Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว - ตอนที่ 318
ต่อหน้าพวกเขา
บูม
เกิดการสู้รบขึ้นบนดินแดนเยือกเย็นและรกร้าง ตามคำสั่งของซูผิงสุนัขมังกรดำและอสรพิษม่วงได้ปลดปล่อยทักษะทั้งหมดของพวกมันใส่มังกรจันทราเหมันต์
ซูผิงบอกซูหลิงเยวี่ยให้สั่งมังกรจันทราเหมันต์ต่อสู้กลับด้วยพลังทั้งหมด
เพื่อให้เธอได้เห็นพลังที่แท้จริงของมังกรจันทราเหมันต์!
โอ๊กกก!!
หลังจากได้รับอนุญาตจากซูหลิงเยวี่ย มังกรจันทราเหมันต์ก็ส่งเสียงคำรามก้องระหว่างสวรรค์และโลก ราวกับว่ามันเพิ่งได้รับการปลดปล่อยออกจากห่วง!
เสียงคำรามดังก้อง เต็มไปด้วยด้วยพลังทั้งความโกรธและความรุนแรง
มังกรจันทราเหมันต์เป็นเพศหญิงและในบรรดามังกรทั้งหมด มังกรจันทราเหมันต์มักมีลักษณะไม่รุนแรง อย่างไรก็ตามเนื่องจากการเติบโตมาถึงระดับนี้ผ่านการฝึกฝนของซูผิงในช่วงเวลาสั้นๆนั้น มังกรจันทราเหมันต์ได้ผ่านอะไรมามากมาย…โดยเฉพาะการฆ่า! ดาวเคราะห์ซึ่งนั่งนิ่งอยู่ในจักรวาลเป็นเวลาหลายพันล้านปีได้ส่งเสียงไปยังส่วนอื่น ๆ ของจักรวาลเป็นครั้งแรก
เสียงคำรามของมังกรทรงพลัง ในฐานะเจ้าของของมังกรจันทราเหมันต์ ซูหลิงเยวี่ยจะไม่ได้รับผลกระทบจากการกัดกร่อนทางจิตวิญญาณ และการยับยั้งที่อยู่ในเสียงคำราม ลมที่พัดขึ้นมาพัดผมของเธอไปมา ซูผิงเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ เขาตั้งการป้องกันในจิตวิญญาณไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ
เขาเกือบจะมีภูมิคุ้มกันต่อเสียงคำรามมังกรแล้ว
หลังจากเสียงคำรามจบลง เกล็ดสีทองบนมังกรจันทราเหมันต์ก็เริ่มขยับ กลิ่นอากดขี่ข่มเหงแผ่ออกมาจากร่างกายของมังกร และรวมกับสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันเปลวไฟสีม่วงแปลก ๆ ก็พุ่งออกมาจากอากาศบาง ๆ ! ไฟและน้ำแข็งผสานเข้าด้วยกัน!
พลังงานศักดิ์สิทธิ์สีทองภายในมังกรจันทราเหมันต์เริ่มขยับ ราวกับว่ามันมีชีวิตขึ้นมา
ปัง!
พื้นดินถล่ม และประจุไฟฟ้าในความว่างเปล่ากำลังก่อตัวเป็นสนามพลังที่น่ากลัว
ซูหลิงเยวี่ยตกตะลึงกับสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นจุดจบของโลก
นั่น…มังกรจันทราเหมันต์ของเธอหรือเปล่า?
ในความคิดของเธอ มังกรจันทราเหมันต์มักจะอ่อนโยนและสนิทสนมกับเธอเหมือนเด็กที่น่ารัก แต่ในขณะนี้ท่ามกลางฝุ่นละออง มังกรจันทราเหมันต์ได้กลายเป็นจักรพรรดิมังกรที่มีกลิ่นอายน่ากลัวซึ่งยากที่จะอธิบาย …
หลายชั่วโมงต่อมาการต่อสู้สิ้นสุดลง
ซูผิงพาซูหลิงเยวี่ยกลับมาที่ร้าน เธอหน้าซีดด้วยความกลัว
เขาบอกให้เธอลืมตาหลังจากที่พวกเขากลับเข้ามาในร้าน
ซูหลิงเยวี่ยเรียกมังกรจันทราเหมันต์กลับ สัญญาระหว่างซูผิงและซูหลิงเยวี่ยถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติทันทีที่พวกเขากลับมา
เมื่อไม่มีสัญญา ซูผิงก็รู้สึกว่าเขา“ ห่าง” จากซูหลิงเยวี่ยทันที ตามธรรมชาติแล้วเขาจะให้เธออยู่ห่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของเขากับซูหลิงเยวี่ยกลับแน่นแฟ้นขึ้น
ถึงกระนั้นก็ยังมีร่องรอยของความผูกพันระหว่างพวกเขาอยู่
มุมมองของซูผิงกับน้องสาวเปลี่ยนไปเล็กน้อย…เขามองเธอเหมือนเด็กผู้หญิงจริงๆ
“ ตอนนี้เธอรู้แล้วใช่ไหม?” ซูผิงถามอย่างไม่เป็นทางการ
หลังจากนั้นซูหลิงเยวี่ยก็ได้สติ เธอสังเกตเห็นว่าเธอกลับมาในร้านแล้ว
จิตใจของเธอยังคงเคว้งคว้าง การต่อสู้ในสถานที่แห่งนั้นยังคงสดใหม่อยู่ในใจของเธอ มุมมองที่น่าตกใจทำให้เธอรู้สึกโง่เขลา
ตามที่ปรากฎ นั่นคือขอบเขตความสามารถของมังกรจันทราเหมันต์
หัวใจของเธอเต้นแรง ในที่สุดเธอก็เห็นว่าทำไมซูผิงถึงมั่นใจที่จะประกาศว่าเธอจะเป็นแชมป์
ด้วยมังกรที่น่ากลัวขนาดนี้ แม้แต่หมูก็ยังได้แชมป์!
เดี๋ยวก่อน
มีบางอย่างไม่ถูกต้องในคำเหล่านั้น แม้แต่หมู?ซูหลิงเยวี่ยส่ายหัว รายละเอียดเล็กน้อยนี้ไม่สมควรได้รับความสนใจจากเธอ เธอถามซูผิง“ ทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นนั่นจริงหรอ?”
ซูผิงหันหน้าหนี เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องมองตาเธอ เธอรู้จักเขาดีเกินไป อย่างไรก็ตามเขารู้สึกกลัวเล็กน้อยที่จะบอกว่าเขาโกหก “ บางอย่างเป็นความจริง สถานที่นั้นไม่ใช่ของจริง แต่การต่อสู้นั้นเป็นเรื่องจริง เธอเพิ่งได้เห็นพลังที่แท้จริงของมังกรจันทราเหมันต์”
“นายแน่ใจใช่ไหม?”
ซูผิงให้คำตอบยืนยัน ซูหลิงเยวี่ยรู้สึกว่าเลือดของเธอเดือดพล่าน อย่างไรก็ตามเธอยังไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้
ในเวลาเดียวกันเธอสังเกตเห็นว่าความรู้สึกผิดปกติที่เธอมีต่อซูผิงหายไป มีบางอย่างหายไป
แก้มของซูหลิงเยวี่ยเปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบ ฉันคิดอะไรอยู่? เธอถามตัวเอง
ความใกล้ชิดทั้งหมดที่เธอรู้สึกต่อซูผิงต้องเป็นภาพลวงตา!
มันต้องเป็นฉากปลอม ๆ ที่ทำให้ลุคของผู้ชายคนนี้เปลี่ยนไป นั่นคงเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอเริ่มชื่นชมเขา!
ใช่ แบบนั้นแหละ!
เธอพยักหน้าและเชื่อมั่นในการคาดเดานี้มากขึ้น – นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่ดูมีเหตุผล!
“ ทักษะนี้ไม่ใช่ของปลอม”
ซูผิงมองเธอจากมุมหางตา “ เธอเคยเห็นมังกรจันทราเหมันต์ใช้ทักษะมัน เธอสามารถไปที่ห้องทดสอบและทดลองใช้งานดูได้แต่อย่าลืมว่าอย่าทำให้มังกรล้า พรุ่งนี้เธอมีแข่ง”
“ได้”
ทันใดนั้นเธอก็วิ่งไปโดยไม่เสียเวลากับซูผิงอีก ซูผิงเลิกคิ้ว เธอจากไปโดยไม่พูดอะไร ช่างน่าเสียดาย ที่จริงเธอดูน่ารักกว่ามากตอนที่สัญญายังมีผลบังคับ
“อย่างไรก็ตาม ฉันสามารถเซ็นสัญญากับมนุษย์ได้ กล่าวคืออสูรที่ฉันสามารถนำเข้าไปในร้านของฉันได้ยัง…รวมถึงมนุษย์อีกด้วย”
“ไม่ใช่มันว่ามันหมายความว่า ฉันสาสามารถ…ฝึกนักรบอสูรคนอื่นได้?”
การตระหนักนี้ทำให้ซูผิงต่นเต้น ดวงตาของเขาเป็นประกาย
ไม่ช้า เขาก็คิดถึงปัญหาใหญ่
เขาสามารถพามนุษย์ไปสนามบ่มเพาะในฐานะอสูรของเขา แต่ มนุษย์แตกต่างจากอสูร
มนุษย์มีสติปัญญาสูงมาก พวกเขาฉลาด เจ้าเล่ห์ และในเวลาเดียวกันก็โลภ ถ้าเขาอยากพามนุษย์ไปสนามบ่มเพาะ ความลับของร้านเขาคงเปิดเผย ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหา
แน่นอน เขาสามารถอยู่ภายในเขตปลอดภัยของร้าน แต่ ถ้าสหพันธ์ตื่นตัว เขาจะกลายเป็นศัตรูของมนุษย์ และเขาจะทำได้แค่ขดตัวในร้านไปตลอดชีวิต
“ฉันคิดว่าระบบคงมองมนุษย์เป็นเหมือนอสูรและสามารถฝึกได้ แต่การึฝกมนุษย์ก็ลำบากกว่าการฝึกอสูร”
ซูผิงส่ายหัว เขาไม่สนใจความคิดการฝึกมนุษย์
เขาต้องเสี่ยงพาซูหลิงเยวี่ยไปสนามบ่มเพาะด้วย
เธอเป็นน้องสาวเขาและเขามักคิดว่าเธอไม่ฉลาดจนเขาสามารถหลอกเธอได้
แต่ทว่า เขาตัดสินใจว่าเขาไม่ควรทำ ไม่งั้น ความลับคงหลุด
ซูหลิวเยวี่ยออกจากห้องทดสอบ
ซูผิงขับพาซูหลิงเยวี่ยออกจากร้านและบอกเธอให้กลับไปบ้านเพื่อพักผ่อน
ซูหลิงเยวี่ยไม่ได้รับรางวัลใดและทั้งหมดที่เธอได้รับก็คือการรู้ถึงอำนาจแท้จริงของมังกรจันทราเหมันต์ แต่เธอรู้สึกว่านี่คือรางวัล เธอตื่นเต้นเหมือนวันแรกที่ได้รับมังกร
ซูผิงอยากเตือนเธอ บอกเธอให้รีบตื่นเช้าเพราะมีการแข่งวันถัดไป แต่เมื่อเห็นว่าเธอกระตือรือร้นแค่ไหน เขาก็รู้ว่าเธอคงไม่นอน
โชคดี สำหรับนักรบอสูรขั้นห้า การไม่นอนคืนหนึ่งไม่นับเป็นอะไร
หลังกำจัดซูหลิงเยวี่ย ซูผิงก็ไปห้องทดสอบและฝึกหมัดขับไล่วิญญาณเพื่อเผาไหม้พลังบางส่วน จากนั้นก็ไปคอกเลี้ยงดู
เมื่อเขาเหนื่อยล้า เขาก็ดูดซับพลังงานดวงดาวด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติ
โจแอนนานั่งในคอกเลี้ยงดู ยังบ่มเพาะ
ทั้งสองใช้เวลาทั้งคืนเงียบๆ
วันถัดมา
เมื่อซูผิงเปิดประตู ด้วยความประหลาดใจ เขาเห็นลูกค้าหลายคนรอด้านนอก ร้านของซูผิงไม่มีธุรกิจมากนักระหว่างหลายวันที่ผ่านมา ความจิงที่หลายคนกำลังรอในแถวเป็นตัวตัดสินว่าร้านเขาสร้างชื่อได้พอสมควร
“มีเรื่องเกิดขึ้นงั้นเหรอ?”ซูผิงถามลูกค้าด้านหน้าแถว
นั่นคือนักเรียนจากสถาบันฟีนิกส์และเป็นลูกค้าประจำ คำถามของซูผิงจึงทำให้เขาตกใจ”อะ..อะไรนะครับ?”
“อืม ฉันหมายความว่า ไม่มีอะไร”
“ทำไมนายถึงมาที่นี่?”
“อืม ผมมีเงิน ผมเลยมา”
ช่างเป็นเหตุผลที่ดี ซูผิงไม่พบข้อผิดพลาดเลย
จากนั้นเขาก็ถามคนเพิ่มและเรียนรู้ว่าพวกเขาพลาดการได้รับตั๋ว และเผอิญ พักนี้ สถาบันกับบริษัทในอุตสาหกรรมอสูรปิดทำการ
ดังนั้น พวกเขาจึงมีเวลาว่างตอนไม่ไปชมงานแข่ง พวกเขาจึงใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ในการมาร้านซูผิง
พวกขาสามารถกลับไปชมการถ่ายทอดสดได้หลังทำธุรกรรมที่นี่
ต่อให้พวกเขาไม่กลับบ้าน พวกเขาก็สามารถดูมันบนมือถือได้
มีทีวีหรือหน้าจอใหญ่ตั้งให้คนดูในร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อมากมาย
ซูผิงตระหนักว่าเขาควรติดทีวีในร้านเขาด้วย
แบบนั้น ลูกค้าจะได้ไม่ต้องรีบกลับและสามารถดูทีวีขณะรอให้ถึงคิว
ชุดทีวีไม่แพงมาก เพื่อให้ร้านสามารถยื้อลูกค้าไว้ได้ มันก็คุ้ม
เมื่อตัดสินใจได้ ซูผิงก็ทิ้งร้านให้โจแอนนา เธอสามารถดูแลลูกค้าได้ ขณะนั้น เขาก็กลับไปบ้าน
เขาเห็นว่าแม่เขากำลังทำข้าวเช้าในครัว ซูหลิงเยวี่ยไม่สามารถนอนหลับได้จริง เพราะเธอยังสวมชุดของเมื่อวาน เธอนั่งบนโตีะ มือของเธอกำลังลูบขนของอสูรเพลิงมายาที่หดเป็นขนาดเล็ก ด้วยรอยยิ้มสดใส
ฉากแปลกๆนี้ทำให้ซูผิงขนลุก