ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进化系统) - ตอนที่ 418 เกิดเรื่องกับหลี่ว่านเฟิง
มันสำคัญอย่างมากที่จะสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลไว้ในทุก ๆ เมือง
และอีกอย่างเขาเชื่อก็ว่าศาลสูงสุดและหัวหน้าตรวจสอบจะเต็มใจที่จะสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลขึ้นมาในเมืองต่าง ๆ เพราะมันจะทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นรวมถึงการพัฒนาที่ชัดเจนขึ้นไปด้วย
หวังเย่าได้ทำการโทรหาเฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ เพื่อบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้
สุดท้ายเขาก็โทรหาหลี่ว่านเฟิง แต่อีกฝ่ายไม่ได้รับสาย หวังเย่าได้โทรหาอีกหลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครรับสายเช่นเคย
มันทำให้หวังเย่ารู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เท่าที่เขารู้จักหลี่ว่านเฟิงมา ปกติแล้วอีกฝ่ายต้องรับสายเขาตลอด แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับไม่รับสาย มันทำให้หวังเย่ากังวลอย่างมาก
“หวังเย่า นายมาดูข่าวนี่สิ ! ” ตอนนั้นเองจ้าวเมิ่งซีก็ได้พูดขึ้นมา
หวังเย่ารีบเดินไปดูข่าวที่จ้าวเมิ่งซียื่นให้ และพบข่าวที่ดังที่สุดในตอนนี้
เนื้อหานั้นทำให้หวังเย่าแสดงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา
ข่าวนี้บอกว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อนที่ภูเขาต้าเหยียน
หลี่ว่านเฟิงได้พาคนของเขาออกไปสู้ทางตะวันออกของภูเขาต้าเหยียนเพื่อเผชิญหน้ากับแก๊งค์โจรระดับ SSS กลุ่มนรกทมิฬ
แต่เดิมแล้วทั้งสองฝ่ายถือว่าทัดเทียมกันแต่ว่ากันว่ามีอีกกองกำลังเข้ามายุ่งเกี่ยว หลี่ว่านเฟิงและคนของเขาต้องรับมือกับภัยทั้งสองฝั่ง ผลก็คือตามข่าวแล้วฝ่ายหลี่ว่านเฟิงได้พ่ายแพ้
เรื่องราวหลังจากนั้นยังไม่ชัดเจนแต่ไม่ต้องเดาเลยว่ากลุ่มของหลี่ว่านเฟิงจะเสียหายแค่ไหน
ถ้าถูกกลุ่มนรกทมิฬจับไป มันก็พอจะมองภาพรวมได้ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไง
นี่ไม่ต้องพูดถึงหลี่ว่านเฟิงเลย แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดสู้กับโจรกลุ่มนี้ เมื่อพลาดท่าถูกจับไปแล้วก็ต้องตกอยู่ในสภาพน่าอนาถไม่ต่างกัน
ตอนนี้ยังไม่มีข่าวอะไรออกมา บางทีหลี่ว่านเฟิงอาจจะหนีอยู่และยังไม่ถูกจับ
บอกได้ว่าหวังเย่าเป็นห่วงหลี่ว่านเฟิงอย่างมาก
เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นกับหลี่ว่านเฟิงมันก็ทำให้หวังเย่าหนักใจ
หวังเย่ามองไปที่จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมย ก่อนจะพูดขึ้น “ฉันจะไปที่ภูเขาต้าเหยียน เกิดเรื่องกับลุงหลี่”
“นายไปเถอะ เรื่องสร้างค่ายกลขึ้นปล่อยให้เราจัดการเอง” จ้าวเมิ่งซีเข้าใจความรู้สึกของหวังเย่า เธอไม่คิดที่จะห้ามเขาเลยแม้แต่น้อย
“เรื่องการสร้างค่ายกลไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ความปลอดภัยของลุงหลี่สำคัญกว่า” ฟ่านฉิงเหมยพูดขึ้น
“งั้นฉันขอตัวก่อน” เมื่อพูดจบ หวังเย่าก็ได้เดินทางออกจากที่นั่นพร้อมกับเสี่ยวซวีทันที
ตอนนี้เขาไม่อาจจะเสียเวลาได้ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้หลี่ว่านเฟิงจะเป็นยังไงบ้าง
จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยมองไปที่แผ่นหลังของหวังเย่าพร้อมความกังวลที่ก่อตัวขึ้นมาในจิตใจของพวกเธอ
แม้ว่าพวกเธอจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของหวังเย่าสักแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่ดี ยังไงซะเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับโจรที่เลวร้ายที่สุด
กลุ่มนรกทมิฬที่อยู่ระดับ SSS
ฟ่านฉิงเหมยรู้ว่าโจรกลุ่มนี้คือกลุ่มโจรที่ฆ่าพ่อแม่ของหวังเย่า พวกเธอจึงกังวลยิ่งกว่าเดิม เธอกลัวว่าหวังเย่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้และตัดสินใจทำอะไรพลาดไป
“ฉันหวังว่าเขากับลุงหลี่จะปลอดภัย ”
ในใจของทั้งสองต่างก็ภาวนาให้เขากลับมาได้อย่างปลอดภัย
….
ที่ด้านนอกเมืองหัวเซี่ย เมื่อออกมาจากประตูเมืองแล้ว หวังเย่าไม่ได้บินไปยังเมืองก้าวสวรรค์ที่อยู่ใกล้กับภูเขาต้าเหยียนแต่อย่างใด
เพราะเขารู้สึกว่าเวลาเหลือไม่มากนัก ตอนนี้ไม่รู้ว่าหลี่ว่านเฟิงเป็นยังไง เวลาคือสิ่งล้ำค่าสำหรับเขาในตอนนี้
เขาต้องรีบไปที่นั่นให้เร็วที่สุด
ทางที่เร็วที่สุดคือการเดินทางผ่านมิติ
มันไม่ได้มีค่ายกลที่เมืองก้าวสวรรค์
ดังนั้นการเดินทางข้ามมิติคือทางที่เร็วที่สุด
เสี่ยวซวีรู้ว่าเวลานี้คือเวลาฉุกเฉิน ดังนั้นเธอจึงทำการขยายร่างกลับไปร่างเดิม
หวังเย่ากระโดดขึ้นไปบนหัวของเธอก่อนที่จะบอกทางภูเขาต้าเหยียน ทันใดนั้นมิติก็เกิดการบิดเบี้ยวก่อนที่ทั้งสองจะหายตัวไปทันที
ผ่านไปกว่า 10 นาทีที่ด้านนอกภูเขาต้าเหยียนก็มีร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา ด้านบนหัวมังกรนั้นมีหวังเย่าปรากฏตัวขึ้นมาด้วย
ตอนนี้พวกเขามาถึงที่หมายแล้ว
ระหว่างทางพวกเขาได้ออกมาจากมิติอยู่บ้างแต่สุดท้ายก็เดินทางมาถึงที่นี่ได้
พวกเขาใช้เวลาแค่ 10 นาทีในการเดินทางจากเมืองหัวเซี่ยมายังภูเขาต้าเหยียนซึ่งไม่รู้ว่าไกลแค่ไหน บอกได้ว่าสกิลควบคุมมิตินี่มันดีจริงๆ มันไม่ได้เกินความสามารถของเสี่ยวซวีเลย เมื่อเธอขึ้นมาถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นจักรพรรดิได้แล้วอะไรก็ดูจะง่ายดายไปหมด
การเดินทางในมิติกว่า 10 นาทีนี้ทำให้เสี่ยวซวีเสียพลังไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น มันไม่ได้ส่งผลเสียอะไรต่อเธอมากนัก
หวังเย่ามองไปยังภูเขาต้าเหยียนตรงหน้าพร้อมกับครุ่นคิด ตอนนี้เขาไม่มีข้อมูลใด ๆ เขารู้แค่ว่าเกิดเรื่องกับหลี่ว่านเฟิงที่ทางตะวันออกของภูเขาต้าเหยียนเท่านั้น
เขากดความกังวลในใจและรวบรวมสติเอาไว้
ก่อนจะลูบหัวเสี่ยวซวี ด้วยพลังจากสัญญาก็ทำให้เสี่ยวซวีเข้าใจความคิดของเขาและมุ่งหน้าไปทางตะวันออกของภูเขาทันที
“นั่นมันอะไร ? สัตว์อสูรขนาดใหญ่นั่น ? ”
“เหมือนมีคนอยู่บนหัวของมันด้วย ! ”
ผู้คนด้านล่างต่างก็พากันตะโกนกันออกมา
มีคนจำนวนมากที่ด้านนอกภูเขาต้าเหยียน พวกเขาคือพวกใจกล้าที่มุ่งหน้ามาที่นี่ทันทีที่เห็นข่าว
คนเหล่านี้มองดูเงาที่พุ่งตัดผ่านก่อนจะหายไปบนท้องฟ้าด้วยสีหน้าตื่นตะลึง
บางคนถึงกับรีบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเอาไว้
เมื่อเผยแพร่รูปนี้ในอินเตอร์เน็ตก็ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างร้อนระอุ