ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 22
ตอนที่ 22 ยังมีแก่ใจจีบผู้หญิง?
จากนั้น หลินหนานและฉินเสี่ยวยู่ก็ช่วยกันนับเงินที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง..
“เฮ้อ.. หนึ่งล้านสองแสนหยวน.. ครบซะที! ”
ฉินเสี่ยวยู่ยืดอกพร้อมกับพึมพำออกมา หน้าอกใหญ่โตตรงหน้าดึงดูดสายตาของหลินหนานไม่น้อย
“หมอนี่มันบ้าจริงๆ ถึงกับกล้าเก็บเงินสดมากมายไว้ตามกำแพงบ้าน!!”
หลินหนานจ้องมองธนบัตรสีแดงมูลค่าหนึ่งร้อยหยวน ที่กระจัดกระจายเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นห้อง และนั่นทำให้เห็นว่าภายในกำแพงห้องนั้น ได้เก็บซ่อนเงินสดไว้จำนวนมากมายเพียงใด
“แล้วจะทำยังไงกับเงินที่เหลือดีล่ะ?” ฉินเสี่ยวยู่หันไปถามหลินหนาน
หลินหนานอึ้งไปเล็กน้อย ด้วยฐานะทางการเงินของเขาเวลานี้ คงยากที่จะปฏิเสธว่าไม่รู้สึกตื่นเต้นกับธนบัตรสีแดงจำนวนมากที่กองอยู่ตรงหน้า
เพราะหากคำนวณคร่าวๆด้วยสายตา เงินที่เหลืออยู่นั้นก็น่าจะมากมายหลายแสนหยวนเลยทีเดียว และมันมากพอที่เขาจะสามารถนำไปซื้อสมุนไพร หรือของใช้จำเป็นอื่นๆได้ เรียกได้ว่าสามารถทำให้เขาใช้ชีวิตต่อไปอย่างไม่ขัดสนได้
แต่ต่อให้อยากจะได้เงินมากเพียงใด เขาก็ต้องการได้มันมาด้วยวิธีที่ถูกต้องเท่านั้น เขาไม่ใช่คนที่ไร้หลักการในการใช้ชีวิต..
เขาถือคติว่า.. หากเป็นเงินที่ควรได้ ก็จะเอามาไม่ให้ขาดแม้แต่หยวนเดียว แต่หากไม่ใช่เงินที่ควรได้ เขาก็จะไม่แตะต้องแม้แต่หยวนเดียวเช่นกัน!
“ปล่อยให้พวกมันตื่นขึ้นมา และจัดการกันเองจะดีกว่า..” หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแส
ฉินเสี่ยวยู่ถึงกับประหลาดใจในคำตอบของหลินหนาน..
ในความรู้สึกของเธอนั้น หลินหนานเป็นคนโลภมาก และอยากได้เงินมาก ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่รับอาสาทำงานนี้เพียงเพราะต้องการเงินรางวัลแน่
แต่แล้ว.. เขากลับปฏิเสธ และไม่แตะต้องเงินที่เหลือทั้งหมดนี้!
“ว่าแต่.. ใบเสร็จทั้งหมดล่ะอยู่ที่ไหน?” หลินหนานหันไปถามฉินเสี่ยวยู่
“อ่อ.. อยู่ที่ฉัน!”
ฉินเสี่ยวยู่รีบหยิบใบเสร็จทั้งหมดออกมาจากกระเป๋าถือของตนเอง และยื่นให้กับหลินหนาน
“คุณจาง.. นี่เป็นใบเสร็จทั้งหมด ในเมื่อคุณชำระหนี้สินที่ค้างคากับทางบริษัทแล้ว พวกเราก็ไม่มีอะไรค้างคาต่อกันอีกแล้ว ส่วนซิการ์กล่องนี้ ผมถือว่าเป็นดอกเบี้ยก็แล้วกัน!”
หลินหนานไม่สนใจว่าจางฟาไฉจะแกล้งทำเป็นหมดสติไปหรือไม่ เขาจัดการวางใบเสร็จทั้งหมดลงบนโต๊ะทำงาน จากนั้นจึงแบกกระสอบใส่เงินสดออกไปทันที
อึ๊บ!!
เงินสดหนึ่งล้านสองแสนหยวนนี่หนักไม่เบาเหมือนกัน!
“ลาก่อนนะทุกคน! ไม่ต้องส่งพวกเราล่ะ!”
หลินหนานหันไปบอกกับทุกคนที่นอนหมดสติอยู่ในห้อง ก่อนจะก้าวเท้าเดินออกไปทันที
และเมื่อหลินหนานเดินไปถึงหน้าประตูทางออก เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดใจของจางฟาไฉดังมาจากด้านใน
เงินหนึ่งล้านสองแสนหยวน เป็นใครก็ต้องรู้สึกปวดใจทั้งนั้น..
หลังจากนำกระสอบใส่เงินไปวางไว้ท้ายรถของฉินเสี่ยวยู่แล้ว หลินหนานก็เดินไปนั่งข้างคนขับด้านหน้า
ฉินเสี่ยวยู่ซึ่งนั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะสงบจิตสงบใจลงได้ วันนี้จะเป็นวันที่เธอไม่มีทางลืมลงได้โดยเด็ดขาด!
ไม่มีทาง.. เพราะมันเป็นวันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งความตกใจและตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน!!
แต่สำหรับหลินหนานนั้น ก็เป็นแค่วันหนึ่งวันที่เขาเดินทางมาเก็บเงินลูกค้า และเป็นวันที่เขาลงมือสั่งสอนพวกอันธพาล.. ก็เท่านั้น..
ฉินเสี่ยวยู่รู้สึกว่า หากไม่ใช่เพราะหลินหนาน บริษัทก็คงไม่มีทางได้รับเงินก้อนนี้อย่างแน่นอน จนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอก็ยังรู้สึกราวกับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงแค่ความฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง..
“หลินหนาน.. นี่นายเป็นคนแบบไหนกันแน่?”
“ทำไมนายถึงชกต่อยได้เก่งขนาดนี้?”
“นี่.. แล้วนายรู้ได้ยังไงว่ามีเงินซ่อนอยู่ที่หลังกำแพงตรงชั้นวางหนังสือ?”
หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ ฉินเสี่ยวยู่ก็ยิงคำถามมากมายใส่หลินหนาน..
“แล้วคุณคิดยังไงล่ะ?” หลินหนานไม่ตอบ แต่ถามกลับ..
“ฉันไม่รู้จะพูดยังไง..”
ฉินเสี่ยวยู่ตอบกลับพร้อมกับด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน เวลานี้มีคำพูดมากมายอยู่ในหัวของเธอ แต่เธอกลับไม่สามารถพูดมันออกมาได้
อาจเป็นเพราะเธอเองยังไม่สนิทสนมกับหลินหนานมากนัก!
“เอาล่ะ.. รีบกลับบริษัทกันได้แล้ว จะได้รีบไปรับเงินรางวัล” หลินหนานร้องบอกฉินเสี่ยวยู่ด้วยสีหน้าที่มีอความสุขอย่างมาก
และคำพูดของหลินหนาน ก็ดึงฉินเสี่ยวยู่ให้กลับมาอยู่กับความจริง..
เชอะ!! สุดท้ายหมอนี่ก็เห็นแกเงินอย่างเดียวจริงๆ!
ฉินเสี่ยวยู่ไม่รู้ว่าจู่ๆความโกรธของเธอพุ่งพล่านมาจากไหน เธอจัดการรัดเข็มขัดนิรภัย แล้วรีบเหยียบคันเร่งออกไปทันที
ระหว่างทางที่ขับรถกลับบริษัทนั้น หลินหนานเป็นฝ่ายถามขึ้นว่า “คุณวางแผนที่จะเอาเงินรางวัลไปใช้อะไรบ้าง?”
“เงินรางวัลอะไรกัน?”
“อ้าว.. ก็เงินรางวัลจากการทวงหนี้ครั้งนี้ได้น่ะสิ! อย่าลืมว่าเราสองคนอยู่ทีมเดียวกัน แล้วก็ออกมาทำงานด้วยกัน เงินรางวัลที่ได้ก็ต้องหารครึ่งน่ะสิ!” หลินหนานตอบกลับไปทันที
ฉินเสี่ยวยู่ถึงกับนิ่งอึ้งไปเมื่อได้ยินคำตอบของหลินหนาน!
นั่นเพราะที่หลินหนานรับอาสามาทำงานนี้ ก็เพราะเงินรางวัลจำนวนมากนั่น ส่วนเธอก็แค่ติดร่างแหมาด้วยเท่านั้น ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินรางวัลอะไรเลย
อีกอย่าง เธอเองก็ไม่ได้ช่วยอะไรหลินหนานเลย นอกจากขับรถพาเขามาเท่านั้น เธอจึงไม่คิดว่าหลินหนานจะพูดขึ้นมาเช่นนี้
“ฉันไม่ได้ช่วยอะไรนายเลย มิหนำซ้ำยังเป็นภาระให้กับนายด้วย ฉันไม่ควรได้รับรางวัลนั่นด้วย..” ฉินเสี่ยวยู่ตอบกลับไปด้วยความเคอะเขิน
“ใครบอกคุณล่ะ? งานนี้พวกเราสองคนช่วยกันทำ ก็ต้องได้ความดีความชอบไปคนละครึ่ง..” หลินหนานตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ไม่รู้ด้วยสาเหตุใด.. แต่เมื่อฉินเสี่ยวยู่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของหลินหนาน เธอกลับรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก และได้แต่คิดว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่เธอคิดเลย..
“แต่ถ้าคุณไม่อยากได้เงินก็ไม่เป็นไร ผมจะให้คุณรับความดีความชอบไปคนเดียวทั้งหมด ส่วนผมขอแค่เงินรางวัลก็พอ..” หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับหัวเราะร่วน
“พูดออกมาได้ หน้าไม่อาย!” ฉินเสี่ยวยู่บ่นพึมพำ แต่ใบหน้าของเธอกลับเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
เอี๊ยด!!!!!!!!
แต่แล้วจู่ๆ ฉินเสี่ยวยู่ก็กระทืบเบรคอย่างแรง หลินหนานถึงกับหน้าคะมำไปข้างหน้า จนหน้าผากเกือบกระแทกเข้ากับกระจกตรงหน้า เขาถึงกับร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“นี่.. คุณจะโกรธเกลียดอะไรผมนักหนา ก็ไม่ควรระบายอารมณ์กับการขับรถ!!”
“ฉันไม่ได้ระบายอารมณ์ แต่รถคันหน้ามันเบรคกะทันหันต่างหากล่ะ!!” ฉินเสี่ยวยู่รีบอธิบายทันที
หลินหนานชะเง้อมองออกไปด้านหน้า และพบว่าเป็นรถเชฟวี่สีดำ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคนขับถึงได้เบรคกะทันหันแบบนั้น!
คนขับรถเปิดประตูแล้วเดินลงมา เขาโบกไม้โบกมือมาทางหลินหนาน สีหน้าของคนขับบ่งบอกว่าตกอกตกใจไม่น้อย
“เกิดอะไรขึ้น? ผมจะลงไปดูก่อน..”
หลินหนานร้องบอกฉินเสี่ยวยู่ พร้อมกับปลดเข็มขัดนิรภัย แล้วเปิดประตูเดินลงจากรถทันที
ฉินเสี่ยวยู่เองก็วิ่งตามหลินหนานไปเช่นกัน..
หลังจากเปิดประตูออกไป คนขับรถผู้ชายก็หันไปพูดกับหลินหนานว่า “ขอโทษด้วยจริงๆ! พอดีมีคนแก่ล้มลงตรงหน้ารถผมพอดี ผมก็เลยต้องเบรคกะทันหัน!”
“อ่อ..”
หลินหนานรีบวิ่งไปด้านหน้ารถเชฟวี่สีดำทันที และพบชายชราร่างผอมกำลังนอนกุมหน้าอกอยู่ที่พื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือด และน้ำลายฟูมปาก
เวลานี้เริ่มมีผู้คนเข้ามามุงดูรอบๆแล้ว และหลายคนก็ได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพไว้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย
เพราะสังคมทุกวันนี้ การเข้าไปช่วยเหลือผู้อื่น กลับกลายเป็นความเสียงอย่างหนึ่ง..
การเผยแพร่ข่าวสารที่รวดเร็วในโลกอินเทอร์เน็ตทุกวันนี้ เปรียบเสมือนดาบสองคม ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะช่วยเหลือกัน
ฉะนั้น.. จึงมีเพียงแค่คนที่มุงดูเท่านั้น แต่หาคนที่คิดจะช่วยไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว!
ซึ่งหลินหนานเองก็เช่นกัน!!
เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มที่มีสำนึกของความยุติธรรมอยู่เต็มเปี่ยมหัวใจ อีกทั้งยังไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นด้วย
แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ฉินเสี่ยวยู่จะรีบพุ่งเข้าไป และนั่งยองๆลงข้างร่างของชายชรา ไม่เพียงเธอไม่รังเกียจน้ำลายที่ฟูมปากของเขา แต่เธอยังค่อยๆ จับศรีษะของชายชรายกขึ้น พร้อมกับร้องถาม
“คุณตาคะ.. ได้ยินฉันพูดมั๊ยคะ?”
ชายชราค่อยๆกระพริบตาอย่างอ่อนแรง ริมฝีปากของเขาขยับไปมา แต่กลับไม่มีเสียงพูดดังออกมาจากริมฝีปากแม้แต่น้อย
“หลินหนาน นี่นายมัวยืนทำอะไรอยู่? ยังไม่รีบมาช่วยฉันอีก..” ฉินเสี่ยวยู่ร้องตะโกนเรียกหลินหนานเสียงดัง
หลินหนานได้แต่ยิ้มขมขื่น แม้เขาอยากจะรีบหนีไปหลบซ่อนมากเพียงใด แต่ก็คงไม่สามารถทำได้..
แต่ยังไม่ทันที่หลินหนานจะเดินเข้าไปดู ชายหนุ่มที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ก็รีบวิ่งเข้าไปก่อน
“ขอผมดูอาการหน่อยครับ!”
ชายหนุ่มคนนั้นรีบเปิดเปลือกตาของชายชราดูด้วยท่าทางชำนิชำนาญ จากนั้นก็ได้แนบหูลงกับหน้าอกของชายชรา หลังจากนิ่งฟังอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็พูดขึ้นว่า
“คุณตาเป็นโรคหัวใจ ต้องรีบปฐมพยาบาลทันที!”
“โรคหัวใจงั้นเหรอ?! นี่คุณรู้ได้ยังไง?”
ดวงตากลมโตของฉินเสี่ยวยู่กระพริบด้วยความงุนงง สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มตรงหน้า พร้อมกับเอ่ยถามด้วยความอยากรู้
“ผมเป็นหมอแผนกอายุรศาสตร์ครับ..”
ชายหนุ่มยิ้มให้ฉินเสี่ยวยู่พร้อมกับหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋า และยื่นให้กับเธอทันที
ฉินเสี่ยวยู่รับนามบัตรมาอ่านดู พร้อมกับพึมพำเสียงเบา “เฉินผิงจื่อ?”
“แล้วคุณล่ะครับ.. ชื่ออะไร?”
เฉินผิงจื่อพยักหน้า พร้อมกับเอ่ยถามกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่ในระหว่างที่ฉินเสี่ยวยู่กำลังจะอ้าปากตอบกลับไปนั้น เสียงของใครบางคนก็ลอยขึ้นมา..
“นี่.. คุณตากำลังจะตายอยู่แล้ว คุณยังจะมีอารมณ์นั่งจีบหญิงอีกหรือยังไง? ถ้ารักษาไม่ได้ก็ลุกขึ้น ผมจะรักษาให้เอง..”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame