียนมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ สะใภ้สี่ยังคง…”

หลวนอวิ๋นชูไม่พูดอีก หันไปทางสี่หลัน

เฉียนหมัวมัวบอกตอนซิ่วเอ๋อร์สิ้นลม สี่หลันกับสี่จวี๋ล้วนไม่อยู่ จะต้องไปที่เรือนอิ่นย่วนเป็นแน่ ไม่รู้นายหญิงใหญ่มีท่าทีอย่างไรกับเรื่องที่นางไปเที่ยวเล่นที่ทะลสาบลั่วเยี่ยน

“เฉียนหมัวมัวพูดถูกเจ้าค่ะ คนตายเป็นเรื่องใหญ่ ย่อมไม่อาจทิ้งไว้เช่นนี้”

เข้าใจว่าหลวนอวิ๋นชูถามความเห็นของตน สี่หลันจึงเตือนด้วยความปรารถนาดี

“เรื่องนี้…เรียนนายหญิงใหญ่แล้วหรือ นายหญิงใหญ่ว่าอย่างไร”

“บ่าวให้ชุ่ยเอ๋อร์ไปแล้ว ระหว่างทางเจอสะใภ้ใหญ่พอดี จึงสั่งให้ชุ่ยเอ๋อร์กลับมา บอกทางนายหญิงใหญ่นางจะเป็นคนไปบอกเอง”

“ไปตั้งแต่เมื่อไร” ฝูหรงมองกาน้ำหยด* “เหตุใดยังไม่มีข่าว”

“เกรงว่านายหญิงใหญ่กำลังกินอาหารอยู่” สี่หลันคาดเดา “สะใภ้ใหญ่ยังไม่มีจังหวะบอกเรื่องนี้”

ชีวิตคนทั้งชีวิตยังสำคัญสู้อาหารมื้อหนึ่งไม่ได้!

ฟังคำพูดนี้แล้วหลวนอวิ๋นชูเลือดลมพลุ่งพล่าน สีหน้าหม่นขรึม

“จะอย่างไรก็เป็นบ่าวคนหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองกำลังคนทำอะไรให้วุ่นวาย สะใภ้ใหญ่แต่ไรมาคิดการรอบคอบ” เห็นหลวนอวิ๋นชูสีหน้าแปรเปลี่ยน กลัวนางจะบุ่มบ่ามพูดอะไรที่ไม่รักษาหน้าตาออกมา เฉียนหมัวมัวจึงชิงพูดขึ้นก่อน “ตามความเห็นของบ่าว ควรทำตามคำสั่งของสะใภ้ใหญ่ ทำความสะอาดร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ซิ่วเอ๋อร์ก่อน จากนั้นก็บรรจุศพลงโลง”

“ซิ่วเอ๋อร์ยังมีญาติคนอื่นอีกหรือไม่”

“อืม” เฉียนหมัวมัวหัวคิ้วขมวดมุ่น คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ยังมีน้าชายห่างๆ อีกคน อยู่หมู่บ้านเมิ่งจวงไม่ไกลจากตัวเมือง ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กัน ตอนบิดาของซิ่วเอ๋อร์ตายถึงได้รู้ว่านางยังมีญาติห่างๆ อยู่อีกครอบครัวหนึ่งเจ้าค่ะ”

“อ้อ…” หลวนอวิ๋นชูเงียบไปครู่หนึ่ง “เฉียนหมัวมัวส่งคนไปแจ้งข่าว งานศพมีคนในครอบครัวมาจัดการจึงจะเหมาะสม”

ความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากซับซ้อนในจวนแห่งนี้ทำให้คนปวดหัว ต่งอ้ายบุตรภรรยาเอกไม่อยู่แล้ว นางที่เป็นหญิงม่ายคนหนึ่งยังจะทำอะไรได้ ในเมื่อไม่ให้หมอมาตรวจดู เช่นนั้นก็ให้คนในครอบครัวซิ่วเอ๋อร์มาโวยวายแล้วกัน

“ที่สะใภ้สี่พูดก็ถูก” เฉียนหมัวมัวผงกศีรษะ ปรึกษาหารืออย่างระมัดระวังวาจา “หรือไม่ก็รอก่อน ดูว่านายหญิงใหญ่มีความเห็นเช่นไร”

ซิ่วเอ๋อร์ตายอย่างมีเลศนัย ชุ่ยเอ๋อร์ได้บอกเรื่องนี้ให้สะใภ้ใหญ่ทราบโดยละเอียดแล้ว อีกฝ่ายเพียงสั่งให้คนมาบรรจุศพลงโลง เห็นชัดว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องเกิดราว เวลานี้หลวนอวิ๋นชูจะส่งข่าวให้คนในครอบครัวของซิ่วเอ๋อร์และไม่ให้หลี่ว์หมัวมัวบรรจุศพลงโลง เกิดคนในครอบครัวซิ่วเอ๋อร์พบสิ่งผิดปกติแล้วซักไซ้ไล่เลียงขึ้นมา ทำให้จวนกั๋วกงต้องเสื่อมเสียเกียรติ ไม่รู้จะเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นอีกเท่าไร ต้องมีคนเดือดร้อนพัวพันอีกกี่คน…

คิดถึงเรื่องเหล่านี้ เฉียนหมัวมัวก็อดไม่ได้แอบบ่นว่าหลวนอวิ๋นชูอายุน้อย สายตาไม่ยาวไกล ถึงกับมองความเป็นไปของเรื่องราวและเส้นทางที่อยู่เบื้องหลังไม่ออก

หลวนอวิ๋นชูขมวดคิ้ว อากาศรอบด้านสงบนิ่งลงมาทันที แม้แต่ซวงเอ๋อร์ก็ลืมร้องไห้แล้วสงบจิตสงบใจมองหลวนอวิ๋นชู ในดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง

ขณะตกอยู่ในความเงียบสงบสาวใช้รุ่นเล็กก็มารายงาน “สี่จู๋มาแล้วเจ้าค่ะ”

สี่จวี๋และสี่หลันสีหน้าผ่อนคลายลง อ้าปากจะบอก ‘เชิญ’ กลับไม่กล้าพูดออกมา ได้แต่หันหน้าไปมองหลวนอวิ๋นชู

หลวนอวิ๋นชูเอ่ยขึ้น “ให้นางเข้ามา”

“เรียนสะใภ้สี่…” สี่จู๋ชะโงกหน้าไปมองบนเตียงอย่างค่อนข้างตื่นตระหนกแวบหนึ่ง “นายท่านฝากคำพูดมา ให้ท่านเลือกโลงที่ดีให้ซิ่วเอ๋อร์ บรรจุศพลงโลงเสีย แล้วค่อยแจ้งให้คนในครอบครัวมารับไป…เงินเบิกจากห้องบัญชีโดยตรงได้เลยเจ้าค่ะ”

“นายท่าน?”

เหตุใดต่งกั๋วกงจึงเข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของเรือนด้านหลังอีกแล้วเล่า นายหญิงใหญ่ทำอะไรอยู่ หลวนอวิ๋นชูคิดสงสัย

“ตอนสะใภ้ใหญ่แจ้งเรื่อง นายท่านก็อยู่ด้วยพอดีเจ้าค่ะ” สี่จู๋เองก็เข้าใจคำพูดที่หลวนอวิ๋นชูไม่ได้ถามออกมา “ได้ยินว่าซิ่วเอ๋อร์ไม่อยู่แล้ว นายท่านนึกถึงบิดาของนางที่เคยติดตามนายท่านอยู่หลายปี นายท่านนึกทอดถอนใจอยู่นาน”

สี่จวี๋ที่อยู่ด้านข้างก็ทอดถอนใจเอ่ยว่า “นายท่านเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือบ่าวไพร่เช่นนี้ ช่างใจกว้างมีเมตตา มีคุณธรรมน้ำใจ”

ต่งกั๋วกงผู้มีสง่าน่าเกรงขามวันๆ มีงานการต้องจัดการมากมาย เหตุใดจึงจดจำสาวใช้เล็กๆ ที่ไม่มีอะไรสะดุดตาคนหนึ่งได้ แม้แต่บิดาของนางก็จดจำได้อย่างแม่นยำเช่นนี้! ฟังคำยกย่องของสี่จวี๋แล้ว หลวนอวิ๋นชูพลันฉุกคิดขึ้นมา นึกถึงความสนิทสนมดุจพ่อลูกของซิ่วเอ๋อร์กับลุงใบ้ขึ้นมาทันที

ต่งกั๋วกง!

ประกายแสงสว่างวาบขึ้น หลวนอวิ๋นชูคิดออกในทันที ห่วงโซ่ตรงกลางที่ขาดหายไปน่าจะเป็นต่งกั๋วกง

สวนสมุนไพรต่งกั๋วกงเป็นคนควบคุมดูแลเอง นอกจากปกป้องเขาแล้ว ยังจะมีอะไรทำให้ลุงใบ้ทำเรื่องโหดเหี้ยมไร้เยื่อใยเช่นนี้ได้อีก!

ในสมัยโบราณเรื่องจงรักภักดีต่อผู้เป็นนายเช่นนี้มีให้เห็นบ่อยจนไม่ใช่เรื่องแปลก

ความรู้สึกท้อแท้เศร้าซึมจู่โจมเข้ามา หลวนอวิ๋นชูมองซิ่วเอ๋อร์ที่นอนขดตัวอยู่บนเตียงอย่างซึมเซา ดูท่านางคงหมดหนทางจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ซิ่วเอ๋อร์ได้แล้ว…

“นายหญิงใหญ่กับสะใภ้ใหญ่ไม่มีใครมาหรือ”

เห็นหลวนอวิ๋นชูไม่พูด ฝูหรงจึงเอ่ยถามอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ จะอย่างไรก็มีคนตายทั้งคน หลวนอวิ๋นชูก็อายุยังน้อย นายหญิงใหญ่ย่อมต้องออกหน้าช่วยจัดการจึงจะถูก ถึงนับว่าช่วยรักษาหน้าให้นาง

“ตอนแรกนายหญิงใหญ่กับสะใภ้ใหญ่ตั้งใจว่ากินอาหารแล้วก็จะมา คิดไม่ถึงว่ายังกินอาหารไม่เสร็จก็ได้ยินว่าคุณชายสามถูกผีหลอกที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน จึงได้พากันไปที่เรือนคุณชายสาม” เห็นหลวนอวิ๋นชูมีสีหน้าอึดอัดกลัดกลุ้ม สี่จู๋ก็กล่าวเสริมขึ้น “จริงสิเจ้าคะ นายหญิงใหญ่ยังสั่งกำชับมาเป็นพิเศษ ให้สะใภ้สี่ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ ก็แค่สาวใช้หายไปคนหนึ่ง ไว้จะหาเพิ่มเติมมาให้ท่าน”

“อะไรนะ คุณชายสามถูกผีหลอกที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน สะใภ้สี่…”

สะใภ้สี่ไม่ใช่เพิ่งกลับจากทะเลสาบลั่วเยี่ยนหรือ เหตุใดจึงไม่ได้ยินเรื่องนี้

สี่จวี๋ได้ยินแล้วก็ร้องเสียงแหลมออกมา คำพูดพูดออกมาได้ครึ่งหนึ่ง พลันนึกได้ว่าสถานการณ์ร้ายแรง เสียงจึงหยุดชะงักไป มองหลวนอวิ๋นชูด้วยความตื่นตระหนก

“เป็นเรื่องจริง ได้ยินคนที่เรือนคุณชายสามบอก คุณชายสามขวัญกระเจิงจนชีวิตหายไปครึ่งหนึ่ง” สี่จู๋ฟังความหมายในคำพูดของสี่จวี๋ไม่ออก เพียงเข้าใจว่านางสงสัยเรื่องผีหลอก “เวลานี้ยังหมดสติไม่ฟื้น ประเดี๋ยวก็ขอให้พี่หมู่ตันไว้ชีวิต ประเดี๋ยวก็ร้องให้หมู่ตันมาเอาชีวิตไป” เสียงขาดหายไป สี่จู๋ชำเลืองตามองหลวนอวิ๋นชูอย่างไม่สบายใจ พูดอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “นายหญิงใหญ่ได้สั่งให้คนไปเชิญนักพรตมาทำพิธีปัดรังควานให้คุณชายสามแล้ว”

นึกถึงว่าหมู่ตันเป็นสาวใช้ที่ติดตามมาพร้อมการแต่งงานของหลวนอวิ๋นชู ทุกคนต่างปิดปากแน่น แม้แต่เฉียนหมัวมัวก็หดคอถอยไปอยู่ข้างหลัง

ความเงียบที่ผิดปกติทำให้คนรู้สึกเย็นวาบที่แผ่นหลัง แต่ละคนใบหน้าซีดเผือด ไม่กล้ามองซิ่วเอ๋อร์ที่นอนสิ้นลมอยู่บนเตียง กลัวว่าพริบตาถัดมาก็จะกลายเป็นผีร้ายกระโจนเข้าหา ต่างลืมไปอย่างสิ้นเชิงว่าเพราะเหตุใดจู่ๆ สี่จวี๋จึงเงียบเสียงลง เรื่องคุณชายสามถูกผีหลอกจึงผ่านไปแต่เพียงเท่านี้

“จัดการตามที่นายท่านสั่งมาเถิด”

น้ำเสียงราบเรียบทำลายความเงียบที่ทำให้คนหวาดกลัว เห็นหลวนอวิ๋นชูขยับฝีเท้าก็เหมือนได้รับการอภัยโทษเป็นพิเศษ สาวใช้รุ่นเล็กหลายคนที่หน้าประตูต่างพากันพุ่งออกไปดุจลูกธนู

“สะใภ้สี่…” เห็นหลวนอวิ๋นชูจะจากไป ซวงเอ๋อร์พลันพุ่งเข้ามากอดขานางไว้ “พี่ซิ่วเอ๋อร์ไม่ใช่ป่วยตายแน่นอน สะใภ้สี่ได้โปรดช่วยจัดการให้นางด้วย!”

ถูกกอดขาโดยไม่ทันตั้งตัว หลวนอวิ๋นชูร่างเสียหลักเกือบจะล้มลงไป ดีที่ฝูหรงช่วยประคองไว้

“ซวงเอ๋อร์ห้ามพูดจาเหลวไหล! รีบหลบไป ทำให้สะใภ้สี่ตกใจ ระวังจะถูกถลกหนัง”

เฉียนหมัวมัวออกแรงดึงซวงเอ๋อร์ออกมา มอบนางให้หญิงรับใช้สูงวัยไหล่กว้างเอวกลมคนหนึ่ง

“ไม่ใช่ป่วยตาย แล้วเป็นอะไรตาย!” คำพูดพอหลุดจากปากสี่จู๋ก็ตระหนักรู้ขึ้นมาทันที กล่าวเสียงเฉียบขาด “ซวงเอ๋อร์ ข้ารู้เจ้ากับซิ่วเอ๋อร์สนิทกัน แต่เรื่องนี้ไม่มีหลักฐาน ไม่อาจพูดส่งเดช ระวังถ้าพูดออกไปจะรักษาศีรษะไม่อยู่!”

“บ่าวไม่ได้พูดเหลวไหล บ่าวมีหลักฐาน” ออกแรงคิดจะดิ้นให้หลุดจากการถูกจับตัวไว้ ซวงเอ๋อร์ชี้แจงข้อเท็จจริง “ก่อนพี่ซิ่วเอ๋อร์จะขาดใจได้บอกกับบ่าว…”

“หุบปาก! ข้าว่าเจ้าตกใจจนโง่งมไปแล้ว” หลวนอวิ๋นชูสีหน้าตื่นตระหนก “เข้ามา เอานางไปขังไว้!”

มีความลับบางอย่างไม่อาจแบ่งปัน บางครั้งยิ่งรู้มากยิ่งตายเร็ว

ในเมื่อการตายของซิ่วเอ๋อร์เกี่ยวพันกับต่งกั๋วกง เช่นนั้นคนที่ได้ยินคำสั่งเสียของซิ่วเอ๋อร์ล้วนต้องตาย ไม่อาจทวงความเป็นธรรมให้ซิ่วเอ๋อร์ นางก็อับจนปัญญามากอยู่แล้ว จะให้คนทั้งห้องนี้ต้องตายตามไปด้วยได้อย่างไร

หลวนอวิ๋นชูที่อ่อนน้อมโอบอ้อมอารีจู่ๆ บันดาลโทสะออกมา น้ำเสียงเย็นยะเยือกเจืออานุภาพน่าเกรงขามไม่เปิดโอกาสให้โต้แย้ง สั่นสะเทือนจนในหูของทุกคนมีเสียงอึงอล ต่างไหล่ลู่ลงตามสัญชาตญาณ ร่างของซวงเอ๋อร์ก็อ่อนปวกเปียกลงไป

“สะใภ้สี่! ที่บ่าวพูดเป็นความจริง ท่านได้โปรดฟัง…”

ถูกหิ้วออกไปจากห้อง ซวงเอ๋อร์จึงรู้สึกตัว นางดิ้นรนพลางร้องตะโกน จึงถูกคนอุดปากไว้

เสียงร้องราวหัวใจถูกฉีกกระชากดังก้องไปไกลท่ามกลางความเงียบสงัด ทุกคนต่างเนื้อตัวสั่น หันมองไปที่เตียง ใบหน้าของซิ่วเอ๋อร์ถูกกระดาษสีเหลืองขมิ้นปิดไว้อย่างมิดชิด มองไม่เห็นความผิดปกติใดๆ

“สะใภ้สี่…” ฝูหรงดึงแขนนางเบาๆ “ไม่สู้ลองฟังคำพูดที่ซิ่วเอ๋อร์ทิ้งไว้”

“เรียกหลี่ว์หมัวมัวเข้ามา” หลวนอวิ๋นชูไม่สนใจฝูหรง หันหน้าไปสั่งการ “บรรจุศพลงโลง แล้วค่อยให้คนไปส่งข่าวให้คนในครอบครัวซิ่วเอ๋อร์”

ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะตั้งอกตั้งใจสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำ หลวนอวิ๋นชูจึงมาคารวะผู้ใหญ่ตามธรรมเนียมมารยาท ถึงแม้นายหญิงใหญ่จะให้นางอยู่รักษาตัวที่เรือนลู่ย่วนก็ตาม หลวนอวิ๋นชูมองว่าทั้งการไม่ได้ไปทำงาน ทั้งการไม่ได้ไปตลาด แต่กลับต้องมาที่เรือนแม่สามีเพื่อปฏิบัติตามธรรมเนียมมารยาทตั้งแต่ยามเหม่า* เช่นนี้ ถือเป็นธรรมเนียมที่แย่มาก…

เลี้ยวผ่านฉากบังลมไม้หนานมู่ที่ปักด้วยไหมทองลายหงส์คู่มองตะวันก็จะเห็นภาพห้าบุตรประทานพรแขวนอยู่บนผนังตรงหน้า ตรงกลางเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมไม้จันทน์ม่วงแกะลายมังกรไม่มีเขา บนโต๊ะวางสวนถาดที่แกะจากรากไม้แดงถาดหนึ่ง ชุดชาหยกดำหนึ่งชุด สองข้างวางเก้าอี้ไท่ซือ** ไม้จันทน์ม่วงข้างละตัว ถัดออกไปด้านข้างมีเก้าอี้กุหลาบ*** ไม้จันทน์ม่วงแกะลายม้วนขดตามขอบที่นั่งด้านหน้าและพนักพิงวางเรียงรายข้างละแถว แถวละเจ็ดตัว แถวทางด้านซ้ายมีคุณชายห้าต่งซิ่น คุณชายหกต่งอี้ คุณชายเจ็ดต่งเหอ หัวผักกาดน้อยที่แข็งแรงน่ารักทั้งสามคน ส่วนเก้าอี้ที่เหลือล้วนว่างเปล่า ทางด้านขวาตั้งแต่หัวแถวลงไปนั่งเรียงตามลำดับเหยาหลัน เฉาเสวี่ย พานหมิ่น คุณหนูสามต่งซู และคุณหนูสี่ต่งฮว่า ทุกคนกำลังพูดคุยกันเบาๆ พอเห็นหลวนอวิ๋นชูเข้ามาก็หยุดปากทันทีพลางมองมาด้วยความแปลกใจ

เห็นเก้าอี้ตรงกลางยังว่างอยู่ หลวนอวิ๋นชูก็ลอบระบายลมหายใจ ยังดีนายหญิงใหญ่ยังไม่ออกมา

เห็นหลวนอวิ๋นชูทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั่งลงข้างกายนาง พานหมิ่นก็เบี่ยงตัวอย่างรังเกียจ “เมื่อวานไปเที่ยวเล่นที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน สะใภ้สี่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ถึงขั้นสบายอกสบายใจมาเที่ยวเรือนอิ่นย่วนแล้ว”

คำว่า ‘เที่ยว’ ถูกพานหมิ่นเค้นเสียงจนกังวาน ความหมายในการเสียดสีเอ่อท้นออกมาทางน้ำเสียงและกิริยาท่าทาง อีกด้านหนึ่งยังไม่ลืมยกมือขึ้นปัดๆ ไปในอากาศ คล้ายในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายความอัปมงคล ท่าทางดูตลกยิ่ง

“แล้วอย่างไรเล่า สะใภ้สามไม่ใช่มาคารวะนายหญิงใหญ่หรอกหรือ” หลวนอวิ๋นชูยิ้มจางๆ เสียงยังคงนุ่มนวลเช่นที่ผ่านมา “เป็นเพราะกินอิ่มไม่มีอะไรทำ อยู่ว่างๆ ฟ้ายังไม่สว่างก็ออกมาเที่ยวเล่นหรือ”

ทำสงครามน้ำลาย ใครทำไม่เป็นบ้างเล่า

“พรืด…”

ต่งซิ่นพ่นน้ำชาในปากออกมา ต่งอี้ต่งเหอก็หัวเราะคิกคักตามไปด้วย

“คุณชายของบ่าว ท่านระวังหน่อยเจ้าค่ะ” แม่นมก้มลงมาช่วยเช็ดเสื้อผ้าให้ต่งซิ่น “นายท่าน นายหญิงใหญ่จะออกมาแล้ว เสื้อผ้าสกปรกตอนนี้จะไปเปลี่ยนก็ไม่ทันแล้ว”

เห็นแม่นมของตนเม้มปากแน่น ข่มกลั้นจนใบหน้าแดง คุณชายห้าต่งซิ่นก็ขยับตัวหัวเราะคิกคักออกมา

“คุณชายของบ่าว ท่านสุขุมหน่อยสิเจ้าคะ ระวังนายท่านเห็นเข้าก็จะ…”

“เจ้าพูดมากเสียจริง” ต่งซิ่นย่นหัวคิ้วอย่างรำคาญ ผลักแม่นมออกไป “ก็แค่น้ำชาคำเดียว ไม่ต้องเช็ดแล้ว เจ้าไปยืนข้างๆ อย่ามาบังข้าชมเรื่องสนุก”

สะใภ้กับคุณหนูคนอื่นๆ ต่างก็พยายามสะกดกลั้นไม่หัวเราะออกมา แต่ละคนท่าทางคล้ายปวดอุจจาระ ข่มกลั้นจนใบหน้าแดงก่ำ เห็นทุกคนเป็นเช่นนี้ สีหน้าของพานหมิ่นก็กลายเป็นมะเขือม่วงแล้ว อ้าปากถลึงตามองหลวนอวิ๋นชูราวกับอยากถลกหนัง ยามกะทันหันถึงกับหาคำพูดมาตอบโต้ไม่ได้

“ข้าได้ยินว่าเมื่อวานคุณชายสามถูกผีหลอก วันนี้ยังลุกจากเตียงไม่ขึ้น เป็นเช่นนี้สะใภ้สามยังสบายอกสบายใจออกมาเที่ยวเล่นอีกหรือ” หลวนอวิ๋นชูเอามือตบหน้าผาก คล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ “อ้อ…ข้าลืมไป คุณชายสามมีนกขมิ้นนกนางแอ่น* อยู่เต็มห้อง ไม่ต้องให้สะใภ้สามปรนนิบัตินี่ ท่านย่อมมีเวลาว่างมากมาย”

ในจวนกั๋วกงแห่งนี้ความเจ้าชู้ของต่งเหรินนับว่าขึ้นชื่อลือนาม เรื่องนี้ต่งกั๋วกงกับนายหญิงใหญ่ไม่ค่อยพอใจนัก มักบ่นว่าพานหมิ่นมัดใจต่งเหรินไว้ไม่อยู่ไม่พูดถึง ยิ่งไม่รู้จักตักเตือน ปล่อยให้เขาทำเรื่องวุ่นวาย เรื่องนี้คล้ายได้กลายเป็นปมที่เจ็บปวดในใจของพานหมิ่นไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวานต่งเหรินถูกผีหลอก ในจวนกั๋วกงก็แอบเล่าลือกันไปทั่ว บอกเขาทำเรื่องเลวร้ายมากเกินไป ในที่สุดก็ถูกกรรมตามสนอง ถูกสาวใช้ตามรังควาน…

เรื่องที่เดิมทีอยากจะปิดบังยังแทบไม่ทันกลับถูกเปิดโปงออกมาต่อหน้าผู้คน พานหมิ่นเสียหน้าจนพานโกรธ นางราวกับถูกผึ้งต่อย กระโดดผึงขึ้นมา ชี้หน้าหลวนอวิ๋นชูแล้วด่าว่า

“เจ้าเล่าเป็นสินค้าดีอะไร! เข้าประตูมาได้สามวันคุณชายสี่ก็ตาย ไม่ถึงครึ่งเดือนสาวใช้ก็ตายไปแล้วสองคน ศพคุณชายสี่ยังไม่ทันเย็น ก็ทนไม่ไหวไปยั่วยวนบุรุษที่ทะเลสาบลั่วเยี่ยน…ปีศาจจิ้งจอก! ดาวหายนะ!”

นายหญิงใหญ่กำลังจะออกมาแล้ว คิดไม่ถึงว่าพานหมิ่นจะไม่คำนึงถึงหน้าตา ส่งเสียงด่าทอต่อหน้าผู้คน ทุกคนต่างตะลึงงันแล้ว รอยยิ้มของเด็กน้อยทั้งสามแข็งค้างอยู่บนใบหน้า ปากอ้าค้าง มองพี่สะใภ้สามของพวกเขาอาละวาดพาลพาโลอย่างงงงัน

เหยาหลันลุกขึ้นมายืนอย่างสง่างาม เดินผ่านเฉาเสวี่ยอย่างเชื่องช้าราวกับเต่ามาถึงเบื้องหน้าพานหมิ่น ขณะพานหมิ่นยกมือค้างอยู่นั้นก็ได้ยินหญิงรับใช้สูงวัยที่หน้าประตูร้องขึ้น

“นายท่าน นายหญิงใหญ่มาถึงแล้ว!”

* กาน้ำหยด เป็นนาฬิกาน้ำในสมัยโบราณของจีน มีลักษณะแตกต่างหลากหลายรูปแบบ โดยมากจะใช้ภาชนะที่ทำจากทองแดงเจาะรูให้น้ำหยดลงมาตามท่อเพื่อบอกเวลา ภายหลังได้นำปรอทและทรายมาใช้แทนน้ำ

* ยามเหม่า คือช่วงเวลา 05.00 น. ถึง 07.00 น.

** เก้าอี้ไท่ซือ เป็นเก้าอี้แบบโบราณของจีน ด้านหลังมีทั้งพนักพิงเชื่อมติดกับเท้าแขนทั้งสองข้างเป็นเนื้อเดียว นิยมใช้ในหมู่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ชนชั้นสูง และประมุขของบ้านเพื่อแสดงถึงอำนาจ โดย ‘ไท่ซือ’ เป็นตำแหน่งราชครูชั้นสูงสุดในอดีต

*** เก้าอี้กุหลาบ เป็นเก้าอี้ชนิดหนึ่งของจีน รูปร่างเพรียวบาง ทรงสี่เหลี่ยมเรียบง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก มีพนักพิงหลังและที่เท้าแขน

* นกขมิ้นนกนางแอ่น ในที่นี้หมายถึงอนุหรือหญิงงามเมือง

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

Super-Decomposition-System
ระบบย่อยสลายขั้นเทพ
20 ตุลาคม 2022
8609_cover
[นิยายแปล] Hell mode
30 ธันวาคม 2021
9543_cover
GM ไปต่างโลก
15 มิถุนายน 2021
c0e626f79d
Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก
14 กรกฎาคม 2022
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 14"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF