ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 256 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 256 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
ตอนที่ 256 :ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
ไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงคนนั้นจะสวยกว่าเธอเท่านั้น แต่ยังมาแย่งกระเป๋าใบที่เธอชอบไปด้วย !
ผู้หญิงที่ใส่กระโปรงสั้นอิจฉาและไม่พอใจ
หลินเจียอินกำลังชื่นชมกระเป๋าในมือของเธอ ทันใดนั้น เธอก็ตกใจกับเสียงของผู้หญิงในชุดกระโปรงสั้น
เธอมองไปที่ผู้หญิงกระโปรงสั้นอย่างงุนงง มีเพียงเธอและเฝิงเยี่ยนหงที่ถือกระเป๋าอยู่ และผู้หญิงในชุดกระโปรงสั้นก็จ้องมองมาที่พวกเธอตาเขม็ง
“คุณกำลังพูดกับฉันหรือ ? ” หลินเจียอินถามอย่างสงสัย
ผู้หญิงในชุดกระโปรงสั้นพูดอย่างถืออำนาจว่า “ถ้าฉันไม่ได้คุยกับเธอ งั้นฉันกำลังคุยกับผีหรือ ? วางกระเป๋าใบนั้นลงซะ มันคือใบที่ฉันชอบ ! ”
หลินเจียอินคิดว่ามันน่าขำ แค่ชอบมัน กระเป๋าใบนั้นก็จะเป็นของคุณงั้นหรือ ?
ฉันเองก็ชอบมันเหมือนกัน !
เธอขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจผู้หญิงที่ใส่กระโปรงสั้นคนนี้แล้ว เธอหันไปเรียกตู้ซาซาว่า “คุณคะ ฉันซื้อกระเป๋าใบนี้ คิดเงินได้เลยค่ะ ! ”
“ได้ค่ะ ราคา 18 หยวนค่ะ” ตู้ซาซากล่าว
ผู้หญิงในชุดกระโปรงสั้นร้อนใจเมื่อเห็นว่าหลินเจียอินไม่ใส่ใจกับคำพูดของเธอ เพราะไม่เพียงแต่ไม่ยอมวางกระเป๋าลงเท่านั้น แต่ยังซื้อมันไปต่อหน้าต่อตาของเธอด้วย เธอเคยมาดูกระเป๋าใบนี้แล้ว 2 ครั้ง จึงรู้ว่ามีกระเป๋าสีฟ้าอ่อนเพียงใบเดียวที่มีขายในโซนจำหน่ายกระเป๋า
ถ้าหลินเจียอินซื้อมัน เธอก็จะชวดกระเป๋าใบนี้ไป
เธอชอบกระเป๋าใบนี้มาก ไม่เช่นนั้นเธอจะไม่ยอมลดตัวลงไปออดอ้อนกอดแขนของคุณชายจ้าว แล้วขอให้เขาซื้อกระเป๋าใบนี้ให้เธอหรอก
“ซื่อเจ๋อ กระเป๋าใบที่ฉันต้องการคือกระเป๋าที่อยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้น ! ”
ผู้หญิงในชุดกระโปรงสั้นเขย่าแขนของคุณชายจ้าวแล้วพูดเสียงเล็กเสียงน้อย
คุณชายจ้าวมีชื่อว่าจ้าวซื่อเจ๋อ เป็นลูกชายคนเดียวของจ้าวเหมิงหู ผู้อำนวยการโรงงานเครื่องดื่มเถิงต้า ด้วยอำนาจเงินของพ่อ เขามักจะไปคั่วพนักงานสาวสวยในโรงงานเป็นประจำ ไป๋เสี่ยวเจี๋ยหญิงสาวกระโปรงสั้นเป็นพนักงานสาวสวยในโรงงาน เขาพยายามจะจีบเธอมานานแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเสียที จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ เขาจึงได้สัญญาอย่างอ่อนหวานว่าจะแต่งงานกับเธอในอนาคต และเขาก็เอาชนะใจเธอได้สำเร็จ
พอได้อย่างที่ใจต้องการ เขาจึงตกลงจะซื้อกระเป๋าให้เธอ
ตอนนี้ เธอจ้องมองที่หลินเจียอินที่ซื้อกระเป๋าที่เธอหมายตาเอาไว้ เธอรู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างมาก และเหมือนกับว่าจ้าวซื่อเจ๋อก็กำลังตกตะลึงกับความงามของผู้หญิงที่มาแย่งกระเป๋าเธอไปอีกด้วย……
มีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้อยู่ในโลกด้วยหรือ !
สวยกว่าไป๋เสี่ยวเจี๋ยเสียอีก
จ้าวซือเจ๋อดื่มด่ำกับความงามของหลินเจียอินอย่างไม่ละสายตา ไป๋เสี่ยวเจี๋ยเขย่าแขนของเขาอย่างแรง เขาถึงกลับมามีสติและถามอย่างงุนงงว่า “คุณพูดอะไรนะ ? ”
ไป๋เสี่ยวเจี๋ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง คุณชายจ้าวไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลยหรือ ?
หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็รู้ว่าคุณชายจ้าวกำลังจ้องมองผู้หญิงที่แย่งกระเป๋าจากเธอไป
ไป๋เสี่ยวเจี๋ยโกรธมาก ผู้ชายคนนี้เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ?
เมื่อคืน ตอนเราทั้งสองอยู่บนเตียงด้วยกัน เขายังบอกว่าจะมองแค่เธอคนเดียว
แต่วันนี้ ดวงตาของเขาก็จ้องมองไปที่ผู้หญิงคนอื่นแล้ว
ไป๋เสี่ยวเจี๋ยไม่พอใจและไม่ถูกชะตากับหลินเจียอินมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่แย่งกระเป๋าของเธอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ชายของเธอด้วย !
เฮอะ ผู้หญิงหน้าตาดีคือจิ้งจอกชัด ๆ เก่งในการหลอกล่อผู้ชายได้ดีที่สุด
เธอลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าสิ่งที่เธอภูมิใจที่สุดคือความสวยของเธอ
เธอลืมไปว่าเป็นเพราะหน้าตาดีของเธอ เธอจึงปีนขึ้นเตียงของจ้าวซื่อเจ๋อได้
แม้ว่าไป๋เสี่ยวเจี๋ยจะไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่กล้าระบายความโกรธใส่จ้าวซื่อเจ๋อ เพราะเธอยังต้องอาศัยให้เขาซื้อกระเป๋าให้เธอ
“คุณชายจ้าว ฉันต้องการกระเป๋าสีฟ้าอ่อนใบนั้น คุณรีบซื้อให้ฉันสิ”
ไป๋เสี่ยวเจี๋ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูดย้ำอีกครั้ง เสียงของเธอไพเราะและดูออดอ้อนเป็นพิเศษ เธอดึงแขนของจ้าวซือเจ๋อเข้ามาแนบหน้าอกของตัวเองจนหน้าอกของเธอเบี้ยวไปตามแรงเบียดนี้แล้ว
ดูเหมือนว่า…จะทำให้เธอโดดเด่นขึ้นมาได้ !
แถมยังแสดงถึงความสนิทสนมเธอและจ้าวซื่อเจ๋อด้วย !
ไป๋เสี่ยวเจี๋ยไม่ต้องการแพ้ให้กับผู้หญิงที่แย่งชิงกระเป๋าของเธอไป
“อ้อ ผมเข้าใจแล้ว ! ”
คราวนี้ จ้าวซื่อเจ๋อเข้าใจในที่สุด
ขณะที่เขากำลังจะตะโกนบอกพนักงานขาย เขาก็เห็นตู้ซาซาสวมเครื่องแบบของพนักงานขายในห้างสรรพสินค้าและกำลังเก็บเงินจากหลินเจียอิน เขาจึงเข้าใจได้ทันทีว่าตู้ซาซาเป็นพนักงานขาย
ดวงตาของจ้าวซื่อเจ๋อเป็นประกายขึ้นมาทันที
ใช่ พนักงานขายสาวสวยคนนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน ทั้งหน้าตาและรูปร่างของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่า ไป๋เสี่ยวเจี๋ยเลย
เขาเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ยิ้มอย่างสุภาพให้กับตู้ซาซา และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “สวัสดีคุณพนักงานขาย ฉันขอซื้อกระเป๋าแบบเดียวกันด้วย”
ตู้ซาซาอารมณ์เสียตั้งแต่แรก ดังนั้นเธอจึงพูดเสียงเรียบว่า “กระเป๋าใบนี้มีใบเดียวค่ะ”
อ่า ?
จ้าวซื่อเจ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง
มีกระเป๋าใบเดียว คราวนี้จัดการได้ยากแล้ว
เขาไม่ต้องการทำให้ไป๋เสี่ยวเจี๋ยผิดหวัง และไม่ต้องการทำให้หลินเจียอินลำบากใจ
คนหนึ่งต้องการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวไว้ในอนาคต และอีกคนต้องการทิ้งความประทับใจที่ดีและสร้างภาพจำที่ดีให้กับเธอ
เอาล่ะ ไหนจะต่อหน้าพนักงานขายสาวสวยคนนี้อีก เขาต้องอวดรวยสักหน่อย ให้เธอเห็นว่าเขารวยแค่ไหน และอาจทำให้เธอหันมาสนใจเขาได้
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว !
มันช่างคุ้มค่าจริง !
หลังจากตัดสินใจในใจแล้ว จ้าวซื่อเจ๋อก็แสดงรอยยิ้มอ่อนโยนและพูดกับหลินเจียอินว่า “คุณผู้หญิง เอ่อ น้องสาวของผมชอบกระเป๋าในมือของคุณมาก คุณพอจะให้เธอได้ไหม ? ”
หลินเจียอินขมวดคิ้ว
จ้าวซื่อเจ๋อไม่รอให้เธอพูด เขารีบพูดต่ออีกว่า “แน่นอนว่าผมจะไม่ยอมให้คุณเสียเปรียบ คุณสามารถเลือกกระเป๋าในโซนนี้ได้สองใบเลย ผมซื้อให้คุณ”
ทำตัวเหมือนว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่ร่ำรวยมาก
ไป๋เสี่ยวเจี๋ยไม่พอใจมากหลังจากได้ยินสิ่งที่จ้าวซือเจ๋อพูด ทำไมเขาต้องซื้อกระเป๋าสองใบให้ผู้หญิงคนนั้นด้วย ?
ไม่ได้ !
กระเป๋าสีฟ้าอ่อนเป็นของเธอ และอีกสองใบนั้นก็ต้องเป็นของเธอด้วย
เธอก้าวไปข้างหน้า ชี้ไปที่หลินเจียอินและจงใจพูดเสียงดังว่า “เธออย่าพยายามใช้ประโยชน์จากคุณชายจ้าวเชียวนะ คืนกระเป๋าสีฟ้าอ่อนมาให้ฉัน และไปซื้อกระเป๋าใบอื่นด้วยตัวเองซะ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เธอก็คว้าแขนของจ้าวซื่อเจ๋อแล้วส่ายมัน พลางพูดเสียงอ้อนว่า “คุณชายจ้าว เธอเป็นคนแปลกหน้า ทำไมคุณต้องซื้อกระเป๋าให้เธอตั้งสองใบด้วย ? ”
หลินเจียอินเหลือบมองพวกเขาทั้งสองด้วยความดูถูกและพูดอย่างใจเย็นว่า “ขอโทษนะคะ แต่ฉันซื้อกระเป๋าใบนี้แล้ว”
เธอไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้แล้ว
ไป๋เสี่ยวเจี๋ยร้อนใจจนกระทืบเท้าและทำท่าสะบัดสะบิ้งใส่จ้าวซื่อเจ๋อ “คุณชายจ้าว ฉันอยากได้กระเป๋าสีฟ้าอ่อนใบนั้น ! ”
ความคิดของจ้าวซื่อเจ๋อถูกขัดโดยไป๋เสี่ยวเจี๋ย ตอนนี้เขาเริ่มไม่พอใจแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังคงสงบอยู่ เขาหันไปพูดกับหลินเจียอินด้วยรอยยิ้มทั้งที่ไป๋เสี่ยวเจี๋ยยังเกาะแขนของเขาอยู่ “หากคุณยอมขายกระเป๋าสีฟ้าอ่อนใบนั้นมาให้ผม ผมจะไม่เพียงซื้อกระเป๋าให้คุณสองใบเท่านั้น แต่ผมยังอยากแสดงความจริงใจโดยเลี้ยงอาหารที่ร้านกุ้งอบน้ำมันชิงเหอด้วย เป็นอย่างไร ? ”
เป็นอย่างไรงั้นหรือ ?
ไม่อย่างไรแน่นอน !
เจียงเสี่ยวไป๋เดินไปที่หลินเจียอิน เขาเข้ามาถือกระเป๋าให้หลินเจียอิน พร้อมทั้งถือถุงใส่กระเป๋าใบใหญ่และใบเล็กที่เขาเพิ่งซื้อมา ในขณะที่มืออีกข้างหนึ่งก็โอบบนไหล่ของหลินเจียอินเอาไว้ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เมียจ๋า คุณซื้อกระเป๋าแค่ใบเดียวเท่านั้นหรือ ? ”
จากนั้น เขาก็พูดอย่างไม่พอใจว่า “มันจะพอได้ไง ? อย่างน้อยคุณต้องซื้อสักเจ็ดใบ จะได้เปลี่ยนใช้ทุกวันตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ! ”
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจียงเสี่ยวไป๋ทำให้หัวใจของจ้าวซื่อเจ๋อเต้นรัว และคำว่า “เมีย” ก็เหมือนกับมีดแทงเข้าไปในหัวใจของเขา ราวกับว่าหัวใจของเขาแตกสลายแล้ว
ผู้หญิงสวยแบบนี้มีสามีแล้วจริง ๆ หรือเนี่ย !
และมือของชายผู้นั้นก็กำลังโอบไหล่ของเธอไว้อย่างแน่นอีกด้วย
เขามองไปที่เจียงเสี่ยวไป๋ด้วยสายตาอิจฉา นอกจากจะสูงและหล่อกว่าเขาแล้ว ชายคนนี้สวมเสื้อผ้าธรรมดา ๆ ด้วยซ้ำ !
กางเกงวินเทจผ้าเจอร์ซีย์สีกากี
มองแวบแรก เขาดูไม่เหมือนคนรวยเลย
เมื่อเห็นว่าเขาถือของมามากมาย เป็นเหมือนผู้ติดตามสาวงาม ทำไมเขาถึงกลายเป็นสามีของเธอได้ล่ะ ?
เมื่อมองไปที่หลินเจียอิน เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงลายดอกไม้สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเสื้อผ้า ซีซั่นใหม่ล่าสุด ขับให้เธอดูสวยสง่ายิ่งขึ้นเมื่อสวมใส่มัน
“พวกแมงดาเกาะผู้หญิงกิน ! ”
จ้าวซื่อเจ๋อรู้สึกดูถูกในใจและรู้สึกอิจฉาริษยาไปในคราวเดียวกัน
ความงามเช่นนี้คู่ควรอยู่ในอ้อมแขนของเขามากกว่า
ว่ากันว่าความลามกทำให้จิตใจมืดมนได้ จ้าวซื่อเจ๋อพูดด้วยสีหน้าที่บูดบึ้งว่า “พูดดีจังเลย เปลี่ยนใช้วันละใบ ? คุณคิดว่าคุณเป็นใคร ? ”
“คุณมีปัญญาจ่ายงั้นหรือ ? ”