ราชันมังกรแห่งสงคราม - ตอนที่ 22
หลังจากที่หวังเสี่ยวหวู่ออกมาจากร้านอาหารเธอก็เดินไปบนถนนคนเดินด้วยความรู้สึกมืดมน
เธอไม่คิดว่าเฉินจื่อเฉ่าจะรู้สึกแบบนั้น
ถึงแม้ว่าเฉินจื่อเฉ่าจำร่ำรวย แต่อย่างไรก็ตามเธอก็มีสามีอยู่แล้ว แต่เมื่อคิดถึงสามีที่ไร้ความสามารถของเธออารมณ์เธอก็ไม่ดีขึ้นมาทันที
เมื่อเทียบกับการแต่งงานของเพื่อนๆเธอแล้วการแต่งงานของเธอมันช่างแตกต่างกันเหลือเดิน! หากว่าเจียงเป่ยเฉินได้สักครึ่งนึงของเฉินจื่อเฉาละก็ “เจียงเป่ยเฉิน ถ้านายยังไม่ยอมทำอะไรให้มีอนาคตละก็ฉันจะหย่ากับนาย!”
หวังเสี่ยวหวู่บอกกับตัวเอง
อีกด้านหนึ่งหลังจากที่เจียงเป่ยเฉินเลือกวัตถุดิบยาเสร็จแล้ว เหอฟู่เฉิงก็เชิญเจียงเป่ยเฉินไปรับประทานอาหาร
หลังจากรับประทานอาหารค่ำจนค่ำแล้ว เจียงเป่ยเฉิน ก็ขับรถกลับบ้านพักของตระกูลหวัง
“ เจียงเป่ยเฉินฉันนึกว่านายตายไปแล้วหายไปไหนมาทั้งวัน?
ช่างมันเหอะถ้าเกิดนายออกไปแล้วตายนะ นี่นายกลับมาพร้อมกับกลิ่นไวน์หบอวลไปหมดเลยนะ! “
เตวหยูหลาน พูดกับเขาทันทีที่เขาเดินเข้ามา
ตอนแรกเธอค่อนข้างกังวลกลัวว่า เจียงเป่ยเฉิน จะถูก หวังเต็ง พาตัวไปทำอัตรายเขา แต่ยังไงก็ตาม เจียงเป่ยเฉิน ยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อเห็นเขากลับมาเธอก็อดไม่ได้ที่จะโล่งใจ
หวังเสี่ยวหวู่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าที่เย็นชาในมือเธอถือรีโมทอยู่
เจียงเป่ยเฉิน ขมวดคิ้วเดินไปที่บ้านโดยไม่พูดอะไร
“ เจียงเป่ยเฉินฉันบอกให้นายซื้อยามาเป็นของขวัญคุณย่านายได้ซื้อมาไหม?”
หวังเสี่ยวหวู่ที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ถามขึ้น
“ซื้อ!”
เจียงเป่ยเฉิน ตอบ
“ซื้อมาจริง?
อย่าโกหกฉันฉันจะให้เงินไปซื้อถ้านายไม่มีเงิน! “
หวังเสี่ยวหวู่ขมวดคิ้วและกล่าวว่า
“เสี่ยวหวู่เธออย่าไปให้เงินเขามาก เขาก็มีมือมีเท้าให้ออกไปหาเงินเองบ้าง! ไม่ใช่ว่ามานั่งเอาเงินของเราไปใช้”
เตวหยูหลาน มองไปที่ เจียงเป่ยเฉิน และพูดอย่างเย็นชา
“อ้ออีกอย่างต่อไปนายจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขับซานตาน่าของบ้านเรา! นายเข้าใจแล้วใช่ไหม? “
“ เข้าใจแล้ว!”
หลังจากที่เจียงเป่ยเฉินพูดจบเขาก็เดินตรงไปชั้นบน
“ไร้ประโยชน์!”
เตวหยูหลาน จ้องเขม็ง
“ แม่มันไม่ได้เป็นแค่รถจ่ายตลาดหรอ?”
หวังเสี่ยวหวู่ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาช่วยเธอละก็ฉันจะไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้แหละ! “
เตวหยูหลาน กล่าวด้วยความโกรธ
เมื่อ เจียงเป่ยเฉิน กลับมาถึงห้องเขา เขาก็โทรหาจางเหมี่ยวทันที
ในเมื่อเขาไม่ให้ใช้รถแล้ว เขาก็ต้องหาอย่างอื่นมาใช้แทน
จางเหมี่ยวยกโทรศัพท์ขึ้น เธอทราบว่าประธานต้องการรถใช้สำหรับเดินทางและรถของเขาจะต้องเรียบง่ายและหรูหราเหมาะกับตำแหน่งประธาน เธอจึงติดต่อไปที่แผนกการเงินเผื่อให้เขาจัดการซื้อรถยนต์ Rolls-Royce
เมื่อ เจียงเป่ยเฉิน นั่งแท็กซี่มาที่ บริษัท ในวันถัดมา Rolls-Royce Phantom ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านหยวนได้ถูกนำให้เขาแล้วมันอดอยู่ในจุดจอดรถหมายเลข 1 ของประธาน
เจียงเป่ยเฉิน ตะลึงอยู่พักหนึ่ง เขาไม่แน่ใจว่า จางเหมี่ยว เข้าใจความหมายที่เขาบอกผิดไปหรือไม่ เขาเพียงอยากได้รถธรรมดาสักคันเท่านั้นทำไมกลายเป็น Rolls-Royce ไปได้
“ประธานฉันคิดว่ารถคันนี้มีความเรียบง่ายและหรูหราซึ่งเหมาะมากสำหรับคุณ!”
เมื่อมาถึงสำนักงาน จางเหมี่ยว กล่าวกับเขาอย่างอ่อนหวาน
เจียงเป่ยเฉิน ส่ายหัวทำอะไรไม่ถูกเขาไม่สามารถจะพูดอะไรได้เลย
“ท่านประธานหวังซูเพิ่งมาถึงแล้วและเขาอยู่ในห้องประชุม เขาเป็นตัวแทนซินซิหยุนและมาพูดคุยกับเราเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไปของการลงทุน”
จางเหมี่ยวรายงานกับเจียงเป่ยเฉิน
“ลงทุน?”
เจียงเป่ยเฉิน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ: “บอกเขาว่าความร่วมมือกับซินซิหยุนถูกยกเลิกแล้ว นอกจากนี้ทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาให้เขาชดใช้ทำอย่าง! จากนั้นไล่เขาออกไป ห้ามเขาเข้ามาในอาคารของ หรงติ่ง อีกในอนาคต! “
เจียงเป่ยเฉิน รู้ว่าตระกูลหวังทำอะไรไว้เขาจึงใส่เงื่อนไขพิเศษในสัญญาตั้งแต่แรกแล้ว
พวกมันบังอาจรังแกภรรยาเขา เขาไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่
“รับทราบคะ ท่านประธาน!”
จางเหมี่ยวตอบและเดินไปทันที
“เฮ้ คุณจางผมไม่จำเป็นต้องเซ็นอะไรเพิ่มแล้ใช่ไหม”
ในห้องประชุมหวังซู เหล่มอง จางเหมี่ยวและพูด
จางเหมี่ยว พยักหน้าและยิ้ม“ ใช่คุณหวัง คุณไม่จำเป็นต้องลงนามในสัญญาเพิ่มเติม แต่ประธานของเราบอกว่าความร่วมมือกับซินซิหยุน ถูกยกเลิกแล้วและการลงทุน 10 ล้านก่อนหน้าที่ได้รับไปต้องถูกว่ฃคืนตามเงื่อนไขในสัญญา ประธานยังบอกอีกว่าให้คุณออกไปทันทีและในอนาคตคุณไม่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาที่บริษัทของเราอีกต่อไป!”
หวังซู: “… ”
ตระกูลหวัง
“ขยะไอขยะ! แกทำอะไรของแก! พรุ่งนี้จะมีการประชุมประจำปี แต่นายกลับทำโครงการที่ได้รับไปหลุดจากมือ แล้วอย่างนี้ฉันจะบอกกับคนอื่นๆยังไง มันน่าขายหน้ามากที่จะประกาศว่าแกเป็นทายานตระกูล! “
หวังซูคุกเข่าตัวสั่นไม่กล้าพูดอะไร
มันเป็นเรื่องยากและไม่เข้าใจอย่างมากสำหรับเขา ทำไมทุกๆอย่างถึงเป็นแบบนี้?
“ทำไมหรงติ่งถึงยกเลิกสัญญา?”
หญิงชราลูบหน้าอกของเธอและพยายามสงบสติอารมณ์
“คุณย่าผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย อีกฝ่ายเพียงแค่บอกว่าจะยกเลิกโดยที่ไม่ได้บอกอะไรผมเลยและพวกเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้ผมพูดเลยด้วยซ้ำ!”
หวังซูร้องไห้ตะโกนออกมาและเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรออกเขาเลยรีบกล่าวออกไปว่า”คุณย่าต้องเป็นหวังเสี่ยวหวู่แน่ๆ ใช่แล้วมันต้องเป็นเพราะเธอ เพราะคุณย่าให้เธอมอบ บริษัท ให้ผมเธอจึงเสียใจและจึงทำแบบนี้เพื่อแก้แค้นเรา! เธอยังอยากสู้กับผมเพื่อให้ได้ตำแหน่งทายาทของตระกูล!”
หญิงชราขมวดคิ้วคิด สิ่งที่หวังซูบอกไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้
หวังเสี่ยวหวู่ได้ติดต่อกับ หรงติ่ง มาก่อนแล้วเป็นไปได้ว่าเธอจะเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ “เสี่ยวหวู่, เสี่ยวหวู่! เธอยังต้องการตำแหน่งทายาทอีกหรอ?”
หญิงชราหรี่ตาด้วยความโกรธ
อย่างไงก็ตามเรื่องที่หวังซุทำพลาดไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ ไม่งั้นแล้วอาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแน่
ขณะเดียวกันแม่บ้านที่อยู่ข้างนอกก็ตะโกนออกมา: “ท่านหญิง นายน้อยคนที่สองกลับมาแล้ว!”
“อะไรนะ?”
“เฉินเอ๋อกลับมาแล้ว? “
เมื่อหญิงชราได้ยินดังนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้
ทันใดนั้นชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูทก็เดินเข้ามาจากด้านนอก
“คุณย่าเฉินเอ๋อกลับมาหาคุณย่าแล้ว!”
เขาเดินไปหาหญิงชรา
“หลานชายของฉันกลับมาแล้วเหรอ”
หญิงชราทักทาย
“ คุณย่าผมกลับมาแล้ว!”
ย่าและหลานจับแขนกันและกันไม่ต้องพูดเลยดูก็รู้ว่าพวกเขารักใคร่กันขนาดไหน
ความอิจฉาปรากฏในแววตาของหวังซูที่ยืนมองอยู่ข้างๆ น่าของเขารักน้องชายของเขาอย่างมากมาตั้งแต่ยังเด็กๆแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่อยู่ แต่ย่าก็ยังพูดถึงเขาอยู่หลายครั้ง
หลายคนบอกว่าหลานชายคุณที่สองของตระกูลเป็นเสมือนมังกร “ดีดี! เพิ่งกลับมาเธอคงได้เรียนรู้อะไรมากมายมาจากอเมริกาในช่วงหลายปีนี้สินะ”
หญิงชราถามอย่างตื่นเต้น
“คุณย่า! ผมจบปริญญาเอกมาและผมเป็นศิษย์ของอาจารย์สมิทที่ Wall Street ด้วย!”
หวังเฉินพูดอย่างภาคภูมิใจ
“ดีดี! ดีกว่าพี่ชายที่ไร้ประสิทธิภาพของเธอมาก!”
หญิงชราจ้องไปที่ หวังซู แล้วพูดกับ หวังเฉิน อีกครั้ง: เฉินเอ๋อ เธอเพิ่งกลับมาย่าว่างแผนที่จะเกษียณยังไม่มีใครมารับช่วงต่อจากย่าในเทื่อเธอกลับมาย่าก็จะถอยไป และจะให้เธอรับช่วงต่อจากย่า!”
ดวงตาของหญิงชราเต็มไปด้วยความคาดหวัง หลานชายคนที่สองของเธอมีความโดดเด่นตั้งแต่เด็กๆมาโดยตลอดและเธอก็สามารถมั่นใจได้ว่าถ้าตระกูลวังอยู่ในมือของเขาจะเจริญรุ่งเรืองแน่นอน! หวังเฉินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ คุณย่าไม่ต้องกังวล ครั้งนี้หลานชายของฉันได้เรียนรู้อะไรมามากมายจากอาจารย์และผมจะนำพาตระกูลหวังของเราไปสู่จุดสูงสุดอย่างแน่นอน!”
คำพูดเหล่านี้ทำให้หญิงชราโล่งใจและดีใจอย่างมากเธอจึงกล่าวว่า “งี้ย่าก็วางใจขึ้นมาบ้าง! อย่างงี้ในอนาคตตระกูลหวังของเราจะต้องทะยานขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของหยุนไห่ได้หรือไม่ก็อยูที่หลานแล้ว!”
//
//
//
//
สมองนางเอกป่วยจัดเลยหงุดหงิด เด่วเจอพระเอกโชว์เทพแล้วจะร้องนะน้อง~