ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1373 คล้อยตาม
ตอนที่ 1373 คล้อยตาม
ความเร็วของฉู่หลิวเยว่ว่องไวนัก เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงใต้ต้นโพธิ์สีทองม่วงแล้ว
นางเงยศีรษะขึ้นไปมอง
ใบไม้สีสันแวววาวชวนตราตรึงใจไหวไปตามลม ดูแล้วสว่างระยิบระยับ
กระแสลมแผ่วเบาไร้รูปร่างที่ไหลเวียนอยู่รอบบริเวณ แผ่ขยายลมปราณเปี่ยมพลังชีวิตอันน่าตื่นตะลึงออกมา
ใบโพธิ์สีทองม่วงเป็นสิ่งที่ต่อให้อยู่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่เองก็ถือเป็นสมบัติเลอค่าอันหาได้ยากยิ่ง
ต้นโพธิ์สีทองม่วงที่มาปรากฏต่อหน้าครานี้จึงทวีความล้ำค่ามากยิ่งกว่า
หากมิใช่เพราะเบื้องหน้ามีหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์และอินทรีสามตาเป็นโขยง ยามทุกคนได้ยลต้นไม้ชนิดนี้ ย่อมไม่มีทางนิ่งเฉยปานนั้นเหมือนในขณะนี้เป็นแน่แท้
แน่นอนว่าที่พวกเขาไม่ขยับเขยื้อนกันนั้น ยังมีเหตุผลอีกข้อหนึ่ง
…ต่อหน้าอินทรีสามตา การวางมือลงไปบนต้นโพธิ์สีทองม่วงเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ เลยมิใช่หรือไร!?
ฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ ก่อนจะหันศีรษะกลับไปมอง
อินทรีสามตาจำนวนหนึ่งที่ตามมาถึงแล้วต่างพากันล้อมนางไว้เป็นวงกลม
ฉู่หลิวเยว่รับรู้ได้ถึงความเกลียดชังที่แผดเผาอยู่ในนัยน์ตาของพวกมันได้อย่างชัดเจน!
นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ความเกลียดชังที่ส่งผ่านมานี้ค่อนข้างจะกะทันหันอยู่บ้าง
ต่อให้นางยื่นมือเข้ามาช่วยชือรุ่ยเออร์ พวกมันเองก็ไม่น่าจะมีปฏิกิริยาต่อนางเช่นนี้
เช่นนั้น… ก็เป็นเพราะเรื่องอื่นอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าเป็นเพราะหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ของปลอมอันนั้น?
ความคิดนี้เพิ่งจะแวบผ่านเข้ามาในหัว อินทรีสามตาตัวหัวหน้าพลันกระพือปีกในทันใด!
ขณะเดียวกันมันก็ส่งเสียงร้องเสียดแหลมออกมาด้วย!
เพล้ง!
เสียงของแตกกระจายดังฟังชัดพลันแว่วเข้ามา!
มันเป็นเสียงของหม้อน้ำโปร่งแสงที่ลอยเคว้งกลางอากาศอยู่ไม่ไกล ที่แตกปะทุออกอย่างเฉียบพลัน!
ทุกคนล้วนตกใจเสียจนนิ่งอยู่กับที่
จากนั้น พวกเขาก็พบว่าชิ้นส่วนที่แตกกระจายของหม้อน้ำโปร่งแสงอันนั้นก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว แสงสว่างสาดเรืองรอง สุดท้ายเหลือเพียงกลุ่มเปลวเพลิงโปร่งใสเท่านั้น
ฟึ่บ!
เปลวเพลิงโปร่งใสกลุ่มนั้นพุ่งทะยานมาหานาง! ทว่าสุดท้ายก็ถูกอินทรีสามตาที่อยู่เบื้องหน้าจับกลืนลงไปเสียทั้งอย่างนั้น!
แววตาของฉู่หลิวเยว่เป็นประกาย
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง…
เปลวเพลิงกลุ่มนั้นเป็นเพลิงที่อยู่ภายในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
ไม่รู้ว่าอินทรีสามตาพวกนั้นใช้วิธีการอันใดมาใช้ลอกเปลือกนอกของเปลวเพลิงนั่น ทั้งยังเก็บรักษาไว้มาจนถึงปัจจุบัน ดูท่าแล้วคงทำกระทั่งว่าควบคุมเปลวเพลิงให้เปลี่ยนมาเป็นพลังของตัวเอง
พวกมันอาศัยเพลิงกลุ่มนี้เล่นแร่แปรธาตุกลายมาเป็นหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ แล้วล่อลวงทุกคนเข้ามา
ส่วนจุดประสงค์ที่ทำไปน่ะหรือ…
ก็เพื่อหาตัวคนครอบครองหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ของจริง!
ในตอนที่นางลงมือหวดเปลวเพลิงจากหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ของปลอมนั่นจนแตกกระจาย พวกมันคงจะรับรู้ได้ถึงจุดนี้แล้ว
เช่นนั้นความเกลียดชังอันเต็มเปี่ยมก็มาจากตรงนี้กระมัง
ฉู่หลิวเยว่ทาบมือลงบนลำต้นไม้อย่างแผ่วเบา
ก่อนจะถ่ายทอดลมปราณสายหนึ่งเข้าไปข้างใน!
“เขาช่างเอ้อระเหยเสียจริง!”
ฝูงชนที่จับตาอยู่ไม่ชอบใจกับสิ่งที่เห็นเท่าไรนัก อดไม่ได้ที่จะเอ่ยวิจารณ์เสียงเบาขึ้นมา
“ต้นโพธิ์สีทองม่วงเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าอินทรีสามตา จะยอมให้ผู้อื่นทำแปดเปื้อนได้หรือไร?”
“ข้าว่าฉู่เยว่ช่างลำพองใจโดยแท้ คิดว่าตัวเองบุกทะลวงเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าแล้วจะทำอันใดตามใจก็ได้เลยหรือ ไม่รู้เสียแล้วว่าผู้แข็งแกร่งมากมายมหาศาลบนโลกใบนี้ มีบุคคลอีกมากที่เขาจะไปสร้างปัญหาให้ด้วยไม่ได้เลย!”
“ได้ยินมาว่าฉู่เยว่ผู้นั้นทำพันธสัญญากับกษายะหางวายุ ก็เป็นเพราะเหตุนี้กระมังถึงได้มั่นอกมั่นใจถึงเพียงนี้?”
“นั่นแล้วอย่างใด? กษายะหางวายุกับอินทรีสามตา แต่ไหนแต่ไรมาก็เหมือนน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง แต่ถ้าหากต้องมาสู้กันจริงๆ น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ฉู่เยว่เองก็ใช่ว่าจะได้เปรียบอันใดเสียหน่อย!”
อินทรีสามตาตัวที่อยู่ข้างหน้าสุดพลันทะยานร่างพุ่งเข้ามาหาฉู่หลิวเยว่โดยตรง!
ฉู่หลิวเยว่หลับตาลง
บนต้นโพธิ์สีทองม่วง เจริญงอกงามไปด้วยกิ่งก้านใบที่แตกแขนง
ยามลมอ่อนๆ พัดผ่านมา ใบไม้ก็จะพากันระบำไหวตามลม
เสียงที่อยู่ข้างหูของฉู่หลิวเยว่พลันห่างไกลออกไป ทุกอย่างล้วนเงียบสงัดและเยือกเย็น
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังมองมาทางนี้
ฝีปากอันแหลมคมจำนวนนับมาถ้วนกำลังจะจิกลงบนหน้าของฉู่หลิวเยว่!
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงกำมือแน่น รู้สึกราวกับว่าหัวใจจะกระโจนออกมาจากอกอย่างใดอย่างนั้น!
แววตาของชือรุ่ยเออร์ฉาบชัดด้วยความสิ้นหวัง นางมองดูภาพฉากนี้อย่างเหม่อลอย หางตาเปรอะด้วยน้ำตาสีใสที่ไหลลงทั้งสองข้าง
มุมปากของเจียงจื่อหยวนค่อยๆ หยักยกรอยยิ้มเย็นเยียบขึ้นมาช้าๆ
ทว่าในตอนนั้นเอง ต้นโพธิ์สีทองม่วงพลันสั่นไหวเบาๆ!
ซู่ซ่า…
ใบไม้และกิ่งก้านต่างส่งเสียงดังกรอบแกรบ!
แสงสว่างเรืองรองเจิดจ้าพลันส่องแสงระยิบระยับ!
อินทรีสามตาตัวนั้นพลันหยุดการกระทำทุกอย่างลงตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่
หลังจากแข็งทื่อไปชั่วขณะ ดวงตาที่ใช้จ้องฉู่หลิวเยว่เขม็งแปรเปลี่ยนจากเกลียดชังเป็นตกตะลึงกอปรกับไม่อยากเชื่อตาตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกยินดีปรีดาอย่างบ้าคลั่งในท้ายที่สุด!
มันเก็บปีกของตน ก่อนจะร่อนลงตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่ จากนั้นก็ค้อมศีรษะลงแสดงการคำนับ
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลง
กระแสลมพัดผ่านมาวูบหนึ่ง กิ่งก้านใบไม้จึงค่อยๆ หยุดสั่นไหวลง
การเคลื่อนไหวของอินทรีสามตาตัวนั้นหยุดชะงัก ในนัยน์ตาปรากฏแววเข้าใจในอันใดบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน
จากนั้นมันก็เดินถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะกู่ร้องขึ้นสู่ฟ้า
ฉู่หลิวเยว่พลันรู้สึกว่าต้นโพธิ์สีทองม่วงข้างกายเกิดการสั่นสะเทือนเลือนลั่น
นางเงยศีรษะขึ้นไปมองดู
ก่อนจะพบว่าใบโพธิ์สีทองม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนต่างปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว!
พวกมันลอยเคว้งไปในอากาศ แต่ละใบต่างก็เชื่อมต่อเข้าหากันจนก่อร่างเป็นค่ายกลขนาดใหญ่!
“รีบถอยมาเร็ว!”
เสียงของใครสักคนร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นตกใจ
ในที่สุดกลุ่มคนที่ปิดปากเงียบกริบก็เริ่มเกิดความอลหม่าน!
กองกำลังจากแต่ละสำนักต่างทยอยถอยหลังกันเป็นระวิง!
คนจากตระกูลเฟยซิงเหมินมือไวตาไว ต่างก็รีบรุดไปข้างหน้าเพื่อช่วยพยุงชือรุ่ยเออร์
“ไม่ได้นะ! ฉู่เยว่ยังอยู่ข้างในนั้น!”
ชือรุ่ยเออร์ดิ้นรนเต็มที่ด้วยอยากจะกลับเข้าไป
ผู้อาวุโสคิ้วขาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก
“พวกเจ้าพาคุณหนูรองออกไปก่อน ข้าจะไปหาวิธีช่วยฉู่เยว่ออกมา!”
ด้วยชือรุ่ยเออร์ในตอนนี้ที่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว ต่อให้อยู่ต่อก็ช่วยอันใดใครไม่ได้ ซ้ำยังอาจจะเป็นตัวถ่วงรั้งไว้อีก
ชือรุ่ยเออร์เองก็เข้าใจถึงจุดนี้ได้อย่างรวดเร็วจึงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เก็บเอาคำพูดที่เหลือกลับลงไป ก่อนจะหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ใต้ต้นโพธิ์สีทองม่วงด้วยความเป็นห่วงแกมร้อนใจ
นี่เขาคิดจะ…
ร่างของผู้อาวุโสฮวาเฟิงเคลื่อนไหววาบ เขาพุ่งไปยังทิศทางนั้นแล้วเป็นที่เรียบร้อย!
แต่ว่าความเร็วในการรวมตัวกันของค่ายกลเร็วกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก!
ไม่รอให้เขาได้เข้าไปใกล้ฉู่หลิวเยว่ ค่ายกลสีทองม่วงก็ขวางกั้นลงตรงหน้าเขา!
แรงกดดันมหาศาลที่มีพลังมากกดทับลงมา ผู้อาวุโสฮวาเฟิงยังไม่ทันได้แตะค่ายกลเสียด้วยซ้ำ ร่างกายก็ถูกดีดปลิวออกไป!
คนทุกคนไม่ว่าจะต่อต้านหรือนิ่งเฉย ต่างก็ถูกบังคับให้ต้องถอยกลับไป ก่อนจะกระจัดกระจายกันไปทั่วทุกสารทิศ
พวกเขามองภาพฉากตรงหน้าด้วยอาการตะลึงพรึงเพริด
…ค่ายกลสีทองม่วงอันสว่างระยิบระยับเข้าปกคลุมทุกสิ่ง! และยังแยกตัวออกจากทุกอย่างด้วย!