ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 239 ชาวเจียงวานแห่ซื้อโทรทัศน์
- Home
- All Mangas
- ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล)
- ตอนที่ 239 ชาวเจียงวานแห่ซื้อโทรทัศน์
ตอนที่ 239 :ชาวเจียงวานแห่ซื้อโทรทัศน์
เจียงเสี่ยวไป๋ยิ้มและพูดว่า “เรื่องที่สองคือเรื่องเล็กน้อยสำหรับคุณ”
รองนายกเทศมนตรีจางกลอกตา
เขาไม่อยากจะเชื่อ
“รีบบอกมา ไม่งั้นจะถือว่าเป็นโมฆะ ! ” รองนายกเทศมนตรีจางพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “รองนายกเทศมนตรีจาง คุณคิดว่าพอจะช่วยผมหาตั๋วซื้อโทรทัศน์สัก 100 ใบได้ไหม ? ”
ห๊ะ ?
รองนายกเทศมนตรีจางมองเจียงเสี่ยวไป๋อย่างเหลือเชื่อ ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไปด้วยซ้ำ
เมื่อเทียบกับรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวน 40 คันในตอนแรก ตั๋วซื้อโทรทัศน์ 100 ใบถือเป็นเรื่องเล็กน้อยจริง ๆ
“ทำไมคุณถึงต้องการตั๋วซื้อโทรทัศน์มากมายขนาดนี้ ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ผู้คนในเจียงวานบ้านเกิดของผมยากจนเกินไป พวกเขาไม่มีโทรทัศน์ให้ดู ผมจึงอยากหาตั๋วมาให้พวกเขาได้ซื้อโทรทัศน์ จากนั้นเวลาที่คุณออกหน้าจอโทรทัศน์ พวกเขาจะได้ตะโกนว่า: อ่า ดูสิ นั่นคือรองนายกเทศมนตรีจาง ที่ฉันพบเมื่อครั้งเขามาที่นี่ไง”
รองนายกเทศมนตรีจางยิ้ม ทำให้เจียงเสี่ยวไป๋รู้สึกขบขัน
“ตกลง ฉันจะให้ตั๋วซื้อโทรทัศน์ 100 ใบแก่คุณ แล้วจะให้เสี่ยวติงนำไปให้หลังจากที่คุณกลับไปที่ชิงโจว”
“ผมขอขอบคุณในนามตัวแทนของชาวเจียงวาน ! ”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวอย่างจริงใจ
ด้วยตั๋วซื้อโทรทัศน์ชุดนี้ ผู้คนจำนวนมากในเจียงวานจะสามารถซื้อโทรทัศน์ได้ และในอนาคต พวกเขาจะไม่ต้องมาดูละครโทรทัศน์ที่บ้านของเขาในทุกวันอีกแล้ว
รองนายกเทศมนตรีจางก็โล่งใจเช่นกัน เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องที่สองจะยากกว่าเรื่องแรกเสียอีก เขาไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้
ในที่สุด เจ้าหนุ่มคนนี้ก็ทำให้เขาหมดความกังวล
รองนายกเทศมนตรีจางอารมณ์ดีขึ้นเป็นอย่างมาก
“รองนายกเทศมนตรีจาง ผมมีข้อเสนอแนะอีกอย่างหนึ่ง คุณต้องการฟังไหม ? ”
เมื่อรองนายกเทศมนตรีจางรู้สึกโล่งใจ เจียงเสี่ยวไป๋ก็กล่าวบางอย่างขึ้นมาทันที
“ข้อเสนอแนะอะไร ? ”
รองนายกเทศมนตรีจางถามด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ถ้าคุณต้องการร่ำรวย คุณต้องสร้างถนนก่อน รองนายกเทศมนตรีจาง คุณสามารถพิจารณาสร้างถนนระหว่างเมืองชิงโจวและหวงโจวเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของชิงโจว สามารถขนส่งออกไปได้อย่างง่ายดายในอนาคต”
อยากรวยต้องสร้างถนนก่อน ทำไมรองนายกเทศมนตรีจางจะไม่รู้ล่ะ ?
ขณะนี้การขนส่งทางเดียวที่เชื่อมโยงเมืองชิงโจวกับเมืองภายนอกคือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 318 ซึ่งทอดยาวจากทิศตะวันออกของหวงโจวไปยังทางทิศตะวันตกของปาเฉิ่ง
แต่การสร้างถนนนั้นใช้งบประมาณมากเกินไป นับประสาอะไรกับการสร้างถนนมากกว่า 300 กิโลเมตรระหว่างเมืองชิงโจวและหวงโจว ต่อให้สร้างเป็นบางจุดก็ยังต้องใช้งบประมาณหลักล้านไปจนถึงหลักสิบล้าน
รองนายกเทศมนตรีจางไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาทำหน้าเคร่งขรึมโดยไม่พูดอะไร
ทันทีที่เจียงเสี่ยวไป๋เห็นสีหน้าของรองนายกเทศมนตรีจาง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าไม่มีโอกาส ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้พูดถึงมัน
หลังจากกลับมาถึงชิงโจว ติงจวิ้นเจี๋ยได้ส่งตั๋วซื้อโทรทัศน์จำนวน 100 ใบมาให้เขาอย่างรวดเร็ว
คืนนั้น เจียงเสี่ยวไป๋บอกชาวบ้านที่กำลังดูโทรทัศน์ว่าเขามีตั๋วซื้อโทรทัศน์อยู่ในมือ
“ใครอยากซื้อโทรทัศน์สามารถมาขอตั๋วที่ผมได้”
“ตั๋วมีแค่ 20 ใบเท่านั้น มาก่อนได้ก่อน”
ทันทีที่เจียงเสี่ยวไป๋พูดจบ ชาวบ้านหลายสิบคนที่ดูโทรทัศน์อยู่ก็หันความสนใจมาที่เขาแทน
“เสี่ยวไป๋ คุณพูดจริงหรือ ? ”
“แล้วนายขายตั๋วซื้อโทรทัศน์ใบละเท่าไรล่ะ ? ”
“เสี่ยวไป๋ ให้ฉันใบหนึ่งได้ไหม ? ”
“……”
หลายคนถามขึ้นมาทันที
เจียงเสี่ยวไป๋หยิบตั๋วซื้อโทรทัศน์ 20 ใบที่เขานับไว้แล้วขึ้นมา แล้วพูดว่า “จริงสิ ผมให้ฟรี ไม่คิดเงิน”
ไม่คิดเงินหรือ ?
เจียงเสี่ยวซินตกตะลึง เขาจับกุ้งเครย์ฟิชขายและมีเงินเก็บเกือบ 2,000 หยวนแล้ว เขาอยากซื้อโทรทัศน์มานานแล้ว แต่เขาไม่เคยได้ตั๋วซื้อโทรทัศน์เลย
เขาเคยถามหาซื้อจากคนอื่น ซึ่งมีคนขายตั๋วซื้อโทรทัศน์เป็นการส่วนตัว แต่ราคาของมันสูงถึงใบละ 100 หยวน
โทรทัศน์ขนาด 12 นิ้วมีราคาเพียง 400 กว่าหยวนเท่านั้น แต่ตั๋วใบหนึ่งราคาตั้ง 100 หยวนแล้ว ที่ผ่านมาเจียงเสี่ยวซินจึงลังเลที่จะซื้อมันมาโดยตลอด
“เสี่ยวไป๋ ให้ฉันใบหนึ่ง” เจียงเสี่ยวซินกล่าวทันที
“ได้สิ ! ” เจียงเสี่ยวไป๋ยื่นตั๋วซื้อโทรทัศน์ให้ แล้วพูดว่า “ได้ตั๋วไปแล้วก็ต้องไปซื้อโทรทัศน์นะ ไม่เช่นนั้นมันจะเสียเปล่า”
เจียงเสี่ยวซินพยักหน้าเหมือนไก่จิกข้าวเปลือก และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พรุ่งนี้ฉันจะเข้าเมืองไปซื้อโทรทัศน์ และฉันจะซื้อโทรทัศน์ขนาด 14 นิ้วด้วย ! ”
เมื่อพวกเขาเห็นเจียงเสี่ยวซินได้รับตั๋วซื้อโทรทัศน์ คนอื่นก็เริ่มตื่นตัวอยากได้บ้าง
“เสี่ยวไป๋ ให้ฉันใบหนึ่ง ! ”
“ให้ฉันใบหนึ่ง”
“เสี่ยวไป๋ ให้ฉันเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อมันด้วย”
“……”
แม้แต่จ้าวเต๋อหรงก็ยังขอตั๋วซื้อโทรทัศน์ “เสี่ยวไป๋ ป้าเป็นป้าสะใภ้ใหญ่ของหลาน หลานจะต้องเหลือตั๋วให้ป้าหนึ่งใบนะ”
อย่างไรก็ตาม เธอพูดช้าไปหน่อย ตอนนี้ตั๋วซื้อโทรทัศน์อีก 19 ใบถูกชาวบ้านคนอื่นเอาไปแล้ว
คนที่ได้ตั๋วต่างดีใจมาก พวกเขาวางแผนว่าจะซื้อโทรทัศน์ 12 นิ้วหรือแบบ 14 นิ้วดี ? และควรไปซื้อที่สหกรณ์จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคหรือซื้อที่ห้างสรรพสินค้าดี ?
พวกที่ไม่ได้ตั๋วมาต่างก็รู้สึกเสียใจและเสียดายมาก พวกเขาเกลียดตัวเองที่คิดช้าเกินไป
“เฮ้อหยา เสี่ยวไป่ ในเมื่อนายหาตั๋วมาได้ตั้ง 20 ใบ ทำไมไม่หามาอีกหน่อยล่ะ ? ”
“ใช่แล้ว เสี่ยวไป๋ พอจะหามาได้อีกไหม ? ”
“เสี่ยวไป๋ ถ้าหามาได้อีกล่ะก็ อย่าลืมเอามาให้ฉันด้วยนะ”
“เสี่ยวไป๋ ฉันก็อยากได้เหมือนกัน ! ”
“……”
แน่นอนว่าเจียงเสี่ยวไป๋ไม่ได้มีตั๋วซื้อโทรทัศน์อยู่ในมือแค่ 20 ใบนี้ เพราะเขาขอตั๋วมาจากรองนายกเทศมนตรีจางตั้ง 100 ใบ
แต่เขาไม่อยากเอาออกมาแจกให้ชาวบ้านในคราวเดียว
เพราะเมื่อมันมีมากเกินไป มันจะไม่ล้ำค่า
ถ้าเขามอบให้คนอื่นในคราวเดียวทั้งหมด พวกเขาจะคิดว่ามันหามาได้ง่าย และพวกเขาจะไม่เพียงแต่ไม่สนใจมันเท่านั้น แต่จะคิดว่ามันไร้ค่าอีกด้วย
ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้พวกที่ได้ตั๋วไปรู้สึกดีใจ ส่วนคนที่ไม่ได้จะได้ตั้งตารอคอย
“ทุกคนไม่ต้องห่วง หลายวันมานี้ผมคิดหาวิธีที่จะหาตั๋วซื้อโทรทัศน์มาให้ได้เยอะ ๆ หากได้มาแล้วจะต้องเอามาให้ทุกคนอย่างแน่นอน”
เจียงเสี่ยวไป๋พูดเสียงดัง
“ดีมาก ! ”
“เสี่ยวไป๋ คุณต้องคิดวิธีหามันมาได้เยอะ ๆ หน่อยนะ”
“เสี่ยวไป๋ ฉันรอคุณอยู่”
“เสี่ยวไป๋ ฉันฝากความหวังเรื่องโทรทัศน์ของฉันไว้ที่นายแล้ว”
“……”
เจียงเสี่ยวไป๋เข้าห้องไปหาสมุดมาเขียนชื่อคนที่ต้องการตั๋วซื้อโทรทัศน์และนับจำนวนที่ต้องแจกอีก
เขาวางแผนที่จะรออีกสักสองวัน เพื่อดูว่าวันนี้คนที่ได้รับตั๋วซื้อโทรทัศน์จำนวน 20 ใบจะไปซื้อโทรทัศน์กี่คน จากนั้นค่อยตัดสินใจว่าจะแจกในครั้งต่อไปจำนวนเท่าใด
วันรุ่งขึ้น ที่ห้างสรรพสินค้าประจำเมืองชิงโจวได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น
เกษตรกรมากกว่า 12 คนแห่มาที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อโทรทัศน์ และสิ่งที่พวกเขาซื้อทั้งหมดคือโทรทัศน์ขนาด 14 นิ้วยี่ห้อแพนด้า ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดในชิงโจว
“พวกคุณมาจากที่ไหน ? ”
พนักงานขายที่เคาน์เตอร์เครื่องใช้ไฟฟ้าในห้างสรรพสินค้าถามอย่างสงสัย
เจียงเสี่ยวซินยิ้ม เขายืดอกของเขาแล้วพูดว่า “พวกเราทุกคนมาจากเจียงวาน”
“จากเจียงวาน ? ”
พนักงานขายไม่คุ้นเคยกับเจียงวาน ดังนั้นเธอจึงพึมพำอะไรบางอย่างและถอนหายใจในใจ: เกษตรกรในเจียงวานร่ำรวยมาก ! พวกเขาซื้อโทรทัศน์มูลค่ากว่า 600 หยวนคราวเดียว 14 เครื่องเลย
แต่สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ มีเกษตรกรอีก 6 คนจากเจียงวานไปซื้อโทรทัศน์ที่สหกรณ์จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โทรทัศน์ที่พวกเขาซื้อมีขนาด 12 นิ้ว
และนับจากวันนี้ไป ได้มีคำพูดที่ว่า ‘เกษตรกรจากเจียงวานร่ำรวยมาก’ ค่อย ๆ แพร่กระจายไปทั้วทั้งเขตเมืองชิงโจว
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋กลับบ้าน เขาพบว่าคนที่มาดูโทรทัศน์ในวันนี้หายไปมากกว่าครึ่ง เมื่อเขาถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปรากฎว่าทั้ง 20 คนที่ได้ตั๋วซื้อโทรทัศน์ไปเมื่อวานนี้ได้เข้าเมืองไปซื้อโทรทัศน์มาแล้ว
ตอนนี้ใคร ๆ ก็ดูโทรทัศน์ที่บ้านของตนเองแล้ว
และบางคนที่เพื่อนบ้านของตนมีโทรทัศน์แล้ว พวกเขาก็ไม่ต้องเดินทางไปที่บ้านของเจียงเสี่ยวไป๋เพื่อดูโทรทัศน์อีกแล้ว
ส่วนใหญ่ที่ยังคงยืนกรานที่จะมาที่บ้านของเจียงเสี่ยวไป๋เพื่อดูโทรทัศน์ ล้วนเป็นคนที่กำลังรอตั๋วซื้อโทรทัศน์อยู่
พวกเขาอยากเป็นคนกลุ่มแรกที่ดูว่าเจียงเสี่ยวไป๋จะหาตั๋วซื้อโทรทัศน์มาได้หรือไม่ นอกจากนี้พวกเขายังกลัวว่าหากไม่มาที่นี่ พวกเขาอาจจะพลาดและอดได้ตั๋วไป
โดยเฉพาะป้าสะใภ้ใหญ่ของเจียงเสี่ยวไป๋ จ้าวเต๋อหรงมาถามเขาเกือบทุกวัน
ดังนั้นในวันที่สาม เจียงเสี่ยวไป๋จึงนำตั๋วซื้อโทรทัศน์ออกมาอีก 20 ใบ
ในที่สุด คราวนี้จ้าวเต๋อหรงก็ได้มาครอบครองหนึ่งใบ หญิงสูงวัยจึงเดินออกไปด้วยรอยยิ้มกว้าง