ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability) - ตอนที่ 226 รูปปั้น
- Home
- All Mangas
- ราชันเร้นลับ 2 : วัฏจักรแห่งชะตา (Circle of Inevitability)
- ตอนที่ 226 รูปปั้น
ตอนที่ 226 รูปปั้น
ลูเมี่ยนสะบัดมือซ้าย ปล่อยลวดลายรูปดวงอาทิตย์หลากสีสันออกมา
ห้องนั่งเล่นที่เย็นยะเยือกอบอวลไปด้วยความอบอุ่นทันที แต่น้ำแข็งที่เกาะอยู่บนพื้นไม่มีทีท่าว่าจะละลาย มีเพียงใบหน้าอันบิดเบี้ยวสีเขียวและขาวซีดเท่านั้น ที่ผินสายตาออกไป
ฮาร์มันไร้เศียร ซ้ำร่างกายยังชุ่มไปด้วยเลือด วิ่งปรี่เข้าหาลูเมี่ยน ไม่สนใจปืนลูกโม่ที่เล็งมาทางตน ต้องการเพียง ‘กอด’ เป้าหมายให้ได้
ม้วนภาพวาดดวงอาทิตย์ทำให้ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มแผ่วเบา จนเลือดที่ไหลย้อยหยดลงพื้น
สัญชาตญาณลูเมี่ยนร้องเตือนว่าไม่ควรปะทะกับ ‘ซอมบี้เลือด’ โดยตรง จึงใช้ข้อศอกที่มีแจ็กเกตสีน้ำตาลอ่อนหุ้ม ปัดป้องมือทั้งสองข้างของฮาร์มันอย่างต่อเนื่อง
เมื่อแจ็กเกตตัวดังกล่าวเปื้อนเลือด ก็เกิดร่องรอยการกัดกร่อนในพริบตา
ขณะเดียวกัน เนื่องจาก ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์หายไปสองสามวินาทีแล้ว ฟรังก้าจึงมีเวลาหายใจหายคอ
เธอรวมเปลวไฟสีดำเข้มไว้ที่ฝ่ามือ แล้วปาใส่ฮาร์มัน ผู้กลายเป็นศพเดินได้
เปลวไฟสีดำทำตัวเหมือนกระสุนปืนใหญ่ พุ่งปะทะผิวของศพเปื้อนเลือด
เกิดระเบิดในทันที แผดเผาพลังวิญญาณที่สะสมอยู่ในเลือดและศพอย่างไร้สุ้มเสียง
ฮาร์มันเริ่มละลายเหมือนคาสตินา ราวกับเทียนไขที่ถูกโยนเข้ากองไฟ
เป็นเวลาเดียวกับที่ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ปรากฏกาย
เขาโผล่ออกจากใบหน้าซีดขาวตรงมุมผนัง อุ้มรูปปั้นเท่าตัวคนมาด้วย
รูปปั้นดังกล่าวแกะสลักเป็นหญิงสาวใบหน้าอ่อนโยน กระโปรงยาวพลิ้วสมจริง
หลังจากวางรูปปั้นลงบนพื้นอย่างทุลักทุเล โรเจอร์ก็ถอยหลังกลับไป หลอมรวมเข้ากับใบหน้าบิดเบี้ยวและอมทุกข์ หลบกระสุนของลูเมี่ยนและเปลวไฟสีดำของฟรังก้าได้ฉิวเฉียด
วินาทีต่อมา เขาโผล่ร่างออกจากโคมระย้าบนเพดาน สาปแช่งด้วยท่วงทำนองว่องไว
“พวกแกตายแน่!”
“ไอ้พวกลูกโสเภณี! กล้าดียังไงถึงบุกเข้ามาใน ‘แดนไร้ตาย’ ของฉัน!”
“ฉันจะสูบชีวิตพวกแกให้หมด!”
“ฉันจะทำให้พวกแกมีลูกยี่สิบคน!”
‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์พูดทีไรก็เปลี่ยนตำแหน่ง เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา กระโดดหลบม้วนภาพและมนตร์ดำของฟรังก้าที่มีพื้นฐานจากเปลวไฟและน้ำแข็ง
แต่ละคำที่ฟังดูเหมือนภาษาอินทิสปกติ เปรียบดังหัวลูกศรพุ่งทะลวงสมองของลูเมี่ยนกับฟรังก้าโดยตรง ไม่เพียงทำให้พวกเขาเวียนหัวตาลาย หัวใจเต้นเร็วขึ้น แต่ยังทำให้เลือดในกายคล้ายกำลังสั่นพ้อง
รูปปั้นหญิงตรงมุมห้องถูกกระตุ้นจากผลดังกล่าว ผิวหน้าลุกโชนเป็นเปลวไฟสดใส
ท่ามกลางเสียงอื้ออึง หัวของลูเมี่ยนเหมือนถูกค้อนมายาทุบอย่างหนัก เลือดสีแดงสดสองสายไหลออกจากโพรงจมูกอย่างมิอาจควบคุม
แทบจะในเวลาเดียวกัน ฟรังก้ากระโดดกลับไปบนโซฟา กำมือซ้ายแน่น ทำให้เลือดกำเดาของลูเมี่ยนลุกเป็นเปลวไฟสีดำทั้งหมด ไม่ให้โรเจอร์มีโอกาสใช้ประโยชน์
ตัวเธอเองก็ได้รับบาดเจ็บคล้ายกัน จึงสงสัยว่า ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ กำลังใช้เวทมนตร์ประเภทคำสาป ซึ่งได้รับการเสริมพลังจากรูปปั้นหญิงนั่น แม้แต่เธอที่มีร่างกายและจิตใจแข็งแกร่งขึ้นมากก็ยังทนได้ไม่กี่ประโยค
เนื่องจาก ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์มิได้ป้องกันรูปปั้นนั้นเลย ฟรังก้าเชื่อว่าการโจมตีมันโดยตรง อาจนำไปสู่ผลที่น่ากลัวยิ่งกว่า ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะปรากฏในรูปแบบของคำสาป
เธอกัดฟันทนต่อการเดือดพล่านของเลือด ทนต่ออาการวิงเวียนและความเจ็บปวดทางกาย ยกปืนลูกโม่ทองเหลืองขึ้น และปัง! ยิงใส่ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์หนึ่งนัด ตัวเธอเองก็ฉวยโอกาสกระโดดไปยังบริเวณที่ตั้งรูปปั้น
กระสุนสีดำเหล็กสลายใบหน้าบิดเบี้ยวใบหนึ่ง ทิ้งร่องรอยไว้บนผนัง แต่ไม่สามารถทำร้ายโรเจอร์ได้
ทันทีที่ฟรังก้าลงพื้น ก็เริ่มวิ่งวนรอบรูปปั้นนั้น หญิงสาวมิได้กดไกปืนลูกโม่ทองเหลืองอีก และมิได้ชักดาบซ่อนแขนออกมา เอาแต่หลบเลี่ยงร่างผอมบางยืดยาว ซึ่งยืดออกจากเลือดที่ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ปลุกขึ้นมา ไปพลางสร้างน้ำแข็งชั้นแล้วชั้นเล่าบนพื้นผิวของรูปปั้น
ในตอนนี้ ลูเมี่ยนที่ถูก ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์เน้นโจมตี ชีวิตกำลังอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง
ท่ามกลางเสียงคำราม เปลวไฟมายาสีดำพลันลุกโชนจากร่างของเขา
ลูเมี่ยนไม่ลังเลอีกต่อไป อันดับแรกก็ทิ้งม้วนภาพวาดดวงอาทิตย์ประหลาด จากนั้นกระโดดขึ้นโซฟา แล้วสอดมือซ้ายเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ
ข้างโต๊ะกาแฟคว่ำที่เขายืนอยู่เดิม ร่างของ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ผงาดขึ้นจากพื้นน้ำแข็ง มือถือเคียวอำมหิตสีดำขลับยาวครึ่งคน ฟันเฟอร์นิเจอร์ตรงหน้าขาดเป็นสองท่อนในครั้งเดียว
ลูเมี่ยนกระโดดลงบนโซฟา มือซ้ายชักออกจากกระเป๋าเสื้อ กำนิ้วขาดๆ ยาวเรียวซีดเซียวเอาไว้
เผชิญกับเคียวที่ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ฟาดซ้ำ ลูเมี่ยนที่อ่อนแรงมากแล้ว ทำได้เพียงขยับตัวหลบอย่างเต็มกลืน รอดพ้นการโจมตีนี้ไปได้
ขณะเดียวกัน เด็กหนุ่มปานิ้วในมือขึ้นไปกลางอากาศ
นิ้วของมิสเตอร์ K!
ท่ามกลางเสียงฉีกขาดของหนังและผ้า โซฟายาวถูกเคียวอำมหิตผ่าเป็นสองซีก ขณะที่นิ้วมือสีขาวซีดกลางอากาศ พองตัวในพริบตาแล้วเกิดระเบิด
มันกลายเป็นสายฝนเลือดเนื้อตกลงบนตัวลูเมี่ยน ดับไฟสีดำที่ทำให้ทุกส่วนอ่อนแอลง
เลือดเนื้อเหล่านี้ ดูดซับเลือดและซากศพที่ละลายอยู่รอบข้าง มารวมกันอย่างไวว่อง จนลูเมี่ยนดูเหมือนกำลังสวมเสื้อคลุมยาวสีเลือดที่มีฮู้ด
ความอ่อนแอที่เคยรบกวนเด็กหนุ่ม มลายหายไปเป็นส่วนใหญ่ จึงรีบกระโดดโจมตีตอบโต้ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์
ได้เห็นดังนั้น ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ไม่ทู่ซี้ปะทะซึ่งหน้า แต่หดตัวกลับเข้าไปในชั้นน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยรอยร้าว มุดกลับเข้าหนึ่งในใบหน้าอันซีดเซียวบิดเบี้ยว
ฟรังก้า ผู้ทำให้รูปปั้นปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง สัมผัสถึงความหนาวเย็นสุดขั้วกะทันหัน
วิญญาณทั้งหมดในห้องนั่งเล่นดูเหมือนจะโกรธกริ้ว ทุกตนไหลบ่ามาจากทุกสารทิศ ยื่นแขนออกมา อ้าปากกว้าง ล้อมรอบฟรังก้าไว้ตรงกลาง
เพล้ง! กระจกบานหนึ่งแตกอีกครั้ง
ร่างของฟรังก้าโผล่บนผิวน้ำแข็งอีกฝั่งหนึ่ง พร้อมกับยกมือขึ้น เสกเปลวไฟสีดำลุกไหม้รอบรูปปั้น จุดไฟเผาวิญญาณคนตายและร่างสีเลือดเหล่านั้น
‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์โผล่ครึ่งตัวออกจากผนังด้านข้าง พร้อมกับเปิดปากก่นด่าอีกครั้ง
“นังสารเลว!”
ขณะทำให้ร่างกายเป้าหมายอ่อนแอลง เขาใช้ประโยชน์จากใบหน้าเจ็บปวดเหล่านั้น เคลื่อนย้ายตำแหน่งในพริบตา บางครั้งก็โจมตีลูเมี่ยน บางครั้งก็แอบสร้างอิทธิพลให้ฟรังก้า อาศัย ‘แดนไร้ตาย’ กับรูปปั้นเป็นหลัก ก็ควบคุมศัตรูทั้งสองไว้ได้แล้ว
ทุกๆ ระยะหนึ่ง เปลวไฟดำชั่วร้ายที่สูบชีวิตและทำให้เด็กหนุ่มอ่อนแอ จะปะทุขึ้นบนผิวกายของลูเมี่ยน แต่ก็ถูกดับโดยเสื้อคลุมเลือดเนื้อที่เขาสวมอยู่ตลอด ส่วนฟรังก้าคอยพึ่งพากระจกตัวแทน หลบหนีจากการโจมตีผสานระหว่าง ‘คำสาป’ ‘วิญญาณโลหิต’ ‘ไฟสีดำแห่งความอ่อนแอ’ และ ‘ผลาญชีวิต’ ครั้งแล้วครั้งเล่า
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเสื้อคลุมเลือดเนื้อสีแดงสดของชาร์ล ถูกกัดกร่อนจนบางเฉียบและใกล้สลายตัว ในขณะที่กระจกของ ‘บูตแดง’ ฟรังก้าและชั้นน้ำแข็งที่สร้างขึ้น ก็ใกล้จะหมดเกลี้ยงแล้ว ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ชะโงกหัวออกจากเพดาน พลางหัวเราะเสียงแหลมอย่างชั่วร้าย
“ไอ้สองตัวโง่!”
“คิดว่าจะเอาชนะ ‘แดนไร้ตาย’ ได้หรือไง?”
“ต่อให้หัวหน้าหน่วยทุกคนของพรรคซาฟาห์มาที่นี่ ฉันก็ไม่กลัว!”
“ตายไปซะ!”
เสียงแหลมๆ แทรกเข้าไปในหูของลูเมี่ยนและฟรังก้า ปักคาสมองของพวกเขา ทำให้ทั้งสองซวนเซราวกับแทบจะทนไม่ไหว
เมื่อเห็นดังนั้น ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ที่ย้ายไปอยู่ผนังด้านข้าง ก็เผยรอยยิ้มดุร้ายเจือคาดหวัง
ทันใดนั้นเอง ทุกสิ่งตรงหน้าโรเจอร์พลันมืดสนิท และอารมณ์รุนแรงพลุ่งพล่านขึ้นมาในใจ
นั่นคือความไม่อยากเชื่อ นั่นคือความประหลาดใจ นั่นคือความสับสนและความหวาดกลัว
วินาทีถัดมา เขาก็หมดสติไป
ตุบ!
บอสของแก๊งหนามพิษรายนี้ เผยตัวออกจากผนัง สลบเหมือดล้มลงบนพื้น
ในที่สุด ‘ปรอทเสื่อมทราม’ ก็แลกเปลี่ยนโชคชะตาเสร็จ ย้ายโชคชะตาของคนเร่ร่อนที่กำลังจะตาย ไปให้กับ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์!
คราวนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เร็วกว่าการแลกโชคชะตาของมาร์โกต์มาก
ส่วนหนึ่งเพราะคนเร่ร่อนไม่ใช่ผู้วิเศษ และเมื่อ ‘ปรอทเสื่อมทราม’ เลือกโชคชะตาของ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ ก็หาแบบที่สำคัญน้อยที่สุด และไม่เกี่ยวข้องกับความเหนือธรรมชาติมากที่สุด
สายตาของลูเมี่ยนจับจ้อง ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ที่สวมชุดนอนสีฟ้า โดยอาศัยเสื้อคลุมสีเลือด เด็กหนุ่มเดินผ่านกลุ่มใบหน้าบิดเบี้ยว สีใส และพร่ามัวอย่างยากลำบาก มาถึงเบื้องหน้าเป้าหมายที่หมดสติไปท่ามกลางความหนาวเหน็บและอาการชา ก่อนจะหยิบขวดโลหะใบเล็กที่บรรจุยาสลบ เปิดฝา แล้วย่อตัวลง
เขานำยาสลบที่ได้จากลุนทาสไปจ่อจมูก ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ พลางใช้มือพัดโบกให้แก๊สผสมเข้ากับลมหายใจของศัตรูเร็วขึ้น
จัดการเสร็จ ลูเมี่ยนก็ยก ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ขึ้น แล้ววิ่งออกจากเขตห้องนั่งเล่น ภายใต้การคุ้มครองของฟรังก้า
พวกคนรับใช้ชายหญิงไม่รู้หลบไปอยู่ที่ไหนตั้งแต่นานแล้ว
ขณะ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ถูกพาตัวออกจากห้องนั่งเล่น เหล่าใบหน้าซีดเซียวหรือซีขาวพลันอันตรธานหาย ทุกสิ่งกลับคืนสู่ปกติ
เห็นดังนั้น ลูเมี่ยนก็โยนบอสของแก๊งหนามพิษลงบนพื้นตรงหน้า เล็งปืนลูกโม่ไปที่หัว
หลังจากจ้องอยู่สองสามวินาที เด็กหนุ่มก็กดไกโดยไม่พูดไม่จา แววตาเย็นชาไร้อารมณ์
ปังปัง! สองนัด หัวของ ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ก็กลายเป็นแตงโมแหลก กระจายคราบเลือดไปทั่วบริเวณ
เขาเสียชีวิตในขณะที่ยังหมดสติ
ฟรังก้ามองลูเมี่ยนที่ยังคงเล็งปืนไปทาง ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์ แล้วถามเสียงเรียบ
“เป็นไง ระบายออกมาหรือยัง?”
ถ้ามิใช่เพื่อช่วยลูเมี่ยน เธอคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการรายงาน ‘แมงป่องดำ’ โรเจอร์กับพวกสาวกขององค์มารดาผู้ยิ่งใหญ่ ผ่านทางคุณพี่ ‘007’
เด็กหนุ่มเงียบไปสองสามวินาที ยกมุมปาก ยิ้มออกมา
“ไม่”
“แค่กำจัดภัยแฝงได้เท่านั้น”
พอได้ยิน ฟรังก้าก็ถอนหายใจเบาๆ
“ในบ้านเกิดของฉันมีสำนวนที่ว่า โรคทางใจต้องรักษาด้วยยาทางใจ ถ้าคลำหาทิศทางไม่ถูก พยายามแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์”
“อา… ฉันจะรีบสื่อวิญญาณก็แล้วกัน เราจะถอนตัวภายในสามนาที คุณรีบไปกอบโกยทรัพย์สินของพวกมันเถอะ”
“ตกลง” ลูเมี่ยนตอบกลับ ในเวลาเดียวกัน อาภรณ์เลือดเนื้อที่หลงเหลืออยู่บนตัวเด็กหนุ่ม ก็สลายไปอย่างสิ้นเชิง หยดเลือดกระเด็นเปื้อนพื้น
แค่นี้? ลูเมี่ยนอดขมวดคิ้วไม่ได้
นี่มิได้สื่อว่านิ้วของมิสเตอร์ K ไม่ทรงพลัง ตรงกันข้าม ในการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้ ถ้าไม่มีมัน ลูเมี่ยนคงอ่อนแอจนเกินกว่าจะต้านทานไหว จนเดือดร้อนให้ฟรังก้าต้องช่วยเหลือ
แต่ผลงานของมันเมื่อสักครู่ ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับวิญญาณมารอย่างซูซานน่า·มาติส นั่นจึงทำให้ลูเมี่ยนอดไม่ได้ที่จะผิดหวังและกังขา
ขณะความคิดผุดวาบขึ้นมา เขาเดินไปทางห้องนั่งเล่น ตากวาดมองไปรอบทิศ ค้นหาสิ่งของมีค่า
ทันใดนั้น เด็กหนุ่มเห็นร่างหนึ่งยืนนิ่งอยู่ตรงบันได สวมชุดคลุมยาวสีดำที่มีหมวกฮู้ดใหญ่พิเศษ
มิสเตอร์ K!
ขณะม่านตาของลูเมี่ยนขยายออก มิสเตอร์ K ก็หายลับไปในเงามืด
…………………………………………………….