ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 319 หาเรื่องให้ตัวเองหงุดหงิดใจ
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 319 หาเรื่องให้ตัวเองหงุดหงิดใจ
ตอนที่ 319 : หาเรื่องให้ตัวเองหงุดหงิดใจ
หลังจากอธิบายโฆษณารับสมัครงานอย่างชัดเจนแล้ว เจียงเสี่ยวไป๋จึงไม่ได้อยู่ในสำนักงานอีกต่อไป
เขาออกจากออฟฟิศอย่างรวดเร็ว เดิมทีเขาตั้งใจจะกลับ ทว่ากลับเปลี่ยนใจตรงไปที่ห้องทำงานของฟู่เต๋อเจิ้ง
“หัวหน้าเจียง ผู้มาเยือนที่หายาก ! ”
“ทำไมวันนี้คุณถึงมีเวลาว่างได้ล่ะ ? ”
ฟู่เต๋อเจิ้งแซวเจียงเสี่ยวไป๋
เจียงเสี่ยวไป๋ยักไหล่และยื่นซองบุหรี่ให้เขา “ผมไม่ได้มาที่นี่มาสองสามวันแล้ว กังวลว่าบุหรี่คุณจะหมด เลยเอาบุหรี่มาให้คุณเป็นของขวัญ”
ฟู่เต๋อเจิ้งไม่ลังเลที่จะเก็บบุหรี่ลงในกระเป๋าแล้วพูดว่า “ถ้าคุณมีธุระก็พูดมา ถ้าไม่ก็ไปซะ ฉันไม่มีเวลาคุยเล่นกับคุณ”
ในอดีต เจียงเสี่ยวไป๋จะมาหาเขาเฉพาะเมื่อมีเรื่องต้องหารือเท่านั้น
แต่ต่อมา ผู้ชายคนนี้บางครั้งก็มาทำธุรกิจ และบางครั้งก็มาที่นี่เพื่อพูดคุยเล่น ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
สิ่งนี้ทำสับสน เพราะเขารู้สึกว่าไม่สามารถคาดเดาเจียงเสี่ยวไป๋ได้
ดังนั้น เขาจึงต้องถามอย่างตรงไปตรงมา
เจียงเสี่ยวไป๋ไม่สนใจว่าฟู่เต๋อเจิ้งจะคิดยังไง เขานั่งลงบนเก้าอี้แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร ผมกินปากปลาหม้อไฟกับเพื่อนเก่าของคุณมาเมื่อตอนเที่ยง และผมรู้สึกว่าปากมันเยิ้มไปนิดหน่อย เลยแวะมาสูบบุหรี่ที่ออฟฟิศของคุณ”
ขณะที่พูด เจียงเสี่ยวไป๋ก็หยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟโดยไม่ลังเล
มาดูกันว่าใครจะสามารถสร้างความรำคาญให้อีกฝ่ายได้มากกว่ากัน ?
ฟู่เต๋อเจิ้งอยากจะตบปากตัวเองสักที ทำไมเขาต้องไปต่อปากต่อคำกับเจ้าเด็กคนนี้ด้วยนะ นี่มันหาเรื่องให้ตัวเองหงุดหงิดใจเปล่า ๆ
แม้เขาไม่ต้องการสนทนากับเจียงเสี่ยวไป๋ แต่คำว่าปากปลาหม้อไฟได้ดึงดูดเขาเข้าแล้ว
“ปากปลาหม้อไฟคืออะไร ? ”
“อาหารจานใหม่นี้มาจากไหน ? ”
ฟู่เต๋อเจิ้งอดถามไม่ได้
“ปากปลาหม้อไฟก็ต้องมีปากของปลาเป็นวัตถุดิบหลักสิ ในเมืองชิงโจว นอกจากผมแล้ว ใครล่ะที่สามารถทำอาหารที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้ได้ แน่นอนว่าผมปรุงมันขึ้นมาเองและเชิญเพื่อนเก่าของคุณให้มาลองชิมดู ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวอย่างไม่เป็นทางการ
ฟู่เต๋อเจิงรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เจ้าเด็กคนนี้ไม่มีน้ำใจจริง ๆ เขาทำเมนูใหม่ แต่ไม่เชิญฉันไปชิมด้วยซ้ำ ?
“ฉันก็สงสัยว่าทำไมคุณถึงมาหาฉัน ที่แท้เป็นเพราะบ่ายนี้คุณจะเลี้ยงปากปลาหม้อไฟฉันนี่เอง”
“เดิมทีฉันมีนัดแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาชิมอาหารของคุณ ฉันจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ตาม”
ฟู่เต๋อเจิ้งกลอกตาของเขา แล้วแสร้งทำเป็นเข้าใจว่าเป็นแบบนั้น
เจียงเสี่ยวไป๋ถึงกับพูดไม่ออก เขาคิดว่า: ให้ตายเถอะ ! ฉันว่าตัวเองหน้าด้านมากแล้ว แต่เขาเป็นถึงประธานสำนักข่าวรายวัน กลับหน้าหนากว่าฉันอีก !
“เหล่าฟู่ คุณเข้าใจผิดแล้ว ! ”
“บ่ายนี้ผมไม่มีเวลากินข้าวกับคุณหรอก ! ”
“ขอตัวก่อนนะครับ ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋หันหลังกลับทันที และรีบเดินออกไปโดยที่ยังสูบบุหรี่ไม่หมดตัว
หากเขายังอ้อยอิ่งอยู่ที่นี่ ฟู่เต๋อเจิ้งอาจลากเขาเข้าไปในครัวเพื่อบังคับให้เขาทำอาหารในบ่ายวันนี้
“เฮ้ เฮ้ เฮ้ ทำไมคุณถึงออกไปแบบนั้นล่ะ ? ”
ฟู่เต๋อเจิ้งไม่คิดว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะหนีไปแบบนี้ ผู้ชายคนนี้ฉลาดแกมโกงมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว
เฮ้อ ถ้ารู้แต่แรกคงปิดประตูไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
ปากปลาหม้อไฟเลยนะ !
ฟังดูน่าอร่อยมาก ฉันยังอยากลองชิมอยู่เลย !
ฟู่เต๋อเจิ้งดูหงุดหงิดเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะขึ้นไปนั่งบนรถของเขาแล้ว แต่เขายังคงมีสีหน้าหวาดกลัวอยู่บ้าง
เมื่อปัญญาชนแสดงออกอย่างไร้ยางอาย มันช่างน่ากลัวจริง ๆ !
ในอนาคต เขาจำเป็นต้องระวังให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฟู่เต๋อเจิ้ง !
หลังออกมาจากสำนักข่าวแล้ว เขาก็คิดที่จะไปเจียงเฉิงในวันพรุ่งนี้แล้วค่อยไปที่เจียนหยาง ซึ่งกว่าจะกลับมาที่ชิงโจวต้องใช้เวลาหลายวัน เขาจึงตัดสินใจที่จะไปดูที่โรงงานฟิล์มพลาสติกเสียหน่อย
หลังจากมาถึง เจียงเสี่ยวไป๋ก็ตรงไปที่ห้องทำงานของเมิ่งเสี่ยวเป่ย
“สวัสดีผู้ช่วยเจียง วันนี้คุณมาที่นี่มีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติมใช่ไหม ? ”
เมิ่งเสี่ยวเป่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นลุกขึ้นเพื่อเตรียมชาหลงจิ่งให้เขา
คราวนี้เธอใช้แก้วในการชงชา
เพราะครั้งก่อนที่เธอชงชาหลงจิ่ง เธอได้ใช้ถ้วยพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งเจียงเสี่ยวไป๋บอกว่าการทำแบบนี้จะทำให้ชาดีเสียรสชาติ
เจียงเสี่ยวไป๋มองไปที่ถ้วยแก้วใสและเข้าใจอย่างชัดเจน
เป็นความจริงที่ว่าผู้หญิงมีความใส่ใจในรายละเอียด แม้แต่คำพูดธรรมดาของเขา เธอก็จดจำได้อย่างชัดเจน
“ผมไม่มีคำแนะนำอะไร พรุ่งนี้ผมจะไปเจียงเฉิง และอีกหลายวันกว่าจะกลับมาที่ชิงโจว ผมคิดว่าคงไม่สามารถมาที่นี่ได้สักพัก เลยมาดูว่ามีเรื่องอะไรที่ผู้จัดการเมิ่งต้องการปรึกษาผมหรือเปล่า ? ” เจียงเสี่ยวไป๋ถาม
เมิ่งเสี่ยวเป่ยรวบกระโปรงสั้นของเธอนั่งลงตรงข้ามกับเจียงเสี่ยวไป๋ เธอเม้มริมฝีปากเชอร์รี่แล้วพูดว่า “ผู้ช่วยเจียง คุณทำงานของคุณอย่างสบายใจได้เลย ฉันสามารถจัดการงานที่นี่ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “ผมเชื่อในความสามารถของคุณ”
ทั้งสองพูดคุยกันแบบสบาย ๆ สักสองสามคำ หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋ดื่มชาเสร็จแล้ว เขาก็บอกลาและจากไป
หลังกลับมาที่โรงงานผลิตเครื่องปรุงรสและจอดรถแล้ว เขาก็ไปที่โรงงานผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง
“เสี่ยวไป๋ นายมาพอดี ฉันกำลังจะไปหานายอยู่แล้วเชียว ! ”
เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ เฉินหยวนเฉาก็เอ่ยทัก
เจียงเสี่ยวไป๋ถามด้วยความประหลาดใจว่า “พี่มีอะไรหรือเปล่า ? ”
เฉินหยวนเฉากล่าวว่า “มีสามเรื่องที่พี่จะรายงานให้นายรู้”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าและยื่นบุหรี่ให้เขา เฉินหยวนเฉารับมาจุดสูบและเริ่มพูดขณะสูบบุหรี่
“เรื่องแรกเกี่ยวกับว่านจิ่งหลง รองผู้จัดการโรงงานเครื่องดื่มเถิงต้า คนที่ฉันบอกนายไปก่อนหน้านี้ เรื่องที่นายจะให้เขาทำ เขาตกลงทำแล้วนะ”
เจียงเสี่ยวไป๋พยักหน้าเป็นการรับทราบ
เฉินหยวนเฉายังคงพูดเรื่องที่สองต่อไป
“วันมะรืน หรือนั่นก็คือวันที่ 1 กันยายน พนักงานหลายสิบคนที่เราคัดเลือกมาจากโรงงานเครื่องดื่มเถิงต้าจะมาเริ่มทำงานที่นี่แล้ว”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “พี่จัดการตามสมควรได้เลย”
เฉินหยวนเฉาถามว่า “หอพักและโรงอาหารพร้อมแล้ว แต่เมื่อพวกเขามาถึง ในตอนแรกพวกเขาจะไม่มีอะไรให้ทำมากนัก นายพอจะมีความคิดเห็นอะไรบ้างไหม ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบบุหรี่ของเขาขึ้นมาแล้วถามว่า “อุปกรณ์ของเราจะมาถึงเมื่อไหร่ ? ”
เฉินหยวนเฉากล่าวว่า: “นี่คือเรื่องที่สามที่ฉันจะบอกนาย อุปกรณ์ชุดแรกของเราจะมาถึงในวันที่ 3 กันยายน”
เจียงเสี่ยวไป๋ดีใจมาก หลังจากที่รออุปกรณ์มานาน ในที่สุดก็ใกล้จะมาถึงแล้ว
หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เขากล่าวว่า “แจ้งให้ผู้รับสมัครใหม่ทั้งหมดเริ่มทำงานในวันที่ 1 กันยายนนี้เลย ช่วง 2 วันแรก ให้พี่จัดอบรมแบบระบบฝึกทหารให้พวกเขาแล้วสอนพวกเขาถึงระบบการทำงานในโรงงาน”
“แบบระบบฝึกทหาร ? ”
เฉินหยวนเฉามึนงงไปชั่วขณะ ถึงถามด้วยความประหลาดใจ
เจียงเสี่ยวไป๋อธิบายว่า “ใช่แล้ว อบรมด้วยระบบฝึกทหาร เดี๋ยวพี่ไปขอให้จู้ตงเฟิง หยางเสี่ยวหัว เฮ่อหาน และหลิวเจ๋อจวินที่เป็นทหารปลดประจำการมาช่วยฝึกพนักงานให้”
“อื้ม ! ”
เฉินหยวนเฉาตอบตกลงอย่างจนปัญญา แต่แล้วเขาก็ถามอย่างงุนงงว่า “ทำไมเราจึงต้องฝึกด้วยระบบทหารด้วย ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้ม “การฝึกด้วยระบบทหารสามารถเสริมสร้างวินัยของพวกเขาได้ มีเพียงทีมที่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่ตั้งคำถามเท่านั้นจึงจะเป็นทีมที่เหนือชั้นได้”
เฉินหยวนเฉาเห็นด้วยกับประเด็นนี้
เขาเคยเป็นทหารมาก่อน และรู้ถึงความสำคัญของการเชื่อฟังคำสั่ง
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวต่ออีกว่า “พรุ่งนี้ผมจะไปเจียงเฉิง เมื่ออุปกรณ์ชุดแรกมาถึง ผมจะไม่อยู่ที่นี่ ดังนั้นพี่ช่วยดูแลและรับผิดชอบเรื่องนี้ให้ผมทีนะ”
จู่ ๆ เฉินหยวนเฉาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาถามว่า “แต่ถ้าฉันไม่เข้าใจการติดตั้งอุปกรณ์ตอนนายไม่อยู่ที่นี่ล่ะ แล้วฉันจะทำอย่างไร ? ”