ลูกเขยยอดนักฆ่า - ตอนที่ 14
ตอนที่ 14 โรคจิต
กลิ่นหอมหวาน และเย้ายวน!
ใหญ่โต และกลมกลึง!
หลินหนานรำพึงรำพันอยู่ในใจเมื่อเห็นซาลาเปาที่ป้าหลี่ข้างร้านกำลังนึ่งอยู่ และเพิ่งนำออกมาจากเตา..
แต่เรือนร่างของเฉิงซินเย่วก็เปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเช่นกัน ความงดงามในวัยแรกแย้ม กำลังก่อตัวขึ้น และกำลังรอคอยเวลาที่จะเปิดเผย ประหนึ่งบุปผาที่กำลังรอวันแย้มบาน
หลินหนานรีบผลักร่างของเฉิงซินเย่วออกอย่างเคอะเขิน และพบว่าใบหน้าของเธอยังคงเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาที่เกิดจากความตกใจ และหวาดกลัว เขาถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมกับถามขึ้นว่า
“สาวน้อย นี่เธอยังกลัวอยู่มั๊ย?”
“ไม่แล้วค่ะพี่หนาน!” เฉิงซินเย่วยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่กำลังไหลพรากอยู่ พร้อมกับยิ้มให้หลินหนาน
แต่ในระหว่างนั้น เสียงของใครบางคนก็ร้องตะโกนขึ้นว่า “เก่งมากพ่อหนุ่ม!”
จากนั้นเสียงปรบมืออย่างอบอุ่น ก็ดังขึ้นทั่วทั้งถนนอู่หลง..
พวกเขาเป็นเพียงแค่ชาวบ้านตัวเล็กๆ ทุกครั้งที่เกิดการข่มเหงรังแกกันเช่นนี้ พวกเขาก็เฝ้าหวังว่าจะมีฮีโร่สักคนปรากฏตัวขึ้น เพื่อช่วยปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของพวกเขา
และเวลานี้ ฮีโร่ผู้นั้นก็คือหลินหนาน!
“พี่หนานคะ อย่ามัวแต่ยืนงงอยู่เลย มาช่วยฉันเก็บกวาดร้านลุงซานก่อนดีกว่า!” เฉิงซินเย่วร้องบอกหลินหนานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“นี่.. ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น! เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกันเก็บกวาดร้านลุงซานให้เอง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราจะดีกว่า”
ลุงจางซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายเนื้อที่อยู่ถัดไปร้องตะโกนบอก แล้วคนอื่นๆต่างก็ร้องตะโกนสนับสนุนด้วยเช่นกัน
หลินหนานเหลือบมองเวลาในโทรศัพท์มือถือ แล้วจึงรีบหันไปเร่งเด็กสาวว่า “แม่สาวน้อย นี่ก็สายมาแล้ว พี่ว่าเธอรีบไปโรงเรียนจะดีกว่า!”
“จริงด้วย.. ฉันต้องไปสายแน่ๆเลย!”
เฉิงซินเย่วทำหน้าเหมือนกระต่ายตื่นตูม แล้วรีบวิ่งตรงไปที่ป้ายรถประจำทางทันที
ระหว่างที่จ้องมองร่างเด็กสาวที่กำลังวิ่งออกไปนั้น หลินหนานก็ทำท่าเหมือนเพิ่งนึกเรื่องสำคัญบางอย่างขึ้นมาได้
“นี่เดี๋ยวก่อน!! ให้พี่ยืมเงินสักสองหยวนนั่งรถประจำทางกลับหน่อยสิ!”
หลินหนานร้องตะโกนออกไปเสียงดัง แต่ก็สายเกินไป เพราะร่างของเฉิงซินเย่ววิ่งไปไกลมากแล้ว
“เฮ้อ.. นี่มันวันซวยอะไรของฉันนักนะ! ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน แถมยังต้องมาออกแรงสู้กับพวกนักเลงหัวไม้อีก นี่ฉันยังจะต้องเดินไปบริษัทอีกเหรอเนี่ย? การไม่มีเงินนี่มันใช้ชีวิตได้ลำบากจริงๆ” หลินหนานบ่มพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับส่ายหน้าไปมาด้วยความขมขื่นใจ
การต้องมีชีวิตยากจน และไม่มีเงินแม้แต่หยวนเดียวแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกเลย!
ระหว่างที่เดินไปบริษัทของเย่จิงเฉิงนั้น หลินหนานก็ครุ่นคิดถึงวิธีหาเงินไปด้วย..
……
บริษัทจิงเฉิงกรุ๊ปอยู่บนอาคารที่สูงที่สุดในย่านใจกลางเมือง ซึ่งเป็นทำเลที่ดีที่สุดของเมืองเจียงไฮวนี้ เนื่องจากเป็นอาคารที่สูงที่สุด จึงได้กลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่
และเพราะที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของแหล่งธุรกิจและอยู่ใจกลางเมือง ถนนหนทาง หรือว่าการเดินทางในบริเวณนี้จึงค่อนข้างสะดวกสบาย และนี่เป็นครั้งแรกที่หลินหนานได้เคยมาเหยียบจิงเฉิงกรุ๊ป นับตั้งแต่แต่งงานกับหญิงสาวมานานถึงสองปีกว่า
หลินหนานเดินไปสอบถามพนักงานต้อนรับของอาคารที่อยู่ชั้นล่าง และเมื่อได้ข้อมูลมาว่าจิงเฉิงกรุ๊ปอยู่ชั้นสิบหก เขาก็รีบเดินตรงไปที่ลิฟท์เพื่อขึ้นไปชั้นสิบหกทันที
แต่ก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิดลงนั้น หลินหนานก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อนค่ะ รอฉันด้วย..”
หลินหนานรีบเอื้อมมือไปกดปุ่มเปิดประตูค้างไว้ทันที ไม่นานนักหญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
ในมือของเธอมีกองเอกสารเต็มไปหมด และมันก็กองสูงท่วมศรีษะของเธอ มือซ้ายพยุงกองเอกสารด้านล่าง ส่วนมือขวาก็จับอยู่ที่ด้านบนของกองเอกสาร ส่วนตรงกลางของกองเอกสารนั้น เธอก็ใช้หน้าอกดันไว้ไม่ให้หล่น..
พระเจ้า! มันช่างเป็นการใช้เรือนร่างทั้งหมดได้อย่างคุ้มค่ามากจริงๆ นับตั้งแต่เขาเคยพบเห็นมา คงไม่มีใครใช้เรือนร่างคุ้มเท่าเธอคนนี้อีกแล้ว!
“ช่วยกดชั้น 16 ให้หน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ!” หญิงสาวโผล่หน้าออกมาจากข้างกองเอกสารพร้อมกับร้องบอกหลินหนาน
ใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้ขาวผุดผ่อง ดวงตากลมโตเป็นประกายซ่อนอยู่ภายใต้แว่นตากรอบสีดำ ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนถูกรวบไว้ด้วยกิ๊บอย่างลวกๆ และปล่อยพาดบ่าไว้ เสื้อกันหนาวสีเขียวเข้มที่สวมใส่ ช่วยขับผิวขาวของเธอให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
“ด้วยความยินดีครับ” หลินหนานเอ่ยตอบยิ้มๆ
การได้ช่วยเหลือสาวสวยเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่ใช่หรือ?
ระหว่างที่ลิฟท์ค่อยๆเคลื่อนขึ้นไปนั้น สายตาของหลินหนานก็คอยเหลือบมองที่หน้าอกของหญิงสาวเป็นระยะๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเขาทำไปโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว
แต่ใช่ว่าหลินหนานจะเป็นพวกลามกอนาจาร เขาเพียงแค่สงสัย และทึ่งในความสามารถของหญิงสาว ที่สามารถหอบเอกสารกองใหญ่ขนาดนี้ได้ และใช้เพียงแค่หน้าอกดันไว้ไม่ให้ร่วงหล่น
นักฟิสิกส์ที่เก่งที่สุดก็คงไม่สามารถทำแบบนี้ได้แน่?
ดูเหมือนฉินเสี่ยวยู่ที่ซ่อนตัวอยู่หลังเอกสารกองโต จะสามารถสัมผัสถึงสายตาชั่วร้ายที่จ้องมองมาของหลินหนานได้เช่นกัน เธอจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตา และรู้สึกไม่พอใจนัก
นั่นเพราะแต่ไหนแต่ไรมา หน้าอกของเธอนั้นนับว่าเป็นอวัยวะที่โดดเด่นที่สุดในร่างกาย และดึงดูดสายตาผู้คนที่พบเห็นมาโดยตลอด แม้ว่าตัวเธอเองจะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นก็ตาม
ในสมัยที่เธอยังเป็นเด็กสาว เธอก็มีหน้าอกใหญ่โตกว่าเด็กสาวคนอื่นๆมาก ไม่ว่านักเรียนหญิงหรือชายก็ล้วนแล้วแต่ชอบจ้องมองหน้าอกของเธอกันทั้งนั้น จนเธอรู้สึกเหมือนเป็นปมด้อย และอยากจะไปผ่าตัดมันออกให้มีขนาดเล็กลงกว่านี้ด้วยซ้ำไป
หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ฉินเสี่ยวยู่ก็ได้มาทำงานอยู่กับบริษัทจิงเฉิงกรุ๊ป เธอเคยคิดว่าถ้าตัวเองเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้หนัก คนอื่นๆก็จะเลิกสนใจจุดเด่นเรื่องนี้ไปเอง
แต่ช่างโชคร้าย ที่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลย!
หนุ่มๆในบริษัทต่างก็พากันล้อเลียนเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ส่วนสาวๆในบริษัทต่างก็ไม่ชอบความโดดเด่นเรื่องนี้ของเธอ และพยายามผลักไสไม่ให้เข้ากลุ่ม
ด้วยสาเหตุนี้ เธอจึงขอย้ายไปทำงานอยู่ฝ่ายขายที่ค่อนข้างยุ่ง และตั้งใจว่าจะทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าอก แต่เมื่อเห็นสายตาของหลินหนาน เธอจึงรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก
สายตาของผู้ชายไม่เคยมองเลยส่วนอื่นเลยจริงๆ เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดรำคาญใจอย่างมากสำหรับเธอ!
ติ๊ง..
เสียงลิฟท์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นสิบหก และเมื่อประตูเปิดออก หญิงสาวก็ค่อยๆก้าวเดินออกไปด้านนอก แต่เพราะเอกสารกองโตที่บดบังสายตา ทำให้เธอมองไม่เห็นช่องว่างระหว่างลิฟท์กับพื้น และสะดุดมันเข้าในที่สุด
“ว้าย..”
ฉินเสี่ยวยู่สูญเสียการทรงตัว แต่เพราะในมือทั้งสองข้างประคองเอกสารกองใหญ่อยู่ ทำให้ไม่มีมือที่จะจับพยุงตัวเองไว้ เธอจึงล้มลงไปกับพื้นทันที
จบกัน.. เรื่องน่าอับอายกำลังจะเกิดขึ้นกับฉัน!!
ฉินเสี่ยวยู่ครุ่นคิดอยู่ในใจ และในระหว่างนั้นร่างของเธอก็กำลังล้มหน้าคะมำลงกับพื้น..
แต่เมื่อร่างของเธอล้มคว่ำหน้าลงไปกว่าครึ่ง และใบหน้าของเธอก็อยู่ห่างจากพื้นเพียงแค่สิบกว่าเซ็นติเมตร เธอก็รู้สึกว่าร่างของเธอหยุดนิ่งอยู่เพียงแค่นั้น
ราวกับว่าเวลาได้หยุดนิ่งอยู่เช่นนั้น!
ฉินเสี่ยวยู่หันหลังกลับไปมองด้วยสีหน้าตื่นตระหนกตกใจ แต่กลับพบว่าหลินหนานกำลังยืนยิ้มกริ่มอยู่ และเมื่อก้มลงมองด้านล่าง เธอก็พบว่าฝ่ามือของเขากำลังคว้าหมับอยู่ที่หน้าอกของเธอ
ฝ่ามือนั้นกำหน้าอกของเธอไว้แน่นมาก!
พนักงานชั้นสิบหกที่พบเห็นเหตุการณ์ ต่างก็พากันยืนนิ่งด้วยความตกใจและตกตะลึง!
นี่มันอะไรกัน?
สองคนกำลังเต้นบัลเล่ต์อยู่หรือยังไง?
ในขณะที่คนอื่นๆกำลังคิดสงสัย แต่ในหัวของหลินหนานกลับกำลังคิดถึงซาลาเปาของร้านป้าหลี่..
ทั้งหอมหวาน.. ทั้งนุ่ม!
ทั้งกลม.. แล้วก็ทั้งใหญ่!
แต่ในระหว่างที่หลินหนานกำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั้น เขาก็ได้ยินฉินเสี่ยวยู่ร้องตะโกนโวยวายเสียงดัง
“นี่คุณ.. คุณ.. ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!! ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย มีโรคจิตลวนลามฉัน!!!”
ซวยแล้ว!!
หลินหนานเพิ่งรู้สึกตัว และรู้สึกว่าหญิงสาวจะเริ่มเข้าใจผิดไปกันใหญ่ และได้แต่คิดในใจว่า ‘อะไรกันเนี่ย? คนอุตส่าห์หวังดีตั้งใจช่วย แต่กลับกลายเป็นไอ้โรคจิตไปซะนี่!’
นับว่าพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทจิงเฉิงกรุ๊บปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี หลังจากที่ฉินเสี่ยวยู่กรีดร้องไปได้ไม่นานนัก พนักงานรักษาความปลอดภัยสี่ห้านายก็รีบวิ่งตรงมาที่หน้าลิฟท์พร้อมกันทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“นี่แกทำอะไร?”
ทันทีที่เห็นหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย หลินหนานก็รีบปล่อยมือออกจากหน้าอกของหญิงสาว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจทันที
ปัง!
ฉินเสี่ยวยู่ผู้น่าสงสาร.. ดูเหมือนเธอคงจะหลีกไม่พ้นที่ต้องล้มหน้าคะมำสินะ!
แต่หญิงสาวไม่สนใจความเจ็บปวด เธอรีบลุกขึ้นและร้องตะโกนบอกพนักงานรักษาความปลอดภัยทันที
“หัวหน้าหลี่ หมอนี่เป็นโรคจิต มันลวนลามฉัน!”
หลังจากบอกกับหัวหน้ารักษาความปลอดภัยไปแล้ว ฉินเสี่ยวยู่ก็รีบหยิบกองเอกสารขึ้นมา แล้วรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว!
หัวหน้าหลี่ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัยของที่นี่ จ้องมองหลินหนานตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“นี่แกเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่?”
หลิงหนานรีบยิ้มให้หัวหน้าหลี่พร้อมกับตอบไปว่า “เอาน่า พวกเราล้วนแต่คนกันเองทั้งนั้น อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่ไปหน่อยเลย!”
“ใครเป็นคนกันเองกับแกไม่ทราบ?” หัวหน้าหลี่ถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
หลินหนานได้แต่กระแอมเบาๆ ก่อนจะประกาศฐานะของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด
“อะแฮ่ม.. จะไม่ใช่คนกันเองได้ยังไงเล่า ในเมื่อผมคือสามีของผู้อำนวยการเย่!”
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame