ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 171
ตอนที่ 171 กระดาษหนังทั้ง 5
สิ่งที่เกิดขึ้นและที่เขาได้รับรู้นั้นมันเหนือความจริงจนเกินไป มันทําใจที่กระชุ่มกระชวยและเต็มไปด้วยความคึกคักโล่งใจเมื่อครู่นี้ของจวินที่อุตส่าห์ได้ล้างแค้นด้วยการฆ่าสาวกเกือบทั้งหมดพลันละลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย…
กระดาษหนังที่เขาได้รับมาจากหัวหน้าเสวี่ยป้าได้เปิดเผยความจริงที่เยือกเย็น และลี้ลับชวนให้ปวดหัวมากที่สุดมันเหมือนกับบอกว่าสิ่งที่เขาได้ทํามาทั้งหมดรวมถึงเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงและตัวของเขาเองก็ดูเหมือนจะถูกโซ่ที่มองไม่เห็นมัดเอาไว้เพื่อเป็นตัวแทนของอะไรบางอย่างจากโลกเบื้องล่างอันมืดมิด!
จะมีสักกี่คนกันที่รับรู้ความจริงของต่างโลก… นอกจากจวินแล้วคนที่รู้เรื่องนี้อาจจะมีแค่ระบบดังนั้นพวกเขาไม่มีวันได้รู้เลยไม่ว่าจะเป็นพวกเหล่าสาวกหรือแม้กระทั่งพวกเหล่าสาวกระดับสูงของลัทธิหลังความตายแห่งบริษัทไล่เฉิงพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่กี่ศตวรรษก่อนบุตรแห่งเหล็ก” นาม“เฟรดแลนดอน”ได้จับสัตว์ประหลาดที่เมืองริกเกอร์มาผ่าพิสูจน์
หลังจากทําแบบนั้นไปทําให้เขาได้รับรู้ความจริงที่สั่นสะเทือนไปถึงขั้วหัวใจอย่างรุนแรงความเชื่อความศรัทธาของเขาทั้งหมดได้พังพินาศลง หอคอยงาช้างสีขาวที่เคยมั่นคงมาตลอดได้พังทลายภายในวันเดียวและนั่นมันก็คือสาเหตุสําคัญที่ทําให้เขาเลือกการฆ่าตัวตาย… แต่ในขณะที่เขากําลังจะตายนั้นผู้รับใช้ของผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกมืดได้มอบชีวิตใหม่ให้แก่เขาในฐานะ“ปีศาจ
แลนดอนยอมรับข้อเสนออันแสนยั่วยวนนั้นและกลายเป็นบุตรแห่งความโชคร้ายหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับไปที่เมืองริเกอร์เขาได้สร้างโรคไทรที่มีรูปร่างผิดปกติจนสามารถทําให้คนกลายเป็นต้นไทรได้และอาจทําอย่างอื่นอีก…และนั่นก็คือที่มาของหายนะที่น่ากลัว
นั่นคือเหตุผลที่ชื่อบุตรแห่งความโชคร้าย” กลายเป็นที่รู้จักในอารยธรรมต่างโลกใช่หรือไม่? นั่นเป็นเหตุให้พวกละทิ้งศาสนาและทอดทิ้งเทพธิดาไปแสวงหาเขาใช่ไหม? พวกเขาละทิ้งเทพธิดาแห่งชีวิตและหันไปบูชาผู้เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่.. สิ่งที่อยู่ภายในต้นไทร…ปีศาจที่อยู่ในต้นไทรนั้น
และเอกสาร 5 แผ่นที่อยู่ในมือของเขานี้อาจจะเป็นบางสิ่งบางอย่างที่หลงเหลือจากต่างโลกมันก็คือของสําคัญของลัทธิหลังความตายแห่งบริษัทไล่เฉิงได้เก็บเอาไว้เป็นอย่างดี
กู้จวินสันนิษฐานว่าการที่ลัทธิแห่งความตายของบริษัทไล่เฉิงสามารถรับรู้เรื่องราวของต่างโลกได้มากขนาดนี้มันอาจจะเป็นเพราะมรดกที่ตกทอดจากต่างโลกอย่างกระดาษ 5 แผ่นนี่ และพวกเขาก็ทําตามบันทึกที่มีเขียนเอาไว้อยู่ในนั้นนั่นเป็นสาเหตุให้พวกเขามีอํานาจและทรงพลังสามารถชี้เป็นชี้ตายแก่คนทั่วไปที่ไร้อํานาจได้ แม้แต่สาวกนั้นมีพลังอํานาจเหนือผู้อื่น….
และหนึ่งในวิธีตามบันทึกที่พวกเขาทําก็คือการหาร่างที่เหมาะสมสําหรับอัญเชิญปีศาจหรือที่เรียกกันว่าเด็กทดลองและคู่จวินเองก็ถูกสร้างให้เป็นภาชนะสําหรับบุตรแห่งความโชคร้ายแต่ช่างน่าเศร้าเสียจริงที่ความพยายามทั้งหมดของพวกเขานั้นพังพินาศลงและล้มเหลวจนหมดสิ้นเ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาลัทธิหลังความตายอาจจะเก็บตัวเงียบทําให้ไม่มีข่าวอะไรเลย… ขนาดธุ์จวินลงทุนใช้เงินที่ทางลัทธิแห่งความตายนั่นแหละเป็นผู้ให้มาในการสํารวจตรวจหาบริษัทไล่เฉิงอย่างสุดกําลังแต่เขาก็ไม่เจออะไรเลยนอกจากข่าวที่ว่าบริษัทไล่เฉิงได้ล่มสลายก็เท่านั้น…เขาพอนึกภาพออกเลยว่าบรรดาพวกสาวก ทั้งหลายของบริษัทไล่เฉิงและลัทธิหลังความตายจะรู้สึกยังไงที่เขาเอาเงินที่ทางลัทธิและบริษัทที่ให้มานั่นแหละเพื่อตามหาตัวพวกเขาเองแบบนี้มันใช้กับเอาอัฐยายซื้อขนมยายไม่มีผิด… นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าลัทธิแห่งความตายของบริษัทไล่เฉิงถึงได้ส่งคนมาแอบจับตามองกู้จวินตั้งแต่เด็กยันโต
เดิมที่พวกเขาก็ควรไม่ควรเคลื่อนไหวแบบนั้น จนกระทั่งพวกเขาพบอะไรบางอย่างที่ทําให้การค้นหาของพวกเขาก้าวหน้ายิ่งขึ้น พวกเขาก้าวหน้ามากถึงขนาดสามารถนําโรคต้นไทรมนุษย์จากต่างโลกมายังพื้นโลกแห่งนี้ได้และนั่นทําให้พลังของบุตรแห่งความโชคร้ายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่เจตนาที่บริสุทธิ์พวกเขาไม่ได้ทําเพื่อบูชาบุตรแห่งความโชคร้ายตามที่บุตรแห่งความโชคร้ายต้องการหรอก
จุดประสงค์ที่แท้จริงของคนพวกนั้นก็คือการยึดอํานาจของปีศาจมาไว้เป็นของตนเอง
พวกเขาเล่าว่าพวกเขาคือผู้ละทิ้งความเชื่อเขาอ้างตัวเองว่าเป็นสาวกของเทพธิดาแห่งชีวิตที่ถูกเทพธิดาทอดทิ้งดังนั้นพวกเขาจึงไม่เชื่อเทพหรือปีศาจตนใดในโลกนี้ทั้งสิ้น
แต่เขาอาจจะไม่รู้เรื่องราวของ [เฟรด แลนดอน]…นั่นทําให้พวกเขาไม่รู้ว่าบุตรแห่งความโชคร้าย มันเป็นแค่พลังส่วนหนึ่งของคนที่ชื่อว่าแลนดอนก็เท่านั้นเอง
และสิ่งที่ทําให้พวกเขากล้าที่จะลงมือทําแบบนั้นกับบุตรแห่งความโชคร้ายก็เพราะความไม่รู้นี่แหละ
พวกเขาลงทุนทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการบูชาบุตรแห่งความโชคร้าย พวกเขาทําดีทุกอย่างกับบุตรแห่งความโชคร้ายเพื่ออัญเชิญและไม่ให้บุตรแห่งความโชคร้ายเกิดความสงสัยในตัวของพวกเขาก่อนที่แผนจะสําเร็จ… อันที่จริงก็เกือบจะสําเร็จแล้วถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของแลนดอนอีกคนหนึ่งก็คือด้านสว่างของเขา…บุตรแห่ง เหล็ก!
ซึ่งคนที่นําพาบุตรแห่งเหล็กมาก็คือ กู้จวินอีกเช่นกัน…. ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้ พวกเขาคงคลั่งจนเป็นจะตายอย่างแน่นอน
กู้จวินก็แค่สันนิษฐานและเอาความจริงโดยทั่วไปมารวมกันเท่านั้น เขาไม่ได้เจาะลงลึกหรือวิเคราะห์แบบละเอียดดังนั้นเขาจึงยังไม่สามารถมองเห็นความลับอันดํามืดที่อยู่ภายใต้โรคที่ชื่อว่าต้นไทรมนุษย์ได้… อีกทั้งยังมีความลึกลับอย่างอื่นอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ในเรื่องนี้… มันเป็นความลับที่ดํามืดมามากกว่าพันปีนับตั้งแต่เมืองริเกอร์เริ่มล่มสลาย… แต่พวกสาวกเหล่านั้นอาจจะไม่เคยได้ยินคํานี้[แดดและลมฝนล้วนตกและเปลี่ยนผันตามเวลาความลึกลับนั้นไม่คงทนมันย่อมถูกล้มล้างและชําระไปตามกาลเวลาที่ผันเปลี่ยน…ไม่มีสิ่งใดแน่นอนและ จีรัง]
“แลนดอน เป้าหมายที่แท้จริงของคุณคืออะไรกันแน่นะ? อุทิศตนเพื่อความมืดมิดเพื่อค้นหาแสงสว่าง? แต่ฉันเชื่อว่าคุณไม่ได้ทํานายการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคุณใช่ไหม?”
“ไม่ไหว! เขาไม่ตอบฉันเลย” เสวี่ยป่าพยายามเรียกคู่จวินตั้งนานไม่ว่าจะเขย่าตัวหรือเรียกชื่อเขาแต่ชายหนุ่มล้วนไม่ตอบสนองทั้งสิ้นชายหนุ่มตกไปอยู่ในโลกของตัวเองโดยสิ้นเชิงโดยไม่สนใจหัวหน้าที่กําลังเขย่าตัวและเรียกอยู่ภายนอกใดๆทั้งสิ้น… ในใจของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเขากลัวว่าชายหนุ่มจะหัวใจวายตายไปแล้วดื้อๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นทั้งเขาและทีมทั้งหมดคงจะต้องฝังร่างร่วมกับคู่จวินที่นี่แน่ๆ และเขาก็ปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เขาลุกขึ้นและเดินตรงดิ่งไปหาลุงต้านทันที
จากนั้นกู้จวินก็ลืมตาตื่นขึ้นจากภวังค์เพราะไม่มีอะไรให้เขาค้นหาได้อีก ปริศนาทั้งหมดมันก็คงอยู่อย่างนั้นอย่างที่ไม่มีวันแก้ได้ และตัวเขาเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องเดินหน้าต่อไป… ในใจเขาก็อดถอนใจด้วยความเหนื่อยใจไม่ได้เมื่อรู้ว่าหนทางเบื้องหน้านั้นเป็นทางที่มืดมิดและเต็มไปด้วยปีศาจที่รออยู่แต่เขาก็จําเป็นต้องก้าวเดินไปข้างหน้าและเขาหวังว่าตัวเขาเองจะยังมีชีวิตรอดและสามารถตามหาพ่อแม่ที่เขารักได้อีกครั้ง
ในตอนนั้นเองเขาได้ลืมตาขึ้นแล้วก็พบว่าหัวหน้าเสวี่ยป้ากําลังจะไปหาลุงต้านซะแล้ว เขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกทันทีเขารีบตะโกนเรียกเสี่ยป้าทันทีเพื่อหยุดเขาก่อนที่เขาจะไปกวนลุงต้าน “หัวหน้าครับผมหายดีแล้วผมแค่ง่วงนอนเฉยๆ”
เสวี่ยป้าและหลินม่อมองจวินทันทีด้วยความกังวล กู้จวินที่เห็นสายตาของคนทั้งคู่ก็ส่ายหัวและพูดด้วยท่าที่ที่มันใจ“ผมสบายดีครับ ผมไม่เป็นไรแล้วแต่ยิ่งกว่านั้นผมมีอะไรที่จะรายงานครับเอกสารพวกนี้ทั้งหมด 4 หน้าเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับโรคมนุษย์ต้นไทรที่พบในเฟคต้าครับ”
“โรคมนุษย์ต้นไทร!? กะแล้ว…ว่ามันต้องเป็นแบบนั้น” หลินม่อถอนหายใจอย่างรุนแรง ถึงแม้เขาจะพอสันนิษฐานได้แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกมา
ในฐานะที่เป็นสมาชิกของหน่วยวิทยาศาสตร์ เขาย่อมมีความสามารถด้านการคาดเดาและการทดสอบที่เหนือกว่าสมาชิกคนอื่นๆในทีมแล้ว เขาเคยแอบคิดว่าอาจจะเป็นฝีมือคน แต่เขาก็ปัดประเด็นนี้ไปทันทีใครมันจะมีความสามารถถึงขนาดนั้น…
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ดวงตาของหลินต่อก็เต็มไปด้วยความขัดแย้งกัน ที่แท้แล้วโรคมนุษย์ต้นไทรเกิดจากฝีมือของคนเป็นผู้สร้างจริงๆด้วยทันทีที่เขาได้รู้แบบนี้หอคอยความเข้าใจในวิทยาศาสตร์อันก้าวล้ําก้าวไกลทั้งหมดที่เขาศึกษามาชั่วชีวิตก็พังทลายโดยสมบูรณ์ในทันที
“แล้วหน้าที่ 5 ล่ะ?” เสี่ยป้ายังคงขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเขากําลังเคร่งเครียดอย่างมาก ตอนนี้เขาไม่สนใจหรอกว่าใครมันจะสร้างโรคต้นไทรนี้ขึ้นมา เพราะว่าตอนนี้สิ่งที่สําคัญสําหรับเขาก็คือชีวิตของลูกทีมคนพวกนี้ล้วนมีครอบครัวและมีความฝันให้ก้าวเดินทั้งนั้น พวกเขาจะมาตายที่นี่ไม่ได้ และอีกอย่างหนึ่งปัญหาเสบียงขาดกับน้ําไม่มีมันไม่ใช่เรื่องที่รอไหวได้ ลิมิตของคนอยู่ได้แค่ 3 วัน เกินจากนี้พวกเขาอาจจะตายกันหมด
ดังนั้นแล้วในความคิดของเสวี่ยป่าในตอนนี้ไม่มีอะไรไปสําคัญมากกว่าชีวิตของ สมาชิกในทีมดังนั้นเป้าหมายของเขาจึงมุ่งไปที่ทางออกมากกว่า เขาหวังว่าในกระดาษหนังเทียมทั้ง 5 แผ่นนี้จะมีแผ่นใดสักแผ่นหนึ่งที่บอกทางออกเอาไว้พวกเขาจะได้ไม่ต้องเสียชีวิตอยู่ในที่แบบนี้อีก!
ทว่าหลังจากให้รู้จวินดูตั้งนานเขาเพิ่งพูดได้ถึงหน้าที่ 4 เท่านั้นเอง นั่นเลยทําให้เขาสงสัยว่าแผนที่ 5 นั้นพูดถึงอะไรกันแน่เขาพยายามหวังว่ามันอาจจะเป็นทางออก
ตอนนี้ความกังวลหลักของเขายังคงเป็นทางออก!
เรื่องอื่นช่างมัน!
“ครับ…” กู้จวินปฏิบัติตามคําสั่งและหันไปดูที่หน้าสุดท้ายทันที มันเป็นหน้าเดียวที่ไม่มีลายเซ็นอันที่จริงแม้แต่ลายมือก็ยังแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดูเหมือนจะเป็นคาถาบางอย่าง…คาดเดาได้ว่าคนเขียนอาจจะเป็นคนละคน
“ผมคิดว่านี่คือรายละเอียดของคาถาสําหรับอะไรบางอย่าง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะอ่านยังไง ก่อนอื่นผมแนะนําให้เรียกลุงต้านมาก่อนดีกว่า? ผมเชื่อว่านี่คือคาถาเรียกโรคไทรที่มีรูปร่างผิดปกติหรือโรคมนุษย์ต้นไทรกู้จวินพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเรียบเฉย ไม่ยินดียินร้ายอะไร
แต่หลังจากได้ยินเขาพูดแบบนั้น เสี่ยป้าและหลินต่อก็ถึงกับงุนงง…โรคต้นไทรกับคาถามันเกี่ยวอะไรกับลุงต้าน??