ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 28
ตอนที่ 28 พฤติกรรมแปลกๆ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งนาทีนั้นเป็นเพียงแค่เวลาอันน้อยนิด
ในหน้าของหลิวเฉียนเริ่มปรากฏรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ เขามั่นใจว่าอย่างไรหลินหนานก็ไม่มีทางหนีหายนะครั้งนี้ได้พ้นแน่
หมอนี่จะต้องถูกไล่ออกอย่างแน่นอน!
พนักงานทุกคนในฝ่ายขายเวลานี้ ต่างก็มีสีหน้าที่ตื่นเต้นกันไปหมด เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว เพื่อนร่วมงานในแผนกต่างก็เป็นคู่แข่งที่มีความสามารถ และฝ่ายขายคือแผนกที่คุยกันเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ ความเมตตาเห็นอกเห็นใจ จึงเป็นสิ่งที่มีค่าน้อยมาก หรือแทบไม่มีค่าอะไรเลยในแผนกนี้
แต่สำหรับหลินหนานนั้น นับว่าเขาโชคร้ายอย่างมาก เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้วันแรก ก็ต้องถูกไล่ออกเสียแล้ว!
“สิบ”
“เก้า”
“แปด”
ยิ่งใกล้หมดเวลามากเท่าไหร่ สีหน้าของหลิวเฉียนก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น ราวกับว่าตนเองกำลังจะชนะพนันตีไก่อย่างนั้นล่ะ
แต่เมื่อเขานับถึง “สาม” เท่านั้น ประตูห้องทำงานฝ่ายขายก็เปิดผางออกทันที!
สีหน้าของหลิวเฉียนถึงกับนิ่งไป เมื่อพบว่า ฉินเสี่ยวยู่กำลังเดินลากกระสอบเข้ามาด้วยท่าทางทุกลักทุเล
แต่เมื่อเห็นหลินหนานเข้า ฉินเสี่ยวยู่ก็ได้แต่ร้องตะโกนบ่นออกไป “ฉันนั่งคอยนายอยู่ที่จอดรถตั้งนาน ทำไมนายไม่ลงไปช่วยฉันแบกกระสอบนี่ขึ้นมา? ไม่รู้หรือไงว่ามันหนักแค่ไหน?”
“โทษที! ผมลืมเสียสนิทเลย ผมคิดว่าคุณจะขึ้นมาที่แผนกแล้วเสียอีก!”
หลินหนานร้องตอบ พร้อมกับวิ่งเข้าไปช่วยแบกกระสอบเงินในมือของฉินเสี่ยวยู่ทันที
“เสี่ยวยู่ นี่เธอไปทวงหนี้ หรือไปเที่ยวท้องไร่ท้องนามากันแน่? ทำไมถึงได้ลากกระสอบอะไรมาแบบนั้น?”
“ในนั้นคงจะพืชผักอะไรสักอย่างสินะ? ว่าแต่เป็นกระสอบข้าวโพด หรือกระสอบมันกันแน่?”
“นี่.. อย่าบอกนะว่าเธอเอาพืชผักมาฝากพวกเรา?”
หลายคนในฝ่ายขายต่างก็พากันล้อเลียนฉินเสี่ยวยู่ เมื่อเห็นเธอลากระสอบเข้ามาแบบนั้น..
หลิวเฉียนแสยะยิ้มอีกครั้ง และได้แต่คิดในใจว่า ต่อให้ฉินเสี่ยวยู่กลับมาทันเวลาก็ไม่มีผลอะไร และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลที่จะเกิดขึ้นกับหลินหนานได้..
นั่นเพราะ.. พืชผักในกระสอบคงจะไม่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองได้!
หลินหนานแบกกระสอบกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง พร้อมกับบอกทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ใครบอกพวกคุณว่ากระสอบใส่ได้เฉพาะพืชผัก? กระสอบใส่เงินสดไม่ได้หรือยังไง?”
“เงินสดเหรอ? นายอย่ามาตลกหน่อยเลย ใครกันจะบ้าจ่ายเงินสดมากมายขนาดนี้? ฮ่าๆๆ” หนึ่งในพนักงานฝ่ายขายหัวเราะ พร้อมกับพูดเย้ยหยันหลินหนาน
“นั่นน่ะสิ! นี่นายอย่าบอกนะว่า ลูกค้าไปขุดเงินที่ฝังอยู่ใต้ดินมาให้นาย?” อีกคนรีบพูดเสริมขึ้นมาทันที
“ใครบอกว่าไม่มีกันเล่า?”
หลินหนานตอบกลับ พร้อมกับเทของที่อยู่ในกระสอบลงที่โต๊ะทำงานของตนเองทันที
หลินหนานจัดการแกะเชือกที่มัดปากกระสอบออกอย่างชำนิชำนาญ จากนั้นธนบัตรสีแดงจำนวนมาก ก็ร่วงกรูออกจากกระสอบมากมาย
ธนบัตรหนึ่งร้อยหยวน กองพะเนินอยู่เต็มโต๊ะทำงานของหลิงหนาน!
และเมื่อเห็นเช่นนั้น ทุกคนที่อยู่ในแผนกต่างก็ได้แต่นิ่งอึ้งไปด้วยความตกตะลึง!
นี่เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ.. มีคนจ่ายเงินสดเป็นกระสอบให้แบกกลับมาด้วยจริงๆหรือนี่?
“ผู้จัดการหลิว เชิญนับดูได้เลย หนึ่งล้านสองแสนหยวนครบถ้วน!”
หลิวเฉียนถึงกับหน้าเปลี่ยนสี..
เขารีบก้าวเท้าตรงเข้าไปที่โต๊ะของหลินหนานทันที พร้อมกับหยิบธนบัตรสีแดงจำนวนหนึ่งขึ้นมาดู แต่เมื่อได้สติ เขาก็รีบหันไปสั่งพนักงานในแผนกสองคนว่า
“พวกคุณไปช่วยกันยกเครื่องตรวจนับธนบัตรมา..”
พนักงานทั้งสองรีบเดินไปที่มุมห้อง จากนั้นจึงยกเครื่องนับธนบัตรที่วางอยู่มา แล้วช่วยกันนับเงินบนโต๊ะของหลินหนาน
“ผู้จัดการคะ หนึ่งล้านสองแสนหยวนครบถ้วน ไม่ขาดไม่เกิน..” หนึ่งในพนักงานที่ช่วยกันนับเอ่ยบอก
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหลิวเฉียนถึงกับเปลี่ยนเป็นตกใจสุดขีด!
กลายเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?!
ไม่น่าเชื่อว่าหลินหนานจะสามารถทวงหนี้จากลูกค้าที่เลวร้ายที่สุดของบริษัทได้!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เรื่องที่เขารับปากผู้อำนวยการเย่ไว้ มิต้องล้มเหลวไม่เป็นท่าหรอกหรือ?
แต่ยังไม่ทันที่หลิวเฉียนจะหายงุนงงสับสน ฉินเสี่ยวยู่ก็ลุกขึ้นประกาศเสียงดังฟังชัด “ทุกคน.. วันนี้หลินหนานทำงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดีเยี่ยม ขอให้ทุกคนปรบมือให้กับความทุ่มเทใส่ใจในหน้าที่ของเขาด้วยค่ะ!”
จากนั้น ฉินเสี่ยวยู่ก็เป็นผู้นำทุกคนปรบมือให้กับหลินหนานก่อน จากนั้น เสียงปรบมือก็ดังสนั่นไปทั่วทั้งฝ่ายขาย
พนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานวันแรก แต่กลับสามารถตามทวงหนี้จากลูกค้าชั้นเลวของทางบริษัทได้ มีใครบ้างเล่าที่จะกล้านิ่งเฉยได้..
และเรื่องที่น่าทึ่งแบบนี้ พวกเขาก็เคยพบเห็นแต่ในนิยาย หรือว่าภาพยนตร์เท่านั้นล่ะ!
หลินหนานหันไปมองฉินเสี่ยวยู่ ต่างฝ่ายต่างมีความสุขอย่างมาก และหลินหนานก็รู้สึกเหมือนร่างกายพองโตเล็กน้อย
“เอาล่ะๆ พอได้แล้ว เดี๋ยวเสียงจะไปรบกวนแผนกอื่นเข้า!” หลิวเฉียนร้องบอกด้วยสีหน้าบึ้งตึง
เมื่อได้เห็นสีหน้าบึ้งตึง และน้ำเสียงเย็นชาของผู้จัดการหลิว ทุกคนในแผนกก็พากันหยุดปรบมือ และได้แต่นิ่งเงียบในทันที
“เลิกงานแล้วก็กลับบ้านกันได้..”
หลิวเฉียนเอ่ยบอก และทำทีจะเดินออกไป หลินหนานเห็นเช่นนั้นจึงรีบร้องห้ามไว้ “ผู้จัดการหลิว อย่าเพิ่งไป!”
“ยังมีอะไรอีกล่ะ?” หลิวเฉียนหันมาถามด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
“ผมทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีใช่มั๊ยครับ?” หลินหนานเอ่ยถามพร้อมกับปัดมือไปมา
“อืมม..”
แม้ว่าหลิวเฉียนยากที่จะยอมรับได้ แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธ จึงได้แต่ตอบกลับไปอย่างไม่เต็มเสียงนัก
“ถ้าอย่างนั้น.. เงินรางวัลสิบเปอร์เซ็นต์ที่ผมจะได้รับ ผมหยิบไปได้เลยใช่มั๊ยครับ!” หลินหนานเอ่ยถามยิ้มๆ ดวงตาเป็นประกาย ประหนึ่งสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์
“เชิญคุณหยิบไปได้เลย!” หลิวเฉียนกัดฟันตอบกลับไปเพียงแค่สั้นๆ
“ถ้างั้นผมไม่เกรงใจแล้วนะ!”
หลินหนานจัดการหยิบธนบัตรหนึ่งร้อยหยวนขึ้นมาทั้งหมดสิบสองปึก ด้วยสีหน้าท่าทางดีอกดีใจ ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาของเหล่าเพื่อนร่วมงานในแผนก
เงินตั้งหนึ่งแสนสองหมื่นหยวน!
หมอนี่สบายไปอีกนานเลย!
หลิวเฉียนทนเห็นสีหน้าท่าทางดีอกดีใจที่หลินหนานแสดงออกมาไม่ได้ เขาถึงกับต้องรีบเดินออกนอกประตูไปในทันที แต่ก่อนที่เท้าของเขาจะทันก้าวออกนอกห้องไปนั้น เขาก็ได้ยินเสียงของหลินหนานพูดขึ้นว่า
“ผู้จัดการหลิว วันหน้าถ้ามีลูกค้าทวงเงินยากๆแบบนี้อีก บอกผมได้เลยนะครับ ผมจะรับอาสาทำหน้าที่นี้เอง แต่ผมไม่โลภมากหรอกนะ ผมขอเงินรางวัลแค่สิบเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิมพอ..”
พูดจบ.. หลินหนานก็ยกเงินทั้งสอบสองปึกขึ้นมาจูบเสียงดัง!
หลิวเฉียนแทบเข่าทรุด และลงไปกองกับพื้น ทันทีที่ก้าวออกจากห้องทำงานของฝ่ายขาย หลิวเฉียนก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาใครบางคนอย่างรวดเร็ว
“ผู้อำนวยการเย่ครับ! ผมขอโทษด้วย แผนการของผมล้มเหลว! หมอนั่นสามารถทวงหนี้กลับมาได้ทันเวลา” หลิวเฉียนรายงานด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ!” เย่จิงเฉิงเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
หลังจากกดวางสายไปแล้ว เย่จิงเฉิงก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปที่หน้าต่างห้องทำงาน พร้อมกับเหม่อมองออกไปด้านนอก
จากห้องทำงานของเย่จิงเฉิงนั้น เป็นจุดที่มองเห็นทัศนียภาพที่งดงามมาก เธอมองเห็นแม้กระทั่งเรือที่กำลังแล่นไปตามแม่น้ำ
“ดูเหมือนฉันจะไม่มีวิธีจัดการกับผู้ชายคนนี้ได้จริงๆสินะ?” เย่จิงเฉิงรำพึงรำพันออกมาพร้อมกับยิ้มขื่น
เหลียงซี่อวี๋ซึ่งเป็นเลขานุการส่วนตัว และยืนอยู่ข้างๆพอดี จึงได้ยินบทสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อครู่ได้อย่างชัดเจน
เธอจึงได้แต่พูดปลอบใจไปว่า “คุณเย่คะ.. ครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ค่ะ อย่ากังวลใจไปเลยนะคะ พวกเราค่อยคิดหาแผนการใหม่อีกที!”
“แต่ฉันไม่อยากจะรอต่อไปอีกแล้วจริงๆ! ฉันทนมาสองปีครึ่งแล้ว และไม่อยากจะให้ผู้ชายคนนี้อยู่ในชีวิตของฉันอีกแม้แต่วินาทีเดียว ทุกวันที่ผ่านไป เป็นวันที่ทุกข์ทรมานของฉันมาก!” เย่จิงเฉิงตอบกลับไป พร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย
“คุณเย่อย่าเพิ่งร้อนใจไปเลยนะคะ ฉันเชื่อว่าฉันมีวิธีที่จะกำจัดเขาให้พ้นจากบริษัท ได้ภายในสองสามวันนี้ได้แน่ค่ะ!” เหลียงซี่อวี๋ตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ
เย่จิงเฉิงหันกลับไปมองเหลียงซี่อวี๋พร้อมกับตอบไปว่า “ซี่อวี๋ ตอนนี้คุณเป็นคนเดียวที่ฉันเชื่อใจ และพอที่จะพึ่งพาได้ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ!”
“รับรองค่ะ! ฉันคิดแผนการได้เมื่อไหร่ จะรีบโทรบอกคุณเย่ทันทีนะคะ!” เหลียงซวี่อี๋ตอบกลับ
หลังจากเดินออกจากห้องทำงานของเย่จิงเฉิน เหลียงซี่อวี๋ก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำ หลังจากที่สำรวจจนมั่นใจแล้วว่า ภายในห้องน้ำไม่มีใครอยู่ เธอจึงรีบล็อคประตูทันที
จากนั้น เหลียงซี่อวี๋จึงถกกระโปรงขึ้น และหยิบซิมโทรศัพท์มือถือที่ซ่อนอยู่ในถุงน่องออกมา หลังจากใส่ซิมลงไปในโทรศัพท์มือถือของตนเองแล้ว เหลียงซี่อวี๋ก็รีบโทรหาใครบางคนทันที
เมื่อปลายสายกดรับแล้ว เหลียงซี่อวี๋ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน “ช่วยสืบเรื่องของคนชื่อหลินหนานให้ฉันที เมื่อสองปีกว่า จู่ๆผู้ชายคนนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นที่บ้านของผู้อำนวยการเย่ ฉันต้องการข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อย่างละเอียด ยิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี..”
หลังคุยสายจบแล้ว เหลียงซี่อวี๋ก็ถอดซิมโทรศัพท์นั้นออกมา และโยนมันลงไปในชักโครก..
ท่าทางลับๆล่อๆของเธอนั้น เป็นพฤติกรรมที่ทั้งแปลกและน่าสงสัยยิ่งนัก!
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame