ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 43
ตอนที่ 43 ยิ่งต้องมีมารยาท
ห๊ะ?!! ต้องจ่ายเงินสองล้านหยวนเพื่อให้ได้บัตรสมาชิกระดับแพลตตินั่ม!!
หลินหนานทำสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อคิดว่า ตนเองคงจะหมดโอกาสเข้าไปหาเงินได้แน่ แต่ในระหว่างนั้น หลิ่วต้าตูซึ่งเห็นสีหน้าบูดบึ้งของหลินหนาน จึงรีบเสริมขึ้นว่า
“แต่ไม่ได้มีวิธีนั้นเพียงแค่วิธีเดียว..”
แล้วจึงรีบอธิบายให้หลินหนานฟังต่อในทันที “ทุกๆเดือน โกลเดนพาเลซจะจัดกิจกรรมการแข่งขันขึ้นมาหนึ่งวัน และหากลูกค้าท่านใดเป็นผู้ได้รับชัยชนะ ก็จะได้รับบัตรสมาชิกแพลตตินั่มที่ว่านี้เป็นรางวัล กิจกรรมนี้จะจัดขึ้นทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน ซึ่งตรงกับวันนี้พอดี!”
“งั้นก็รีบบอกรายละเอียดให้ฉันฟังเร็วเข้า!” หลินหนานร้องตอบด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูอารมณ์ดีขึ้นมาก
หลิ่วต้าตูไม่กล้าปิดบังหลินหนานแม้แต่น้อย และได้บอกเล่ารายละเอียด และกฏระเบียบในกิจกรรมพิเศษนี้ให้เขาฟังทันที
กิจกรรมที่ว่านี้ก็ไม่มีอะไรมาก.. มันก็คือการแข่งขันงัดข้อนั่นเอง!
และใครที่แข็งแกร่งที่สุด สามารถล้มคู่ต่อสู้ในสนามได้หมด คนผู้นั้นก็จะเป็นผู้ชนะ และได้รับบัตรสมาชิกแพลตตินั่มไปในทันที
การแข่งขันง่ายๆแค่นี้เองน่ะเหรอ?!!
หลินหนานแอบคิดอยู่ในใจ นั่นเพราะการแข่งขันงัดข้อนี้ เป็นกีฬาที่หลินหนานกับเหล่าสมาชิกในหน่วยมังกรซ่อนกาย ใช้แข่งขันกันอยู่เป็นประจำ..
“เอาล่ะ.. พาฉันไปที่สนามแข่งเดี๋ยวนี้เลย!”
หลินหนานยื่นมือออกไปดึงคอเสื้อของหลิ่วต้าตู พร้อมกับยกร่างของมันขึ้นมา โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลยแม้แต่น้อย
และเวลานี้ หลิ่วต้าตูก็รู้ซึ้งแล้วว่าหลินหนานนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด?
เขาไม่กล้าขัดขืนหรือต่อต้านหลินหนานอีกเลยแม้แต่น้อย และปล่อยให้หลินหนานลากร่างของตนเองขึ้นมาราวกับไก่ต้ม
“หวังว่านายคงจะรู้ว่าต้องบอกกับคนอื่นๆยังไงนะ?” หลินหนานร้องถามขึ้นทันที
“ฉัน.. ฉันรู้!” ศรีษะโตๆของหลิ่วต้าตูพยักหงึกๆราวกับไก่จิกข้าว
“แล้วพวกนายสองคนล่ะ?”
หลินหนานหันไปมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ยังคงนอนหมดแรงอยู่บนพื้นอีกสองคน
“ครับ.. พวกเรารู้ครับ!”
แน่นอนว่าทั้งสองคนต่างก็พากันพยักหน้าหงึกๆเช่นกัน..
หลินหนานปล่อยมือจากคอเสื้อของหลิ่วตาตู จากนั้นจึงผลักไหล่ของมันให้เดินไปข้างหน้า พร้อมกับเปิดประตูออกไป
ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนก็รีบหันมามองอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นใบหน้าของหลิ่วต้าตู ทั้งสองคนก็ถึงกับดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ!
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?!!
ไหนบอกว่าจะสั่งสอนไอ้หนุ่มคนนี้?!!
เวลานี้.. ทั่วทั้งร่างกายของหลินหนานไม่มีร่องรอยได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามกับหลิ่วต้าตูที่เขียวช้ำไปทั้งตัว!
ไม่เพียงแค่นั้น แม้กระทั่งเพื่อนร่วมงานของพวกเขาอีกสองคนที่เดินตามออกมา ก็มีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูกเช่นกัน สภาพย่ำแย่ไม่ต่างจากหลิ่วต้าตูเลยแม้แต่น้อย
“พวกแกสองคนมองอะไรนักหนา?!! ฉันแค่เดินเหินรวดเร็วไปหน่อย ก็เลยสะดุดล้มได้รับบาดเจ็บ.. ก็แค่นั้นเอง!” หลิ่วต้าตูร้องตะโกนออกไปด้วยความโมโห
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคนที่อยู่ด้านนอก รีบก้มศรีษะลง แต่ภายในใจได้แต่นึกโมโห และคิดว่า..
พวกฉันยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ทำไมต้องดุด่ากันด้วย?
พูดออกมาได้ว่าสะดุดล้มบาดเจ็บ เห็นพวกฉันเป็นเด็กอมมือหรือยังไง?!
แต่แน่นอนว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคน ก็ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่กล้าเอ่ยปากถามออกไปแม้แต่คำเดียว..
หลิ่วต้าตูหันไปทางหลินหนาน พร้อมกับผายมือเป็นการเชื้อเชิญด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อม ก่อนจะบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“คุณหลิน.. เชิญทางนี้ครับ!”
หลินหนานได้แต่แอบยิ้มอยู่ในใจ และแอบคิดว่าคนอย่างหลิ่วต้าตูสามารถทรยศหักหลังใครก็ได้..
และเมื่อเดินไปสุดทางเดิน หลิ่วต้าตูก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนไปทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนเขาเดินนำหลินหนานไปที่ห้องโถงทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของโกลเดนพาเลซด้วยตัวเอง
………
ภายในห้องโถงใหญ่โตแห่งนี้ มีเก้าอี้ตั้งเรียงรายซ้อนกันเป็นชั้นคล้ายอัฒจันทร์ และเวลานี้ก็มีผู้คนนั่งกันอยู่มากมาย
หญิงสาวสวมชุดบิกินี่ผูกหูกระต่าย กำลังยืนถือไมโครโฟนประกาศกฏเกณฑ์การแข่งขันงัดข้อให้กับแขกภายในห้องฟังอย่างละเอียด
และภายในสนามด้านล่าง ก็มีชายหนุ่มหลายคนลงไปรอแข่งกันด้วยท่าทีกระตือรือร้นอยู่ก่อนแล้ว..
นับว่าบัตรสีเงินของโกลเดนพาเลซ เป็นอาวุธที่หอมหวน และสามารถดึงดูดผู้คนได้มากทีเดียว!
หากผู้คนภายนอกได้รู้ว่า ตนได้บัตรสีเงินของโกลเดนพาเลซนี้มาอย่างไรแล้วล่ะก็ แน่นอว่าคนผู้นั้นย่อมได้รับการยอมรับนับถืออย่างมาก และที่สำคัญ.. ใช่ว่าทุกคนในเมืองนี้จะมีเงินสองล้านหยวนจ่ายให้กับโกลเดนพาเลซแห่งนี้ทุกปี
หลินหนานยืนมองฝูงชนด้านหน้า พร้อมกับยกมือขึ้นเกากางทำท่าครุ่นคิด..
แทบไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น.. เพียงแค่การแข่งขันที่จัดขึ้นนี้ของหลิวหยิงหยิง ก็บ่งบอกว่าเธอเข้าใจจิตวิทยาของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี
นั่นเพราะการจัดแข่งขันขึ้นเดือนละครั้ง เพื่อชิงรางวัลบัตรสมาชิกแพลตตินั่มนี้ สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าที่เป็นสมาชิกได้มาก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นด้วย นับเป็นการตลาดที่เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกถึงสองตัวเลยทีเดียว
“คุณหลินกรุณานั่งรอที่นี่ก่อน ผมจะไปคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ลงทะเบียนให้ก่อน..” หลิ่วต้าตูโน้มกายลงพูดคุยกับหลินหนานด้วยท่าทางสุภาพ
“ได้สิ! ตามสบาย..” หลินหนานนั่งลงพร้อมกับเอ่ยตอบ
หลิ่วต้าตูเดินแบกใบหน้าบวมเหมือนหมูของตัวเองเข้าไปหาผู้ที่รับผิดชอบเรื่องการลงทะเบียนการแข่งขัน หลังจากกระซิบที่ข้างหูของคนผู้นั้นเพียงแค่สองสามคำ เขาก็เดินกลับมาพร้อมกับป้ายในมือหนึ่งอัน..
“คุณหลินครับ นี่เป็นป้ายหมายเลขของคุณครับ คุณได้หมายเลข 14”
หลิ่วต้าตูอธิบายต่อทันที “ผมสอบถามเจ้าหน้าที่ให้แล้ว คืนนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันงัดข้อทั้งหมดสิบสี่คน จะเป็นการแข่งขันเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หากแพ้.. ก็เท่ากับหมดโอกาส..”
“อืมม..” หลินหนานพยักหน้ารับรู้
“ไม่ทราบว่าคุณหลินต้องการอะไรอีกมั๊ยครับ?” หลิ่วต้าตูโน้มศรีษะลงต่ำอย่างนอบน้อม
“ไม่มีอะไรแล้ว นายไปได้!” หลินหนานโบกมือไล่
หลิ่วต้าตูถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลินหนานนั่งอยู่เงียบๆตามลำพัง และกำลังรอให้การแข่งขันงัดข้อเริ่มต้นขึ้น
……
ภายในห้องส่วนตัวที่ตกแต่งไว้อย่างหรูหราสวยงาม ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของโกลเดนพาเลซแห่งนี้ หลิวหยิงหยิงกำลังนอนเอนกายอยู่บนโซฟา พร้อมกับแก้วไวน์สีแดงในมือที่เหลืออยู่เพียงแค่ครึ่งแก้ว
ไวน์สีแดงในมือ กับชุดสีแดงที่สวมใส่นั้น ขับให้ความงดงามของหลิวหยิงหยิงโดดเด่นมากขึ้น
ท่อนขาเรียวยาวงดงามและขาวผุดผ่อง กับส่วนเว้าส่วนโค้งที่เซ็กซี่เย้ายวนบนเรือนร่างของเธอนั้น หากชายใดได้พบเห็นเข้า เลือดลมในกายคงต้องพุ่งพล่าน และอาดรีนาลีนในร่างคงต้องไหลหลั่งออกมาอย่างไม่รู้ตัวเป็นแน่
เพราะเธอทั้งมีเสน่ห์ ร้อนแรง และเย้ายวน!
และนี่คือเสน่ห์ในแบบนางปีศาจจิ้งจอกสาวที่แท้จริง!
นิ้วข้างซ้ายเรียวยาวงดงามดั่งหยกของเธอนั้น ได้หยิบเอาลูกดอกขึ้นมาหนึ่งดอก พร้อมกับปาไปที่เป้าหมายข้างหน้าทันที
ฟิ้ว..
ลูกดอกในมือของหลิวหยิงหยิงพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า และปักเข้ากับเป้าทรงกลมที่อยู่ห่างออกไปไกลถึงสิบเมตร
ฉึก..
ลูกดอกปักเข้าในตำแหน่งสีฟ้าได้อย่างแม่นยำ!
แต่สีหน้าท่าทางของหลิวหยิงหยิงกลับไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงคว้าลูกดอกปาออกไปลูกแล้วลูกเล่า
ฟิ้ว..
ไม่นานนักประตูห้องของเธอก็เปิดออก ดวงตาของเธอเป็นประกายวูบขึ้นมาทันที และข้อมือของเธอก็สะบัดออกไปอย่างรวดเร็ว
ฟิ้ว..
ลูกดอกในมือของเธอพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของใครบางคน ที่เพิ่งเปิดประตูและเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว..
ผู้ที่เปิดประตูเข้ามานั้นก็คล่องแคล่วว่องไวไม่น้อยทีเดียว เมื่อเห็นลูกดอกพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของตนอย่างรวดเร็วเช่นนั้น จึงรีบหยิบถาดผลไม้ในมือขึ้นมาแทนโล่ห์กำบังกันไว้ทันที
ฉึก..
ลูกดอกแทงทะลุถาดผลไม้เสียงดัง..
“ปฏิกิริยาของเธอเร็วกว่าเดิม 0.01 วินาที..” หลิวหยิงหยิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หลังจากจิบไวน์สีแดงเข้าไปเต็มปาก
น้ำเสียงของเธอนั้นไพเราะประหนึ่งสายลมในฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้งยังฟังดูเย้ายวนไม่น้อย..
“คุณนายหยิง.. ขืนปฏิกิริยาของผมไม่พัฒนาขึ้น ผมคงตายไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้วล่ะ!”
ผู้ที่เพิ่งเดินเข้ามาวางถาดผลไม้ในมือลง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลายิ่งนัก ชายหนุ่มผู้นี้มีรูปร่างสูงโปร่ง และมีใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างไร้ที่ติ
แต่ดูเหมือนชายหนุ่มผู้นี้จะเกิดมาไร้รอยยิ้ม เพราะใบหน้าหล่อเหลาของเขานั้น กลับดูเฉยเมยอยู่เช่นนั้นตลอดเวลา
“อาไห่.. มีเรื่องอะไรด่วนงั้นเหรอ? ถึงได้รีบร้อนเข้ามาจนลืมเคาะประตูห้อง” หลิวหยิงหยิงเอ่ยถาม พร้อมกับจ้องมองเรียวขาขาวผุดผ่องของตนเองด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
และเธอก็ไม่จำเป็นต้องระวังเนื้อระวังตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าอาไห่ เพราะเขาคือลูกน้องคนสนิทที่เธอไว้ใจที่สุด
“คุณนายหยิง มีคนน่าสนใจเข้ามาที่โกลเดนพาเลซของเรา” อาไห่โค้งศรีษะลงเล็กน้อยพร้อมกับบอกไป
“โอ้?!!”
หลิวหยิงหยิงร้องอุทานออกมา พร้อมกับลุกขึ้นนั่งด้วยความสนอกสนใจทันที..
อาไห่เดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับยื่นโน๊ตบุ๊คในมือให้กับหลิวหยิง “คุณนายหยิง.. ดูคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดนี้สิ!”
นิ้วเรียวงามดั่งหยกของหลิวหยิงหยิงค่อยๆ กดเลื่อนดูคลิปในหน้าจอคอมพิวเตอร์ และได้เห็นภาพของหลินหนาน
เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในห้องส่วนตัว ซึ่งหลินหนานกำลังจัดการกับหมาป่าและลูกน้องของมันอยู่นั่นเอง
ส่วนอีกคลิปก็คือเหตุการณ์ที่หลินหนานกำลังจัดการกับหลิ่วต้าตู และลูกน้องของมันอีกสองคน
หลังจากที่ดูคลิปทั้งหมดจนจบแล้ว สีหน้าของหลิวหยิงหยิงกลับยังคงนิ่งเรียบเช่นเดิม ไม่มีสีหน้า หรือท่าทีที่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เธอเพียงแค่เอื้อมมือไปหยิบกล่องใส่บุหรี่ขึ้นมา พร้อมกับจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบหนึ่งมวน
“อาไห่.. เธอว่าเขาจะมาสร้างปัญหาให้ที่นี่มั๊ย?” หลิวหยิงหยิงมองอาไห่พร้อมกับเอ่ยถาม ดวงตาที่ใส่เป็นประกายดั่งสายน้ำนั้น สั่นระริกเพียงแค่เล็กน้อย
“ผมไม่คิดเช่นนั้น..” อาไห่ส่ายหน้าที่นิ่งเฉยไร้อารมณ์ของตนเองพร้อมกับเอ่ยตอบ
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ไปพบเขากัน!”
“ครับ”
อาไห่ตอบรับพร้อมกับหันหลังเตรียมตัวเดินนำออกไปทันที
“จำไว้ว่า.. หากเขามาในฐานะสหายก็จงรักษามารยาทไว้ให้ดี แต่หากเป็นศัตรู…”
หลิวหยิงหยิงเอนกายพิงโซฟาพร้อมกับหัวเราะคิกคัก ก่อนจะเน้นเสียงในประโยคที่พูดต่อไป
“ก็ยิ่งต้องยิ่งมีมารยาทให้มากกว่าเดิม..”
และรอยยิ้มของหลิวหยิงหยิงนั้น ก็เป็นรอยยิ้มที่ตรงข้ามกับคำพูดมากนัก..
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame