สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 160 การแข่งขันตานเหมิน[รีไรท์]
บทที่ 160 การแข่งขันตานเหมิน[รีไรท์]
หลังจากเข้าสู่ระดับ 3 แล้ว ฉู่เหินก็มีโอกาสในการเหวี่ยงแหแค่ 3 ครั้งเท่านั้น เขายิ้มออกมาเพราะมันเป็นไปอย่างที่คิด แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้เขาก็อยากจะลองแล้วว่าระดับ 3 ที่ว่านี้มันแตกต่างจากของเก่ายังไง
ตานเหมินเป็นสิ่งพิเศษของโลกยุทธภพที่ยังหลงเหลืออยู่ สำนักแห่งนี้เวลาต่อสู้จะทำเป็นไม่เอาไหน การจัดอันดับของตานเหมินในโลกยุทธภพนั้นก็อยู่แค่ที่ 5 หรือ 6 เท่านั้น แม้จะเป็นเช่นนั้น ทว่าแม้แต่อันดับหนึ่งของโลกยุทธภพก็ยังไม่อาจเข้าไปรุกรานสำนักแห่งนี้ได้
แท้จริงเครือข่ายของชาวตานเหมินมีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งสำนักตานเหมินนั้นยังเป็นสถานที่ให้ฝึกฝนสำหรับนักปรุงยาทุกคนบนโลกยุทธภพ พวกเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เก่งกาจและติดเป็นอันดับต้น ๆ เช่นกัน ซึ่งแท้จริงแล้วเพราะมีผู้เก่งกาจค่อยประคับประคองตานเหมินอยู่เบื้องหลังนี่เอง นี่จึงทำให้สำนักแห่งนี้อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้
ศิษย์ของสำนักตานเหมินที่เป็นนักปรุงยาแต่ละคน พวกเขาล้วนแล้วแต่เย่อหยิ่งจองหอง สาเหตุคงหนีไม่พ้นยาอายุวัฒนะ และเพราะเป็นแบบนี้เอง พวกศิษย์ทั้งหลายถึงได้รับความเคารพจากผู้คนโดยรอบเวลาเดินทางไปไหนมาไหน
ภายในสำนักตานเหมิงเองก็มีการแข่งขันเล็ก ๆ ที่จัดขึ้น 3 ปีครั้ง และการแข่งขันใหญ่ที่จัดขึ้น 5 ปีครั้ง ซึ่งในที่นี้ไม่ใช่การแข่งวรยุทธ หากแต่เป็นการเฟ้นหายอดฝีมือการปรุงยาหาผู้เก่งกาจ
ทุกครั้งที่ตานเหมินจัดแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งเล็กหรือการแข่งใหญ่ ตานเหมิงมีกฎอยู่เพียงข้อเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือผู้ที่เข้าแข่งขันจะต้องมีอายุไม่เกิน 100 ปี และต้องมีวิชาปรุงยาระดับ 3 ขึ้นไปเท่านั้น ใครที่มีวิชาปรุงยาไม่ถึงระดับ 3 ต่อให้มาก็รังแต่จะทำให้ตัวเองเสียหน้าเท่านั้น ทว่าขอเพียงแค่ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นได้คะแนนดี ๆ จากงานแข่งของตานเหมินในครั้งนั้น ๆ พวกเขาเหล่านั้นก็จะกลายเป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจไม่ใช่เหรอ?
ด้วยเหตุนี้เอง หลายสำนักจึงให้ความสนใจกับการแข่งนี้มาก ถ้าเกิดว่ามีศิษย์คนไหนที่โดดเด่น พวกเขาก็จะรีบทาบทามเข้าสำนักตัวเองให้ได้ นี่จึงทำให้การแข่งขันของสำนักตานเหมินในแต่ละปีล้วนแล้วแต่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน และเต็มเปี่ยมไปด้วยความคึกคักทุกครั้งไป
ปีนี้การแข่งขันของสำนักตานเหมินใกล้เข้ามาแล้ว ทางสำนักเลือกที่จะจัดงานกันที่ที่เรียกว่า ‘กาโหลวเซี่ย’ ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความครึกครื้นอย่างมาก โรงเตี้ยมทุกแห่งล้วนแล้วแต่ถูกจับจองจากกลุ่มคนที่มาดูจนไม่มีห้องเหลือ ดังนั้นจึงมีชาวเมืองตานเหมินหัวใสบางคนเลือกที่จะเปิดบ้านตัวเองให้ผู้เดินทางมาเช่า
ทุกคนในเมืองตานเหมินจะตื่นเต้นทุกครั้งที่มีการจัดแข่งขันตานเหมิน พวกเขาต่างทำบ้านตัวเองเป็นที่พัก งานแข่งขันทำให้พวกเขาหลายคนได้เงินเข้ากระเป๋ากันเป็นจำนวนมากจากการปล่อยเช่า บางคนก็นำของติดตัว ของทำมือออกมาวางขายเป็นของฝาก ไม่ก็ทำขนมทานเล่นขายก็มี
ถ้าเป็นช่วงเทศกาลละก็ยังไงก็ทำกำไรได้แน่ ๆ ตราบเท่าที่พวกชาวบ้านเค้นสมองหาวิธีออกมาได้ ทว่าปีนี้กลับแตกต่างออกไปจากปีอื่น งานในครั้งนี้มีพวกอัจฉริยะมากมายเข้าร่วมงานด้วย อีกทั้งการแข่งขันปีนี้สำนักตานเหมินจะให้รางวัลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แน่นอนว่าถึงแม้ผู้ชมจะไม่ได้รางวัลไปด้วย แต่พวกเขาก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ที่จะเห็นการแข่งขัน และนั่งจึงทำให้งานในครั้งนี้มีผู้คนมากมายจริง ๆ
การเข้าร่วมงานแข่งขันนั้นง่ายมาก ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวเองมีอายุต่ำกว่า 100 ปี และเป็นผู้ปรุงยาระดับ 3 ขึ้นไป ตราบใดที่เงื่อนไขในการเข้าร่วมครบทั้ง 2 ข้อ คนผู้นั้นก็สามารถเข้าร่วมได้โดยไม่ต้องสนใจใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าเกิดว่าคนพวกนั้นสามารถเปิดตัวที่งานนี้ได้ละก็ รับประกันได้เลยว่าพวกเขาจะต้องมีอนาคตที่รุ่งโรจน์อย่างแน่นอน
เจียฉิงซง ลูกชายคนเดียวของประมุขสำนักตานเหมิน มีพรสวรรค์ด้านการปรุงยา เด็กรุ่นเดียวกันก็ไม่สามารถเปรียบได้เลย ในตอนนี้เขากำลังถือบางสิ่งที่เรียกว่ารายชื่อแล้วอ่านมันอย่างบรรจง
“หนิวอีซาน อายุ 87 มีความสามารถในการทำยาระดับ 4 ถือว่าเป็นม้ามืดที่สุด! เขามีโอกาสเข้าชิงอยู่บ้าง จูผิงเฉิง ศิษย์มือหนึ่งของเจ้าเมืองตานเหมิน มีโอกาสเข้าชิงเช่นเดียวกัน ไป๋ขง หลานชายคนโตของผู้นำตานเหมิงเองก็มีโอกาสชิงชัยชนะด้วยความสามารถในการแปรรูปวัตถุดิบ ทั้งหมดนี้คือผู้ที่มีโอกาสเข้าชิงมากที่สุด”
เจียฉิงซงเองก็อยู่ในรายชื่อนั่น ทว่าอยู่ในอันดับ 5 ซึ่งนี่ก็ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก ในรายชื่อพวกนั้นมีคนกว่า 20 คน และจะต้องมีหนึ่งในนั้นได้เป็นผู้ชนะแน่ๆ นี่ยังไม่นับพวกม้ามืดอีกนะ
ทว่าเจียฉิงซงก็ไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ เขามั่นใจในฝีมือปรุงยาของเขาที่สุด ทว่านอกจากตัวเขาเองแล้วก็ยังมีคนที่เข้าตาเขาอยู่บ้าง สองในรายชื่อก็คือ ซือหม่าเฟิง และ ฉานยูฉง นั่นเองที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
ไม่ใช่แค่เจียฉิงซงเท่านั้นที่ดูคู่แข่งของเขา หลาย ๆ คนเองก็เช่นกัน พวกเขาพยายามศึกษาข้อมูลศัตรูให้ได้มากที่สุดในขณะที่วันแข่งขันใกล้เข้ามาทุกที
การแข่งตานเหมินในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นที่ลานกว้างนอกเมืองตานเหมิน ตอนนี้ผู้คนนับหมื่นมายืนออกันอยู่ที่ลานกว้างซึ่งเป็นสถานที่จัดงานด้วยอารมณ์ต่างกันออกไป บางคนดุดัน บางคนก็ดูดี หลังจากที่หลบเลี่ยงสายตากันและกัน ก่อนที่พวกเขาหลายคนจะพากันเริ่มหวั่นใจ
หลาย ๆ คนเริ่มหาจุดยืนเพื่อดูการแข่งขัน จากนั้นทุกคนก็นั่งรออย่างเงียบๆ และรู้ว่าประตูนั้นสามารถเชื่อมไปได้ 3 ทาง ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะเปิดมัน
ระดับแรกคือรู้การเปลี่ยนแปลงของต้นหญ้า ตอนนี้มีถุงเก็บของขนาดเล็กอยู่ตรงหน้าพวกเขา ภายในมีสมุนไพรนับพันอยู่ในนั้น ถ้าสามารถเขียนสูตรการทำยาจากวัตถุดิบในนั้นลงบนหยกได้ก็เท่ากับชนะ
อย่าได้ดูถูกพืชพวกนั้นเด็ดขาด มันคือสมุนไพรที่โตในตานเหมิน ถ้าเดาผิดละก็พลาดจนตกรอบเอาได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว กลับกันนั้น ใครก็ตามที่ผ่านเข้ารอบไปคนแรก คนผู้นั้นก็จะได้เปรียบผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ซึ่งถ้าถามว่าใครมีโอกาสมากสุด ก็คงต้องตอบว่าพวกศิษย์ของตานเหมิงเองนี่แหละที่มีโอกาสมากสุด
ยังไงเสียพวกเขาก็โตมาในตานเหมิง เพราะอย่างนั้นก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะรู้จักพวกสมุนไพรเหล่านั้นดีอยู่แล้ว หลังจากที่ทุกคนนั่งประจำที่เสร็จเรียบร้อย การแข่งขันก็พลันเริ่มขึ้น หลาย ๆ คนเริ่มแยกสมุนไพรและเขียนลงไปในหยก บางคนก็เหงื่อแตกและหวั่นเกรงเพราะไม่รู้จะทำเช่นไร
มี 20 คนแรกที่ทำได้ เรียงกันไปทีละคน รายชื่อสมุนไพรพวกนั้นถูกเขียนลงในแผ่นหยก และในบรรดา 20 คนนั้นมีสาวสวยอยู่ในนั้นด้วย
หญิงสาวคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น เธอคือคนที่ฉู่เหินวางกับดักที่เมืองตงซานครั้งที่แล้ว ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาร่วมงานที่ตานเหมินในครั้งนี้ด้วย
1 ชั่วโมงผ่านไป หลาย ๆ คนเริ่มหยุดมือ ก่อนที่จะมีอาจารย์เข้ามาตรวจงานทีละคนเพื่อคัดคนที่เข้ารอบและตกรอบออกไป
ท่ามกลางบรรดาสมุนไพรพวกนี้ มันจะถูกแจกจ่ายเป็นรางวัลให้กับทุกคนในที่นี้ ผู้คนนับหมื่นที่ตอนนี้เหลือแค่เพียงครึ่งเดียวแล้ว มีเพียงไม่กี่ร้อยคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง และในบรรดา 100 คนพวกนี้ พวกที่อยู่เหนือกว่า 20 คนก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหญิงสาวคนนั้น
การทดสอบที่สองก็คือ การทดสอบปรุงยา พวกเขาที่ผ่านเข้ารอบมาจะต้องใช้สมุนไพรพวกนั้นในการปรุงยา 2 เม็ด ถ้าใช้ของระดับต่ำก็จะได้ยาที่ไม่มีคุณภาพ เพราะอย่างนั้นคนผู้นั้นต้องมีความรู้ด้านการจัดการธาตุเป็นอย่างดีเพื่อที่จะดึงเอาประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมา แต่ถ้าเกิดว่าทำยาระดับสูงทว่าควบคุมไม่ได้ล่ะ มันก็มีโอกาสที่หม้อต้มยาจะแตกหรือพังเอาได้ ถ้าเป็นแบบนั้นจริง งานนี้พวกเขาจบไม่สวยแน่ ดังนั้นวิธีการดังกล่าวจึงถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก
สมุนไพรนานาชนิดถูกแปรรูปเป็นยา ส่วนที่เหลือสามารถนำไปจัดการได้ตามสะดวก เดิมทีที่มีศิษย์หลายพัน หากแต่ตอนนี้ถูกกำจัดโดยมากกว่าครึ่ง ขณะนี้มีคนน้อยกว่า 50 คนที่สามารถยังอยู่ ณ ลานกว้างได้ แต่คน 50 คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นที่จับตามองสำหรับพวกกลุ่มอำนาจทั้งหลาย
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame