Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว - ตอนที่ 383
ซูผิงกลับบ้าน
ซูหลิงเยวี่ยยังอยู่กับแม่ ปลอบเธออย่างอ่อนโยน
ซูผิงเข้าใจว่าข่าวคงทำให้แม่พวกเขาตกใจ ตลอดเวลาเขาได้ปิดบังพลังแท้จริงจากเธอ จากนั้นเธอก็พบมันอย่างกะทันหัน คำถามนับล้านกำลังรอซูผิงอยู่
เขารู้สึกปวดหัว
“แม่”
เขาเรียกเธอด้วยเสียงเบา
ซูหลิงเยวี่ยกับแม่พวกเขายังคุยกันตอนเขาเรียก ด้วยความปแปลกใจ ซูผิงยืนอยู่ตรงประตู ชะเง้อคอมองพวกเธอ
มันนานแล้วที่ซูหลิงเยวี่ยไม่เห็นซูผิงทำตัวแบบนั้น ทันใดนั้น ความรู้สึกคุ้นเคยในอดีตก็หวนกลับมา
หลี่ฉิงรู่ลุกขึ้น เดินไปหาซูผิงด้วยความกังวล พายุคำถามถูกโยนใส่เขา
ซูผิงฝืนยิ้ม เดินพาแม่เขากลับไปโซฟาขณะปลอบเธอ จากนั้นก็ค่อยๆเล่า
เขาเตรียมคำอธิบายมาแล้ว
เริ่มต้น เขาบอกว่าเขาโกหกเธอ เขาปลุกพลังมานานแล้ว
ย้อนกลับไปตอนเขาอยู่ในโรงเรียนประถม
แต่ทว่า ตอนนั้น เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่สถานการณ์ทางการเงินของตระกูลไม่อนุญาตให้มีนักรบอสูรสองคน เขาจึงตัดสินใจเก็บมันเป็นความลับและฝึกฝนเอง…
พอเล่าได้ครึ่งทาง ซูผิงก็สังเกตเห็นว่าแม่ของเขาร้องไห้ไม่หยุด เขารู้สึกว่ามันยากที่จะเล่าต่อ
ซูหลิงเยวี่ยจ้องซูผิงด้วยสายตาพร่ามัว เธอไม่มั่นใจว่าเรื่องเล่าของซูผิงเป็นจริงหรือไม่แต่น้ำตากลับไหลออกมา เธอจำได้ว่าเธอเริ่มรังแกและทำตัวข่มซูผิงตลอดหลังเธอได้เข้าโรงเรียนนักรบอสูร ใครจะไปคิดว่าเขาต้องกล้ำกลืนฝืนทนความอัปยศทั้งหมดนี้มาตลอดเพื่อเธอ..
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเลว
ซูผิงยุ่งกับการปลอบแม่เขาตอนสังเกตเห็นความเศร้าบนหน้าซูหลิงเยวี่ย เขาพูดไม่ออก จริงๆ เพื่อปกปิด มันต้องใช้คำโกหกนับพัน
ซูผิงต้องเลี่ยงเรื่องเล็กน้อยและยึดติดกับสิ่งสำคัญ เขาจบส่วนนั้นอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนบทสนทนาไปประเด็นสำคัญ”แม่ แม่ต้องรู้ว่าองค์กรที่หยานปิงเยว่อยู่ต้องมาหาเรา แต่ไม่ต้องห่วง ผมมีผู้ช่วยที่ทรงพลังในร้าน ไม่มีใครที่มาแล้วจะกลับไปได้”
“พักนี้ แม่ต้องอยู่ที่บ้าน ไม่มีใครสามารถทำร้ายแม่ได้ตราบเท่าที่แม่อยู่ในถนนนี้ ถ้าแม่อยากไปซื้อของ แค่สั่งทางออนไลน์และให้มาส่ง เรามีเงิน แม้ใช้ได้ตามสบาย!”
“ประเด็นคือ ไม่ว่าใครจะมาหาแม่หรือพาแม่ออกไป ห้ามออกถนนสายนี้เด็ดขาด”ซูผิงพูดอย่างจริงจัง หลี่ฉิงรู่หันมา เช็ดน้ำตาออกจากหน้า เมื่อเธอหันมา ความสงบก็กลับคืนบนหน้า เธอถามซูผิง”ลูกแน่ใจเหรอ?เด็กสาวคนนั้นสามารถเข้าร่วมการแข่งกลางคันได้..องค์กรเธอต้องใหญ่มาก ถ้าลูกรู้สึกไม่มั่นใจ ลูกกับเยว่เยว่ต้องหนีไปก่อน แม่สามารถอยู่ที่นี่ได้”
ซูผิงแปลกใจกับความมุ่งมั่นใจดวงตาเธอ
แม่ที่แข็งแกร่ง
เขาไม่คิดเลยว่าแม่ของเขาจะสงบนิ่งได้ขนาดนี้เพราะเธอมักอ่อนโยน
เขาสูดหายใจลึก”แม่ ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครสามารถทำร้ายแม่ได้ตราบเท่าที่ผมยังอยู่นี่ พวกมันต้องฆ่าผมก่อนถึงจะเข้าถึงตัวแม่ได้!”
“อย่าพูดแบบนั้น!”
หลี่ฉิงรู่กับซูหลิงเยวี่ยตะโกนพร้อมกัน พยายามกำจัดโชคร้ายที่มีในคำพูดเขา
ซูผิงยิ้ม เขาไม่พูดอะไรแต่ก็มุ่งมั่นกว่าเดิม
ในชีวิตนี้ มีคนบางคนที่คุณอยากปกป้อง
สำหรับเขา มันคือครอบครัว!
…
หลังเขาบอกแม่ว่าเธอต้องทำอะไร ซูผิงก็พูดย้ำกับซูหลิงเยวี่ย เตือนเธอว่าอย่าวิ่งเล่นไปไหน จากนั้นก็กลับร้าน
เขาเชื่อว่าองค์กรดวงดาวจะมาหาเขาโดยตรงตอนพวกเขามาถึง
พวกเขาจะไม่ทำร้ายครอบครัวเขาหรือคุกคามความเป็นอยู่ของเขา
เหนือสิ่งอื่นใด นักรบอสูรกิตติมศักดิ์มีความสัมพันธ์เหินห่างกับครอบครัวพวกเขา พวกเขามีจิตใจจดจ่อกับการบ่มเพาะอย่างเดียว มันไม่สมจริงที่นักรบอสูรกิตติมศักดิ์จะโดนบังคับให้ยอมจำนนด้วยการเอาชีวิตคนอื่นมาขู่
การกระทำบุ่มบ่ามแบบนั้นจะทำให้ศัตรูตื่นตัว นักรบอสูรทรงพลังที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพนั้นมีอยู่ไม่มากนัก
ยิ่งสถานะของคนสูง พวกเขาจะยิ่งเหินห่าง นั่นคือความเป็นจริง
เขาเดินกลับไปที่ร้าน
ซูผิงโทรหาหลินจื่อฉิงที่กำลังช่วยเขาหาวัตถุดิบ
“วัตถุดิบของเราถึงไหนแล้ว?”ซูผิงตรงเข้าประเด็น เขาฟังดูหมดความอดทน
เขาให้เวลาหลินจื่อฉิงมานานพอแล้วแต่อีกฝ่ายยังไม่ส่งของมา เขาคือนักรบอสูรกิตติมศักดิ์และบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของก็มีธุรกิจทั้งถูกกฏหมายและผิดกฏหมาย เขามีสายสัมพันธ์มากมาย แต่เขาก็ยังล้มเหลวในการหาวัตถุดิบสักชิ้น ซูผิงรู้สึกหมดความอดทน!
“คือ…”
หลินจื่อฉิงจำเบอร์ซูผิงได้ แต่ด้วยความแปลกใจ ซูผิงกลับพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรมาก หลินจื่อฉิงหน้าเสีย เขายังจำชายหนุ่มได้ดี ฉากที่หยวนเทียนเฉินหนีออกจากร้านซูผิงอย่างน่าสมเพชยังตราตรึงในหัวเขา!
“อ่า น้องซู อ่อ หมายถึงสวัสดี”หลินจื่อฉิงพูดพลางหัวเราะแก้ง พยายามพูดคุยเล็กๆน้อยๆก่อน
“ผมถามว่าการค้นหาวัตถุดิบเป็นยังไงบ้าง?”ซูผิงถามอีกครั้ง สีหน้าของหลินจื่อฉิงเปลี่ยนไป เขาสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารในน้ำเสียง หลินจื่อฉิงสั่นกลัว ไม่พยายามคุยเล่นอีก”เราเจอแล้ว มีอุบัติเหตุเล็กน้อยแต่ผมก็จัดการได้ น้องซู ถ้าคุณรีบ ผมจะไปส่งมันเดี๋ยวนี้เลย.
“เร็วแค่ไหน?”
“อืม…มะรืนนี้ ผมคิดว่า?”หลินจื่อฉิงฟังดูลังเล
ซูผิงแค่นเสียง”มันใช้เวลาไม่ถึงวันสำหรับอสูรระดับเก้าที่จะบินไปทั่วอนุทวีป ผมให้เวลาคุณ 20 ชั่วโมง ผมจะไปหาคุณถ้าผมไม่ได้มันตามเวลาที่กำหนด!”
เขาวางสายไปทันที
หลินจื่อฉิงได้ของมาแล้วแค่เขากำลังเล่นกลยุทธ์ถ่วงเวลา ซูผิงเชื่อว่าเขากดดันหลินจื่อฉิงน้อยไปและไม่ให้ความสนใจมากพอ
ในเวลาเดียวกัน เมืองบานไกลจากเมืองฐานหลงเจียง ในห้องหรูหราแห่งหนึ่ง หลังสายถูกวาง หลินจื่อฉิงก็บีบบุหรี่ในมือด้วยใบหน้าขุ่นมัว
มันยากที่จะจินตนาการว่าเขาต้องฟังคำสั่งเด็ก
เขาบอกให้ฉันใช้อสูรระดับเก้าเพื่อส่งของ ทำไมเขาถึงรีบขนาดนั้น?มีเรื่องเกิดขึ้น?หลินจื่อฉิงสงบอารมณ์ เขาจำได้ถึงสิ่งที่เกิดในอาณาจักรลับ หยวนเทียนเฉินได้เรียกสมาชิกระดับสูงทั้งหมดและทำการปลดผนึกลับๆ
เด็กนั่นรู้?
ถ้าการรีบเร่งอย่างกะทันหันของเขาเกี่ยวกับอาณาจักรลับ เขาก็ต้องมีแหล่งข้อมูล
หลินจื่อฉิงตกใจ การสำรวจในอาณาจักรลับเป็นควาามลับ มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่มีหนอนในกลุ่มของหยวนเทียนเฉิน หลินจื่อฉิงไม่คิดว่าเด็กนั่นจะมีอิทธิพลขนาดนั้น เหนือสิ่งอื่นใด คนที่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มไม่ใช่คนโง่ ใครจะกล้าทรยศนักรบอสูรในตำนานเพื่อช่วยเด็ก?
นอกจากนี้ มีน้อยคนมากที่รู้เรื่องราวทั้งหมด
ทันใดนั้น หลินจื่อฉิงก็ตระหนักถึงสิ่งน่าตกใจ
หากไม่มีหนอน งั้นเด็กนี่ก็ต้องรู้ข้อมูลจากแหล่งอื่น ตัวอย่างเช่น การมีคุณสมบัติได้รับมรดก
เขากะพริบตา เวลาผ่านไปเนิ่นนานและความโกรธก็ปรากฏในตาเขา
เขาสามารถรายงานทฤษฏีนี้กับหยวนเทียนเฉินได้ แต่สิ่งที่เขาทำในร้านขายอสูรวันนั้นน่าผิดหวังเกินไป
มันทำให้เขากรามค้าง!
นักรบอสูรในตำนานในร้านนั้นทรงพลังกว่าหยวนเทียนเฉินมาก ถ้าหลินจื่อฉิงต้องเลือก เขาย่อมเลือกข้างที่แข็งแกร่งกว่า
“เขา..”หลินจื่อฉิงกัดฟัน ท้ายที่สุด เขาก็ถอนหายใจหนักเพราะปัญหาที่ก่อกวนนี้’ฉันจะแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรและรอจนกว่าผลลัพธ์จะออกมา ฉันไม่คิดว่าคุณหยวนจะปล่อยให้เด็กนั่นเอาของไปง่ายๆ เด็กนั่นเป็นคนแปลก เด็กสาวผมทองในร้านก็ลึกลับมาก..’
หลินจื่อฉิงนวดขมับ เขาอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ตั้งแต่ที่เขามีสถานะสูงสุด เขาก็แทบไม่เคยรู้สึกเช่นนี้ เด็กนี่่ทำให้เขาลำบาก
ยังไงก็ตาม ฉันควรส่งของให้เขาก่อน เด็กนั่นกล้าดียังไงถึงมาขู่ฉัน?บัดซบ…หลินจื่อฉิงพ่นคำสบประมาทแต่ก็ยังทำการโทรออก
ที่ร้าน หลังซูผิงจบสาย เขาก็คว้าโจแอนนาและตรงไปสนามบ่มเพาะ แน่นอน ความจริงที่หลินจื่อฉิงสามารถแกะความหมายจากคำขู่ของเขาได้นั้นเหนือความคาดหมายของเขา
เหนือสิ่งอื่นใด หลินจื่อฉิงคือนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่สามารถมีอิทธิพลต่อทั้งธุรกิจถูกกฏหมายและผิดกฏหมาย เขาฉลาดเกินกว่าที่ซูผิงจะคิดได้
ขณะที่ซูผิงตรงไปสนามบ่มเพาะ สิ่งที่เกิดกับลีกนักรบในเมืองฐานหลงเจียงก็ก่อให้เกิดพายุ
บนทีวี บนเครือข่าย ทุกอย่างพูดถึงเหตุการณ์นั้น
มันเป็นเรื่องน่าตกใจมากที่แม้กระทั่งคนที่ทำงานมาตลอดทั้งปีโดยไม่มีวันหยุดก็ยังรู้เรื่องนี้ ผู้คนเล่ากันปากต่อปาก และในไม่ช้า ข่าวก็กระจายไปทั่วทั้งเมืองฐานหลงเจียง
ผู้คนเชื่อมันมากขึ้นด้วยภาพ แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ภาพ มันมีวิดิโอ!
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์สามคนตาย!
แชมป์ถูกกำหนด!
เจ้าของร้านขายอสูรพิกซี่!
ข่าวทั้งหมดแพร่ระบาด
ในฐานะตัวละครหลักของข่าว ซูผิงกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วเมืองฐาน
หน้าตาเขา ชื่อเขาและข้อมูลอื่นโดนเปิดเผย เป็นเวลาหนึ่ง ทุกคนในเมืองฐานต่างรู้จักอัจฉริยะลึกลับที่จู่ๆก็โผล่ออกมา!
มีการถกเถียงถึงอายุและระดับของซูผิง
บางคนอ้างว่าเขาคือนักรบอสูรกิตติมศักดิ์
แต่คนอื่นปฏิเสธด้วยหลักฐานการทดสอบ
บางถึงกับตั้งคำถามถึงบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ทดสอบ
บริษัทไม่อยู่ในพื้นที่ มันอยู่ในเมืองฐานอื่นแต่ก็มีสาขาที่เมืองฐานหลงเจียง ขณะนั้น เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสาขาโดนระเบิดไปด้วยคำถาม