ภาพเทพอสูรบรรพกาล : Archean Eon Art - ตอนที่ 175
ตอนที่ 175 หลบหนี
เมิ่งชวนโล่งใจที่เขาใส่เกราะในเอาไว้ แม้เครื่องในจะเจ็บปวดจากแรงกระแทก แต่ร่างกายก็ยังอยู่ครบและมีพลังเต็มเปี่ยม
เขาใช้วิชาต้องห้ามในทันทีในตอนที่ปลิวกระเด็นไปกระแทกกับบ้านเรือนและต้นไม้! เพราะเขารู้ว่าหากไม่ทําเช่นนั้นเขาคงตายไปแล้ว
‘หากข้าไม่เสียงชีวิต ข้าคงจะตายไปแล้ว’ เมิ่งชวนยังมีหลายสิ่งที่ยังไม่ได้ทําแน่นอนว่าเขาไม่ยอมแพ้และ ตายอยู่ตรงนั้นหรอก
ตูม!
เมิ่งชวนที่นอนอยู่บนพื้นปล่อยพลังที่มีทั้งหมดออกมาเขาหลอมรวมพลังของแก่นสารแห่งจิตเข้ากับร่างกาย และพลังปราณหลังจากใช้วิชาต้องห้ามไปจนเต็มที่ ความเร็วของเขาก็ไปถึงขีดสุด หางงูสีดํากวาดลงมา แต่ก็ฟาดใส่ได้เพียงภาพติดตาของเมิ่งชวนร่างของเมิ่งชวนอยู่ห่างออกไปสามฉือแล้ว เขาหลบการโจมตีได้อย่างฉิวเฉียด
มันหลบได้? เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง หางสีดําที่ยาวกว่าสิบจิ้งที่งอกออกมาจากก้นกบของเขาคือร่างกิ่งอสูรร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของมัน
ในตอนนั้นเอง แววตาของเจ้าวังเฮียลุ่ยเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ มันตกใจที่เมิ่งชวนยังไม่ตาย เพราะว่ามันมั่นใจมากว่าแม้เมิ่งชวนจะยังไม่ตาย แต่ก็ต้องบาดเจ็บสาหัส! “เมิ่งชวนนั้นเป็นเพียงเทพอสูรมหาสุริยัน เขาฝึกร่างอสูรตัดสายฟ้าที่มีชื่อเสียงในด้านความเร็ว ซึ่งหากเป็นความแข็งแกร่งของกายภาพนั้นธรรมดามาก ด้วยพลังของอสูรฟ้าระดับสี่แล้ว ถึงมันจะทําลายเกราะไม่ได้ แต่แรงกระแทกนั้นก็ควรจะสังหารเมิ่งชวนได้ และแม้ เขาจะไม่ตายจากแรงกระแทก แต่ก็ควรจะบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย
“เมิ่งชวนที่ควรจะบาดเจ็บสาหัสกลับเคลื่อนที่ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อได้รี? มันหลบการโจมตีของข้าได้รึ?”
“หนี” เมิ่งชวนหลบหางสีดํานั้นและรีบหนีไปโดยไว พยายามเว้นระยะห่าง
มันเป็นการปะทะกันธรรมดา แต่ว่าเขาก็ยังเสียเปรียบอย่างมากแม้จะใช้พลังเต็มที่! เขาโจมตีเต็มกําลังได้อีกเพียงแปดครั้งเท่านั้น แม้แก่นสารแห่งจิตของเขาจะพัฒนาขึ้นตลอดนับตั้งแต่สองปีที่ลงจากเขามาในตอนนี้เขา โจมตีเต็มกําลังไปแล้วสามครั้ง จะทําอะไรได้อีกเล่านอกจากหนี?
“เจ้าจะหนีได้รึ?” เสียงของเจ้าวังเฮยฉัยดังก้องไปทั่วซากปรักหักพัง
โอ?” สีหน้าของเมิ่งชวนเปลี่ยนไป
ไม่เพียงแต่เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยจะไล่ตามเขามา แต่น้ําฝนรอบๆเองก็ถูกควบคุมยิ่งไปกว่านั้น น้ําจากแม่น้ํารอบๆก็ลอยขึ้นมาด้วยเช่นกัน
สายน้ําอันทรงพลังที่ยาวกว่าหนึ่งลี้ล้อมรอบเมิ่งชวนจากทุกด้าน พยายามยังเมิ่งชวนไว้ภายใต้กรงน้ําลึก
“ข้าปล่อยให้มันเข้ามาใกล้ข้าไม่ได้ หากมันเข้ามาใกล้ ถึงข้าจะปล่อยพลังของแก่นสารแห่งจิตไปด้วย ข้าก็ทนอยู่นานไม่ได้อยู่ดี ข้าจะต้องเสียชีวิตเป็นแน่” เมิ่งชวนเข้าใจดี
เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยเรียกได้ว่าธรรมดาในหมู่อสูรฟ้าระดับสีทั้งสิบเอ็ดคน ตามข้อมูลของเขาหยวนชู เขาแข็งแกร่งพอๆกับเฟิงโหวเทพอสูรอย่างไรก็ตาม เขาแตกต่างจากเมิ่งชวน หยางฟาง และจางหวินเฟิง เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยนั้น เป็นอสูรฟ้าระดับสี่เมื่อเข้าถึงระดับสี่แล้วความแข็งแกร่งในทุกๆด้านจะเพิ่มขึ้น
เขตแดน การโจมตีระยะไกลการโจมตีระยะประชิด ร่างกายพลังอสูร และระดับวิชา แม้เขาจะไม่โดดเด่น เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆในระดับเดียวกัน แต่เขาก็ยังค่อนข้างแข็งแกร่งในทุกๆด้านอยู่ดี
ส่วนเมิ่งชวนน่ะหรือ?
ถึงใช้วิชาต้องห้ามเทพอสูรและสิ่งต่างๆแล้ว แต่เขาก็ไปถึงระดับของเฟิงโหวเทพอสูรได้เพียงฉิวเฉียดเท่านั้น นอกจากความเร็วแล้ว เขายังธรรมดาในทุกๆด้าน ในแง่ของระดับวิชาแล้ว เขาแพ้อีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง! ในฐานะอสูรฟ้าระดับสี่ เจ้าวังเฮียลุ่ยได้ไปถึงระดับเฟิงโหวเทพอสูร เขาเข้าถึงเขตแดนแห่งวิถีขั้นสูงแล้ว ในขณะที่เมิ่งชวนไปถึงเพียงจิตวิญญาณกระบี่ขั้นสูงเพียงเท่านั้น ความแตกต่างนั้นมากเกินไป ดังนั้นท่าร่างบัวแดงของเขาจึงถูกทําลายได้อย่างง่ายดาย ความแตกต่างในระดับวิชาทําให้ท่าของโลหะทมิฬนั้นไร้ประโยชน์
ในแง่พละกําลังของวิชา? มันธรรมดามากเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยเหนือกว่าเขาโดยสิ้นเชิง
เมิ่งชวนได้เปรียบในแง่ของความเร็ว วิชากระบี่และทักษะการเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วกว่า ดังนั้นเขาจึงไวกว่าเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยมาก แต่ว่าด้วยความแตกต่างของระดับวิชา เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยสามารถทําลายวิชากระบี่ของเมิ่งชวนได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้น การปะทะกันระยะประชิดหมายถึงความตาย!
ซูม!
คลื่นน้ํายังคงล้อมรอบเมิ่งชวนในขณะที่เขาพยายามจะหนีจากเจ้าวังเฮ่ยนุ่ย
เมื่อเขตแดนสายน้ําเข้ามาใกล้ เมิ่งชวนก็ปล่อยกระแสพลังวินาศออกไปทุกทิศทางในทันที ความเย็นอันมหาศาลทําให้น้ํากลายเป็นน้ําแข็ง! แม้เมิ่งชวนเคยพยายามจะดูดซับกระแสพลังวินาศเหมันต์เงียบสงัด แต่เขาก็ไม่สามารถดูดซับได้หมดแม้จะมีกายาเพชระก็ตาม เขาต้องฝึกฝนร่างกายให้ไปถึงอีกระดับหนึ่งก่อนถึงจะลองได้อีกครั้ง แต่ถึงกระนั้น เขตแดนพลังวินาศของเขาก็ทรงพลังมากแล้วในหมู่เทพอสูรมหาสุริยัน
ในจังหวะที่น้ําแข็งเป็นน้ําแข็งนั่นเอง
ซูวๆๆๆ!
สายน้ําเจ็ดสายพุ่งเข้าใส่เขตแดนกระแสพลังวินาศ ราวกับมังกรวารที่โจมตีเข้ามา
มังกรวารีทั้งเจ็ดไม่ใช่เขตแดนวารีขนาดใหญ่นั้น แต่มันเป็นสายน้ําที่เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยควบคุมด้วยพลังอสูร มันทรงพลังกว่ามาก และกระแสพลังวินาศของเมิ่งชวนไม่สามารถแช่แข็งมันได้
“เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยพยายามจะหยุดข้า หากมันตามข้าทันข้าเสร็จแน่” เมิ่งชวนไม่ลดความเร็วลงแม้แต่น้อย แต่การเคลื่อนไหวของเขาเริ่มคาดเดาไม่ได้มากยิ่งขึ้น
ฟึบ!
ภายในพริบตาก็มีร่างเงาจํานวนมากปรากฏขึ้น ทําให้มังกรวารีไม่สามารถสกัดเขาได้ และแม้มังกรวารีจะสกัดร่างจริงของเมิ่งชวนได้ แต่มันก็ถูกตัดทิ้งด้วยกระบี่ของเมิ่งชวน
แม้เขาจะไม่สามารถเอาชนะเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยได้ในการโจมตีระยะประชิด แต่การโจมตีระยะไกลจะทําอะไรเขาได้?
ในขณะที่หนี เมิ่งชวนทําได้เพียงหลอมรวมแก่นสารแห่งจิตเข้ากับพลังปราณ เขาไม่ได้รวมเข้ากับร่างกายอีกต่อไป! พลังของแก่นสารแห่งจิตนั้นจะอยู่ได้ไม่นานาหากเขารวมมันเข้ากับร่างกายและพลังปราณ
แม้เขาจะหลบมังกรวารอยู่ แต่การหลบหนีของเมิงชวนก็ยังไว
“อีกไม่นานข้าก็จะหนีออกไปได้ร้อยจัง ตราบใดข้ายังอยู่ห่างออกไปหนึ่ง การโจมตีของมันจะอ่อนแอลงมากเป็นแน่ มันจะไม่เป็นอันตรายต่อข้าอีกต่อไป” เมิ่งชวนยังคงพุ่งต่อไป
ลื่นไหลเสียจริง แต่ก็ยังดีที่นอกจากความเร็ว มันก็ไม่เป็นอันตรายแม้แต่น้อย” เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยขมวดคิ้วเมื่อเขาเห็นว่าระยะทางระหว่างเขาและเมิ่งชวนนั้นไกลออกไป จนในที่สุด เขาก็ซัดเข็มวารีทั้งสองออกไปและพุ่งเข้าใส่เมิ่งชวนด้วยความเร็วสูง
“อาวุธของเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยรี?’ เมิ่งชวนตกใจ
เข็มวารีทั้งสองพุ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วที่มากกว่าเมิ่งชวน ในไม่ช้ามันก็ตามเขาทัน จากนั้นสายน้ําก็เปลี่ยนรูปร่างกาลายเป็นมือ มือทั้งสองข้างนั้นจับเข็มวารีและใช้กระบวนท่าสังหาร หนามวารีนั้นทําให้มิติบิดเบี้ยวทุกครั้งที่มันโดนเป้า การโจมตีนั้นคาดเดาไม่ได้และยากที่จะรับมือ ความเร็วของเข็มวารีตามเมิ่งชวนได้ทันแม้ จะโจมตีไปด้วยก็ตาม
แกร็งๆๆ!
เมิ่งชวนเคลื่อนที่ราวกับวิญญาณในขณะที่พุ่งผ่านบ้านเรือนตามถนน เขาใช้ท่าร่างบัวแดงเพื่อป้องกันเข็มวารีด้วยเช่นกัน
เมืองหลวงของรัฐเจียงนั้นมีประชากรที่หนาแน่น ทุกๆเสี้ยวของที่ดินนั้นมีค่ามากราวกับทอง บ้านเรือนจึงอยู่ติดกันอย่างหนาแน่น เพราะเมิ่งชวนใช้กระบวนท่านกนางแอ่นในขณะการหลบหนี การเคลื่อนที่ในพื้นที่อยู่อาศัยจึงคาดเดาไม่ได้ เข็มวารีทั้งสองทําลายอาคารในขณะที่มันไล่ตามเมิ่งชวนการบังคับจากระยะไกลนั้นย่อมด้อย กว่าการบังคับระยะใกล้อยู่แล้วยิ่งไปกว่านั้น เพราะอาคารมากมายที่ขวางอยู่ พลังของเข็มวารีจึงน้อยลงไปกว่าเดิม แน่นอนว่านั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหยุดเมิ่งชวนได้
120 จัง 130 จัง อีกไม่นานข้าก็จะหลุดจากเขตแดนของมัน” เมิ่งชวนมั่นใจขึ้น
“บ้าเอ๊ย” เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยถือเข็มวารอยู่ไกลๆ แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถย่นระยะห่างระหว่างพวกเขาลงได้แม้แต่น้อย นั่นทําให้เขารู้สึกกังวลมาก
ในจังหวะนั้นเอง เขาร่ายวิชาต้องห้ามออกมา! พลังอสูรพุ่งสูงขึ้น!
“กรงวารี”! เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยใช้พลังทั้งหมดที่มี
ซูมๆๆ!
เข็มวารีทั้งสองเล่มนั้นเพิ่มความเร็วและความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง พวกมันโค้งรอบตัวเมิ่งชวนหลายรอบ พยายามจะขัดขวางเขา หนามวารีโผล่และหายไปอย่างไรร่องรอย มันสามารถโจมตีได้จากทุกทิศทางเมื่อไหร่ก็ได้ กระทั่งจากด้านล่าง! เมิ่งชวนต้องให้ความสําคัญกับการป้องกันหนามวารีมากกว่าเดิมนั่นทําให้เขาล่าถอยได้ช้าลง เจ้าวังเฮ่ยนุ่ยไม่ช้าลงแม้แต่น้อยกลับกัน หลังจากที่ใช้วิชาต้องห้ามความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นถึง 3 ส่วน!
“ข้าจะช้าลงไม่ได้ เมิ่งชวนเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาอยู่ห่างกันเพียง 130 จัง หากเขาช้าลง เพียงไม่กี่วินาทีก็จะถูกตามทันเป็นแน่
“ข้าจะทุ่มสุดตัว!” เมิ่งชวนรวมพลังของแก่นสารแห่งจิตเข้ากับร่างกายและพลังปราณ แม้ว่าจะต้องใช้พลังของแก่นสารแห่งจิต แต่ความเร็วและพละกําลังของเมิ่งชวนก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
แกร็งๆๆ!
เขาปัดป้องหนามวารี ความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น
140 จัง 150 จัง!
“หยุดเดี๋ยวนี้!” สีหน้าของเจ้าวังเฮ่ยนุ่ยดูโกรธเกรี้ยว
ด้วยพละกําลังที่มีทั้งหมด ในที่สุดเมิ่งชวนก็อยู่ห่างจากเจ้าวังเฮ่ยุ่ยไปเกือบหนึ่ง เข็มวารีที่ถูกบังคับโดยอนน้ําก็หยุดลง
ฟึบ
เมิ่งชวนถอยห่างออกไปอีกหนึ่งลี้โดยไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ เพียงพริบตาเขาก็อยู่ห่างออกไปสองลี้ เมิ่งชวน ยืนบนหลังคาของภัตตาคารและมองไปที่เจ้าวังเฮียลุ่ยจากระยะไกลในที่สุดเขาก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกข้ารอด!”
พลังของแก่นสารแห่งจิตได้หายไปถึงเจ็ดส่วน ตอนนี้เขาเหลือเพียงสามส่วนเท่านั้น! เขามีภาพวาดของภรรยา ภาพวาดที่เขาวาดหลังจากงานแต่งต้องขอบคุณภาพนั้นที่ทําให้แก่นสารแห่งจิตของเขามีพลังเพิ่มขึ้น ไม่เช่นนั้นเขาคงจะทนได้ไม่นานขนาดนี้